Rainy Time in Sapa 2022


    ใครอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองสี่ฤดูในหนึ่งวันให้มาที่ Sapa ค่ะ หมอกสดชื่นในยามเช้า แดดออกในตอนเที่ยง เมฆครึ้มในช่วงบ่าย และอากาศหนาวเย็นยามค่ำคืน
     เมืองนี้ขึ้นชื่อสำหรับการ Trekking ตามเส้นทางนาขั้นบันได นอน Homestay บ้านชาวเขา และเดินป่าระยะไกลขึ้น Fansipan ส่วนจะหา Contact ไม่ยากค่ะ ชาวเขาจะเดินเข้ามาหาเราตั้งแต่ลงรถบัส หรือใครกำลังเดินตามถนนก็เจอแน่นอน
     นักเดินทางส่วนใหญ่จะเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขับกันเอง หรือเช่ารถพร้อมคนขับสำหรับคนไม่ถนัดขับขึ้นลงเขา ส่วนเราเลือกอย่างหลัง เพราะไม่มี Driver License ค่ะ

                  [ ข้อมูลสำหรับการเดินทาง ]
ภาษา (Languages) : Vietnamese
วีซ่า (Visa) : Free Visa (ช่วงโควิดผ่าน ตม.เวียดนาม ไม่ได้ขอดูเอกสารอะไรนะคะ)
สกุลเงิน (Currency) : VND หรือ Dong
Time Zone : เท่ากับเวลาในไทย
การเดินทาง : จากไทยไปลงเครื่องที่ Noi Bai International airport (Arrival hall Terminal 2) ให้นั่ง Free Shuttle bus ไป Domestic (Terminal 1) เพื่อไปจุดขึ้นรถบัส หรือถ้าใครจะเข้าเมืองสามารถขึ้นรถบัสสาย 86 สาย 17 ที่ Terminal 1 ได้

    รถบัสเบาะนอน (Overnight bus) : จากเมือง Hanoi ไปเมือง Sapa ระยะทาง 320 กม. ใช้เวลาเดินทาง 5 ชม. ราคาตั๋ว 328,000 Dong สามารถจองออนไลน์ผ่าน 2 website คือ www.baolau.com/en/หรือ 12go.asia/en/travel/hanoi/sapa (เราจองของบริษัท Inter bus ผ่าน Baolau)
บนรถมี wifi แต่ไม่แรง แนะนำซื้อ Sim card ไว้เลย มีน้ำดื่ม แต่ไม่มีห้องน้ำบนรถนะคะ
     ขากลับจากย่าน Hoan Kiem ใน Ha noi ให้นั่งรถเมล์สาย 17 (ราคา 9,000 Dong ตลอดสาย) สาย 86 (ราคา 35,000 Dong ตลอดสาย) มาลง Airport Terminal 1



         Y Linh Ho - Lao Chai - Ta Van Village
    ถ้ามีใครอยากให้เราแนะนำเมืองตากอากาศดีดีสักที่ ตัวเลือกแรกๆคงเป็นที่นี่ค่ะ นาขั้นบันไดเขียวขจี อุดมสมบูรณ์ อากาศบริสุทธิ์ ลำธารใสสะอาด สิ่งเหล่านี้ช่วยคลายความวุ่นวายจากการทำงานลงได้เยอะ


      เราเลือกเที่ยว Sapa ในฤดูฝนต้นเดือนสิงหา บรรยากาศหลังฝนตกชุ่มฉ่ำเย็นสบาย ฟ้าครึ้มตลอดวัน มีฝนตกเปาะแปะเป็นช่วงๆพอให้สดชื่นแล้วก็หยุด สลับวนไปทั้งวัน
   อย่างที่บอกไปตอนต้น เราเช่ารถมอเตอร์ไซค์พร้อมคนขับ แล้วคนขับก็เป็นไกด์พาเราเที่ยวอีกที ไกด์เราชื่อน้อง May Lan ค่ะ


    ไกด์พาขับรถออกจากตัวเมือง Sapa ประมาณ 10 กม. โดยแวะหมู่บ้าน Y Linh Ho หาอะไรกินรองท้องก่อนจะเลาะถนนริมลำธารยาวไปจนถึงหมู่บ้าน Lao Chai ซึ่งติดกับหมู่บ้าน Ta Van
    จากบ่ายจนค่ำ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เรียบง่ายแต่น่าจดจำ จริงๆอยากหาสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกสวยๆ ซึ่งหายากมากในหน้าฝน เลยได้ชมหมอกสวยๆยามเย็นแทนค่ะ






                            Fansipan

          (Ref.SunWorld Fansipan Legend Map)
     มาถึงอีกไฮไลท์ของเมือง Sapa คือขึ้นยอด Fansipan ค่ะ จากที่เคยคิดว่าเป็นการขึ้น Cable car ถึงยอด ถ่ายรูป แล้วกลับ อันที่จริงตรงกันข้ามเลย และต้องเผื่อเวลาไว้หน่อยนะคะ ของเราใช้เวลา 4-5 ชม. เพราะแต่ละ Station กว้างและมีพื้นที่ให้เดินชมเยอะเลย เราทำแผนที่ให้ดูคร่าวๆด้านบนค่ะ
     จุดเริ่มต้นมี 2 เส้นทาง เส้นทางแรกขึ้นรถไฟในเมืองจาก SunPlaza สถานี Sapa Funicular มาลงสถานี Moung Hoa แล้วขึ้น Cable car ต่อไป Fansipan
ส่วนเส้นทางที่สอง สำหรับคนขับรถมาเอง โดยจะจอดรถไว้ที่ลานด้านหลังของสถานี Moung Hoa แล้วขึ้น Cable car ต่อไป Fansipan

    ราคามีให้เลือกหลายแบบ อย่างของเรารวมทั้งหมดตั้งแต่รถไฟ , Cable car , รถราง ทั้งขาไปขากลับรวม 1,014,000 Dong รับบัตรเครดิต
     แต่พอขึ้นรถรางไปถึงยอดแล้ว ขากลับเราเลือกเดินลงเองค่ะ สนุกกว่าเยอะเลย

รถไฟ จาก Sapa Funicular ไป Moung Hoa Station

    จากจุดนี้เดินขึ้นบันไดเลื่อนไป Hoang Lien Cable car Station ได้เลย หรือต้องการแวะชมวัด ขี่ม้าชมสวนดอกไม้ ซื้อของฝากของทำมือ หาของกินก่อนได้ อ้อ…มีจุดขายตั๋วที่นี่ด้วยนะคะ ราคาตั๋วไปกลับ Fansipan Cable Car Station อยู่ที่ 700,000 Dong  

                          Trinh pagoda


                          Flower garden


                     Fansipan Que market


    และสิ่งที่ประทับใจมากในทริปนี้ คงเป็นความฟินที่ได้นั่ง Cable Car ท่ามกลางธรรมชาติสวยๆแบบนี้ ช่างคู่ควรกับรางวัล Longest non-stop three-rope cable car 6,292.5 m. จาก Guinnessworldrecord ค่ะ ปรบมือ………..


    ทางเดินจากนี้คือเส้นทางของม่านหมอก หมอกทึบมากในช่วงแรก ลมเย็นสบายไม่หนาว แต่ช่วงเดินกลับท้องฟ้าเริ่มโปร่งและเริ่มร้อน ฮ่า…. เดินไปถ่ายรูปไปเพลินๆ ก็ถึง Do Quyen Funicular Station นั่งรถรางขึ้นยอดสุดที่ Truc May Funicular Station (ราคารถราง 70,000 Dong ต่อเที่ยว)

                          Fansipan Top

      เพื่อความคุ้มค่าในการขึ้น Fansipan เราตัดสินใจเดินลงเขาแทนนั่งรถรางกลับ อยากเก็บทุกแลนด์สเคปไปเรื่อย เดินเอื่อยๆ ไม่รีบเร่ง ที่นั่งพักมีตลอดทางค่ะ



                         Bohisattva





  
                         Cat Cat Village
    กลับจาก Fansipan ในช่วงเย็น มาเดินเล่นต่อที่หมู่บ้านกัตกัตค่ะ ก่อนเข้าต้องซื้อตั๋วก่อน ราคาตั๋วผู้ใหญ่ 90,000 Dong ต่อคน วันนี้อากาศค่อนข้างร้อน เส้นทางเดินมีขึ้นเขาลงเขาบ้าง ไม่ได้เหนื่อยจนเกินไป

    หมู่บ้านกัตกัต เป็นแหล่งช้อปปิ้ง ของที่ระลึก ของกิน  ยาสมุนไพรต้ม(เยอะมาก หลายสูตรด้วย) ของทำมือ ร้านชากาแฟ มุมถ่ายรูปสวยๆ แล้วยังมีชุดชาวเขาให้เช่าด้วย มีตั้งแต่เดรสพริ้วเบาๆไปยันชุดเดรสเครื่องเงินหนักๆจัดเต็มขั้นสุดค่ะ เราว่าเหมาะกับสายเน้นถ่ายรูปมากๆเลย



     ถัดจากผืนนาสีเขียว ที่นี่ยังมีทุ่งดอกไม้เมืองหนาวให้ชมด้วยค่ะ


    กลางหุบเขามีลำธารน้ำตกไหล กังหันลม ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้เข้ามาชม ซึ่งคนเยอะจริงๆค่ะ โดยเฉพาะบริเวณกิจกรรมโชว์เต้นรำของชาวเขา

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่