26 กรกฎาคม 2565
23:37 น. ณ หอพักในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน การบันทึกประจำวันได้ขาดหายไปสองสามวัน เนื่องจากงานเยอะจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน พอมีเวลาว่างร่างกายมันสั่งหยุดทำงาน ฮ่าาาาา ตามันจะปิดตลอดเวลา แขนขาไม่อยากขยับเคลื่อนไหวใด ๆ เพราะกลางคืนก็ทำงาน กลางวันก็ทำงาน
พรุ่งนี้อาจารย์ประจำวิชาที่จะต้องไปเป็นล่ามให้ เขาไปราชการ เมื่อตอนเย็นเลยได้ช่วยแบ่งน้องอีกคนแปลเอกสารบางส่วนของรายวิชาที่น้องเขารับผิดชอบ จนกระทั่งแปลเสร็จก็สองทุ่ม คืนนี้ก็เลยได้มีเวลาเคลียร์งานของตัวเอง และมีความสุขอีกอย่างคือมีเวลาทำกับข้าวมื้อแรกในรอบหนึ่งเดือน ตะกี๊กินข้าวเสร็จก็สี่ทุ่ม เปิดดูตู้เย็นน้ำเหลือแค่ขวดเดียว คงไม่พอสำหรับคืนนี้ ก็เลยจำใจขับรถออกไปซื้อน้ำและสรุปว่าขากลับ ได้น้ำกลับมาสองแพ็คพร้อมด้วยขนมต่าง ๆ อีกถุงใหญ่มาตุน ฮ่าๆๆๆ โชคดีที่วันนี้ลิฟท์หอพักไม่เสีย (เสียวันเว้นวัน) ดิฉันก็หอบแบกน้ำสองแพ็กพร้อมขนมถุงใหญ่จากลานจอดรถมาถึงลิฟท์และทุลักทุเลกลับมาถึงห้อง >.< ซึ่งเป็นกิจวัตรปกติทุกๆสองสัปดาห์ที่ต้องเตรียมน้ำและเสบียง บางทีดิฉันก็อยากทราบความเห็นของหนุ่ม ๆ ว่า ถ้าหากเจอสาวกำลังแบกข้าวของพะรุงพะรัง ด้วยความมุ่งมั่น และเดินอย่างรวดเร็วเพราะมันหนัก หนุ่ม ๆ จะรู้สึกว่าพวกเราถึก และไม่กล้าเข้าใกล้หรือไม่ เพราะบางครั้งก็บังเอิญเงยหน้าขึ้นไปเจอกับหนุ่มที่กำลังยืนสูดอากาศตรงระเบียงหอพักหันมามองพอดี บางทีดิฉันก็ทำตัวไม่ถูก ^^ ก็เลยฝืนถือของทุกอย่างไปทั้งหมดทีเดียว เพื่อจะได้ไม่ต้องกลับมาที่รถอีกรอบ ยังไงก็ช่วยเข้ามาแสดงความเห็นกันหน่อยนะคะ
ณ ตอนนี้คือเวลาเที่ยงคืน คืนนี้มีงานเขียนโครงการเสนอต่อคณะ เป็นโครงการที่วางแผนไว้ว่าจะพานักศึกษาออกเรียนรู้นอกสถานที่ ซึ่งแปะไว้ตั้งแต่วันก่อน ยังไม่ได้เขียนเลย และต้องตรวจข้อสอบย่อยนักศึกษาที่สอบไว้คาบเมื่อวานกับวันนี้รวมสามห้อง ก็เกือบร้อยห้าสิบคน ถ้าหากพรุ่งนี้มีงานแปล งานของตัวเองเหล่านี้ก็คงต้องเลื่อนไปอีกแน่นอน แล้วพอมันรวมๆกันหลายงาน มันอาจจะทับเราตายได้
ดิฉันขอตัวไปเคลียร์งานก่อน เผื่อจะได้นอนเร็ว เช้าพรุ่งนี้มีกิจกรรมบายศรีของสาขา จะต้องไปดูความเรียบร้อยก่อนงานจะเริ่มค่ะ ..
ราตรีสวัสดิ์นะคะทุกคน
บันทึกประจำวันเพราะมันเหงา 7
23:37 น. ณ หอพักในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน การบันทึกประจำวันได้ขาดหายไปสองสามวัน เนื่องจากงานเยอะจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน พอมีเวลาว่างร่างกายมันสั่งหยุดทำงาน ฮ่าาาาา ตามันจะปิดตลอดเวลา แขนขาไม่อยากขยับเคลื่อนไหวใด ๆ เพราะกลางคืนก็ทำงาน กลางวันก็ทำงาน
พรุ่งนี้อาจารย์ประจำวิชาที่จะต้องไปเป็นล่ามให้ เขาไปราชการ เมื่อตอนเย็นเลยได้ช่วยแบ่งน้องอีกคนแปลเอกสารบางส่วนของรายวิชาที่น้องเขารับผิดชอบ จนกระทั่งแปลเสร็จก็สองทุ่ม คืนนี้ก็เลยได้มีเวลาเคลียร์งานของตัวเอง และมีความสุขอีกอย่างคือมีเวลาทำกับข้าวมื้อแรกในรอบหนึ่งเดือน ตะกี๊กินข้าวเสร็จก็สี่ทุ่ม เปิดดูตู้เย็นน้ำเหลือแค่ขวดเดียว คงไม่พอสำหรับคืนนี้ ก็เลยจำใจขับรถออกไปซื้อน้ำและสรุปว่าขากลับ ได้น้ำกลับมาสองแพ็คพร้อมด้วยขนมต่าง ๆ อีกถุงใหญ่มาตุน ฮ่าๆๆๆ โชคดีที่วันนี้ลิฟท์หอพักไม่เสีย (เสียวันเว้นวัน) ดิฉันก็หอบแบกน้ำสองแพ็กพร้อมขนมถุงใหญ่จากลานจอดรถมาถึงลิฟท์และทุลักทุเลกลับมาถึงห้อง >.< ซึ่งเป็นกิจวัตรปกติทุกๆสองสัปดาห์ที่ต้องเตรียมน้ำและเสบียง บางทีดิฉันก็อยากทราบความเห็นของหนุ่ม ๆ ว่า ถ้าหากเจอสาวกำลังแบกข้าวของพะรุงพะรัง ด้วยความมุ่งมั่น และเดินอย่างรวดเร็วเพราะมันหนัก หนุ่ม ๆ จะรู้สึกว่าพวกเราถึก และไม่กล้าเข้าใกล้หรือไม่ เพราะบางครั้งก็บังเอิญเงยหน้าขึ้นไปเจอกับหนุ่มที่กำลังยืนสูดอากาศตรงระเบียงหอพักหันมามองพอดี บางทีดิฉันก็ทำตัวไม่ถูก ^^ ก็เลยฝืนถือของทุกอย่างไปทั้งหมดทีเดียว เพื่อจะได้ไม่ต้องกลับมาที่รถอีกรอบ ยังไงก็ช่วยเข้ามาแสดงความเห็นกันหน่อยนะคะ
ณ ตอนนี้คือเวลาเที่ยงคืน คืนนี้มีงานเขียนโครงการเสนอต่อคณะ เป็นโครงการที่วางแผนไว้ว่าจะพานักศึกษาออกเรียนรู้นอกสถานที่ ซึ่งแปะไว้ตั้งแต่วันก่อน ยังไม่ได้เขียนเลย และต้องตรวจข้อสอบย่อยนักศึกษาที่สอบไว้คาบเมื่อวานกับวันนี้รวมสามห้อง ก็เกือบร้อยห้าสิบคน ถ้าหากพรุ่งนี้มีงานแปล งานของตัวเองเหล่านี้ก็คงต้องเลื่อนไปอีกแน่นอน แล้วพอมันรวมๆกันหลายงาน มันอาจจะทับเราตายได้
ดิฉันขอตัวไปเคลียร์งานก่อน เผื่อจะได้นอนเร็ว เช้าพรุ่งนี้มีกิจกรรมบายศรีของสาขา จะต้องไปดูความเรียบร้อยก่อนงานจะเริ่มค่ะ ..
ราตรีสวัสดิ์นะคะทุกคน