คือพอเรามีคำถามนี้ขึ้นมาเราก็เสิรชแล้วนะคะ พบว่า เป็นคำถามที่เห็นมีคนถามเรื่อยๆในพันทิพ
คำตอบโดยรวมคือช่วงนี้ส่วนมากก็ขาดทุนกัน ให้ถือรอไปก่อนถ้าเป็นเงินเย็น ประมาณนี้

แต่เราขอเพิ่มเติมรายละเอียดส่วนตัวของเราหน่อยน่ะค่ะ
คือเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ฐานภาษีเราถึง 20% เราเลยซื้อ LTF RMF  ตลอดทั้งปีเลย ค่อนข้างเยอะ
แต่ปีถัดๆมาไม่ได้ซื้อเลยค่ะไปซื้อประกันแทน
เพราะปีแรก ซื้อจนได้คืนภาษี และยังโดนเรียกเอกสารเพิ่มด้วย
ปีต่อๆมาเข้าภาวะโควิด เราซึ่งลงทุนไม่เป็นเลยไม่กล้าซื้อเพิ่ม
ปัญหาเลยอยู่ที่ไอ้เจ้าก้อนแรกๆนี่แหละค่ะ เป็น LTF RMF เกือบทั้งหมด
พอเราดูกราฟย้อนไป รู้สึกช่วงนั้น NAV มันสูงทุกตัวเลย 

แล้วเราก็ไม่ได้สนใจมันอีกเลยเพราะรู้ว่าเศรษฐกิจตกต่ำจากโควิด
มาปลายปีนี้เราก็เลยมานั่งดูผลประกอบการเพราะเห็นว่าเศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น
ก็พบว่าราคาติดดอยทั้งนั้นเลย
กราฟตอนนี้เป็นขาขึ้นทุกตัวก็จริง
แต่พอดูราคาทุนแล้วท้อใจเลยเหมือนเราซื้อแต่ตอนแพงๆทั้งนั้นเลยค่ะ

ประเด็นสำคัญคือ
เมื่อเทียบกับภาวะตลาดโดยรวม พอร์ตเราเติบโตช้ากว่าถึงครึ่งนึง
คือตอนขาดทุนก็ขาดพอๆกัน แต่พอกองทุนอื่นกลับมาทำกำไร ของเราทำได้น้อยกว่าครึ่งนึง
เรามาดูแยกรายตัว กองทุนส่วนมากที่เราซื้อ Ranking ไม่ดีเลย ผลงานแบบค่อนๆมาทางครึ่งล่าง 
(คือตอนซื้อ ก็ซื้อตามที่เว็บตัวแทนแนะนำอะค่ะ แบบเลือกจากตัวที่เป็นท็อป 5 ท็อป 10 แต่พอผ่านไป 5 ปี ไหงเป็นแบบนี้)

คำถามคือ เราควรหาจังหวะที่ราคาสูงได้ประมาณนึง
ขายตัวที่ผลงานไม่ดีออกไปรึเปล่าคะ แต่ดูแล้วต้องขาดทุนแน่ๆ ราวๆ 10-20%
(แต่ถ้าคิดว่าลดหย่อนภาษีไปแล้วก็ถือว่าเท่าทุน คิดถูกไหม เอ๊ะ งั้นจะซื้อทำไม ยอมเสียภาษีไป ไม่ปวดหัว 555)
หรือควรถือไปเรื่อยๆคะ ที่สงสัยคือ ในเมื่อผลงานไม่ดี แล้วถือต่อมันจะดีได้รึเเปล่า มันจะพาเราขาดทุนหนักกว่านี้ไหม