ต้องบอกก่อนเลย ว่าไวรัสตัวนี้ สามารถแพร่เชื้อให้คนในบ้านได้เร็วมากๆ ทุกคนมีอาการเหมือนๆกัน แต่ไม่รู้เลยว่าได้รับเชื้อมาจากที่ไหน อย่างไร 
เพราะไวรัสตัวนี้ เกิดจากอาหารและน้ำดื่ม และสภาพอากาศก็มีส่วนนะคะ

มาเล่าถึงอาการเริ่มแรกนะคะ 
เริ่มต้นจากที่ลูกชายคนโต อายุ 6 ขวบ มีอาการอาเจียน ออกมา 3-4 ครั้ง/ต่อวัน หลังจากกินอาหารเข้าไป กินปุ๊บ ออกปั๊บ เป็นแบบนี้มา 1 วัน
แม่จึงไปซื้อยาที่ร้านขายยาทั่วไป ให้กิน จนถึงตอนกลางคืน น้องก็ยังอ้วกออกมาอีก แต่ไม่มีไข้ แม่ก็คิดว่าวันรุ่งขึ้นจะดีขึ้น  แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด คือวันรุ่งขึ้น ก็ยังอ้วก อ้วกบ่อยกว่าเมื่อวาน  และมีไข้สูง แม่เลยต้องรีบพาไปหาหมอที่รพ. พอถึงรพ.หมอให้แอดมิดนอนรพ.และเจาะเลือดไปตรวจ 
ระหว่างที่รักษาตัวที่รพ.น้องมีอาการท้องเสีย คือถ่ายเหลว และตดเสียดังหลายๆครั้ง แบบว่าถ่ายทีนึง น่ากลัวมากค่ะ หมอจึงให้เก็บอึน้องไปตรวจหาเชื้ออีกครั้ง ซึ่งระหว่างรอผลตรวจ มีโทรศัพท์จากคุณปู่และคุณย่าโทรเข้ามาบอกว่า ลูกสาวคนเล็ก ก็อ้วกและถ่ายเหลว มีไข้ด้วย และความวุ่นวายในใจแม่ก็เกิดขึ้น 
ต้องรีบไปรับลูกสาวคนเล็ก อายุ 2 ขวบ มาหาหมอที่รพ.เดียวกัน และหมอ ก็ให้แอดมิดห้องเดียวกับพี่ชายเลย ของลูกสาว ได้เจาะเลือดไปตรวจ
ซึ่ง ผลออกมา ทั้ง 2 คน พบเชื้อ "โนโรไวรัส" 

เรามาทำความรู้จักกับ "เชื้อโนโรไวรัส" กันนะคะ
        โนโรไวรัส (Norovirus) เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร ไวรัสชนิดนี้ระบาดได้ง่ายและรวดเร็วแม้ร่างกายได้รับเชื้อในปริมาณเพียงเล็กน้อย ที่สำคัญทนต่อความร้อนและน้ำยาฆ่าเชื้อต่าง ๆ ได้ดี ดังนั้นเมื่อเกิดการปนเปื้อนของโนโรไวรัสในอาหารและน้ำดื่ม จึงทำให้เกิดอาการท้องเสีย อาเจียน และสามารถติดต่อกันได้ง่าย เนื่องจากใช้เวลาเพียงไม่นานในการแพร่กระจายเชื้อ ไวรัสนี้พบระบาดได้มากในฤดูหนาว ติดต่อได้ง่ายในสภาพอากาศเย็น และทำให้เกิดโรคทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ 

.......มาต่อกันอีกนิด 
สำหรับไวรัสตัวนี้ สามารถติดต่อกับคนในครอบครัวได้ เพราะ ระหว่างที่ลูกทั้ง 2 คน รักษาตัวที่รพ. ทางคุณย่าก็เป็นลม มีอาการอาเจียนจนเวียนหัว และท้องเสียอยู่ 1-2 วัน และคุณแม่กับคุณพ่อของลูกเอง ก็ท้องเสีย 1 วัน รู้ทันทีเลยค่ะ ว่าเป็นเชื้อตัวเดียวกันแน่ๆ 

......เรื่องสาเหตุว่ามาจากไหน คือสรุปไม่ได้เลย 
-โรงเรียน = มีเด็กๆในห้องลูกชายเป็นอาการนี้ 3 คน ก่อนหน้าลูกเข้ารพ.1วัน ซึ่งเป็นไปได้ว่าเชื้อมาจากโรงเรียนลูกชาย
-สวนสัตว์ = เราทั้งครอบครัวเพิ่งจะไปเที่ยวสวนสัตว์มา1วันก่อนพบเชื้อ ซึ่งเป็นไปได้ว่ารับเชื้อมาจากสวนสัตว์
-อาหารและน้ำดื่มไม่สะอาด = อันนี้มีความเป็นไปได้ แต่ระบุไม่ได้ว่ากินอะไรถึงเป็นสาเหตุ เพราะในแต่ละวัน เด็กๆและคนในครอบครัวกินอาหารหลากหลายเป็นปกติทุกวันอยู่แล้ว
-สภาพอากาศ = ช่วงนี้อากาศเปลี่ยน เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝน เดี๋ยวหนาว อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ได้รับเชื้อไวรัสนี้ได้

***สรุปนะคะ ***
วิธีการดูแลป้องกันไม่ให้เชื้อตัวนี้เข้าสู่ร่างกายเรา คือ ต้องล้างมือบ่อยๆนานๆ(ร้องเพลงช้างๆๆๆจนจบ) และต้องล้างด้วยน้ำยาล้างมือ ที่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย  ควรเลียกเลี่ยงการไปในที่ที่มีคนเยอะๆ และในที่ที่อากาศอับชื่น 

ปล.ดูแลตัวเองและคนในครอบครัวกันด้วยนะคะ 
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามานั่งอ่านจนจบ หวังว่าจะมีประโยชน์กับแม่ๆและเด็กๆ และครอบครัว ไม่มากก็น้อยนะคะ