สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ดิฉันเจอมาหนักกว่าที่คุณเจ้าของกระทู้เล่า
สิบกว่าปีที่แล้ว พ่อกับแม่ดิฉันเคยทำงานในรีสอร์ตชื่อดังของไทรโยค กาญจนบุรี พ่อไปมีเรื่องทะเลาะใหญ่โตกับผู้จัดการ ผู้จัดการตัดสินใจไล่พ่อกับแม่ดิฉันออกจากงาน จ่ายค่าแรงให้ตามที่ต้องการและให้เพิ่มอีกคนละ 6 เดือน
พ่อออกพร้อมเงินเกือบสองแสนมานอนคิดตัวเลขเพื่อแทงหวยใต้ดินอยู่ที่บ้านพัก ดิฉันเป็นคนโอนสตางค์ค่าบ้าน ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าประกันสังคม ค่าบัตรวันทูคอล 300 บาทขูดเติมมือถือ ค่ายา ค่ารถเข้าเมืองไปหาหมอโรงพยาบาลธนกาญจน์ให้
แม่เกิดไอเดีย อยากกู้เงินธนาคารออมสินสัก 30,000 บาท
ทางธนาคารแจ้งว่าต้องประกอบอาชีพ ต้องมีที่ตั้งทำเลค้าขายให้ถ่ายรูปมา
แม่ดิฉันโทรมาขอให้ส่งเงินไปเพิ่มจากทุกเดือนที่ให้ไป
เพื่อจะไปซื้แเตาปิ้งไส้กรอกวุ้นเส้น ปิ้งหมูปิ้งขาย ทำแล้วถ่ายรูปเอาไปแสดงหลอกๆให้ทางฝ่ายพิจารณาปล่อยกู้ของธนาคารออมสินดู
ดิฉันทำตามแม่สั่ง นั่งรถทัวร์เอาเงินสด 5,000 บาทไปให้แม่ที่คิวรถบ.ข.ส. ในตัวเมืองกาญจน์
แม่บอดที่เหลือชั้นจัดการเอง แกกลับกรุงเทพไปได้เลย
หลังจากนั้นแม่ก็ไปนั่งปิ้งหมูปิ้งขาย ขายจุดนักท่องเที่ยวแวะพักรายทางเพื่อซื้ออาหาร ซื้อน้ำ ซื้อของฝาก ตรงน้ำตกไทรโยค
แต่ทางธนาคารเขามาดูเป็นครั้งคราว เขาไม่เจอแม่ของดิฉัน เพราะแม่มาขายบ้างไม่ขายบ้าง ( วิ่งรอกหาเลขหวยใต้ดิน ไม่ว่างมาขาย ) ธนาคารเขาเลยไม่ให้เงินกู้ค่ะ
แม่ด่าธนาคารเสียหมาเลย
ด่าดิฉัน ด่าพ่อดิฉันว่านอนอย่างเดียวไม่ทำอะไร คิดแต่หวย
คือพ่อกินเหล้ามากจนระบบประสาทเสื่อม เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก
ก็นอนคิดหวยไปทุกวันทุกวันเผื่อแม่เอาไปแทงแล้วจะถูกบ้าง
ดิฉันกลับต้องกลายเป็นลูก ถ้าไม่หาเงินส่งไปเพิ่มให้แม่
เพราะแม่กู้เงินธนาคารไม่ผ่าน ลูกกลับผิด
พูดอะไรเตือนอะไรแม่ไม่เคยรับฟังค่ะ ด่าหยาบคายกลับมาตลอด
ดิฉันเจอแบบนี้ตั้งแค่เด็ก หาทางออกไม่ได้ ดิฉันจึงเชือดแขนตนเอง เขือดจนเละ ทำไปเพื่อลดความเสียใจเจ็บช้ำ ยังเป็นแผลเป็นบนแขนมากมาย
ทุกวันนี้ไปสักทับรอบแผลปกปิดไว้
ปกปิดความเจ็บปวดจากคำด่าทอรายวันของผู้เป็นแม่
พ่อแม่เราเรารักมากอยู่แล้ว
แค่ลึกๆข้างในพ่อแม่รักเราบ้างไหม
สิบกว่าปีที่แล้ว พ่อกับแม่ดิฉันเคยทำงานในรีสอร์ตชื่อดังของไทรโยค กาญจนบุรี พ่อไปมีเรื่องทะเลาะใหญ่โตกับผู้จัดการ ผู้จัดการตัดสินใจไล่พ่อกับแม่ดิฉันออกจากงาน จ่ายค่าแรงให้ตามที่ต้องการและให้เพิ่มอีกคนละ 6 เดือน
พ่อออกพร้อมเงินเกือบสองแสนมานอนคิดตัวเลขเพื่อแทงหวยใต้ดินอยู่ที่บ้านพัก ดิฉันเป็นคนโอนสตางค์ค่าบ้าน ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าประกันสังคม ค่าบัตรวันทูคอล 300 บาทขูดเติมมือถือ ค่ายา ค่ารถเข้าเมืองไปหาหมอโรงพยาบาลธนกาญจน์ให้
แม่เกิดไอเดีย อยากกู้เงินธนาคารออมสินสัก 30,000 บาท
ทางธนาคารแจ้งว่าต้องประกอบอาชีพ ต้องมีที่ตั้งทำเลค้าขายให้ถ่ายรูปมา
แม่ดิฉันโทรมาขอให้ส่งเงินไปเพิ่มจากทุกเดือนที่ให้ไป
เพื่อจะไปซื้แเตาปิ้งไส้กรอกวุ้นเส้น ปิ้งหมูปิ้งขาย ทำแล้วถ่ายรูปเอาไปแสดงหลอกๆให้ทางฝ่ายพิจารณาปล่อยกู้ของธนาคารออมสินดู
ดิฉันทำตามแม่สั่ง นั่งรถทัวร์เอาเงินสด 5,000 บาทไปให้แม่ที่คิวรถบ.ข.ส. ในตัวเมืองกาญจน์
แม่บอดที่เหลือชั้นจัดการเอง แกกลับกรุงเทพไปได้เลย
หลังจากนั้นแม่ก็ไปนั่งปิ้งหมูปิ้งขาย ขายจุดนักท่องเที่ยวแวะพักรายทางเพื่อซื้ออาหาร ซื้อน้ำ ซื้อของฝาก ตรงน้ำตกไทรโยค
แต่ทางธนาคารเขามาดูเป็นครั้งคราว เขาไม่เจอแม่ของดิฉัน เพราะแม่มาขายบ้างไม่ขายบ้าง ( วิ่งรอกหาเลขหวยใต้ดิน ไม่ว่างมาขาย ) ธนาคารเขาเลยไม่ให้เงินกู้ค่ะ
แม่ด่าธนาคารเสียหมาเลย
ด่าดิฉัน ด่าพ่อดิฉันว่านอนอย่างเดียวไม่ทำอะไร คิดแต่หวย
คือพ่อกินเหล้ามากจนระบบประสาทเสื่อม เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก
ก็นอนคิดหวยไปทุกวันทุกวันเผื่อแม่เอาไปแทงแล้วจะถูกบ้าง
ดิฉันกลับต้องกลายเป็นลูก ถ้าไม่หาเงินส่งไปเพิ่มให้แม่
เพราะแม่กู้เงินธนาคารไม่ผ่าน ลูกกลับผิด
พูดอะไรเตือนอะไรแม่ไม่เคยรับฟังค่ะ ด่าหยาบคายกลับมาตลอด
ดิฉันเจอแบบนี้ตั้งแค่เด็ก หาทางออกไม่ได้ ดิฉันจึงเชือดแขนตนเอง เขือดจนเละ ทำไปเพื่อลดความเสียใจเจ็บช้ำ ยังเป็นแผลเป็นบนแขนมากมาย
ทุกวันนี้ไปสักทับรอบแผลปกปิดไว้
ปกปิดความเจ็บปวดจากคำด่าทอรายวันของผู้เป็นแม่
พ่อแม่เราเรารักมากอยู่แล้ว
แค่ลึกๆข้างในพ่อแม่รักเราบ้างไหม
แสดงความคิดเห็น
เวลาเห็นข่าวลูกทิ้งพ่อแม่ให้อยู่ลำพังในบ้านคนเดียว ให้กลับไปดูนิสัยพ่อแม่ด้วยว่าสมควรให้ลูกทิ้งไหม
ลูกกลับมาทำงานเหนื่อยๆ ไม่มีแม้แต่จะถามอะไรสักคำ ในหัวมีแต่เรื่องเงิน
แล้วก็ไปพร่ำบ่นกับชาวบ้านรอบๆว่าลูกอกกตัญญู เลว ไม่รู้บุญคุณพ่อแม่ ให้เงินใช้ไม่พอ ฯลฯ
ผมว่าถ้าใครเจอเหตุการณ์แบบนี้เข้าทุกๆวัน มันก็คงทนไม่ไหว วันนึงก็คงจะหาทางหนีออกไปอยู่คนเดียว
ส่งเงินมาให้ แวะมาเยี่ยมเยียนบ้างสัปดาห์ละครั้ง หรือเดือนละครั้งก็พอ
เพราะอยู่ด้วยกันมีแต่ Toxic ซึมซับทัศนคติที่เป็นลบจากพ่อแม่ตัวเองตลอดเวลา