พาผู้สูงอายุ 89 ปี โดยสารเครื่องบิน…ประสบการณ์ความประทับใจกับความช่วยเหลือพิเศษจาก Thai Smile

ข้อมูลในกระทู้นี้ น่าจะเป็นประโยชน์กับลูกหลาน หรือบุคคลที่ต้องพาผู้สูงอายุโดยสารเครื่องบิน

ผมใคร่ขอขอบคุณพนักงานสายการบิน Thai Smile ทุกท่านที่ได้ให้ความช่วยเหลืออย่างดียิ่งในการเดินทางครั้งนี้
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล (PDPA) ผมใคร่ขออนุญาตในการแสดงภาพบุคคล และคำแนะนำของท่าน           
(เนื่องจากผมเบลอภาพ และดูดเสียงออกไม่เป็น) แต่ผมเชื่อว่า ไม่น่าจะมีสิ่งใดในกระทู้ และ VDO Clip ที่จะล่วง
ละเมิดทุกๆ ท่าน และขอให้ทุกท่านได้กรุณาเข้าใจและเชื่อมั่นว่า ข้อมูลในกระทู้นี้จะเป็นประโยชน์และช่วยเหลือ
ให้ผู้สูงอายุเดินทางโดยสารเครื่องบิน ได้สะดวก ปลอดภัยและประทับใจในการบริการจากสายการบินของท่านได้เป็นอย่างดี

เมื่อวันที่ 30 มิย. 65 คุณตา (อายุ 89 ปี) มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเดินทางจากจังหวัดพังงา ไป กรุงเทพ                                  
โดยปกติทุกครั้งที่ผ่านมา 4-5 ปี (กว่า 10 ครั้ง) จะต้องมีลูก หรือ ลูกเขย หรือ หลาน คนใดคนหนึ่งที่จะต้องขับรถจากพังงา
พาคุณตาขึ้นกรุงเทพ และในบางครั้งจะต้องขับรถจากกรุงเทพลงมารับที่พังงาเป็นการเฉพาะ แต่ในครั้งนี้ ไม่มีใครที่มีเวลาว่าง
เพียงพอในปฏิบัติตามวิธีเดิม อีกทั้งการเดินทางด้วยรถยนต์ก็อาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ 89 ปี ที่จะต้องนั่งรถเป็นเวลานาน 8 -10 ชั่วโมง จาก พังงา ไป กรุงเทพ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางโดยเครื่องบิน  

เนื่องจากพวกเราได้ทราบล่วงหน้าถึงกำหนดการของกิจกรรมที่คุณตาต้องเดินทางไปร่วมครั้งนี้ประมาณ 15 วันเท่านั้น 
(และจะต้องเผื่อเวลาให้คุณตาได้พักพื้นร่างกาย เพื่อเตรียมความพร้อมในการร่วมงานด้วย) จึงรีบทำการหาข้อมูลว่ามีสายการบินใด 
ที่ให้บริการช่วยเหลือพิเศษในกรณี "ผู้สูงอายุ" ก็พบว่า ทุกสายการบินสามารถให้การบริการช่วยเหลือพิเศษได้ โดยก่อนทำการจอง
ได้โทรไปสอบถามรายละเอียดเชิงลึกกับทุกสายการบิน ที่มีเส้นทางภูเก็ต (HKT) ไป กรุงเทพ แต่ผมพบว่า "มีรายละเอียดการให้
การบริการช่วยเหลือ" ที่แตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญ (ซึ่งไม่ขอกล่าวในที่นี้) สรุป เราเลือกใช้บริการ Thai Smile ของการบินไทย 
โดยทางสายการบินได้ระบุว่า ในกรณีที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ จะต้องโทรแจ้งล่วงหน้า 48 ชั่วโมง 

ในการเดินทางครั้งนี้ ภรรยาผมได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลคุณตาไปกรุงเทพ แต่ด้วยเกรงว่าอาจจะมีบางเรื่อง / บางกิจกรรม
ที่อาจจะติดขัด หรือ ไม่สะดวก หรือ อาจจะเกิดผิดพลาดขึ้นได้ ภรรยาผม ขอให้ผม (หลานเขย) ร่วมเดินทางไปด้วย                
เราจึงทำการจองตั๋ว 3 ที่นั่งผ่าน Traveloka (ซึ่งพบว่าราคาค่าตั๋วถูกกว่าจองตรง)

มาถึงวันเดินทาง (30 มิย. 65) คุณพ่อตา และคุณแม่ยายพาคุณตา (พ่อของแม่นั่นแหละ) เดินทางจากจังหวัด พังงา 
มายังสนามบินภูเก็ตแต่เช้า โดยมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ "กินมื้อเช้า" เพราะสำหรับคนแก่แล้ว เขาจะมีเวลากินแต่ละมื้อที่แน่นอน 
ถ้าเร็วไป หรือช้าไป ก็อาจจะทำให้ระบบร่างกายผิดปกติ ซึ่งพวกเราก็ต้องกะเกณท์กันให้ดี... สรุปว่า ไปจอดรถรอกันที่ปั๊ม ปตท.
หน้าสนามบินภูเก็ต ตั้งแต่ 7.00 น. พอ 8.00 น. ก็ให้คุณตากินมื้อเช้า (คุณแม่เตรียมอาหารอ่อนที่กินประจำมา) พอสัก 8.45 น. 
ผมก็ให้คุณแม่กับคุณตาขึ้นรถผมเพื่อ Move ไปสนามบิน ส่วนคุณพ่อจอดรถรอที่ปั๊ม ปตท. จะได้ไม่ต้องเสียค่าจอดรถ ..... 
ผมขับรถไปจอดหน้าอาคารผู้โดยสายขาออก (ในประเทศ) แล้ว Drop คุณภรรยา / คุณแม่ยาย / คุณตา แล้วขับไปจอดที่อาคาร
จอดรถซึ่งอยู่ห่างไปไกลพอสมควร

@ Thai Smile Check-in Counter (HKT)
พวกเรารีบ Check-in โดยให้คุณตา กับ คุณแม่ นั่งรอ (ไกลจาก Counter) พอยื่นบัตรประชาชน พนักงานที่ทราบล่วงหน้ามาแล้วว่า 
เราขอใช้บริการช่วยเหลือพิเศษ แต่พนักงานจะต้องขอพิจารณา (ประเมิน) ว่า สภาพร่างกายคุณตาเป็นอย่างไร เดินเหินติดขัดเพียงใด 
เราก็ค่อยๆ พาคุณตาเดินช้าๆ มาที่ Counter ได้แค่ครึ่งทาง พนักงานก็แจ้งวิทยุให้ พนักงานนำรถเข็น (Wheel Chair) มารับ 
ผมสรุปอาการทั่วไปให้พนักงานฟังว่า 1. หู - คุณตา ไม่ได้ยิน 1 ข้าง แต่ติดเครื่องช่วยฟัง 2. ขา - คุณตาพอเดินได้ แต่เดินขึ้น และ 
ลงบันไดไม่ได้ เพราะคุณตายกเท้าสูงไม่ได้ ซึ่งประเด็นที่พวกเรากังวลคือ เรารู้ว่า @ ภูเก็ต  เครื่อง Thai Smile จะมีทางเดิน (งวง) 
ต่อเชื่อมอาคารผู้โดยสารกับเครื่องบิน แต่ที่ Suvarnabhumi Airport จะมีงวงทางเดินเชื่อมต่อหรือไม่ ซึ่งพนักงานไม่สามารถยืนยัน
ได้ว่า จะมีทางเดินเชื่อม หรือ จะต้องลงบันไดเพื่อต่อรถ Shutter Bus แต่พนักงาน Counter Thai Smile ได้แจ้งว่า “ไม่ต้องกังวล” 
หากไม่เชื่อมทางเดินเพื่อใช้ Wheel Chair ทางสายการบินจะมีรถบริการพิเศษเคลื่อนย้ายคุณตาได้ ซึ่งผมกับภรรยาได้รับข้อมูลจาก
การสอบถามล่วงหน้าแล้วว่า จะเป็น Lift แบบที่ยก Platform ขึ้นมารับ ก็จินตนาการว่าจะเป็น Lift ตัวเล็กๆ สไลด์ขึ้นมารับ พอถึงรับพื้น
ก็จะมีพนักงานช่วยกันเข็น + ช่วยกันยก Wheel Chair ขึ้น Shutter Bus เท่านั้น


@ Scanning Gate
ตามขั้นตอน เมื่อผ่าน ตม. หน้าประตู เพื่อตรวจ Boarding Pass กับ บปช. พวกเราต้องผ่าน Scan กระเป๋าและร่างกาย แต่สำหรับ
ผู้สูงอายุที่นั่ง Wheel Chair พนักงานจะเข็นผ่านช่องทางรถเข็นโดย จนท. จะนำ Hand Scanner มาปาดไปปาดมาที่คุณตาที่นั่งรถเข็น 
เมื่อผ่านขั้นตอนนี้แล้ว พนักงานสายการบิน (พี่ผู้หญิง) ซึ่งอัธยาศัยดีมาก ได้แนะนำขั้นตอนอย่างละเอียด และได้เข็นไปที่นั่งรอ
แล้วขอตัวแยกไปทำงานตามปกติ โดยย้ำว่าเมื่อถึงเวลา Boarding 9.45 น. จะมาพาไปขึ้นเครื่อง

https://youtu.be/m_xB5UDLoOU

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ช่วงนั่งรอขึ้นเครื่อง คุณตาขอเข้าห้องน้ำ ผมก็เข็น Wheel Chair ไปห้องน้ำสำหรับ Wheel Chair  
(กิจกรรมที่ผู้หญิงอาจจะไม่สะดวกพาไป)

https://youtu.be/oV0mVGqAyxA
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
@ Boarding Gate
เมื่อถึงเวลา พี่ผู้หญิง (ผู้มีอัธยาศัยดีเลิศ) ท่านเดิม มาตรงเวลาที่แจ้งไว้กับพวกเราเป๊ะ เดินมาให้บริการ (ดูวิธีปฏิบัติในวีดีโอประกอบ)

https://youtu.be/gEZRDNbIY5M
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เธอเข็นยาวไป ตามงวงทางเดินเข้าไปถึงหน้าประตูเครื่อง คุณตาก็ค่อยๆ เดินเข้าไปนั่ง ซึ่งทางสายการบินได้จัดที่นั่ง Zone หน้าไว้ให้ 
โดยคำแนะนำคือ ให้ผู้สูงอายุนั่งที่นั่งด้านในสุด (ติดหน้าต่าง) เพื่อความปลอดภัย เพราะจะไม่โดนกระทบกระแทกหากมีการยกเก็บ / 
หยิบกระเป๋าจากผู้โดยสารคนอื่น

https://youtu.be/kDwx9WXxdWw
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

@Suvarnabhumi Airport
ปรากฏว่า เครื่อง Thai Smile เที่ยวบินนี้ ไม่ได้ต่อเชื่อมทางเดินกับอาคารผู้โดยสาร แอร์โฮสเตส ได้เข้ามาแจ้งว่า 
ขอให้พวกเรารอให้ผู้โดยสารทั้งหมดออกจากเครื่องให้แล้วเสร็จก่อน แล้วจะมีเจ้าหน้าที่เฉพาะอีกชุดหนึ่งมารับคณะเรา 
เมื่อถึงเวลา แอร์โฮสเตสได้เข้ามาเชิญให้พวกเราเดินไปทางด้านหน้าประตู ซึ่งประตูด้านขวาของเครื่องได้ถูกเปิดรอไว้แล้ว 
มีเจ้าหน้าที่ภาคพื้นพร้อม Wheel Chair มารอ พอคุณตานั่ง Wheel Chair มั่นคงแล้ว พนักงานก็เข็นถอยออกไปที่ Platform 
ที่มีรั้วรอบ และผมกับภรรยาได้เข้าไปในยืนในพื้นที่ระบุไว้แล้ว ปรากฏว่า พื้นที่ Platform ทั้งส่วนนั้นได้เคลื่อนที่ลงอย่างช้าๆ 
ลงไปเชื่อมต่อกับตู้ Container ขนาดเล็ก ที่ข้างในได้ถูกตกแต่งให้เป็นพื้นที่เฉพาะสำหรับการโดยสารของ Wheel Chair 
มี Air เย็นฉ่ำ ที่พื้นมีร่องสำหรับยึดล็อก Wheel Chair กับพื้นด้วย Cable ได้อย่างมั่นคง มีเก้าอี้พับเพื่อให้ผู้ติดตามนั่งอย่างปลอดภัย 
(เพราะระหว่างรถวิ่งจะโยกเยกพอสมควร)



https://youtube.com/shorts/ejnvHLdSfhA

(แทรกวีดีโอสำคัญ (54 sec.) นี้ไม่ได้ครับ.... น่าเสียดายมาก)
 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
https://youtu.be/w3R_eFF1uAo

หลังจากที่พนักงานตรวจเช็คอุปกรณ์ Platform / ปิดประตูด้านหน้า /ยึด Wheel Chair ในตำแหน่งมั่นคงแล้ว ก็เคลื่อนรถออกจาก
ตัวเครื่องบิน มุ่งสู่อาคารผู้โดยสารขาเข้าในประเทศ (Domestic) เมื่อถึงจุดจอด พนักงานขับรถเปิดประตูท้าย Container พนักงานเข็นรถ 
ก็เข็น Wheel Chair ถอยออกไปที่ Platform ด้านหลัง ซึ่งจะ Slide ลงช้าๆ สู่ระดับพื้นถนน (ดูภาพประกอบในวีดีโอ คลิป จะเห็นภาพรวม
ของรถบรรทุกคันนี้ จะเห็นว่าเป็นรถขนาดใหญ่พอสมควร) 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
https://youtu.be/ztDEh5hyKWg

เมื่อผู้โดยสารทุกคนลงจากรถ Carrier ด้วยความเรียบร้อย ปลอดภัยแล้ว พนักงานก็เข็น Wheel Chair
เข้าสู่อาคารผู้โดยสารขาเข้า แล้วไปที่ Lift ที่จะพาขึ้นสู่ชั้น 2 บริเวณรับกระเป๋าที่พวกเราคุ้นเคย... 
เมื่อทำธุระส่วนตัว (หรือรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว) พนักงานเข็นรถก็พาออกสู่บริเวณรอรับผู้โดยสารด้านนอก 
ประตู 3 ชั้น 2 ซึ่งคุณน้าผู้ชาย (ลูกเขยคุณตา) นำรถมาจอดรอรับแล้ว

https://youtu.be/OwpMbSPmsYA
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ภารกิจทุกอย่างบรรลุผลอย่างเรียบร้อย ปลอดภัย และเต็มเปี่ยมด้วยความประทับใจจากบริการช่วยเหลือของสายการบิน 
Thai Smile ซึ่งผมและภรรยาต้องขอกล่าวคำชื่นชม และขอบคุณในการช่วยเหลือในครั้งนี้มา ณ ที่นี้อีกครั้งหนึ่งด้วยครับ 
(การบริการช่วยเหลือพิเศษที่พวกเราได้รับในครั้งนี้ สายการบินไม่ได้เรียกเก็บค่าบริการเพิ่มเติมใดๆ ทั้งสิ้น แต่ผมได้มอบ
เงินสินน้ำใจเล็กน้อยเป็นค่าแรงให้กับน้องผู้ชายที่เข็น Wheel Chair ให้คุณตาที่สนามบินสุวรรณภูมิเท่านั้น)

ขอแสดงความขอบคุณอย่างยิ่ง
เชียรไชย – อุมากรณ์ ฉลองสิทธิวงศ์ และ คุณตานิตย์ คชรักษ์

หมายเหตุ : การเดินทางของคุณตา (อายุ 89 ปี) ในครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อไปหาหมอ แต่ด้วยเพราะคุณตาได้มีโอกาส (ครั้งหนึ่งในชีวิต) 
ที่มิอาจปฎิเสธได้ คุณตาถึงต้องบอกกับตัวเอง เพื่อที่รวบรวมทั้งความกล้า  (เพราะกลัวการขึ้นเครื่องบิน) และสังขารที่แทบจะเดิน
เหินไม่ได้แล้ว เพื่อที่จะขึ้นมากรุงเทพให้ได้ ส่วนผมและภรรยา เมื่อได้ส่งคุณตาถึงรถคุณน้าผู้ชายแล้ว ก็บินกลับภูเก็ตในไฟท์ต่อไป
หลังจากนั้นอีก 1 ชม. กลับภูเก็ตด้วยความชื่นใจ และภูมิใจในภารกิจสำคัญในครั้งนี้

คำแนะนำสำหรับผู้ที่จะพาผู้สูงอายุโดยสารเครื่องบิน
1. ก่อนทำการจองตั๋วโดยสารเครื่องบิน ให้ติดต่อสอบถามจากสายการบินถึงวิธีการนำผู้สูงอายุขึ้นเครื่อง และลงจากเครื่อง 
โดยให้ลงลายละเอียดว่า ถ้าในกรณีที่เครื่องบินไม่ได้ต่อเชื่อมกับอาคารผู้โดยสาร ทางสายการบินจะมีวิธีปฏิบัติอย่างไร 
2. ผู้ที่เดินทางพร้อมผู้สูงอายุ จะต้องพยายามทำให้ตนเองมีสัมภาระติดตัวน้อยที่สุด กล่าวคือ ไม่สมควรที่จะต้อง Hand Carry
กระเป๋าเดินทางหลายใบ สมควรที่จะโหลดกระเป๋าเดินทาง เพราะคุณจะต้องพร้อมที่เข็น ประคอง อุ้ม ผู้สูงอายุหากเกิดเหตุจำเป็น
(ในกรณีของคุณตา เรา Take Care กัน 2 คน โดยมีกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กมาก 1 ใบ ที่เหลือเป็นกระเป๋าสะพายติดตัวไม่ต้องหิ้วหรือ
ถือให้เกะกะ)
3. พยายามไปถึงสนามบินให้เร็วกว่าปกติ เพื่อ Check-in และ เผื่อเวลาที่ผู้สูงอายุของคุณจะต้องทำธุระส่วนตัว (เข้าห้องน้ำ)
ซึ่งจะต้องใช้เวลามากกว่าปกติ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่