สวัสดีค่ะ คือเราเป็นเด็กและได้ฟังเรื่องของผู้ใหญ่มาหลายปีแล้วไม่จบไม่สิ้นสักทีค่ะ ปัญหามันเกิดขึ้นใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
เข้าเรื่องเลย เริ่มต้น เราและพี่ชายย้ายเข้ามาเรียนที่ในเมืองและ พ่อแม่ได้ซื้อตึกพานิชไว้2คูหา ซึ้งพ่อเราได้ให้ป้ามาอยู่ด้วยจะได้อยู่กับหลานไปด้วย และไม่ได้ให้เสียค่าเช่าตึกสักบาทเลยแถมรถ4ประตูให้ขับฟรีๆ (เดิมป้าได้เช่าตึกอยู่ที่ชลบุรีกับสามีแกขายอาหาร) ซึ้งพ่อแม่ของเราอยู่ประเทศลาวไม่สามารถมาอยู่ด้วยได้ จากนั้นผ่านมา 4-5ปี พ่อกับแม่เราทะเลาะกัน แยกทางกัน พ่อของเราได้กลับมาที่ไทย และอยากเปิดธุรกิจส่วนตัว จึงตกลงกับป้า(พี่สาวแท้ๆของพ่อเรา) ว่าจะยกตึกนี้ให้1คูหา เพราะจะเอาเข้าธนาคารนำเงินก้อนออกมาสร้างตัว ให้ป้าส่งและป้าได้ตกลง ที่จะส่งเพราะจะเอาตึกตามตกลงกัน จากนั้นป้าได้ส่งจนครบตามจำนวน
ผ่านมาอีก 2-3 ปี พี่และเราเรียนจบ ม.ต้น ก็ได้ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านเกิด(เราก็อยู่กับป้าไม่ค่อยได้เท่าไหร่ ด่าเช้าด่าเย็น) เราก็จำรายละเอียดในเรื่องนี้ไม่ค่อยได้เท่าไหร่คร่าวๆละกัน
สักพักหนึ่งแม่เราได้กลับมาและจัดแจงทุกอย่างเพราะตึกทั้ง2คูหาเป็นเงินทุกบาททุกสตางค์ของแม่เรา จึงได้ตกลงกับป้าว่าจะยกให้ตามที่ตกลงกับพ่อ ก็คิดว่าคงจบกันด้วยดีแล้วเพราะคุยกันลงตัว…
…แล้วเรื่องก็เริ่มขึ้นค่ะ วันนั้นพี่ชายของเราได้ไปนอนตามปกติของบ้านนั่นเพราะมีห้องเก่าของเราอยู่อีก1คูหา ป้าเปิดร้านขายอาหารตามปกติ พี่ชายเราชวนเพื่อนมากินเหล้าที่ร้านของป้าคงอาจจะเมาและทำแก้วของป้านั้นแตก1ใบ แต่พี่ชายเรากลับบอกเพื่อนให้เอาไปทิ้งอีกฝั่งถนนโยนลงห้วยไปกลัวป้าจะด่าว่าทำแตก ประมาณนี้แหละ เช้าวันถัดไป ป้าของเราโพสเฟสไป1โพส ด่าพี่ชายเรานี่แหละค่ะ ก็ไม่ได้ด่าแรงอะไร แต่ด่าว่า "ไอ้ลูกหมา" (แม่เราเป็นคนเห็นนะคะว่าแกโพสจริงๆ ก็เลยคุยกันว่าโพสถึงลูกเรารึป่าวเพราะลูกเราไปนอนนั่น) ก็ยังไม่มีใครว่าอะไรคงไม่ใช่โพสด่าพี่เราหรอกนะ จากนั้นแม่เราก็ไปทำธุระเลยแวะเข้าไปบ้านหาป้าคุยกันตามปกติ แม่เราลงจากรถเดินเข้าไปในบ้านกำลังจะนั่งลงกินส้มตำ ป้าตะโกนขึ้นมาลอยๆว่า ทำไมต้องกินปูร้อนท้อง โพสไปอ่ะ โพสด่าลูกของลูกค้า เด็กมันมาเล่นปลาที่เลี้ยงไว้ในตู้ก็เลยโพสด่าไป แม่เราก็เลยตกใจทำไมแกถึงพูดแบบนั้นมาเพราะยังไม่ได้ร้อนท้องอะไร ก็คิดว่าปกติจริงๆ แม่เราก็เลยตอบกลับไปว่า ถ้าโพสด่าคนอื่นก็ไม่ได้ว่าอะไรแก แต่ยังไม่ได้ร้อนท้องอะไรเลยและไม่ได้โพสด่ากลับเลยก็แค่อ่านคิดว่าลูกชายตัวเองไปทำอะไร เพราะเป็นวันเดียวกับที่โพส และแม่ก็เดินออกจากร้านมา จากนั้นครอบครัวของเราก็ไม่ได้แวะไปที่บ้านของตัวเองอีกก็คงปล่อยให้เขาอยู่
จนมาถึงตอนนี้คิดว่าจะเอาตึกทั้ง2คูหานั้นคืนเพื่อให้เป็นมรดกของเราและพี่ พ่อกับแม่เราจึงขอซื้อตึกนั้นคืน เงินตามที่ป้าเคยส่งทุกบาททุกสตางค์(ตอนพ่อเราเอาเงินก้อนออกมาให้ป้าส่ง) ป้าก็เลยบอกงั้นก็เอาเงินเป็นก้อนมาแล้วจะเอาตึกนั้นคืนให้และย้ายออกไปทำร้านอาหารอยู่ที่ใหม่ (รวมๆแล้วแกอยู่ประมาณ10กว่าปีนะคะ) จากนั้นพ่อแม่เราได้นำตึกเข้าธนาคารใหม่อีกรอบเพื่อเอาเงินก้อนให้ป้าตามตกลงจะซื้อคืนนะคะ แต่ทางทางธนาคารให้ปิดประตูไว้1คูหา เพราะตึกนั้นเข้าธนาคาร และจ่ายป้าตามจำนวนที่เคยผ่อนให้ตึกเรา ทำสัญญาลงลายมือชื่อเรียบร้อย และป้าได้ขอเวลาหาที่หาทำเลร้านใหม่เป็นเวลา2ปี ครอบเราก็ตกลงนะคะ และทำสัญญาเอาทนายฝั่งป้ามาทำสัญญา2ปีตามที่แกขอ
พอครบตามสัญญาคือเดือนมกราคมค่ะ ป้ายังไม่ย้ายออกและขายของตามปกติและจะขอเช่าเป็นเดือนไป แม่เราก็ไม่คิดค่าเช่านะคะเพราะเห็นเป็นญาติกันอยู่ฟรีๆมาเป็นสิบปีก็ให้อยู่แล้ว แค่อยู่อีกสักเดือนคงไม่อะไร ผ่านมา2เดือนค่ะ เราได้ถามว่าแกจะย้ายออกตอนไหน เพราะเราให้เวลาหาร้านหาทำเลแล้ว2ปี(คงเป็นช่วงโควิดด้วยแหละ) แกตอบกลับมาแค่ก็คิดค่าเช่ามา ทำร้านใหม่เสร็จวันไหนก็ย้ายออกไม่ต้องไล่ แต่เราต้องการแค่ให้แกย้ายออกเพราะเราจะติดป้ายขายตึก2คูหานั้น เพราะต้องส่งดอกทุกเดือนตกเดือนละ4หมื่น มา2ปีแล้ว ถ้าป้าย้ายออกแล้วเราขายตึกก็คงได้เอาเงินมาทำอย่างอื่นแล้ว แกบอกว่าขอเวลาถึงสิ้นเดือนเมษา จะย้ายออก … ก็จนถึงเดือนมิถุนานะคะพึ่งขนของจะย้ายออก
และเมื่อวานค่ะเราและแม่ไปที่บ้านนั้นเพื่อติดป้าย ขาย/ให้เช่า เห็นแกขนของย้ายของออกหมดทุกอย่างแล้วค่ะ สิ่งของที่ป้าแกต่อเติมแกะออกทุกอย่างแล้ว แต่แกคงลืมปิดหน้าต่างชั้น 2 เราและแม่กลัวว่าฝนจะสาดน้ำเข้าบ้าน มีคนแอบเข้าบ้านเอาอะไรเข้าไปทิ้งในบ้านต่างๆนาๆ วันนี้ก็เลยชวนพี่ชายไปตัดกุญแจเพื่อที่จะเข้าไปปิดหน้าต่างชั้น2 ให้จบไปแค่นั้นแหละค่ะจุดประสงค์ของเรา แต่ป้าที่ให้กล้องวงจรแถวนั้นบอก แกเลยมาชี้หน้าด่าว่า "ครอบครัวของเราโกงแก ผิดสัญญาผิดคำพูด และทวงบุญคุณที่เลี้ยงเรากับพี่มา อยู่บ้านก็ใช้หนี้ให้(หนี้เดือนละ2หมื่นนะคะที่เอาเข้าธนาคารให้ป้าเป็นคนส่ง) บอกจะยกให้กูก็ไม่ยกให้กูจะตะโกนให้คนรู้พวกมันขี้โกง " นั่นนี่ แม่เราก็เลยยอมรับไป ว่าจะยกให้จริง ถ้าวันนั้นไม่โพสด่า ว่าไอ้ลูกหมา เพราะด่าพ่อกับแม่ ไม่ได้ด่าลูกกู ด่ากู ป้าแกยอมรับค่ะแกด่าพี่เราซึ่งก่อนหน้านี้ปฏิเสธว่าไม่ได้ด่า บอกว่าด่าลูกของลูกค้า แต่วันนี้ยอมรับเลยว่าด่า
~ความหมายของแม่เราก็คือ แกเห็นว่าโพสด่าแกนั่นแหละค่ะว่าหมา เพราะอยู่กันดีๆ แค่ลูกชายพาเพื่อนมาทำแก้วเหล้าแตก1ใบ ทำให้ด่าคนที่ให้บ้านอยู่ให้รถขับฟรีๆ ทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวตัวเองได้ขนาดนั้น แต่กลับมาด่า มาทวงบุญคุณทุกอย่าง คนแถวละแวกนั้นมองครอบครัวเราติดลบทุกคนนะคะ แต่เราก็ไม่ได้ไปอธิบายให้ใครฟังค่ะว่าเป็นมายังไงให้เขารู้แค่ฝ่ายเดียว
เอาตามที่เราทำงานช่วยพ่อแม่มา2ปีหาเงินแต่ละเดือนเพื่อปิดดอกของธนาคารก็หนักพอสมควรนะคะและประหยัดกันมากๆ เราสงสารพ่อแม่เราที่ดิ้นรนเพื่อเราและพี่ชายมากๆ และไม่อยากให้ต้องมาทะเลาะกับป้าประสาทแบบนี้เลยจริงๆ เราก็ไม่รู้ว่าใครถูกผิดนะคะ แต่เราก็เข้าข้างครอบครัวของเราที่เอาเงินให้แกกลับคืนไปแล้วแต่ก็ยังเจอคำด่า คำสาปแช่งอยู่แบบนี้ ตอนนี้ญาติฝั่งพ่อไม่มีใครเข้าข้างครอบครัวเราเลยค่ะนับตั้งแต่ปู่(เป็นพ่อของพ่อ) ปู่ก็แช่งให้ลำกับพี่ชายนั้นลำบาก ถ้าพ่อแม่ตายไปคงลำบากขายทรัพย์สินกิน ไม่มีใครปล่อยวางเลยค่ะ เรื่องก็คร่าวๆประมาณนี้นะคะอาจจะพิมสับสนไปบ้าง แต่ก็ได้ระบายในส่วนหนึ่งของใครอ่านและเข้าใจก็ขอบคุณมากนะคะที่เข้าใจ แต่ใครอ่านไม่เข้าใจก็อย่าว่ากันนะคะ

เราก็ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ป้าเราจะมาหาเรื่องอะไรต่ออีกรึป่าวแต่เราโครตสงสารพ่อกับแม่เราเลย เฮ่ออ…เป็นหนี้ไม่พอแถมโดนด่าโดนแช่งอยู่ทุกวัน
ครอบครัวเราทะเลาะกับญาติพี่น้อง
เข้าเรื่องเลย เริ่มต้น เราและพี่ชายย้ายเข้ามาเรียนที่ในเมืองและ พ่อแม่ได้ซื้อตึกพานิชไว้2คูหา ซึ้งพ่อเราได้ให้ป้ามาอยู่ด้วยจะได้อยู่กับหลานไปด้วย และไม่ได้ให้เสียค่าเช่าตึกสักบาทเลยแถมรถ4ประตูให้ขับฟรีๆ (เดิมป้าได้เช่าตึกอยู่ที่ชลบุรีกับสามีแกขายอาหาร) ซึ้งพ่อแม่ของเราอยู่ประเทศลาวไม่สามารถมาอยู่ด้วยได้ จากนั้นผ่านมา 4-5ปี พ่อกับแม่เราทะเลาะกัน แยกทางกัน พ่อของเราได้กลับมาที่ไทย และอยากเปิดธุรกิจส่วนตัว จึงตกลงกับป้า(พี่สาวแท้ๆของพ่อเรา) ว่าจะยกตึกนี้ให้1คูหา เพราะจะเอาเข้าธนาคารนำเงินก้อนออกมาสร้างตัว ให้ป้าส่งและป้าได้ตกลง ที่จะส่งเพราะจะเอาตึกตามตกลงกัน จากนั้นป้าได้ส่งจนครบตามจำนวน
ผ่านมาอีก 2-3 ปี พี่และเราเรียนจบ ม.ต้น ก็ได้ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านเกิด(เราก็อยู่กับป้าไม่ค่อยได้เท่าไหร่ ด่าเช้าด่าเย็น) เราก็จำรายละเอียดในเรื่องนี้ไม่ค่อยได้เท่าไหร่คร่าวๆละกัน
สักพักหนึ่งแม่เราได้กลับมาและจัดแจงทุกอย่างเพราะตึกทั้ง2คูหาเป็นเงินทุกบาททุกสตางค์ของแม่เรา จึงได้ตกลงกับป้าว่าจะยกให้ตามที่ตกลงกับพ่อ ก็คิดว่าคงจบกันด้วยดีแล้วเพราะคุยกันลงตัว…
…แล้วเรื่องก็เริ่มขึ้นค่ะ วันนั้นพี่ชายของเราได้ไปนอนตามปกติของบ้านนั่นเพราะมีห้องเก่าของเราอยู่อีก1คูหา ป้าเปิดร้านขายอาหารตามปกติ พี่ชายเราชวนเพื่อนมากินเหล้าที่ร้านของป้าคงอาจจะเมาและทำแก้วของป้านั้นแตก1ใบ แต่พี่ชายเรากลับบอกเพื่อนให้เอาไปทิ้งอีกฝั่งถนนโยนลงห้วยไปกลัวป้าจะด่าว่าทำแตก ประมาณนี้แหละ เช้าวันถัดไป ป้าของเราโพสเฟสไป1โพส ด่าพี่ชายเรานี่แหละค่ะ ก็ไม่ได้ด่าแรงอะไร แต่ด่าว่า "ไอ้ลูกหมา" (แม่เราเป็นคนเห็นนะคะว่าแกโพสจริงๆ ก็เลยคุยกันว่าโพสถึงลูกเรารึป่าวเพราะลูกเราไปนอนนั่น) ก็ยังไม่มีใครว่าอะไรคงไม่ใช่โพสด่าพี่เราหรอกนะ จากนั้นแม่เราก็ไปทำธุระเลยแวะเข้าไปบ้านหาป้าคุยกันตามปกติ แม่เราลงจากรถเดินเข้าไปในบ้านกำลังจะนั่งลงกินส้มตำ ป้าตะโกนขึ้นมาลอยๆว่า ทำไมต้องกินปูร้อนท้อง โพสไปอ่ะ โพสด่าลูกของลูกค้า เด็กมันมาเล่นปลาที่เลี้ยงไว้ในตู้ก็เลยโพสด่าไป แม่เราก็เลยตกใจทำไมแกถึงพูดแบบนั้นมาเพราะยังไม่ได้ร้อนท้องอะไร ก็คิดว่าปกติจริงๆ แม่เราก็เลยตอบกลับไปว่า ถ้าโพสด่าคนอื่นก็ไม่ได้ว่าอะไรแก แต่ยังไม่ได้ร้อนท้องอะไรเลยและไม่ได้โพสด่ากลับเลยก็แค่อ่านคิดว่าลูกชายตัวเองไปทำอะไร เพราะเป็นวันเดียวกับที่โพส และแม่ก็เดินออกจากร้านมา จากนั้นครอบครัวของเราก็ไม่ได้แวะไปที่บ้านของตัวเองอีกก็คงปล่อยให้เขาอยู่
จนมาถึงตอนนี้คิดว่าจะเอาตึกทั้ง2คูหานั้นคืนเพื่อให้เป็นมรดกของเราและพี่ พ่อกับแม่เราจึงขอซื้อตึกนั้นคืน เงินตามที่ป้าเคยส่งทุกบาททุกสตางค์(ตอนพ่อเราเอาเงินก้อนออกมาให้ป้าส่ง) ป้าก็เลยบอกงั้นก็เอาเงินเป็นก้อนมาแล้วจะเอาตึกนั้นคืนให้และย้ายออกไปทำร้านอาหารอยู่ที่ใหม่ (รวมๆแล้วแกอยู่ประมาณ10กว่าปีนะคะ) จากนั้นพ่อแม่เราได้นำตึกเข้าธนาคารใหม่อีกรอบเพื่อเอาเงินก้อนให้ป้าตามตกลงจะซื้อคืนนะคะ แต่ทางทางธนาคารให้ปิดประตูไว้1คูหา เพราะตึกนั้นเข้าธนาคาร และจ่ายป้าตามจำนวนที่เคยผ่อนให้ตึกเรา ทำสัญญาลงลายมือชื่อเรียบร้อย และป้าได้ขอเวลาหาที่หาทำเลร้านใหม่เป็นเวลา2ปี ครอบเราก็ตกลงนะคะ และทำสัญญาเอาทนายฝั่งป้ามาทำสัญญา2ปีตามที่แกขอ
พอครบตามสัญญาคือเดือนมกราคมค่ะ ป้ายังไม่ย้ายออกและขายของตามปกติและจะขอเช่าเป็นเดือนไป แม่เราก็ไม่คิดค่าเช่านะคะเพราะเห็นเป็นญาติกันอยู่ฟรีๆมาเป็นสิบปีก็ให้อยู่แล้ว แค่อยู่อีกสักเดือนคงไม่อะไร ผ่านมา2เดือนค่ะ เราได้ถามว่าแกจะย้ายออกตอนไหน เพราะเราให้เวลาหาร้านหาทำเลแล้ว2ปี(คงเป็นช่วงโควิดด้วยแหละ) แกตอบกลับมาแค่ก็คิดค่าเช่ามา ทำร้านใหม่เสร็จวันไหนก็ย้ายออกไม่ต้องไล่ แต่เราต้องการแค่ให้แกย้ายออกเพราะเราจะติดป้ายขายตึก2คูหานั้น เพราะต้องส่งดอกทุกเดือนตกเดือนละ4หมื่น มา2ปีแล้ว ถ้าป้าย้ายออกแล้วเราขายตึกก็คงได้เอาเงินมาทำอย่างอื่นแล้ว แกบอกว่าขอเวลาถึงสิ้นเดือนเมษา จะย้ายออก … ก็จนถึงเดือนมิถุนานะคะพึ่งขนของจะย้ายออก
และเมื่อวานค่ะเราและแม่ไปที่บ้านนั้นเพื่อติดป้าย ขาย/ให้เช่า เห็นแกขนของย้ายของออกหมดทุกอย่างแล้วค่ะ สิ่งของที่ป้าแกต่อเติมแกะออกทุกอย่างแล้ว แต่แกคงลืมปิดหน้าต่างชั้น 2 เราและแม่กลัวว่าฝนจะสาดน้ำเข้าบ้าน มีคนแอบเข้าบ้านเอาอะไรเข้าไปทิ้งในบ้านต่างๆนาๆ วันนี้ก็เลยชวนพี่ชายไปตัดกุญแจเพื่อที่จะเข้าไปปิดหน้าต่างชั้น2 ให้จบไปแค่นั้นแหละค่ะจุดประสงค์ของเรา แต่ป้าที่ให้กล้องวงจรแถวนั้นบอก แกเลยมาชี้หน้าด่าว่า "ครอบครัวของเราโกงแก ผิดสัญญาผิดคำพูด และทวงบุญคุณที่เลี้ยงเรากับพี่มา อยู่บ้านก็ใช้หนี้ให้(หนี้เดือนละ2หมื่นนะคะที่เอาเข้าธนาคารให้ป้าเป็นคนส่ง) บอกจะยกให้กูก็ไม่ยกให้กูจะตะโกนให้คนรู้พวกมันขี้โกง " นั่นนี่ แม่เราก็เลยยอมรับไป ว่าจะยกให้จริง ถ้าวันนั้นไม่โพสด่า ว่าไอ้ลูกหมา เพราะด่าพ่อกับแม่ ไม่ได้ด่าลูกกู ด่ากู ป้าแกยอมรับค่ะแกด่าพี่เราซึ่งก่อนหน้านี้ปฏิเสธว่าไม่ได้ด่า บอกว่าด่าลูกของลูกค้า แต่วันนี้ยอมรับเลยว่าด่า
~ความหมายของแม่เราก็คือ แกเห็นว่าโพสด่าแกนั่นแหละค่ะว่าหมา เพราะอยู่กันดีๆ แค่ลูกชายพาเพื่อนมาทำแก้วเหล้าแตก1ใบ ทำให้ด่าคนที่ให้บ้านอยู่ให้รถขับฟรีๆ ทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวตัวเองได้ขนาดนั้น แต่กลับมาด่า มาทวงบุญคุณทุกอย่าง คนแถวละแวกนั้นมองครอบครัวเราติดลบทุกคนนะคะ แต่เราก็ไม่ได้ไปอธิบายให้ใครฟังค่ะว่าเป็นมายังไงให้เขารู้แค่ฝ่ายเดียว
เอาตามที่เราทำงานช่วยพ่อแม่มา2ปีหาเงินแต่ละเดือนเพื่อปิดดอกของธนาคารก็หนักพอสมควรนะคะและประหยัดกันมากๆ เราสงสารพ่อแม่เราที่ดิ้นรนเพื่อเราและพี่ชายมากๆ และไม่อยากให้ต้องมาทะเลาะกับป้าประสาทแบบนี้เลยจริงๆ เราก็ไม่รู้ว่าใครถูกผิดนะคะ แต่เราก็เข้าข้างครอบครัวของเราที่เอาเงินให้แกกลับคืนไปแล้วแต่ก็ยังเจอคำด่า คำสาปแช่งอยู่แบบนี้ ตอนนี้ญาติฝั่งพ่อไม่มีใครเข้าข้างครอบครัวเราเลยค่ะนับตั้งแต่ปู่(เป็นพ่อของพ่อ) ปู่ก็แช่งให้ลำกับพี่ชายนั้นลำบาก ถ้าพ่อแม่ตายไปคงลำบากขายทรัพย์สินกิน ไม่มีใครปล่อยวางเลยค่ะ เรื่องก็คร่าวๆประมาณนี้นะคะอาจจะพิมสับสนไปบ้าง แต่ก็ได้ระบายในส่วนหนึ่งของใครอ่านและเข้าใจก็ขอบคุณมากนะคะที่เข้าใจ แต่ใครอ่านไม่เข้าใจก็อย่าว่ากันนะคะ