หนูจะต้องเข้าโรงเรียนมัธยมปลาย มี 2 โรงเรียนค่ะที่เป็นตัวเลือก หนูอยู่ที่ต่างประเทศเพราะฉะนั้นการเรียนการสอนของแต่ละโรงเรียนก็เลยค่อนข้างที่จะเหมือนกัน ไม่ค่อยแตกต่างกันมาก มีเกรนการสอนและการให้เกรดที่เหมือนกันเกือบทั้งประเทศ ในชุมชนที่หนูอยู่จริงๆก็มีโรงเรียนมัธยมปลายอยู่ประมาณ 2 ที่ คือมัธยมปลายของที่นี่จะเป็นเหมือนเป็นสายอาชีพมากกว่าค่ะ ไม่ได้เรียนทุกอย่างเหมือนที่ไทย ซึ่งหนูก็มีคณะในใจแล้ว แต่ติดอยู่ที่เลือกโรงเรียนไม่ได้
โรงเรียนที่ 1 คือ โรงเรียนที่อยู่ใกล้บ้านหนูเดินไปประมาณ 10 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ แต่โรงเรียนที่หนูอยากได้คือโรงเรียนที่อยู่ในเมืองใหญ่ซึ่งมันห่างจากบ้านหนูมาก ห่างถึงประมาณ 53 กิโล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีค่ะ ไปโดยรถไฟใช้เวลา 1 ชั่วโมง 5 นาที และสามารถเดินไปโรงเรียนก็ได้ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 12 นาที หรือจะไปโดยบัสอีกก็ได้ 3 นาทีการเดินทางค่อนข้างที่จะสดวกค่ะแต่ใช้เวลานาน ไม่ต้องออกค่าเดินทางเองเพราะรัฐบาลออกให้ค่ะ ข้าวเที่ยงที่โรงเรียนก็น่าจะมีให้ค่ะ เนื่องจากโรงเรียนที่อยากได้มันใช้เวลาเดินทางนานก็เลยเป็นปัญหากับทางบ้านค่ะ เพราะที่บ้านอยากให้เรียนที่ใกล้บ้านเพราะจะได้ไม่เหนื่อย อันนี้หนูเข้าใจนะคะ แต่ใจมันอยากเรียนอีกที่หนึ่ง และที่บ้านก็เน้นย้ำว่าจะไม่เช่าบ้านหรือห้องให้ ซึ่งอันนี้ไม่ใช่ประเด็นเพราะหนูไม่ได้อยากให้ที่บ้านเช่าให้อยู่แล้ว หนูคิดว่าหนูสามารถไปกลับได้อาจจะเหนื่อยหน่อยแต่คิดว่าหนูไหวค่ะ เรื่องความปลอดภัยไม่ต้องห่วงนะค่ะ ความปลอดภัยหนูว่ามันดีมากๆ เดินคนเดียวตอนดึกก็ไม่รู้สึกเปลี่ยว คือมันปลอดภัยอะค่ะ
นี้จะเป็นความคิดเห็นของหนูโดยตรงนะค่ะและเหตุผลของหนู (ถ้าไม่ถูกใจใครขอโทษด้วยนะค่ะ) หนูไม่ได้คุยกับที่บ้านด้วยเหตุผลพวกนี้นะคะ เพราะไม่กล้าบอกจริงๆ ไม่ได้สนิทกับครอบครัวถึงขนาดที่จะบอกทุกอย่าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1 มันเป็นเมืองใหญ่สังคมมันใหญ่กว่า หนูรู้สึกว่าการได้เผชิญหน้ากับสังคมที่ใหญ่กว่ามีความกดดันกว่า มีการแข่งขันที่มากกว่ามันทำให้หนูได้เรียนรู้และได้เป็นผู้ใหญ่ที่มากขึ้น หนูว่ามันได้เรียนรู้จริงๆเพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นมันจะมีแค่หนูคนเดียวหนูจะได้ใช้ความคิดและแก้ไขปัญหาของตัวเองด้วยตัวของหนูเอง
2 เนื่องจากโรงเรียนที่หนูอยากเรียนมันก็เป็นระดับต้นๆของโรงเรียนมัธยมปลายเลย หลายคนก็เลยอยากเข้าที่นี้ด้วยรวมถึงหนู เนื่องจากมีคนจากหลายๆที่เข้ามามันเลยมีสังคมที่หลากหลายกว่าและมีคนมากจากต่างประเทศด้วย เลยสามารถเลือกคนคบได้ ตัดมาที่สังคมที่เมืองที่หนูอยู่มันเล็กและหนูไม่ชอบสังคมของเมืองนี้ด้วย คือสวนมากเข้าจะเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่โรงเรียนเก่าแล้วมาเรียนด้วยกันเข้าเลยจะไม่ค่อยอยากให้ใครมาเป็นเพื่อนอีกประมาณนี้อะค่ะ ถามว่าทุกคนเฟรนลี้มั้ย บอกได้เลยว่าแทบทุกคนเฟรนลี้ รู้สึกโดดเดี่ยวและอึดอัดค่ะเวลาอยู่ที่นี้ หนูมีเพื่อนจากโรงเรียนเก่านะคะแต่ไม่ได้เรียนที่เดียวกันคือคงไม่ได้เจอกันในเวลาเรียน ซึ่งหนูรู้สึกดีใจนะค่ะที่ไม่ได้เรียนกับพวกเขาแล้ว ในกลุ่มจะมีอยู่ 2 คน บางคนก็ชอบโกหกเคยขโมยเงินหนูด้วยแต่หนูแค่ไม่บอกให้เขารู้ว่าหนูรู้แล้วคือไม่มีใครตั้งใจเรียนเลยเล่นโทรศัพท์ในคราบตลอดไม่เรียนเลยพยายามลอกการบ้านหนูคือหนูอึดอัดค่ะเวลาอยู่ด้วยแล้วกลัวตัวเองจะเสียไปด้วยแต่ก็ทนอยู่เพราะอย่างนอนก็มีเพื่อนไปกินข้าวเที่ยงด้วย ที่หนูต้องเป็นเพื่อนกับพวกเขาเพราะหนูไม่สามารถเลือกได้ คนอื่นที่อยู่ในห้องคือเข้าจะมีกลุ่มของตัวเองมาตั้งแต่อนุบาลแล้ว เข้าเลยสนิทกันมากเลยรู้สึกเป็นส่วนเกิน มีแค่กลุ่มนี้แหละค่ะที่เข้าได้ดีสุดแต่ก็อะไรมันก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น แต่โรงเรียนนั่นด้วยความที่มันมีกฎในการเข้าที่ยากกว่าใช้ว่าทุกคนจะเข้าได้และคนมาจากหลากหลายพื้นที่มันเหมือนทุกคนได้เริ่มทุกอย่างใหม่ เริ่มหาเพื่อนใหม่เราจึงสามารถเลือกเพื่อนได้
3 อย่างที่บอกเป็นโรงเรียนที่หลายคนอยากเข้าก็ย่อมที่จะดีกว่าไม่งั้นคนหลายคนจะแย่งชิ่งกันทำไม มันเหมือนขัดคนเกเรออกไปเลยค่ะเพราะมันจะมีแต่คนที่อยากเรียนจริงๆที่จะสามารถเข้ามาได้ คือถ้ากับคนที่ make friends ตั้งใจเรียนคนที่ positive อะค่ะ มันช่วยให้ชีวิตมันดีขึ้นจริงๆนะคะ อย่างที่บอกว่าหน้าเคยมีเพื่อนที่ไม่ได้ดี มันทำให้ชีวิตคือ🙄 พยายามให้ตัวเองไม่คอยตาม ตั้งใจเรียนจนตอนนี้หนูแบบสามารถเลือกโรงเรียนได้หลายที่ หนูเลยอยากเลือกโรงเรียนที่ดีให้กลับตัวเอง
4 หนูว่าการเรียนมันหนักกว่าที่อื่นๆ แต่ไม่หนักเท่าไทย ซึ่งหนูโอเคกลับข้อนี้เพราะหนูเรียนเพื่อที่จะได้รับความรู้อยู่แล้ว เรียนหนักยิ่งได้ความรู้เยอะ
5 เนื่องจากมันเป็นเมืองใหญ่คนไทยก็เลยมีเยอะกว่า ในโรงเรียนก็เลยมีวิชาภาษาไทยสอน ซึ่งเกรดภาษาไทยก็จะมาหาช่วยภาพรวมของเกรดด้วยและเนื่องจากมีครูคนไทยเขาก็จะได้ช่วยหนูได้เช่นการเรียน มีนักเรียนที่เป็นคนไทยเยอะอะคะน่าจะมีมากกว่า 10 คน คืออย่างน้อยมีคนไทยมันรู้สึกง่ายต่อการสื่อสารและรู้สึกว่าคนไทย make friends ได้ง่ายและคอยช่วยเหลือกันได้ดี ซึ่งเมืองหนูไม่มี คือภาษาหนูก็ไม่ได้ดีขนาดนั้นหนูมาอยู่ต่างประเทศได้ประมาณ 2 ปีและคะ การสื่อสารภาษาเขาหนูพอได้ แต่ภาษาอังกฤษนี่หนูพูดได้ดีเลยค่ะ พูดได้ดีพอๆกับภาษาไทย
6 เนื่องจากเมืองนี้เป็นเมืองใหญ่มันเลยมีมหาลัยด้วย ซึ่งเมื่องที่หนูอยู่ไม่มี หนูเลยคิดว่าถ้าเข้าที่เมืองใหญ่ได้มันอาจจะมีโอกาสมากกว่าที่จะเข้ามหาลัย
7 ได้เป็นตัวเองมากกว่า อิสระกว่า ได้ใช้ชีวิตมากกว่า คือหนูเป็นคนที่ชอบอยู่คนเดียวทำอะไรคนเดียวได้ ไปช็อปคนเดียวได้ ไม่ใช่คนขี้เหงา แต่ก็อยากมีเพื่อน อยากทำอะไรที่เพื่อนเขาทำกันเช่นติวหนูด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ดูหนังด้วยกัน หนูไม่มีอารมณ์แบบนั่นเลย ด้วยความที่หนูย้ายมาอยู่ตั้งแต่หนูจบ ป.6 ตอนอยู่ไทยไม่ค่อยได้ทำอะไรแบบนั่นเพราะยังเด็กอยู่ พอโตแล้วเลยอยากทำบ้างแต่ไม่มีเพื่อนที่ดีกับเข้าเลย
8 หนูอยากจะทำงานไปด้วยและเมืองใหญ่ก็มีงานให้เลือกเยอะกว่า อยากทำงานเก็บเงิน เอาง่ายๆอยากมีเงินค่ะ
ครอบครัวหนูเห็นต่าง
1 มันเหนื่อยเพราะต้องใช้เวลาเดินทางนาน ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปขึ้นรถไฟ
2 เขาคิดว่าโรงเรียนมันไม่ต่างกันมาก เรียนที่ไหนก็ได้หมดเหมือนกันหมด หลักสูตรการเรียนเหมือนหันหมด ไม่เหมือนที่ไทยที่มันต่างกัน
หลักๆเข้าไม่อยากให้เหนื่อย นี่ก็เข้าใจเขาเป็นห่วง แต่เราก็อยากไปเปิดโลก คือถ้าได้อ่านความคิดเห็นข้อหนูในสปอยก็จะรู้ว่าทำไมหนูอยากไปที่ไกลบ้าน
แต่ถ้าไม่ได้อ่านหนูจะสรุปให้นะคะเพื่อบางคนขี้เกียจอ่านเพราะมันยาว ส่วนใหญ่เพราะสังคม สังคมใหญ่กว่าทำให้ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง เป็นอิสระ ได้เจอคนมากมาย เข้ายากค่ะ เพราะฉะนั้นมันก็เลยเหมือนโรงเรียนคัดกรองแต่คนที่เรียนดี คนที่เรียนมา อยากเป็นเพื่อนกับคนที่เรียนค่ะ เพราะมันจะทำให้หนูขยันขึ้น คืออยากมีเพื่อนดีๆบ้าง มีครูคนไทยและนักเรียนไทยที่พอที่จะช่วยเหลือได้ โรงเรียนนั่นมีคนมากมายจากหลายที่อยากเข้าแต่ใช่ว่าจะเข้าได้ พ่อเมื่อได้เข้ามามะนเลยเหมือน ทุกคนได้เริ่มต้นใหม่ อึดอัดกับสังคมของเด็กเมืองที่หนูอยู่ เนื่องจากเป็นเมืองที่เล็กหมือนทุกคนจะมีกลุ่มมีเพื่อนของตัวเองมาตั้งแต่เริ่ม พอจะไป make friends ด้วยเขาเลยปิดกั้นหนู เหมือนหนูเป็นส่วนเกิน มะนเลยทำให้หนูอึดอัด ส่วนหลักสูตรการเรียนมันอาจจะเหมือนกันหมด แต่ถ้าโรงเรียนนั่นไม่ดีจริงทำไมคนถึงต้องอยากเข้ากันเยอะและต้องแย่งกันด้วย และมันมีโอกาสง่ายกว่าในการเข้ามหาลัยด้วย
ช่วยออกความคิดเห็นหน่อยนะค่ะ ขอบคุณที่อ่านด้วยคะ การที่มีคนมาออกความคิดเห็นและคำแนะนำมันช่วยให้หนูตัดสินใจได้ดีค่ะ เพราะฉะนั้นช่วยออกความคิดเห็นเห็นกันด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
ถ้าหนูเขียนภาษาไทยไม่ถูกขอโทษด้วยนะค่ะ
ครอบครัวไม่เห็นด้วยกับโรงเรียนที่อยากเข้า
โรงเรียนที่ 1 คือ โรงเรียนที่อยู่ใกล้บ้านหนูเดินไปประมาณ 10 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ แต่โรงเรียนที่หนูอยากได้คือโรงเรียนที่อยู่ในเมืองใหญ่ซึ่งมันห่างจากบ้านหนูมาก ห่างถึงประมาณ 53 กิโล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีค่ะ ไปโดยรถไฟใช้เวลา 1 ชั่วโมง 5 นาที และสามารถเดินไปโรงเรียนก็ได้ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 12 นาที หรือจะไปโดยบัสอีกก็ได้ 3 นาทีการเดินทางค่อนข้างที่จะสดวกค่ะแต่ใช้เวลานาน ไม่ต้องออกค่าเดินทางเองเพราะรัฐบาลออกให้ค่ะ ข้าวเที่ยงที่โรงเรียนก็น่าจะมีให้ค่ะ เนื่องจากโรงเรียนที่อยากได้มันใช้เวลาเดินทางนานก็เลยเป็นปัญหากับทางบ้านค่ะ เพราะที่บ้านอยากให้เรียนที่ใกล้บ้านเพราะจะได้ไม่เหนื่อย อันนี้หนูเข้าใจนะคะ แต่ใจมันอยากเรียนอีกที่หนึ่ง และที่บ้านก็เน้นย้ำว่าจะไม่เช่าบ้านหรือห้องให้ ซึ่งอันนี้ไม่ใช่ประเด็นเพราะหนูไม่ได้อยากให้ที่บ้านเช่าให้อยู่แล้ว หนูคิดว่าหนูสามารถไปกลับได้อาจจะเหนื่อยหน่อยแต่คิดว่าหนูไหวค่ะ เรื่องความปลอดภัยไม่ต้องห่วงนะค่ะ ความปลอดภัยหนูว่ามันดีมากๆ เดินคนเดียวตอนดึกก็ไม่รู้สึกเปลี่ยว คือมันปลอดภัยอะค่ะ
นี้จะเป็นความคิดเห็นของหนูโดยตรงนะค่ะและเหตุผลของหนู (ถ้าไม่ถูกใจใครขอโทษด้วยนะค่ะ) หนูไม่ได้คุยกับที่บ้านด้วยเหตุผลพวกนี้นะคะ เพราะไม่กล้าบอกจริงๆ ไม่ได้สนิทกับครอบครัวถึงขนาดที่จะบอกทุกอย่าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ครอบครัวหนูเห็นต่าง
1 มันเหนื่อยเพราะต้องใช้เวลาเดินทางนาน ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปขึ้นรถไฟ
2 เขาคิดว่าโรงเรียนมันไม่ต่างกันมาก เรียนที่ไหนก็ได้หมดเหมือนกันหมด หลักสูตรการเรียนเหมือนหันหมด ไม่เหมือนที่ไทยที่มันต่างกัน
หลักๆเข้าไม่อยากให้เหนื่อย นี่ก็เข้าใจเขาเป็นห่วง แต่เราก็อยากไปเปิดโลก คือถ้าได้อ่านความคิดเห็นข้อหนูในสปอยก็จะรู้ว่าทำไมหนูอยากไปที่ไกลบ้าน
แต่ถ้าไม่ได้อ่านหนูจะสรุปให้นะคะเพื่อบางคนขี้เกียจอ่านเพราะมันยาว ส่วนใหญ่เพราะสังคม สังคมใหญ่กว่าทำให้ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง เป็นอิสระ ได้เจอคนมากมาย เข้ายากค่ะ เพราะฉะนั้นมันก็เลยเหมือนโรงเรียนคัดกรองแต่คนที่เรียนดี คนที่เรียนมา อยากเป็นเพื่อนกับคนที่เรียนค่ะ เพราะมันจะทำให้หนูขยันขึ้น คืออยากมีเพื่อนดีๆบ้าง มีครูคนไทยและนักเรียนไทยที่พอที่จะช่วยเหลือได้ โรงเรียนนั่นมีคนมากมายจากหลายที่อยากเข้าแต่ใช่ว่าจะเข้าได้ พ่อเมื่อได้เข้ามามะนเลยเหมือน ทุกคนได้เริ่มต้นใหม่ อึดอัดกับสังคมของเด็กเมืองที่หนูอยู่ เนื่องจากเป็นเมืองที่เล็กหมือนทุกคนจะมีกลุ่มมีเพื่อนของตัวเองมาตั้งแต่เริ่ม พอจะไป make friends ด้วยเขาเลยปิดกั้นหนู เหมือนหนูเป็นส่วนเกิน มะนเลยทำให้หนูอึดอัด ส่วนหลักสูตรการเรียนมันอาจจะเหมือนกันหมด แต่ถ้าโรงเรียนนั่นไม่ดีจริงทำไมคนถึงต้องอยากเข้ากันเยอะและต้องแย่งกันด้วย และมันมีโอกาสง่ายกว่าในการเข้ามหาลัยด้วย
ช่วยออกความคิดเห็นหน่อยนะค่ะ ขอบคุณที่อ่านด้วยคะ การที่มีคนมาออกความคิดเห็นและคำแนะนำมันช่วยให้หนูตัดสินใจได้ดีค่ะ เพราะฉะนั้นช่วยออกความคิดเห็นเห็นกันด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
ถ้าหนูเขียนภาษาไทยไม่ถูกขอโทษด้วยนะค่ะ