เรื่องย่อ:
The Killer (2023) คือภาพยนตร์แนวทริลเลอร์-อาชญากรรมจากผู้กำกับชื่อดัง
David Fincher (จาก
Se7en,
Fight Club,
Gone Girl) ดัดแปลงจากนิยายภาพฝรั่งเศสโดย Alexis Nolent และ Luc Jacamon นำแสดงโดย
Michael Fassbender ในบทนักฆ่าไร้ชื่อผู้ดำเนินชีวิตอย่างมีระบบ เยือกเย็น และไม่เคยมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องกับงาน
แต่แล้วทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาพลาดเป้าหมายในการลอบสังหารเป็นครั้งแรก สิ่งที่ตามมาคือคลื่นกระทบระลอกที่ลากเขาเข้าสู่การไล่ล่าอย่างดุเดือด และการถูกตามล่าจากองค์กรที่เคยจ้างเขาเอง นักฆ่าผู้เคยเยือกเย็นที่สุด กลับเริ่มมี “อารมณ์” และ “แรงจูงใจส่วนตัว” เข้ามาเกี่ยวข้อง และนั่นคือสิ่งที่อันตรายที่สุดสำหรับคนในอาชีพนี้
รีวิวหลังดู:
The Killer คือหนังที่
เดินเรื่องอย่างเงียบ แต่กัดลึกเหมือนใบมีด สไตล์ David Fincher กลับมาเต็มพิกัดในหนังเรื่องนี้ — จังหวะคุมดี บรรยากาศเย็นเยียบ และอารมณ์ของตัวละครหลักที่แม้จะดูเฉยเมย แต่กลับสะท้อนความคลั่งที่ค่อยๆ ก่อตัว
Michael Fassbender รับบทมือสังหารได้อย่างเฉียบขาด ตัวละครของเขาไม่พูดเยอะ แต่เสียงบรรยายในหัว (voiceover) กลับทำหน้าที่แทนได้อย่างมีพลัง เราจะได้ยิน “ตรรกะ” ที่แม่นยำราวเครื่องจักรผสมกับ “ความลังเลของมนุษย์” ที่ค่อยๆ แทรกเข้ามา และนั่นทำให้หนังมีทั้งมิติและจังหวะที่น่าสะพรึง
หนังไม่ได้เน้นแอ็กชันจัดๆ เหมือนหนังนักฆ่าทั่วไป แต่เป็นแนว “ลงมือเงียบๆ แต่สะเทือน” แทบทุกฉากมีความนิ่งในแบบที่ Fincher ชอบใช้ แต่พอระเบิดขึ้นมา ก็แรงพอจะทำให้คุณนั่งไม่ติดเบาะ
จุดเด่น:
การกำกับที่ประณีตและกดดันในสไตล์ Fincher
การแสดงของ Fassbender ที่ทรงพลังแบบเงียบๆ
เสียงบรรยาย (voiceover) ที่กลายเป็นตัวละครอีกตัวหนึ่ง
บรรยากาศและโทนสีที่สื่อถึงโลกเย็นชาของนักฆ่าได้อย่างลงตัว
จุดสังเกต:
หนังเดินเรื่องช้าและใช้จังหวะนิ่ง คนที่ชอบแอ็กชันเยอะอาจรู้สึกเบา
ไม่ใช่หนังที่สื่อสารแบบตรงๆ ต้องใช้สมาธิในการ “ฟังความคิด”
คะแนน IMDb: ⭐️
6.8/10
Rotten Tomatoes: 85% (Critics) / 60% (Audience)
สรุป:
The Killer เป็นหนังนักฆ่าในสไตล์ที่ “เย็น เยือก และชัดเจน” ไม่ใช่หนังยิงกันทั้งเรื่อง แต่คือบทกวีของความแม่นยำที่พลาดเพียงเสี้ยววินาที และผลลัพธ์คือความหายนะระดับจิตวิญญาณ สำหรับคนที่ชื่นชอบงานแบบ
Drive,
No Country for Old Men หรือ
Zodiac — นี่คืออีกหนึ่งเรื่องที่คุณไม่ควรพลาด
“เขาไม่พลาดเป้า… จนกระทั่งเขาเริ่มรู้สึก”
นี่ไม่ใช่แค่นักฆ่า…นี่คือ
นักฆ่าที่เริ่มสงสัยในตัวเอง.
The Killer (2023): นักฆ่าผู้เยือกเย็นกับภารกิจที่ผิดจังหวะ
เรื่องย่อ:
The Killer (2023) คือภาพยนตร์แนวทริลเลอร์-อาชญากรรมจากผู้กำกับชื่อดัง David Fincher (จาก Se7en, Fight Club, Gone Girl) ดัดแปลงจากนิยายภาพฝรั่งเศสโดย Alexis Nolent และ Luc Jacamon นำแสดงโดย Michael Fassbender ในบทนักฆ่าไร้ชื่อผู้ดำเนินชีวิตอย่างมีระบบ เยือกเย็น และไม่เคยมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องกับงาน
แต่แล้วทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาพลาดเป้าหมายในการลอบสังหารเป็นครั้งแรก สิ่งที่ตามมาคือคลื่นกระทบระลอกที่ลากเขาเข้าสู่การไล่ล่าอย่างดุเดือด และการถูกตามล่าจากองค์กรที่เคยจ้างเขาเอง นักฆ่าผู้เคยเยือกเย็นที่สุด กลับเริ่มมี “อารมณ์” และ “แรงจูงใจส่วนตัว” เข้ามาเกี่ยวข้อง และนั่นคือสิ่งที่อันตรายที่สุดสำหรับคนในอาชีพนี้
รีวิวหลังดู:
The Killer คือหนังที่ เดินเรื่องอย่างเงียบ แต่กัดลึกเหมือนใบมีด สไตล์ David Fincher กลับมาเต็มพิกัดในหนังเรื่องนี้ — จังหวะคุมดี บรรยากาศเย็นเยียบ และอารมณ์ของตัวละครหลักที่แม้จะดูเฉยเมย แต่กลับสะท้อนความคลั่งที่ค่อยๆ ก่อตัว
Michael Fassbender รับบทมือสังหารได้อย่างเฉียบขาด ตัวละครของเขาไม่พูดเยอะ แต่เสียงบรรยายในหัว (voiceover) กลับทำหน้าที่แทนได้อย่างมีพลัง เราจะได้ยิน “ตรรกะ” ที่แม่นยำราวเครื่องจักรผสมกับ “ความลังเลของมนุษย์” ที่ค่อยๆ แทรกเข้ามา และนั่นทำให้หนังมีทั้งมิติและจังหวะที่น่าสะพรึง
หนังไม่ได้เน้นแอ็กชันจัดๆ เหมือนหนังนักฆ่าทั่วไป แต่เป็นแนว “ลงมือเงียบๆ แต่สะเทือน” แทบทุกฉากมีความนิ่งในแบบที่ Fincher ชอบใช้ แต่พอระเบิดขึ้นมา ก็แรงพอจะทำให้คุณนั่งไม่ติดเบาะ
จุดเด่น:
การกำกับที่ประณีตและกดดันในสไตล์ Fincher
การแสดงของ Fassbender ที่ทรงพลังแบบเงียบๆ
เสียงบรรยาย (voiceover) ที่กลายเป็นตัวละครอีกตัวหนึ่ง
บรรยากาศและโทนสีที่สื่อถึงโลกเย็นชาของนักฆ่าได้อย่างลงตัว
จุดสังเกต:
หนังเดินเรื่องช้าและใช้จังหวะนิ่ง คนที่ชอบแอ็กชันเยอะอาจรู้สึกเบา
ไม่ใช่หนังที่สื่อสารแบบตรงๆ ต้องใช้สมาธิในการ “ฟังความคิด”
คะแนน IMDb: ⭐️ 6.8/10
Rotten Tomatoes: 85% (Critics) / 60% (Audience)
สรุป:
The Killer เป็นหนังนักฆ่าในสไตล์ที่ “เย็น เยือก และชัดเจน” ไม่ใช่หนังยิงกันทั้งเรื่อง แต่คือบทกวีของความแม่นยำที่พลาดเพียงเสี้ยววินาที และผลลัพธ์คือความหายนะระดับจิตวิญญาณ สำหรับคนที่ชื่นชอบงานแบบ Drive, No Country for Old Men หรือ Zodiac — นี่คืออีกหนึ่งเรื่องที่คุณไม่ควรพลาด
“เขาไม่พลาดเป้า… จนกระทั่งเขาเริ่มรู้สึก”
นี่ไม่ใช่แค่นักฆ่า…นี่คือ นักฆ่าที่เริ่มสงสัยในตัวเอง.