Emergency Declaration (2021) - ไม่มีที่บนโลกให้แก่ผู้น่ารังเกียจของสังคม

Emergency Declaration: ไฟลต์คลั่ง ฝ่านรกชีวะ

" สนุก มันส์ พร้อมวิพากษ์สังคมในฉบับฮอลลีวู้ดรสกิมจิ "


สวัสดีครับทุกท่าน ! หลังจากล่าสุด ผมมีโอกาสได้รับชมภาพยนตร์เกาหลีเรื่อง Emergency Declaration เห็นเพจต่าง ๆ รวมถึงคนรู้จักต่างพูดถึงความสนุกของหนังเรื่องนี้ ตัวหนังยังได้รับเลือกให้เข้าฉายหมวดนอกสายประกวด (Out of Competition) ใน Cannes Film Festival 2021 เช่นเดียวกับ Train to Busan (2016) อีกด้วย... วันนี้ผมจึงอยากจะมาแนะนำหนัง เผื่อว่าท่านใดสนใจนะครับ

เรื่องย่อ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Emergency Declaration ไฟลต์คลั่ง ฝ่านรกชีวะ - Official Trailer

Emergency Declaration (2021) ได้รับการกำกับโดย  Han Jae-rim

หนังเล่าเรื่องราวหายนะครั้งใหญ่บนเที่ยวบินนรกจากกรุงโซลสู่ฮาวาย เมื่อหนึ่งในผู้โดยสารเกิดเสียชีวิตอย่างปริศนาบนความสูงกว่าหมื่นฟุต ทำให้เกิดความโกลาหลไปทั่วทั้งลำ กัปตันจึงต้องประกาศเหตุฉุกเฉินและขอลงจอดกะทันหัน ทว่าการขอลงจอดครั้งนี้ยากกว่าที่คิด ด้วยหลากหลายสาเหตุ ทำให้เที่ยวบินนี้กลายเป็นเที่ยวบินนรกไปโดยปริยาย [Credit - Pantip]

ความรู้สึกหลังชม

- สิ่งแรกที่อยากพูดถึง คือ "เอกลักษณ์ของหนัง Commercial เกาหลียุคใหม่" ฉบับ "ฮอลลีวู้ดรสกิมจิ"

ถ้านับตั้งแต่ Train to Busan (2016) แสดงความโดดเด่นของภาพยนตร์ผ่านการนำซอมบี้มาวิพากษ์สังคมเกาหลี หลาย ๆ เรื่องก็ดำเนินมาในลักษณะเดียวกัน รวมถึง Emergency Declaration (2021)

วิธีการดำเนินเรื่องของหนังเรื่องนี้ เป็นไปตามขนบธรรมเนียมหนังบล็อคบัสเตอร์ 100% เน้นที่ความสนุก ระทึก กดดัน ซีนขายความเท่ของตัวละคร พร้อมด้วยการปรับเปลี่ยนมิติหนังให้อยู่ในบริบทเกาหลีจนมีเอกลักษณ์... ต้องบอกว่า นี่เป็นเทคนิคการทำหนังที่น่าสนใจเพื่อขยายตลาดในระดับโลก ตัวหนังมีความมันส์สนุกที่ทุกคนจับต้องได้ ในขณะที่ทุกคนก็สัมผัสได้ว่า "เป็นลายเซ็นต์หนังเกาหลีอย่างชัดเจน"

- สิ่งถัดมาที่น่าสนใจ คือ "ภาพรวมของหนัง" แพทเทินที่ชัดเจนที่สุดที่เห็นจากเรื่องนี้ ก็คือ สูตรหนังดราม่าเกาหลีที่อัดแน่นด้วยความเข้มข้น / กดดัน พร้อมแทรกค่านิยมเกาหลีหรือวิพากษ์วิจารณ์สังคม

เรื่องความเข้มข้นของเรื่อง ผมมองว่า หนังมีศักยภาพไปถึงระดับต้น ๆ เอเชียเรียบร้อย ตัวหนังสร้างบรรยากาศได้ดีเยี่ยม สนุกแบบไม่มีแผ่ว ! ส่วนการวิพากษ์สังคม ดูเหมือนว่า ทางผู้สร้างกำลังพยายามเปรียบเปรยเรื่องราวในเรื่องเข้ากับเหตุการณ์โควิดเริ่มต้นระบาดเมื่อ 2 ปีก่อน โดยบรรยายภาพความอลหม่าน พร้อมทั้งความแตกแยกในสังคมที่แบ่งออกเป็น 2 ขั้ว...

จุดนี้ทำได้อย่างเฉียบคมชนิดที่ใครดูก็รู้สึกจุก พร้อมกับพานึกถึงเหตุการณ์ปีแรกที่โควิดระบาดและข้อคิดที่ว่า

" อย่างไรเสียมนุษย์ล้วนรักตัวเอง และไม่ต้องการเพิ่มความเสี่ยงให้แก่ชีวิตตน โลกจึงไม่มีที่ยืนให้กับผู้น่ารังเกียจและเป็นอันตรายต่อสังคม... "

โชคดีอยู่บ้าง ที่หนังไม่ได้ใจร้ายไปทั้งหมด หนังยังนำเสนอส่วนสว่างของมนุษย์ และแสดงให้เห็นว่า ท่ามกลางวิกฤติ มนุษย์ยังเหลือแสงสว่างในจิตใจ ซึ่งสิ่งนี้เอง คือสิ่งที่ช่วยให้โลกของเราดีขึ้นต่อไป

ว่าไปแล้ว ก็คล้ายกับ Tran to Busan เครื่องบินเป็นแค่พาหนะ แก่นจริง ๆ ของภาพยนตร์คือ การวิพากษ์สังคมผ่านสันดานมนุษย์ในภาวะคับขันนั่นเอง

- ที่ให้ความรู้สึกแปลก แต่ก็ประทับใจ คงเป็นเรื่อง "การเล่นท่ายากของหนัง" หนังเล่นท่ายากซ้อนกันหลายตลบ หักมุมหลายรอบ ชนิดที่ดูแล้วก็กลัวว่าจะหาทางลงได้หรือเปล่า และสุดท้ายก็หาทางลงได้สำเร็จ แถมยังเป็นการลงที่ดีด้วย จุดนี้โคตรน่าชื่นชม นึกว่าจะไม่รอดแล้ว 😂

- ซีนที่ผมว้าวสุด ได้แก่ ซีนเครื่องบินตก ซีนนี้ทำได้ลุ้นจริง เครื่องบินหมุนอุตลุด จนคนในห้องโดยสารไม่เหลือสภาพ... ซีนนี้ว้าวติดตาเลย โปรดักชั่นเนียนจริง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- มุมกล้องเป็นอีกจุดที่น่าสนใจ โดยรวม มุมกล้องดูไม่สวยเท่าไร แต่ว่าถ่ายทอดความอึดอัดในที่แคบและความอลหม่านบนเครื่องบินได้เยี่ยมมาก

- จุดที่พอจะเป็นข้อเสีย คงเป็นเรื่องการใส่ค่านิยม / ความซึ้งฉบับเกาหลีที่ดูประดักประเดิดไปบ้าง แม้ตัวหนังจะนำเสนอได้ดี แต่หากปรับให้คมและเป็นธรรมชาติกว่านี้ หนังจะดู Universal ขึ้นไปอีก (กลายเป็นสเกลระดับโลก)

- ประเด็นสุดท้ายที่ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือเปล่า ก็คือ "ภาพลักษณ์ญี่ปุ่นที่ดูเป็นตัวร้ายในสายตาเกาหลี 😂"  ส่วนนี้อาจจะเป็นจุดที่ผมคิดเองเออเอง ผมสังเกตว่า ถ้าหนังเกาหลีดำเนินเรื่องในยุคก่อน ญี่ปุ่นก็จะเป็นตัวร้ายในช่วง WW2 ทว่าเรื่องนี้มูฟออนจุดนั้นมาได้ แล้วมาสร้างประเด็นในยุคปัจจุบันแทน อันนี้ก็รู้สึกว่าเป็นอีกจุดที่ขำ ๆ ดี 😂

สรุป

Emergency Declaration (2021) นับเป็นหนังฮอลลีวู้ดรสกิมจิที่น่าประทับใจ แม้ว่าอาจจะไม่เยี่ยมเท่ากับ Train to Busan (2016) แต่ถ้าเทียบกับหนังในปีเดียวกันอย่าง Escape from Mogadishu (2021) ที่เป็นตัวแทนภาพยนตร์เกาหลีในการชิงออสการ์ ผมว่าความสนุกค่อนข้างสูสีกันเลย (Escape from Mogadishu อาจจะเป็นต่อนิดหน่อย 😂)

ดังนั้นถ้ามีโอกาสก็แนะนำนะครับ ยิ่งถ้าได้ชมในโรงภาพยนตร์ยิ่งดี ทั้งภาพและเสียงกระหึ่มแน่นอน !

บรรยากาศนักแสดงและผู้กำกับใน Canne Film Festival 2021
_________________________________

ป.ล. ในหนังมีฉากหวาดเสียวและฉากเลือด ดังนั้นควรระมัดระวังในการรับชมนะครับ 

ป.ล.2 อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากพุดคุยหรือติดต่อกับผม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่