ณ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่อร่อยที่สุดในย่านอนุสาวรีย์ชัย มักจะมีนักศึกษาหลายสถาบันมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวเรือกัน สมัยนั้นผู้เขียนยังเป็นนักเรียนอยู่ กิมย้งกับผู้เขียนหลังเลิกเรียนมักจะชวนกันไปกินเตี๋ยวเรือที่นั่นเช่นกัน กินเตี๋ยวเรือเสร็จก็จะนั่งรถเมล์ต่อไปอีกนิดกินลอดช่องสิงคโปร์เจ้าอร่อยแถวสะพานควายแก้เผ็ดกันต่ออีก ชีวิตวัยเรียนก็จะมีกิจวัตรซ้ำๆ แบบนี้ละคะ
ในตอนนั้นมีเหตุการณ์หนึ่งที่ผู้เขียนกับกิมย้งคงลืมไม่ลง เราสองคนไปนั่งรอสั่งก๋วยเตี่ยวเรือชามละห้าบาทกินกัน คนรับออเดอร์กำลังเดินมาแม่กิมย้งก็ตะโกนว่า
"บะหมี่หก" คนรับออเดอร์จดและหันหลังเดินลิ่วจากไปทันที กิมย้งก็บอกผู้เขียนว่า
"ไรว๊า ยังไม่ได้สั่งไปซะแล้ว" ส่วนผู้เขียนก็บอกว่า
"อ้าวเมื่อกี้เธอไม่ได้สั่งหรือว่าบะหมี่หกชาม" แม่กิมย้งส่ายหน้าแล้วบอกว่า
"เมื่อกี้พี่นักศึกษาโต๊ะโน้นเขาตั้งซ้อนชามเอียง เขาใช้ตะเกียบคนเครื่องปรุง คนละหก บะหมี่จะหกออกจากชาม เราเลยตะโกนบอกเขาว่าบะหมี่หก ไม่ได้สั่งบะหมี่" ผู้เขียนก็เลยเข้าใจ
แต่สักพักคนรับออเดอร์ถือถาดใส่ก๋วยเตี๋ยวเดิมประคองมาที่โต๊ะแล้ววางชามก๋วยเตี๋ยวลงมาทั้งหมดหกชาม ผู้เขียนรีบบอกว่า
"เกิดการเข้าใจผิดแล้วค่ะ ไม่ใช่หกชาม คือ คนละหก ค่ะ เอ้อ ..."
ผู้เขียนพูดอธิบายยังไม่ทันจบ คนรับออเดอร์ก็เด้งจากไปทันที สักพักกลับมาอีกพร้อมถาดใส่ก๋วยเตี๋ยวอีกหกชาม ยกวางตรงหน้า และพูดว่า
"ครบแล้วนะคะ คนละหกชาม พี่ลัดคิวพิเศษให้ค่ะ เพราะดูว่าวันนี้น้องจะหิวกันมาก กินให้อร่อยนะน้อง"
จะว่ากิมย้งคนเดียวก็ไม่ได้ ผู้เขียนเองก็ทำให้ได้มาอีกหกชามเช่นกัน ต่างคนต่างรับผิดชอบกินกันจนหมด ชามสุดท้ายผู้เขียนกินไม่หมดต้องเอาไปซ้อนไว้บนสุด แต่วางไม่เรียบร้อยชามเลยเอียงทำท่าจะหล่นลงมา เสียงกิมย้งร้องซะดังว่า
"บะหมี่หก" กิมย้งรีบปิดปากแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
"ได้จ้า จัดให้บัดเดี๋ยวนี้เลย" เสียงพี่ที่รับออเดอร์ขานรับทันที
สรุปวันนั้นพวกเรากินจนเดินแทบจะไม่ไหว ไม่ได้ไปกินลอดช่องสิงคโปร์ต่อค่ะ เงินหมด และไม่มีท้องจะใส่อะไรได้อีก ก้มย้งนะกิมย้ง
🔸🔸🔸
เขียนโดย PippaSmile พิปป้าสมายล์
เขียนวันที่ 4 พฤษภาคม 2565
*** สมัยก่อนคนชอบใช้คำว่า "ละ" แทน "และ" เช่น ไปละกัน กินข้าวละกินกับข้าว ไปดูหนังละหาของกิน
เรื่องสั้น กับ พิปป้าสมายล์ : เรื่อง บะหมี่หก
ณ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่อร่อยที่สุดในย่านอนุสาวรีย์ชัย มักจะมีนักศึกษาหลายสถาบันมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวเรือกัน สมัยนั้นผู้เขียนยังเป็นนักเรียนอยู่ กิมย้งกับผู้เขียนหลังเลิกเรียนมักจะชวนกันไปกินเตี๋ยวเรือที่นั่นเช่นกัน กินเตี๋ยวเรือเสร็จก็จะนั่งรถเมล์ต่อไปอีกนิดกินลอดช่องสิงคโปร์เจ้าอร่อยแถวสะพานควายแก้เผ็ดกันต่ออีก ชีวิตวัยเรียนก็จะมีกิจวัตรซ้ำๆ แบบนี้ละคะ
ในตอนนั้นมีเหตุการณ์หนึ่งที่ผู้เขียนกับกิมย้งคงลืมไม่ลง เราสองคนไปนั่งรอสั่งก๋วยเตี่ยวเรือชามละห้าบาทกินกัน คนรับออเดอร์กำลังเดินมาแม่กิมย้งก็ตะโกนว่า
"บะหมี่หก" คนรับออเดอร์จดและหันหลังเดินลิ่วจากไปทันที กิมย้งก็บอกผู้เขียนว่า
"ไรว๊า ยังไม่ได้สั่งไปซะแล้ว" ส่วนผู้เขียนก็บอกว่า
"อ้าวเมื่อกี้เธอไม่ได้สั่งหรือว่าบะหมี่หกชาม" แม่กิมย้งส่ายหน้าแล้วบอกว่า
"เมื่อกี้พี่นักศึกษาโต๊ะโน้นเขาตั้งซ้อนชามเอียง เขาใช้ตะเกียบคนเครื่องปรุง คนละหก บะหมี่จะหกออกจากชาม เราเลยตะโกนบอกเขาว่าบะหมี่หก ไม่ได้สั่งบะหมี่" ผู้เขียนก็เลยเข้าใจ
แต่สักพักคนรับออเดอร์ถือถาดใส่ก๋วยเตี๋ยวเดิมประคองมาที่โต๊ะแล้ววางชามก๋วยเตี๋ยวลงมาทั้งหมดหกชาม ผู้เขียนรีบบอกว่า
"เกิดการเข้าใจผิดแล้วค่ะ ไม่ใช่หกชาม คือ คนละหก ค่ะ เอ้อ ..."
ผู้เขียนพูดอธิบายยังไม่ทันจบ คนรับออเดอร์ก็เด้งจากไปทันที สักพักกลับมาอีกพร้อมถาดใส่ก๋วยเตี๋ยวอีกหกชาม ยกวางตรงหน้า และพูดว่า
"ครบแล้วนะคะ คนละหกชาม พี่ลัดคิวพิเศษให้ค่ะ เพราะดูว่าวันนี้น้องจะหิวกันมาก กินให้อร่อยนะน้อง"
จะว่ากิมย้งคนเดียวก็ไม่ได้ ผู้เขียนเองก็ทำให้ได้มาอีกหกชามเช่นกัน ต่างคนต่างรับผิดชอบกินกันจนหมด ชามสุดท้ายผู้เขียนกินไม่หมดต้องเอาไปซ้อนไว้บนสุด แต่วางไม่เรียบร้อยชามเลยเอียงทำท่าจะหล่นลงมา เสียงกิมย้งร้องซะดังว่า
"บะหมี่หก" กิมย้งรีบปิดปากแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
"ได้จ้า จัดให้บัดเดี๋ยวนี้เลย" เสียงพี่ที่รับออเดอร์ขานรับทันที
สรุปวันนั้นพวกเรากินจนเดินแทบจะไม่ไหว ไม่ได้ไปกินลอดช่องสิงคโปร์ต่อค่ะ เงินหมด และไม่มีท้องจะใส่อะไรได้อีก ก้มย้งนะกิมย้ง
🔸🔸🔸
เขียนโดย PippaSmile พิปป้าสมายล์
เขียนวันที่ 4 พฤษภาคม 2565
*** สมัยก่อนคนชอบใช้คำว่า "ละ" แทน "และ" เช่น ไปละกัน กินข้าวละกินกับข้าว ไปดูหนังละหาของกิน