คนเราเวลามีวันหยุดติดต่อกัน 2 วัน 3 วันก็อยากจะไปเที่ยวพักผ่อนบ้าง วันหยุดล่าสุดที่ผ่านมา เราไปเที่ยวกับแฟน และได้เช่ารีสอร์ทแห่งหนึ่งอยู่ริมแม่น้ำนิยม ตอนที่จองเราเลือกที่พักอยู่นานมาก ที่ที่เราเคยไปพักมันดันเต็มเราเลยจำเป็นต้องเลือกที่ที่เราไม่เคยพักที่รีสอร์ทนี้แต่ภาพรวมดูดีภายนอกน่าจะเป็นที่ถ่ายรูปได้ดีเลยแหละ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้หมดอารมณ์ไปเลย ภายในห้องถึงจะคับแคบไปหน่อยไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใดๆนอกจากเตียงกับชั้นวางทีวี แต่มีหน้าต่างกระจกรอบห้องเลย มองลงมาจากชั้น 3 บรรยากาศค่อนข้างดีเลย เราผู้มาถึงห้องพักในเวลา 21:00 น เก็บข้าวเก็บของเรียบร้อยแล้วกำลังถอดเสื้อถอดผ้าจะอาบน้ำแต่เจ้ากรรมน้ำดันไม่ไหล โทรไปแจ้งรีเซฟชั่นบอกให้รอสักครู่ผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมงน้ำก็ยังไม่ไหลฉันโทรไปรีเซฟชั่นอีกรอบ ก็บอกให้รออีกสักครู่จนฉันหงุดหงิดมาก กำลังจะลงไปนั่งเฝ้าให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ก็มีพนักงานเดินขึ้นมาเราก็เลยแจ้งว่างั้นขอย้ายห้องได้ไหมขอย้ายไปห้องที่มีน้ำไหลได้ไหม เขาบอกได้ค่ะโอเคเดี๋ยวให้ไปพักบังกะโลนอนสบายๆ 3 วันไปเลยค่ะ
ฉันก็เลยถามย้ำไปอีกรอบ "ไม่ได้เก็บเงินเพิ่มใช่ไหมคะ" เพราะราคาห้องพักกับบังกะโลจะต่างกัน พนักงานยืนยันว่าไม่เก็บเพิ่ม เราก็เข้ามานอนที่บังกะโลอาบน้ำสบายใจนอนพักตื่นเช้ามาสั่งข้าวมากินพอบ่ายโมงจะออกไปข้างนอก เราเลยแจ้งพนักงานรีเซฟชั่นว่าเมื่อคืนไม่ได้ให้กุญแจห้องเราไว้นะ ซึ่งพนักงานคนนี้เป็นคนละคนกันกับคนเมื่อคืน เขาถามเราว่า"จะพักห้องนี้ต่อไหมคะถ้าพักต่อต้องจ่ายเพิ่มนะคะ" เราก็ถามว่า"แต่เมื่อคืนเขาบอกว่าไม่ต้องจ่ายเพิ่ม" พนักงานก็บอกต่อว่า"ราคาห้องมันต่างกันค่ะ" สรุปก็ขนกระเป๋าตัวเองพะรุงพะรังย้ายกลับไปห้องที่จองไว้(เหนื่อยเด้สู) แต่ลดลงมาเป็นชั้น 2 เพราะรู้สึกเข็ดกับเมื่อห้องเมื่อคืน
แต่พอย้ายมาอยู่ห้องชั้น 2 กลิ่นห้องน้ำเหม็นมากเหมือนส้วมแตก เรากับแฟนหากลิ่นนั้นกันตั้งนานสรุปว่ากลิ่นมันมาจากท่อเหม็นมาก เราเลยหาถุงพลาสติกไปอุดรูท่อไว้ กลิ่นค่อยเบาลงหน่อย และที่สำคัญชักโครกกดไม่ค่อยลง ช่วงค่ำพนักงานมาเคาะห้อง บอกว่าขอเก็บค่ามัดจำกุญแจห้อง เพราะเมื่อเช้า มีแขกcheck out ออกแล้วไม่คืนกุญแจและเก็บรีโมทแอร์ไปด้วย เราก็งงมาก แล้วทำไมไม่เช็คห้องก่อนแขกออกล้าาา...เก็บไป500 สรุปก็นอนดมกลิ่นส้วมห้องนี้1คืน
ตื่นเช้ามา น้ำไม่ไหลอีกแล้วจ้า ในขณะที่แฟนเรานั่งอึอยู่ในห้องน้ำ (ก็อึจังเลย ห้องน้ำยิ่งกดไม่ลงอยู่) เราเลยลงไปตามพนักงาน เขาแก้ปัญหาโดยการให้น้ำขวดเรามา 1 แพ็ค เพื่อไว้ล้างก้น เราก็โอเค แต่พอกลับมาห้องชักโครกก็กดไม่ลงอีกเหมือนเดิม ทรมานมากอยากเข้าห้องน้ำก็ไม่กล้าเข้า บังคับให้แฟนลงไปแจ้งพนักงาน (ก็เป็นคนอึไว้ ) แฟนกลับขึ้นมาพร้อมที่ปั้มส้วม1อัน เอิ่มมมมม นี่โรงแรมนะไม่ใช่หอพัก แต่เราก็ทำจ่ะ55 แต่ยังไงๆมันก็ปั๊มไม่ลง เลยลงไปขอเข้าห้องน้ำรีเซฟชั่น ถือโอกาสนั้นแจ้งรีเซฟชั่น ขอย้ายห้อง(กุเหนื่อยเหลือเกิน) เขาก็ตกลงให้ย้าย แล้วบอกว่า"ต้องขอโทษด้วยนะคะพอดีแม่บ้านแจ้งไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าชักโครกเสียไม่เป็นไรเดี๋ยวย้ายห้องให้ใหม่ค่ะ"เราก็แบบว่าเออถ้ารู้ว่าชักโครกเสียแล้วจะเปิดให้กูเข้าพักทำไม!!!
สรุปก็ได้ย้ายไปห้องที่อยู่ท้ายสุดบรรยากาศอึมครึมมีวิวเป็นป่ารกร้างด้านหลัง แอร์ดังขั้นสุด และที่สำคัญมีรอยแตกร้าวจากเสาซีกหนึ่งไปยังผนังอีกฝั่งนึงรวมถึงพื้นกระเบื้องและปูนแตกร้าวแบ่งสัดส่วนชัดเจน เห็นแสงรอดผ่านรอยแยกมาเลย ฉันก็นอนด้วยความระแวงว่าตึกมันจะถล่มตอนที่ฉันหลับไหม หรือว่าต้องระแวงป่าด้านหลังดีนะ ด้วยความกลัวก็นอนไม่หลับเลยจ้ะ คิดว่านอนๆไปเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็กลับบ้านแล้ว หลับไปโดนผีอำอีก โอ้ยยยย ชีวิต... ตอนนั้นคืออยากกลับบ้านมากๆเลย ไม่คิดเลยว่าการมาเที่ยวครั้งนี้มันจะรู้สึกแย่กับที่พักขนาดนี้ คงไม่ไปพักที่นี่อีกแล้วจ้าเข็ดไปเลย สรุปพัก3คืน ย้ายห้อง 4 ครั้ง ต้องมานั่งหงุดหงิดทะเลาะกับแฟนอีก......กะจะไปสวีทสักหน่อย
ประสบการณ์ที่พักแย่ๆ
ฉันก็เลยถามย้ำไปอีกรอบ "ไม่ได้เก็บเงินเพิ่มใช่ไหมคะ" เพราะราคาห้องพักกับบังกะโลจะต่างกัน พนักงานยืนยันว่าไม่เก็บเพิ่ม เราก็เข้ามานอนที่บังกะโลอาบน้ำสบายใจนอนพักตื่นเช้ามาสั่งข้าวมากินพอบ่ายโมงจะออกไปข้างนอก เราเลยแจ้งพนักงานรีเซฟชั่นว่าเมื่อคืนไม่ได้ให้กุญแจห้องเราไว้นะ ซึ่งพนักงานคนนี้เป็นคนละคนกันกับคนเมื่อคืน เขาถามเราว่า"จะพักห้องนี้ต่อไหมคะถ้าพักต่อต้องจ่ายเพิ่มนะคะ" เราก็ถามว่า"แต่เมื่อคืนเขาบอกว่าไม่ต้องจ่ายเพิ่ม" พนักงานก็บอกต่อว่า"ราคาห้องมันต่างกันค่ะ" สรุปก็ขนกระเป๋าตัวเองพะรุงพะรังย้ายกลับไปห้องที่จองไว้(เหนื่อยเด้สู) แต่ลดลงมาเป็นชั้น 2 เพราะรู้สึกเข็ดกับเมื่อห้องเมื่อคืน
แต่พอย้ายมาอยู่ห้องชั้น 2 กลิ่นห้องน้ำเหม็นมากเหมือนส้วมแตก เรากับแฟนหากลิ่นนั้นกันตั้งนานสรุปว่ากลิ่นมันมาจากท่อเหม็นมาก เราเลยหาถุงพลาสติกไปอุดรูท่อไว้ กลิ่นค่อยเบาลงหน่อย และที่สำคัญชักโครกกดไม่ค่อยลง ช่วงค่ำพนักงานมาเคาะห้อง บอกว่าขอเก็บค่ามัดจำกุญแจห้อง เพราะเมื่อเช้า มีแขกcheck out ออกแล้วไม่คืนกุญแจและเก็บรีโมทแอร์ไปด้วย เราก็งงมาก แล้วทำไมไม่เช็คห้องก่อนแขกออกล้าาา...เก็บไป500 สรุปก็นอนดมกลิ่นส้วมห้องนี้1คืน
ตื่นเช้ามา น้ำไม่ไหลอีกแล้วจ้า ในขณะที่แฟนเรานั่งอึอยู่ในห้องน้ำ (ก็อึจังเลย ห้องน้ำยิ่งกดไม่ลงอยู่) เราเลยลงไปตามพนักงาน เขาแก้ปัญหาโดยการให้น้ำขวดเรามา 1 แพ็ค เพื่อไว้ล้างก้น เราก็โอเค แต่พอกลับมาห้องชักโครกก็กดไม่ลงอีกเหมือนเดิม ทรมานมากอยากเข้าห้องน้ำก็ไม่กล้าเข้า บังคับให้แฟนลงไปแจ้งพนักงาน (ก็เป็นคนอึไว้ ) แฟนกลับขึ้นมาพร้อมที่ปั้มส้วม1อัน เอิ่มมมมม นี่โรงแรมนะไม่ใช่หอพัก แต่เราก็ทำจ่ะ55 แต่ยังไงๆมันก็ปั๊มไม่ลง เลยลงไปขอเข้าห้องน้ำรีเซฟชั่น ถือโอกาสนั้นแจ้งรีเซฟชั่น ขอย้ายห้อง(กุเหนื่อยเหลือเกิน) เขาก็ตกลงให้ย้าย แล้วบอกว่า"ต้องขอโทษด้วยนะคะพอดีแม่บ้านแจ้งไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าชักโครกเสียไม่เป็นไรเดี๋ยวย้ายห้องให้ใหม่ค่ะ"เราก็แบบว่าเออถ้ารู้ว่าชักโครกเสียแล้วจะเปิดให้กูเข้าพักทำไม!!!
สรุปก็ได้ย้ายไปห้องที่อยู่ท้ายสุดบรรยากาศอึมครึมมีวิวเป็นป่ารกร้างด้านหลัง แอร์ดังขั้นสุด และที่สำคัญมีรอยแตกร้าวจากเสาซีกหนึ่งไปยังผนังอีกฝั่งนึงรวมถึงพื้นกระเบื้องและปูนแตกร้าวแบ่งสัดส่วนชัดเจน เห็นแสงรอดผ่านรอยแยกมาเลย ฉันก็นอนด้วยความระแวงว่าตึกมันจะถล่มตอนที่ฉันหลับไหม หรือว่าต้องระแวงป่าด้านหลังดีนะ ด้วยความกลัวก็นอนไม่หลับเลยจ้ะ คิดว่านอนๆไปเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็กลับบ้านแล้ว หลับไปโดนผีอำอีก โอ้ยยยย ชีวิต... ตอนนั้นคืออยากกลับบ้านมากๆเลย ไม่คิดเลยว่าการมาเที่ยวครั้งนี้มันจะรู้สึกแย่กับที่พักขนาดนี้ คงไม่ไปพักที่นี่อีกแล้วจ้าเข็ดไปเลย สรุปพัก3คืน ย้ายห้อง 4 ครั้ง ต้องมานั่งหงุดหงิดทะเลาะกับแฟนอีก......กะจะไปสวีทสักหน่อย