อยากเข้าสอบเหมือนเพื่อน

เมื่อคืนได้ชมภาพยนตร์
เรื่อง มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
รำลึกถึงเรื่องราวหลายปีก่อน
สมัยยังทำงานมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง

วันหนึ่งมี อาจารย์สตรีวิ่งออกมาร้องไห้
บอก ผีหลอก ผีหลอก ผีหลอก
เพราะตอนเช็คชื่อ
มีนักศึกษาสตรีคนหนึ่งเข้าสอบ
แต่พอตอนเก็บกระดาษสอบ 
ไม่มีการเขียนอะไรบนกระดาษสอบ
สอบถามเพื่อนร่วมห้องว่า ทำไม
สุดท้ายเพื่อนร่วมห้องบอก
เพื่อนคนนี้ถูกรถชนตายเมื่อวาน
และฝังเรียบร้อยแล้วเพราะเป็นมุสลิม
(ธรรมเนียมต้องจัดการศพให้เสร็จภายในหนึ่งวัน
หลังจากนั้น ญาติพี่น้องจะไปสวดหน้าหลุมศพ
ติดต่อกันทุกวันอีกเจ็ดวัน
มักจะไปกันตอนกลางวันที่กูโบร์(ป่าช้า)
แต่บางครอบครัวไปกันตอนกลางคืนก็มี)

สงสัยเพื่อนสตรีคนนี้ยังคาใจ
ที่ยังไม่ได้มาสอบเหมือนเพื่อน

ต่อมาอีกหลายปี
ก็มีเหตุการณ์มีนักศึกษาชายเดินเข้าห้องสอบ
พอนั่งเสร็จก็หายตัวไปแบบเห็นเฉพาะอาจารย์
อาจารย์คุมสอบก็กรีดร้อง
ทำเอาห้องสอบปั่นป่วนไปหมด
ต้องหาอาจารย์/เจ้าหน้าที่มาช่วยคุมสอบ
เพราะการย้ายที่สอบ/ห้องสอบยุ่งยากมาก
แบบสอบไปหวาดกลัวผีไป
ทั้งอาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักศึกษา
เลยพากันนั่งสอบเสร็จเร็วที่สุดในวันนั้น

ห้องสอบที่มีเหตุการณ์นี้บ่อยมาก
ถ้าจำไม่ผิดคือ ห้อง 4401
ตึก 4 ชั้น  4 ห้อง 1

ยังจำได้ดี
วันหนึ่งต้องคุมสอบห้องหนึ่งที่ตึกนี้
แม้ว่าจะเป็นคนละห้องแต่ใกล้กัน
ปกติมักจะไม่จัดให้มีการสอบในห้องนี้
เว้นแต่ไม่มีห้องสอบเหลือจริง ๆ
แต่การเรียนการสอนมีตามปกติ
คาบค่ำมักจะไม่จัดให้เรียนที่ห้องนี้

ผมเคยคุมสอบที่มหาวิทยาลัย
เวลาเลิกสอบราวหนึ่งทุ่ม
เลยบอกนักศึกษาว่า
รออาจารย์ด้วย ขอกลับพร้อมกัน
เลยไม่เห็นอะไรแปลก ๆ
เพราะเดินลงไปพร้อมกับนักศึกษา
คนที่สอบเสร็จหลังสุด
และมีเพื่อนรออยู่หน้าห้อง

เรื่องเหตุการณ์แบบนี้ที่เกิดขึ้น
ได้ถาม ป้าแอ๋ว ญาติลูกพี่ลูกน้อง
เจ้าของมหาวิทยาลัย
ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายการเงินที่นี่
แต่แกซี้กับผมเพราะเคยอยู่สถาบันการเงิน
ธนาคารบัวหลวงแถวสายสองมาก่อน
แต่ผมอยู่ธนาคารทิดพาไนสายสาม

แต่เจอกันบ่อยตอนกลางวัน
ที่เดินไปกินข้าวเที่ยงแถวบ้าน
ก็เคยยิ้มทักทายกัน และแกสนิทกับพี่น้อย
เพื่อนร่วมงานเก่าแกที่มาขายประกันให้ที่บ้าน
อ้างถิงเรื่องเดิม  น้อย ตัวแทนประกันชีวิตที่รู้จัก
ก่อนที่ผมจะมาทำงานที่นี่

แกเลยสนิทคุ้ยเคยกับผมเป็นอย่างดี
แบบการเบิกเงินผ่านแกยากที่สุด
จนเป็นเรื่องเลื่องลือในมหาวิทยาลัยเอกชน
แต่กับผม แกอลุ่มอล่วยให้ผมตลอด
ยอมรอจนเย็นจนผมไปรับเงิน
ไม่ยอมเก็บเงินเข้า Safe ก่อน
เวลาขอเบิกเงินทำกิจกรรมโครงการต่าง ๆ
จนคนภายในเป็นงงตาม ๆ กัน
เพราะถ้าเป็นคนอื่น ฉูดแล้ว (กระเจิดกระเจิง)
ต้องรอวันถัดไป หรือ ไป ๆ มา ๆ อีกหลายครั้ง

ผมเลยถามแกตรง  ๆ 
เรื่องผีในห้องสอบนี้ว่า มีจริงไหม
แกบอกว่า มึจริง
แต่ทางมหาวิทยาลัยเคยทำเรื่องจบ
ให้นักศึกษาที่ตายก่อนจบทุกคน
ด้วยการทำ Transcript ว่าจบแล้ว
พร้อมกับใบปริญญาบัตร
มีลายเซ็น อธิการบดี นายกสภามหาวิทยาลัย
เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย
พร้อมใบคะแนนการสอบผ่านวิชาตามหลักสูตร 
แบบเอาเกรด A ไปเลย คะแนนเฉลี่ย เอมาก
ห้ามอวยพรว่า ขอให้โชคดี ต้องบอกให้โชคเอ
พร้อมก้บทำพิธีเผาส่ง Transcript ปริญญาบัตร
หลังจากทำพิธีสงฆ์ที่วัดแถวบ้าน
โดยจะทำทุก ๆ รอบก่อนวันประสาทปริญญา
เพื่อป้องกันไม่ให้นักศึกษาที่ตายก่อนจบ
มารังควาญ/วนเวียนในมหาวิทยาลัย
 
ผมเลยถามแกว่า
แล้วที่มหาวิทยาลัยอื่นมีทำบ้างไหม
แกบอก น่าจะมี แต่คงทำกันแบบเงียบ ๆ
เท่าที่รู้กันในวงการ ไม่ทำกันเอิกเกริก 
แบบกลัวนิสิตนักศึกษาตื่นตระหนก
 .



ครั้งสุดท้ายก่อนแกจะจากไป
เพราะโรคมะเร็งปอด ติดจากสามีแก
อดีตพนักงานรถไฟเจ้าของปล่องควันบุหรี่
ที่เสียชีวิตไปก่อนแกหลายปีแล้ว
แกเป็นแผลกดทับที่หลัง
กินยาต้านมะเร็งจากมอ. 
(มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์)
ครอบครัวบ้านแกต่างทำใจ
และกังวลกับแผลกดทับ
ที่นานวันยิ่งรักษายาก

ถ้าที่นอนแบบรักษาแผลกดทับ
ที่ขายตามท้องตลาดแพงมาก
หลักหมื่นขึ้นไปเลยทีเดียว
ของพ่อผมก่อนเสียก็เคยซื้อให้พ่อ
พอพ่อเสียชีวิตก็ยกให้โรงพยาบาล
ในช่วงปี 2528 ราคาราวสามหมื่นเศษ
(ยุคทองราคาราวสองพันเศษ)

ผมอ่านเจอว่าตัวรองกันกระแทก
แบบเป็นปุ่มกดเล่นดัง แป๊ก ๆ ๆ ๆ
ถ้ามาซ้อนกันก็ทำที่รองแผลกดทับได้
เลยไปว่าจ้างพี่เล็ก มือหนึ่งเย็บเบาะ
ช่วยเย็บเบาะซ้อนแผ่นรองกันกระแทก
ที่ซื้อม้วนใหญ่ราคาไม่แพงมากนัก
นำไปมอบให้ป้าแอ๋ว ก็ช่วยเยียวยาแกได้
ทำให้แกนอนแล้วไม่เป็นแผลกดทับ
เพราะแผ่นนี้มีฟองอากาศและเป็นปุ่ม
ทำให้เป็นการนวดหลังไปในตัว
กินเวลาราวสองเดือนก่อนที่แกจะจากไป

เขียนขึ้นจากความทรงจำเก่า ๆ
ก่อนที่จะเลือนหายไปเหมือนใบไม้ร่วงหล่น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่