หากใครต้องการสรุปอิ้งจากเกาหลีโดย jeeswag เจ้าเดิม
https://www.reddit.com/r/Kingdom/comments/wdpnoi/kingdom_729_kr_spoilers/
ส่วนท่านใดที่จะอ่านแปลไทยจาก 4chan (ไม่ฝัง) โดยผมเอง เชิญอ่านที่ช่อง สปอย ได้เลยครับ(แบบมีประกอบภาพเป็นหน้าๆสามารถชมได้ที่กลุ่ม Kingdom ไทย) หากใครที่จะนำไปฝังซับโดยใช้การแปลของผมรบกวนให้ credit ชื่อ Banzai_man ด้วยนะขอรับ
ปล.สัปดาห์หน้างด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หน้า 1
ชื่อตอน(ดำ): ดรุณน้อยผู้งดงาม
เหวยผิง
: "ไรเนี่ย"
หน้า 2
เหวยผิง
: "ส-สตรีงั้นหรา!?"
: "เป็นผู้นำตระกูลซากุ้ย"
: "มะ ไม่คิดเลยว่าผู้นำของตระกูลซากุ้ยที่สุดแสนอำมหิตจะเป็น...สตรีเลอโฉม"
: "ฮะ? เดี๋ยวนะ"
: "อย่าบอกข้านะว่า ตระกูลซากุ้ยเป็นสตรีงามหมดเลย?"
: "แถมยังงามด้วยอ่ะ?"
และก็มีซากุ้ยคนนึงดึกหน้ากากเผยให้เห็นใบหน้าที่ดูเต็มไปด้วยบาดแผลอันน่าขนลุก
หน้า 3
เหวยผิง
: "เหยิ่ยยยย ไม่ใช่จริงๆหรอกหรือเนี่ย"
เทียวโยว่
: "จะเป็นจริงที่ไหนกันเล้า"
อั่ง
: "น่าเหวยผิงนี่งี่เง่าจริงๆ"
หน่ากุยถามตระกูลซากุ้ย
: "มันยังไงกันแน่"
: "มันหมายความยังไงกัน ที่ปูมหลังหัวหน้า เป็นสมาชิกที่เก่าแก่ของตระกูลซากุ้ย"
หน้า 4
ผู้นำตระกูลซากุ้ยจึงเอ่ยขึ้นว่า
: "ก็เป็นอย่างที่ข้าได้กล่าวชัดไปนั่นแหละ"
: "ตระกูลก็คงอยู่มาตั้งแต่แรกเริ่มและหวนฉีก็เคยเป็นส่วนหนึ่งในนั้น""
หน่ากุยจึงยังถามไปว่า
: "แล้วมันตั้งแต่เมื่อใดกัน"
ผู้นำตระกูลซากุ้ยจึงตอบว่า
: "...ครั้นเมื่อเขา"
: "อายุได้ประมาณ 13 ปี หรืออะไรทำนองนั้น"
เลี่ยวหมิน
: "นั้นมันนานโขเลยนิ..."
หน่ากุย
: "นี่มันเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน"
: "ซึ่งไม่มีผู้นำคนไหนรู้เรื่อนนี้เลย"
ผู้นำตระกูลซากุ้ย
: "เราได้พูดถึงความลับเช่นนี้แล้ว"
: "หวังว่าเจ้าจักรักษาสัญญาที่ให้ไว้ล่ะ"
ซิ่นก็โพล่งขึ้นว่า
: "สัญญากับผีเอ็งดิ"
: "ไงข้าก็ไม่ยอมให้พวกแกไปยี่อันได้หรอก"
หน่ากุยก็ได้ทักถวงให้ซิ่นใจเย็น
หน้า 5
ผู้นำตระกูลซากุ้ยได้เล่าย้อนกลับไปตอนที่หวนฉีปรากฎตัวขึ้น
: "ข้ายังคงจดจำได้ชัดเจนใวันที่หวนฉีปรากฎตัวที่ตระกูลของเรา
*จริงๆ ดูจากสภาพ ตระกูลซากุ้ยคือชนเผ่าเลยก็ได้ครับ
: "ตรงถนนบนภูเขาข้างอาณาเขตของพวกเรา"
: "มันเป็นวันที่ฝนตกหนัก"
: "เราได้ยินว่ามีเด็กหนุ่มนอนตายอยู่ พวกเราจึงเข้าไปดู
ในภาพย้อนอดีตหวนฉีที่กำลังนอนรอความตายนั้นพยายามแพดเสียงร้องขอความช่วยเหลือ
ตระกูลซากุ้ยในอดีต
: "ยังไม่ตายว่ะ"
: "ยังมีชีวิตอยู่ว่ะ"
หน้า 6
ตระกูลซากุ้ยในอดีต
: "ส่ายยาง"
ชื่อนางตัวจีน 偲央 อ่านสะกดออกมาไม่ค่อยเพาะเท่าไหร่ ส่วนชื่อญี่ปุ่นอ่านเป็น ชิโอะ(ฮาระงานะ シオ)
ส่ายยางได้เข้าไปพยุงตัวหวนฉีขึ้นมา นางได้มองไปยังใบหน้าของหวนฉีพลางกล่าวขึ้นว่า
: "ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่งดงามอะไรเช่นนี้"
ผู้นำตระกูลซากุ้ย
: "พี่สาวของข้าช่วยชีวิตหวนฉีไว้และนำเขาเข้ามายังเผ่า"
หน่ากุยกล่าวในใจ
: "พี่สาวงั้นหรือ?"
หน้า 7
ผู้นำตระกูลซากุ้ย
: "ทว่าเขาผู้นั้น"
: "มิใช่คนปกติสามัญ"
: "ภายหลังการมาถึงของเขา เผ่าของเราก็เปลี่ยนไป"
: "ไม่สิ หวนฉีเปลี่ยนเราเสียมากกว่า"
: "มากโขเลยล่ะ"
ภาพปรากฎให้เห็นถึงสิ่งเลวร้ายต่ำตม อำมหิต ที่หวนฉีเปลี่ยนคนในเผ่าซากุ้ย
ผู้นำตระกูลซากุ้ย
: "ภาพลักษณ์ตระกูลซากุ้ยที่พวกเจ้าเห็น ณ เพลานี้"
: "ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นสิ่งที่หวนฉีสร้างขึ้น"
หน้า 8
ซิ่น
: "หวนฉีเปลี่ยนตระกูลซากุ้ย?"
: "เป็นรูปแบบที่เป็นอยู่มาถึงเดี๋ยวนี้?"
เตียว
: "ชะ เช่นนั้น"
: "ที่พวกเจ้าจะบอกว่าตระกูลซากุ้ยแต่เดิมไม่เคยทำอะไรชั่วช้าสามารเช่นนี้นะสิ?"
: "หวนฉี ทำแบบนั้นไปเพื่ออันใดกัน"
พวกซิ่นก็รอคำตอบ แต่ตระกูลซากุ้ยก็นิ่งเงียบ
หน่ากุยจึงเอ่ยขึ้นว่า
: "ประเดี๋ยวก่อนนะ..."
: "แล้วไฉนถึงมีตระกูลซากุ้ยและตระกูลหวนฉีได้ล่ะ?"
: "หัวหน้ามิได้กลายเป็นผู้นำตระกูลซากุ้ยดอกหรา?"
ผู้นำตระกูลซากุ้ย
: "...หลังจาก "เหตุการณ์นั้น" หวนฉีก็จากเผ่าซากุ้ยไป"
: "ภายหลังจากนั้น เขาก็ได้สร้างตระกูลของตนเองและขยายใหญ่ขึ้น"
*ตรงนี้ผมอธิบายเล็กๆน้อยๆจากความเข้าใจผิดนะครับ
ในตอนก่อนหน่ากุยบอกว่า หวนฉีสร้างตระกูลของตนขึ้นมาคือตระกูลหวนฉีนั่นแหละ แต่ผมเข้าใจผิดไปเยอะ
ตอนนี้ทำให้เราเข้าใจชัดเจนคือ ตระกูลซากุ้ยเดิมที่เปลี่ยนไปเพราะหวนฉี กับตระกูลของหวนฉีเอง
หน้า 9
ผู้นำตระกูลซากุ้ย
: "ผลนี้กล่าวได้อย่างเต็มปากว่า ซากุ้ยมิได้เป็นส่วนนึงในตระกูลของหวนฉีเลย"
: "เพราะเห็นแก่การก่อนกระมั้ง เราจึงยังอยู่ข้างๆเขา"
ซิ่นได้ยินเช่นนั้นจึงโต้ขึ้นทันทีว่า
: "...มิได้เป็นส่วนนึงกับเตี่ยเอ็งดิ พวกแกยังคงทำงั้นอยู่ดี"
: "ไอ้ที่ฟังเหมือนคำแก้ตัวว่าตระกูลของพวกแกเปลี่ยนไปเพราะมัน"
: "แต่พวกแกก็พูดได้นิว่าทั้งที่พวกแกมิได้ต้องการก็หามีไม่"
: "มันดูเหมือนกากเดนอย่างพวกแกลุ่มหลงระเริงไปกับของเรื่องต่ำทรามพรรค์นั้นจนเป็นสันดารสิไม่ว่า"
ซิ่นกล่าวเช่นนั้นขึ้นมาก็มีตระกูลซากุ้ยคนนึงแอบขำเบาๆ
ซิ่น
: "โว้ย! เมื่อกี้มีใครแอบขำขึ้นมาสินะ ห่ะ"
หน่ากุย
: "เกิดอะไรขึ้นกันล่ะ"
: "แล้ว "เหตุการณ์" ที่ว่านั่นมันยังไงกันแน่"
: "อันกลายเป็นเหตุว่าทำไมหัวหน้าจึงจากตระกูลซากุ้ยไป"
ตระกูลคนนึง
: "อี้ยาง"
นางชื่อ อี้ยาง 衣央 หากอ่านเป็นเสียงญี่ปุ่นจะเป็น อีโอะ イオ(ฮาระกานะ)
อี้หยาง
: "อือ ข้ารู้แล้ว"
หน้า 10
อี้หยาง
: "การสนทนาขอวพวกเราต้องจบเพียงเท่านี้แหละ"
: "เรื่องราวที่เหลือหลังจากนั้น"
: "ข้าจักเล่าให้พวกเจ้าฟังตอนอยู่ในเมืองยี่อัน"
ซิ่น
: "อย่างมาเหลวไหลน่า ข้าจักไม่มีทางพาพวกแกไปด้วยหรอก"
เตียว
: "ซิ่น"
เตียวจึงถามกับอี้หยางต่ออีกว่า
: "ชะ ช้าก่อน"
: "เจ้ากล่าวว่าหวนฉีปรากฎตัวตอนอายุ 13"
: "แล้ว เรื่องราวก่อนหน้านั้นเล่า?"
หน้า 11
อี้หยางจึงตอบกลับไปว่า
: "ผู้ที่รู้อดีตของเขานั้นไม่มีอยู่แล้วล่ะ"
: "ถามหวนฉีด้วยตัวเองเถอะ ในครั้งหน้าที่พวกเจ้าพบเขา"
ซิ่น
: "เชอะ"
: "พอพวกเราพบกับมันอีกงั้นหรา"
: "มันอาจเดี่ยงไปแล้วก็ได้ละเซ้"
เหวยผิง
: "ซิ่น"
แล้วซื่นก็หันไปโวยใส่หน่ากุย
: "เฮ้ย หน่ากุย"
: "ไหงแกไปตัดสินใจเองเออเองว่าจะพาพวกมันไปยี่อันฟ่ะ"
หน่ากุย
: "ขออภัย"
ขณะนั้นเตียวเหมือนนึกอะไรขึ้นสักอย่าง
: "ดะ เดี่ยวเด้ พวกเรายังมิได้ตัดสินใจเลยว่าจะบุกยี่อันหรือไม่ยังไง"
ซิ่น
: "อ้า จริงด้วย"
เตียว
: "งะ ไงก็เหอะ เราควรไปคุยกับเหมิงเถียนเถอะ"
อ้ายส่าน(คาดว่า)
: "...ช่าย"
หน้า 12
ณ กองบก.หลักหลี่มู่
ม้าใช้จ้าว 1
: "รายงานนน!!"
: "กองรบที่สามของหวงเต่า 黄斗 พบซากทัพหวนฉีร้อยนาย และทำการกำจัดพวกมันแล้วขอรับ"
ม้าใช้จ้าว 2
: "รายงานขอรับ"
: "จากฐานของเยี่ยนหลี 燕里 หกสิบคนขอรับ"
ม้าใช้จ้าว 3
: "แปดสิบคนจากเซาปู่ 曹布 ขอรับ"
: "พวกเขาบอกว่าจับเป็นพวกมันได้ครึ่งนึง"
เหยินหวน
: "เซาปู่หรา!?"
: "ทหารหวนฉีลงใต้ไปไกลถึงนั่นเทียว..."
แม่ทัพจ้าว
: "ฝีเท้าช่างไวจนน่าอัศจรรย์พรรค์ลึกยิ่งนัก พอพวกมันอยู่ในความมืดเนี่ย"
: "รายงานซากทัพหวนฉีเข้ามาจากทุกหนแห่ง"
: "ทว่ากลับไม่มีรายถึงการจับกุมเจ้าหวนฉี อันเป็นตัวการสำคัญได้เลย"
: "ไอ้ที่จับได้ ก็ดันไม่มีแม้แต่สักรายงานเดียวที่เห็นคนหน้าค้าตาเหมือนเจ้านั่น"
หน้า 13
แม่ทัพจ้าว
: "มันหนีไปยังทิศอาคเนย์(ออกเฉียงใต้)"
: "แต่หากมันเปลี่ยนเส้นทางไปยังประจิม อันเป็นเมือง"ฉีหลี่""
: "ซึ่งฉีหลี่เองก็กลายเป็นเมืองของพวกมันไปก่อนหน้านี้แล้ว"
: "มันไม่มีลู่ทางหรืออะไรเทือกนั้นระหว่างฉีหลีจนถึงที่นี่ เพราะพวกเราเองต้องการจะล่อพวกมันมายังนี่"
: "เราได้ส่งกำลังพลเข้าไปในอาณาบริเวณนั้นเพื่อสร้างช่องทางที่ทำจากมนุษย์ แต่ทิศทางนี้ยังคงเป็นเส้นทางที่ง่ายที่สุดต่อการหลบหนี"
: "บางที เราควรคำนวณว่าหวนฉีจะเข้าไปยังฉีหลี่ละก็ เป็นกรณ๊ที่เลวร้ายที่สุด"
: "เช่นนั้นก็ดีสิ"
: "หากมันเข้าไปยังฉีหลี่ มันก็ไม่มีทางออกมาจากที่นั่นได้"
เหยินหวน
: "...เป็นความผิดของข้าน้อยเอง"
: "ที่มิอาจตามตัวหวนฉีว่ามันอยู่ที่ไหนได้ ด้วยกับกำลังทัพมากมายที่ส่งไปนี้"
หลี่มู่
: "มันก็ช่วยมิได้ล่ะนะ"
: "แต่ซากทัพของมันก็ลดลงเรื่อยๆอย่างเห้นได้ชัด"
: "เราไม่จำเป็นต้องกังวลดอก"
ซุนซุ่ยจู้
: "ไม่ว่าพวกหนูโสโครกมันจะคลานเข้าไปในความมืดยังไง"
: "มันก็ไม่มีทางหนีพ้นจากวงล้อมของใต้เท้าหลี่มู่ไปได้หรอกขอรับ"
?
: "ทว่าเพลานี้เราควรเสริมการป้องกันแก่ฐานหลักของท่านหลี่มู่ให้เข้มงวดเถอะ"
: "เป็นไปได้ที่หวนฉีอาจแสร้งทำเป็นหนีแล้ววกกลับมาด้านในแทนก็เป็นได้"
หน้า 14
กองย่อยที่กระจัดกระจายกันไปของทัพหลักหวนฉี หนึ่งในนั้นได้ได้มาสุดยังแม่น้ำสายนึง
*แม่น้ำสายนี้ผมคาดว่ามีอยู่จริงแต่โบราณครับ แต่ไม่รู้ว่าเป็นแม่น้ำอะไร เพราะดูจากแผนใน Google map ยากมาก แถมแม่น้ำแถวนั้นก็มีอยู่หลายสาย เกิดขึ้นได้ตามแต่ละยุคสมัย
: "มารดามันเถอะ"
: "ที่นี่ไม่มีสะพานเลย"
เฮยหยิง
: "เฮ้ย หมอหลุน"
: "เราจะเอาไงกันต่อ"
: "อย่าบอกข้านะว่า"
ทันใดนั้น หวนฉีก็เดินลงไปในแม่น้ำ
: "หาา"
: "หะ หัวหน้า"
หวนฉี
: "ข้าปล่อยพวกม้าให้พวกเจ้าจัดการละกัน"
หน้า 15
ทหารหวนฉี
: "ประเสิฐนัก"
: "เอาไงเอากัน พวก"
พวกม้าต่างพากันตกใจเมื่อลงน้ำ
พวกทหารของหวนฉีก็พยายามห้ามไม่ให้พวกม้าหนี
หมอหลุน
: "เง็กเซียนช่วยด้วย"
: "เป็นการถอยทัพที่น่าเวทนาแท้เทียว"
: "แม้ว่าท่านจะได้ขึ้นเป็น หกขุน ท่านก็ยังคงวิ่งเจ้นโดยการลงแม่น้ำด้วยกับชุดเกราะที่ตนสวมอยู่"
*ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนก็ตามทหารจะเลี่ยงแม่น้ำมากที่สุดเพราะชุดเกราะมันหนักทำให้ถ่วงผู้สวมจนจมน้ำได้ ยิ่งโดยเฉพาะน้ำลึกยิ่งแล้วใหญ่
หวนฉี
: "หึ นานๆที จะได้ข้ามแม่น้ำในคืนที่มืดมิดล่ะนะ"
เฮยหยิง
: "อึค ลึกโคตร"
หลุนอี้ว์ก็กล่าวระลึกความหลัง
: "เมื่อก่อนพวกเราก็เคยข้ามมันนี่หว่า"
: "ตอนที่พวกเราถูกตามล่าโดยทัพฉินว่ะ"
หวนฉี
: "มานึกดูแล้ว ไอ้แม่น้ำเถียนกู่ แม่น้ำนั่นเป็นอะไรที่เลวร้ายสุดๆ"
เฮยหยิง
: "อ่อ ไอ้แม่น้ำที่เต็มไปด้วยปลิงตัวบักเอ้กนั่นนะเหรอเจ้าค่ะ"
หลุนอี้ว์
: "ก็ใช่นะเซ้ พอพวกเราขึ้นมานะ ตัวข้ามีแต่ปลิงเกาะเต็มไปหมดเลย"
หมอหลุน
: "แล้วของข้าดันมีตัวนึงอยู่ที่เจ้าน้องชายด้วยนะ" (555+)
เฮยหยิง
: "เดี๋ยวดิ เสียงดังกันเกินไปแล้ว"
หลุนอี้ว์
: "นึกย้อนกลับไป มันรู้สึกเหมือนกับว่าเราหลบหนีได้สมบูรณ์แบบพอข้ามแม่น้ำได้"
: "ทว่าตอนนี้มันช่างแตกต่างกันเชียว"
หมอหลุน
: "การปิดล้อมของหลี่มู่ช่างเหลือร้ายยิ่งนัก"
หน้า 16
หวนฉีเอ่ยขึ้นว่า
: "ไงซะ มันก็มิใช่เรื่องใหญ่เลย"
: "เพราะในท้ายสุด ข้าก็จักเป็นฝ่ายชนะ"
หมอหลุนและหลุนอี้ว์ตกใจที่ได้ยินคำตอบเช่นนั้นจากปากของหวนฉี
ทางเฮยหยิงก็จมไปเต็มน้ำจนเหลือแต่ศรีษะ หลุนอี้ว์ได้ช่วยนางไว้ได้ทันและเอ่ยว่า
: "โอ้ย เจ้าจะมาจมน้ำไม่ได้นะ นี่เฮยหยิง"
: "หัวหน้ายังไม่ยอมแพ้เลย เฮ้ย"
เฮยหยิงก็พึมพำพลางสำลักน้ำไปว่า
: "ข้าเกือบสังเวยตัวเองให้กับเทพแม่น้ำซะแล้ว"
หมอหลุนได้ถามหวนฉีถึงสิ่งที่เขาพูดไป
: "หัวหน้า"
: "เมื่อกี้ท่านกล่าวซื่อๆออกมาว่า"
: "ชนะ"
: "แม้ในสถานการณ์เยี่ยงนี้หรือขอรับ"
หวนฉีก็หัวเราะ ฮิ ออกมาเบาๆหนึ่งที
หมอหลุน
: "ม่ายย ฮิ นั่นไม่ใช่คำที่จะมาพูดออกมานะขอรับ"
หวนฉี
: "ฮิฮี่"
หมอหลุน
: "ฮิฮี่ นันก็ไม่ใช่เช่นกันสักหน่อยขอรับ"
หน้า 17
ช่วงเวลาตัดมาทางด้านของเมืองยี่อัน
ทหารจ้าวบนกำแพง
ทหารนาย 1
: "อะนี่ มื้อว่างยามดึก"
ทหารนาย 2
: "โอ้ ขอบใจ"
นายกอง
: "อีกไม่กี่ชั่วยามตะวันก็จะขึ้นแล้ว"
: "จนกว่าเราจะเปลี่ยนกะ ระวังตัวให้ดีกันล่ะ"
นายทหาร
: "ขอรับ"
: "ฮืออ?"
นายทหารดังกล่าวเริ่มสังเกตุเห็นอะไรบางอย่างเข้า
หน้า 18
ทหารจ้าวบนกำแพงเมือง
: "นั่นมันอะไรกัน?"
: "ไอ้เสียงนั่นนะ"
: "ฮือออ? เหมือนมีบางอย่าง...."
ปรากฎหอตีเมืองกำลังเคลื่อนมายังตัวเมืองยี่อัน พร้อมสลักอักษร ฮงฉวนอันเด่นเป็นสง่า
(ไม่รู้จะฮาหรือจะเอือมระอากับไอ้ชื่อเจ้าแดงก่ำนี่ดีวะ)
Spoil KINGDOM 729 แปลเป็นไทยจากอิ้งแบบงูๆปลาๆ
https://www.reddit.com/r/Kingdom/comments/wdpnoi/kingdom_729_kr_spoilers/
ส่วนท่านใดที่จะอ่านแปลไทยจาก 4chan (ไม่ฝัง) โดยผมเอง เชิญอ่านที่ช่อง สปอย ได้เลยครับ(แบบมีประกอบภาพเป็นหน้าๆสามารถชมได้ที่กลุ่ม Kingdom ไทย) หากใครที่จะนำไปฝังซับโดยใช้การแปลของผมรบกวนให้ credit ชื่อ Banzai_man ด้วยนะขอรับ
ปล.สัปดาห์หน้างด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้