แชร์ประสบการณ์ รีวิวสอบข้าราชการ กทม. ฉบับเด็กต่างจังหวัด

สวัสดีค่ะ ปกติไม่เคยเขียนรีวิว หรือตั้งกระทู้เลย กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกในการเขียนรีวิวเลยค่ะ 
ผิดถูกยังไงโปรดให้อภัย จขกท. ด้วยนะคะ
 
เนื่องจากข้าราชการ กทม. ต้นปี 2565 ที่ผ่านมา แล้วหาข้อมูลไม่ค่อยมีคนรีวิวไว้เลยค่ะ
เลยพูดไว้ว่าถ้าสอบผ่านแล้วได้บรรจุข้าราชการจะทำรีวิวการสอบเลยละกัน
เป็นการรีวิวการสอบข้าราชการ กทม.1/2564 ฉบับเด็กต่างจังหวัด บ้านนอกเข้ากรุงสุดๆเลยค่ะ
จะขออนุญาตเล่าแบบละเอียดในขั้นตอนที่ยังพอจำได้นะคะ ขั้นตอนไหนที่สามารถหาอ่านศึกษาเองได้ในเว็บก็จะแปะภาพไว้แล้วกันนะคะ
เอาจริงๆไม่ได้วางแผนไว้ว่าจะมารีวิวหรือตั้งกระทู้ เพราะไม่คิดว่าจะสอบผ่านค่ะ 
เลยไม่ได้จดหรือเก็บรายละเอียดอะไรไว้เท่าที่ควร
แต่อยากมาแชร์ประสบการณ์เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นค่ะ 
เริ่มจากอันดับแรกค่ะ 

การสมัครสอบ
สามารถสมัครสอบผ่านช่องทางออนไลน์
ตรวจสอบคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง คุณสมบัติของตนเองให้ตรงตามที่กำหนด วุฒิการศึกษาต่างๆ
และชำระเงินผ่านทางเคาน์เตอร์กรุงไทยหรือ internet payment และ อัปโหลดรูปถ่าย(ที่จะปรากฏในใบสมัครสอบ)
สามารถสมัครได้เพียงครั้งเดียว และเพียง 1 ตำแหน่งเท่านั้น (รายละเอียดสามารถอ่านได้จากประกาศรับสมัครสอบฯ)
ผู้ที่สมัครสอบที่ผ่านภาค ก ของ ก.พ หรือของ กทม. แล้ว ค่าธรรมเนียมสอบ 400 บาท
ผู้ที่สมัครสอบที่ยังไม่ผ่านภาค ก ของ ก.พ หรือของ กทม. ค่าธรรมเนียมสอบ 500 บาท
พิมพ์ใบสมัครสอบ ผ่านทางเว็บไซต์
และวัน เวลา สถานที่สอบ ออกก่อนวันสอบไม่น้อยกว่า 5 วันทำการ 
เด็กต่างจังหวัดก็งงตาแตกไปเลยสิคะ จองที่พักแบบกะทันหัน ดีที่วันที่สอบเดินทางด้วยรถส่วนตัว ถือโอกาสไปเที่ยวด้วยค่ะ 
อยากจะแอบบอกว่า บ้าน จขกท.เดินทาง(รถส่วนตัว)ไป กทม. ใช้เวลา 8-9 ชั่วโมง เลยค่ะ 
ผลปรากฏว่า ได้สถานที่สอบที่โรงเรียนราชวินิตค่ะ อยู่แถวๆมหาวิทยาลัยสวนดุสิต  
.....ในเว็บไซต์ที่ประกาศสถานที่สอบ มีการแนะนำสถานที่ แผนผัง รถเมล์ ต่างๆไว้ให้แล้วนะคะ

หาที่พักในอินเทอร์เน็ตได้ไปพักที่ Sawatdee guesthouse ขอรีวิวที่พักไปด้วยเลยนะคะ ที่พักสะอาดมากค่ะ ต้องถอดรองเท้า ป้าเจ้าของใจดีมาก
 เป็นกันเองสุดๆ ราคาประมาณ 400 บาท มีเซเว่น ตลาด วินมอไซต์ รถตุ๊กตุ๊กอยู่ข้างหน้าที่พัก
รถยนต์ส่วนตัวสามารถจอดในวัดเทวราชกุญชรวรวิหารได้ค่ะ (มีค่าจอดรถ) 

รีวิววันสอบ (ช่วงปลายเดือนมีนาคม)
ขออนุญาตรีวิวการสอบแบบไม่ใช่รีวิวข้อสอบนะคะ 
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า จขกท.ไม่ได้สอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป( ภาค ก.) นะคะ เพราะว่าใช้ภาค ก กพ. ยื่นค่ะ 
เลยสอบแต่ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งในช่วงบ่ายค่ะ
การแต่งกาย
เอกสารตรวจโควิด ปริ้นแล้วนำไปยื่นก่อนเข้าห้องสอบพร้อมใบสมัครสอบ พร้อมบัตรประจำตัวประชาชน
เราตรวจที่ร้านขายยาแล้วเขามีระบบเชื่อมกับหมอพร้อม แล้วปริ้นจากหมอพร้อมไปยื่นค่ะ
-ไม่ต้องนำปากกาดินสอยางลบไปเลยค่ะ สนามสอบมีให้ เจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้ออกจากห้องสอบพร้อมกันทุกคนเมื่อหมดเวลาสอบค่ะ
-ตอนแรกตื่นเต้นมากค่ะ เพราะเป็นการสอบครั้งแรก คำถามเต็มไปหมดเลยค่ะ เสื้อสีอะไร ตรวจโควิดแบบไหน มีที่ฝากของฝากกระเป๋าไหม
สรุปเอากระเป๋าไปวางหน้าห้องได้ค่ะ เสื้อเป็นสีอะไรก็ได้นะคะ รองเท้าก็แตะฟองน้ำทั่วไปค่ะ ทางเพจของ กทม. มีการตอบคำถามข้อสงสัยไว้ให้ค่ะ


 

เรื่องที่จอดรถ
เห็นมีพี่ๆวินมอไซต์ มีที่จอดรถนะคะ ขับไปจอดแล้วมีพี่วินไปรับ ตอนกลับก็นั่งวินไปที่จอดรถค่ะ 
แต่ไม่ได้ใช้บริการค่ะ ไม่ทราบว่าราคาเท่าไหร่

ประกาศผลผู้สอบผ่านข้อเขียน (ต้นเดือนเมษายน)
ประกาศเร็วมากค่ะ หลังจากสอบประมาณ 2-3 สัปดาห์เองค่ะ
ในระบบก็จะมีแจ้งว่าเรามีสิทธิสอบภาค ค หรือไม่
อัปโหลดเอกสารหลังประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านข้อเขียน 
รายละเอียดเอกสารก็จะมีกำหนดในประกาศค่ะ เช่น ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน ปริญญาบัตร ใบรับรองแพทย์(ใช้ของคลินิกได้ค่ะ) ฯลฯ
จะมีการรับรองสำเนา เขียนชื่อ ตำแหน่ง เลขที่สอบ บนเอกสารก่อนแสกนส่งด้วยนะคะ ตรวจเช็ครายละเอียดให้ดีด้วยค่ะ

สอบประเมินทางจิตเกี่ยวกับทัศนคติสำหรับการปฏิบัติราชการและการทดลองสมรรถนะของข้าราชการ กทม. (ปลายเมษายน)
ด้วยความสอบครั้งแรก และค่อนข้าง งงนิดหน่อยค่ะ 
เลยพึ่งทราบว่าเขามีการสอบประเมินทางจิตเกี่ยวกับทัศนคติสำหรับการปฏิบัติราชการและการทดลองสมรรถนะของข้าราชการ กทม.ด้วย
แต่ในประกาศมีบอกนะคะ โทษตัวเองเลยค่ะ อ่านไม่ดีเอง
เมื่อทราบวันเวลาสถานที่ ก็ตามเดิมเลยค่ะจองที่พัก ครั้งนี้ไปพักที่หอพัก ของ สกสค. ค่ะ อยู่ที่คุรุสภา คนนอกสามารถเข้าพักได้นะคะ
ห้องพักดีมากเลยค่ะ ราคาไม่แพง ใกล้สวนดุสิตด้วยค่ะ เดินทางสะดวกมาก สามารถฝากกระเป๋าเดินทางไว้ที่พักก่อนได้ด้วยค่ะ
ตอนนั้นเดินทางจากสนามบินดอนเมืองมาโดยรถเมล์ A2 มาลงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตอนแรกจะนั่งรถเมล์ต่อค่ะ แต่มีกระเป๋าเดินทาง 
ดู Map แล้วไม่ไกลมาก เลยนั่งแท็กซี่เข้าที่พักไปเลยค่ะ (เด็กต่างจังหวัดแบบเราขึ้นรถเมล์เป็นต้องตื่นเต้นและงงทุกครั้งค่ะ สรุปนั่งแท็กซี่ค่ะ)
ตอนเช้าก็นั่งวินไปม.สวนดุสิตค่ะ 
(แอบกระซิบว่าตอนแรกเข้าไปไม่รู้ว่าในม.สวนดุสิตมีอะไรบ้าง ก็ไปนั่งรอตรงเก้าอี้ในบริเวณหน้าตึกสอบ ร้อนมากค่ะ
พอไปอีกรอบเพื่อนชวนไปนั่งในโรงอาหารที่มีแอร์ด้วย เราก็นั่งรอร้อนๆมาทุกครั้งเลย)
การสอบก็ใช้เอกสารการยืนยันการตรวจโควิดก่อนขึ้นตึก และใช้บัตรประชาชนในการเข้าห้องสอบค่ะ
*** การสอบนี้แหละค่ะ ตอนก่อนสอบหาข้อมูลในกระทู้ ตามเพจต่างๆ งงไปหมด มันคือสอบอะไร ต้องเตรียมตัวอะไรไหม
แต่สรุปว่า ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเลยค่ะ ถามแบบใช้ความรู้สึกตอบได้ค่ะ เหมือนแบบสอบถามมากกว่า ประมาณนั้นเลยค่ะ
(ให้ระวังเรื่องและตรวจสอบรายละเอียดห้องสอบก่อนขึ้นตึกนะคะ วันนั้นเราเจอคนที่ขึ้นผิดตึก แต่เอกสารตรวจโควิด จนท. เก็บรวมกันตอนก่อนขึ้นตึก
แต่ก็ไม่ทราบนะคะว่าเขาแก้ปัญหายังไง น่าจะวุ่นวายพอสมควร )

 สอบสัมภาษณ์ (ปลายเมษายน)
ตอนทราบวัน เวลา คือห่างจากวันที่สอบประเมินทางจิตเพียงแค่ 4-5 วัน ค่าใช้จ่าย ค่าเดินทาง ที่พัก สำหรับเด็กต่างจังหวัดค่อนข้างขำแห้งเลยค่ะ 
แต่คิดว่าลงทุนเพื่ออนาคตนะคะ จขกท.โชคดีหน่อยตรงที่ หัวหน้างานค่อนข้างสนับสนุนให้สอบข้าราชการค่ะ ยอมให้ลางานได้ สนับสนุนเต็มที่
วันสอบต้องไปถึงก่อนเวลานะคะ หน้าม.สวนดุสิตรถติดมากค่ะ
ก่อนเข้าตึกที่สอบก็จะมีการตรวจและให้ยื่นเอกสารโควิดเหมือนทุกครั้งค่ะ
พอขึ้นไปอาคารและห้องตามประกาศ 
จะมีห้อง ให้นั่งรอ และห้องสัมภาษณ์ ตำแหน่งของ จขกท. มีห้องสัมภาษณ์ 2 ห้องค่ะ แบ่งตามลำดับที่ประกาศมา
เมื่อสัมภาษณ์เสร็จแล้วก็กลับได้ค่ะ 
จขกท. ลำดับหลังๆ นั่งรอจนหายตื่นเต้นเลยค่ะ
พอเข้าไปสัมภาษณ์ก็แนะนำตัว เล่าประวัติการทำงาน การศึกษา แล้วกรรมการก็จะถามเกี่ยวกับตำแหน่งที่เราสมัครค่ะ
เด็กต่างจังหวัดก็จะถูกถามว่า จะย้ายกลับบ้านต่างจังหวัดไหม ประมาณนั้นค่ะ
 
ประกาศผู้สอบแข่งขันได้ (สิ้นเดือนเมษายน)
หลังจากสอบสัมภาษณ์แค่ประมาณสัปดาห์เดียวเองค่ะ ถือว่าเร็วมาก(เร็วกว่ากระทรวงอื่นค่ะ แหะๆ)
และแจ้งวันรายงานตัวในเดือนถัดไป  (ปลายเดือนพฤษภาคม)
และสามารถตรวจสอบคะแนนรายบุคคลได้ค่ะ (ของเราก็จะมีแค่คะแนน ภาค ข และ ภาค ค เพราะ ภาค ก ยื่นของ กพ. ค่ะ)

จุดนี้แหละค่ะที่อยากจะแบ่งปันประสบการณ์
ในตอนนั้นที่ทราบ รู้วันรายงานตัว และอยากทราบว่าวันรายงานตัวคือรู้สถานที่ทำงานเลยแล้วเริ่มงานเลยหรือไม่
แล้วจะเรียกบรรจุหลังจากรายงานตัวกี่วัน วันที่โทรถาม จนท.แจ้งว่าประมาณ2 สัปดาห์ – 1 เดือน 
แจ้งวันที่จะบรรจุไม่ได้ จะทราบรายละเอียดในวันที่รายงานตัวเท่านั้น 
ความรู้สึกตอนนั้นคือ เราต้องลาออกจากงานเดิมก่อนล่วงหน้า 30 วัน เราเลยวางแผนไม่ถูกว่าต้องทำเรื่องลาออกเลย หรือต้องช่วงไหนยังไง 
สรุปว่า

วันที่ไปรายงานตัว (ปลายเดือนพฤษภาคม)
ไปที่ ศาลาว่าการ กทม. 2 ดินแดง อาคารไอราวัตพัฒนา ค่ะ 
ยื่นเอกสารฉีควัคซีนก่อนเข้า จนท. จะเรียกชื่อเป็นตำแหน่งค่ะ เดินลงไปห้องประชุมชั้นล่างพร้อมกัน
ไปส่งเอกสารรายงานตัว และได้รับหนังสือเพื่อไปพิมพ์ลายนิ้วมือค่ะ(มีใบรับเอกสารเล็กๆ เมื่อเราไปพิมพ์ลายนิ้วมือแล้วให้ จนท.ลงชื่อมาด้วยนะคะ
แล้วนำมาส่งวันที่รับหนังสือบรรจุค่ะ และไปถ่ายภาพต่างๆ (มีแบบและตัวอย่างให้มาค่ะ เด็กต่างจังหวัดควรถ่ายที่ กทม. ค่ะ ชุดเครื่องแบบ ข้าราขการ กทม. ต่างจังหวัดไม่ค่อยมีเลยค่ะ)

ยังไม่ทราบว่าไปบรรจุที่ไหน วันที่รายงานตัว จนท.จะแจ้งว่าต้องมารับหนังสือส่งตัววันที่เท่าไหร่ 
ซึ่งวันนั้นแหละค่ะ เราได้ทราบว่า เป็นช่วงปลาย(มิถุนายน) เขาบอกว่าเผื่อใครที่จะต้องไปทำเรื่องลาออก จะได้ทัน 
ถามเพื่อนๆที่ได้บรรจุพร้อมกัน มีบางคนลาออกจากงานมาแล้ว (เท่ากับว่าเขาว่างงาน 1 เดือน ด้วยความกังวลว่าจะทำเรื่องลาออกไม่ทัน )
 
วันรับหนังสือส่งตัวเพื่อบรรจุ (ปลายมิถุนายน)
สถานที่เดิมกับวันที่รายงานตัวเลยค่ะ ศาลาว่าการ กทม. 2 ดินแดง 
 เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ติดภาพให้เรียบร้อย มี จนท.ให้ยืมกาวติดภาพด้วยค่ะ 
จนท.เรียกเป็นตำแหน่งเหมือนเดิมค่ะ เดินลงไปห้องประชุมพร้อมกัน 
ปีนี้สุดพิเศษค่ะ รุ่นของ จขกท. ได้รับเกียรติจาก ผู้ว่าชัชชาติ มากล่าวอะไรนิดๆหน่อยๆ ค่ะ พอจะเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน 
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ก็แจกเอกสารหนังสือส่งตัวค่ะ เราต้องเซ็นสำเนาคู่ฉบับว่ารับเรียบร้อยแล้ว
หลังจากนั้นก็ลุ้นค่ะ ว่าจะได้ไปบรรจุที่ไหน แล้วก็ไปในวันนั้นเลยค่ะ
ใครที่มีบ้าน มีที่อยู่ในเขต กทม. ก็จะได้ลงใกล้บ้านค่ะ 
ส่วนเด็กต่างจังหวัดแบบเรา ก็เดาไม่ถูกเลยค่ะ ตามแล้วแต่โชคชะตา
แต่ว่าสิ่งที่น่ารักคือ สำนัก สำนักเขต หน่วยงานต่างๆที่ข้าราชการใหม่จะได้ไปบรรจุ มีจนท. มารับ และมีรถรับไปส่งหน่วยงานด้วยค่ะ
พี่ๆข้าราขการถือป้ายหน่วยงานรอต้อนรับน้องใหม่ เหมือนไกด์มารับทัวร์ที่เพิ่งลงเครื่องมาเลยค่ะ น่ารักมากกกกกก
หลังจากนั้นเราก็ไปยังหน่วยงานที่เราบรรจุค่ะ 
ทำเอกสารต่างๆ กับหน่วยงานที่เราเข้าบรรจุ 
 เด็กต่างจังหวัดก็ต้องหาที่พัก สอบถามได้จากพี่ๆในหน่วยงานได้เลยค่ะ เริ่มทำงานเลยค่ะ ถือว่าเป็นวันเริ่มปฏิบัติงาน วันบรรจุของเราเอง 

 
 
อาจจะข้ามรายละเอียดขั้นตอนอะไรไปบ้างนะคะ เพราะเขียนเท่าที่จำได้เลยค่ะ 
ขออภัยหากให้ข้อมูลผิดพลาด หรือคลาดเคลื่อนไปนะคะ 

อยากให้เป็นแนวทางสำหรับว่าที่ข้าราชการใหม่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่แวะผ่านเข้ามาอ่านนะคะ ขอให้โชคดีค่ะ

ปล.ขอบคุณภาพจากเพจ และสามารถติดตามข่าวสาร เพจ EXAM BANGKOK ได้เลยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่