กระทู้นี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะเหมารวมถึงผู้ให้บริการคิวรถตู้ แต่เป็นสิ่งที่เจ้าของกระทู้เจอมาบ่อยมากๆ และทำให้เจ้าของกระทู้ตั้งข้อสงสัยขึ้นมาหลายครั้งว่า ทำไมคิวรถตู้หลายๆ ที่ที่พบเจอมามักจะมีพฤติกรรมดังนี้
1. ที่คิวรถตู้ คนเก็บเงิน คนรับสายโทรศัพท์ประจำคิวรถตู้ มักไม่มีความสามารถในการสื่อสารกับลูกค้าหรือผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการ กล่าวคือ ไม่ชอบลูกค้าพูดยาว ไม่ชอบที่จะคุยกับลูกค้าในกรณีที่ลูกค้ามีเงื่อนไข หรือมีปัญหาที่อยากจะปรึกษาในเรื่องของการเดินทาง เพราะเมื่อพูดทีไร เขาก็จะตอบกลับมาด้วย "ความขี้เกียจ" เช่น ผมไม่รู้ หนูตอบไม่ถูก หรือมีหนักกว่านั้นก็คือ "อืม" ไม่ก็ "ตัดสาย" ไปดื้อๆ เลยครับ
หรือบางทีเขาคงชอบที่พูดแค่คำว่าเก็บตังค์จากลูกค้าก็อาจจะมากพอสำหรับเขาแล้วหรือเปล่า?
2. คนประจำคิวมักมีนิสัยขี้เกียจ ตามข้อ 1 เลยครับ ไม่ค่อยใส่ใจลูกค้าของตัวเองมากพอ ทั้งที่ลูกค้าทุกคนเขาก็อยากจะใช้บริการ และได้รับการบริการที่ดีทั้งจากคนเก็บเงิน คนประจำคิว รวมไปถึงคนขับรถ นึกแต่เรื่องตังค์มากเกินไปหรือเปล่า? บางทีก็หยิ่งใส่ด้วย เหมือนไปรบกวนเขาซะงั้น ทั้งที่มันคืองานบริการ
ผมเลยอยากรู้ว่าท่านอื่นเคยมีประสบการณ์แบบนี้กับผมหรือเปล่า เจอจนชินจนมองข้ามไปแล้วหรือเปล่า? เพราะผมคนนึงที่ไม่มองข้ามเรื่องนี้ งานบริการคืองานที่ต้องทำด้วยใจ และต้องซื้อใจลูกค้า ไม่ใช่งานที่คนสันหลังยาวทำๆ เพื่อหายใจสูดดมกลิ่นเงินไปวันๆ ทั้งที่คุณภาพการให้บริการในฐานะการขนส่วสาธารณะที่ทุกคนเข้าถึงได้ มันควรจะดีกว่านี้
(ปล. นี่ยังไม่นับรถตู้เข็มขัดทิพย์อีกนะ คือมีเข็มขัดที่ใช้งานไม่ได้ มาตรฐานความปลอดภัยเป็นศูนย์ ความเสี่ยงตายแล้วแต่บุญทำกรรมแต่งของผู้โดยสารแต่ละคนอีกนะ แต่บ่นไปในนี้ก็คงไม่ได้ประโยชน์อะไร เพราะนี่คือประเทศไทย บ่นไปสุดท้ายสวัสดิการบางอย่างที่รัฐบาลควรสนับสนุนหรือใส่ใจ กำชับ มันก็คงไม่เกิดจริงๆ ครับ)
ท่านอื่นคิดเห็นอย่างไรบ้าง ลองมาแชร์กันครับ กระทู้นี้อาจจะแรงในสายตาหลายๆ คน แต่มันก็ไม่แรงเกินกว่าที่การบริการรถตู้บางแห่งบางสายเขาประพฤติต่อลูกค้าและผู้โดยสารแน่นอนครับ คุณจะเครียดหรือมีเรื่องแย่ในชีวิตมากแค่ไหน แต่เมื่อคุณทำงานบริการ คุณต้องมีสมองในการกลั่นกรองและแยกแยะการใช้อารมณ์ให้เหมาะสมกว่านี้ครับ
ทำไมคิวรถตู้หลายที่ถึงบริการไม่ดี พูดจาไม่ค่อยเข้าหู
1. ที่คิวรถตู้ คนเก็บเงิน คนรับสายโทรศัพท์ประจำคิวรถตู้ มักไม่มีความสามารถในการสื่อสารกับลูกค้าหรือผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการ กล่าวคือ ไม่ชอบลูกค้าพูดยาว ไม่ชอบที่จะคุยกับลูกค้าในกรณีที่ลูกค้ามีเงื่อนไข หรือมีปัญหาที่อยากจะปรึกษาในเรื่องของการเดินทาง เพราะเมื่อพูดทีไร เขาก็จะตอบกลับมาด้วย "ความขี้เกียจ" เช่น ผมไม่รู้ หนูตอบไม่ถูก หรือมีหนักกว่านั้นก็คือ "อืม" ไม่ก็ "ตัดสาย" ไปดื้อๆ เลยครับ
หรือบางทีเขาคงชอบที่พูดแค่คำว่าเก็บตังค์จากลูกค้าก็อาจจะมากพอสำหรับเขาแล้วหรือเปล่า?
2. คนประจำคิวมักมีนิสัยขี้เกียจ ตามข้อ 1 เลยครับ ไม่ค่อยใส่ใจลูกค้าของตัวเองมากพอ ทั้งที่ลูกค้าทุกคนเขาก็อยากจะใช้บริการ และได้รับการบริการที่ดีทั้งจากคนเก็บเงิน คนประจำคิว รวมไปถึงคนขับรถ นึกแต่เรื่องตังค์มากเกินไปหรือเปล่า? บางทีก็หยิ่งใส่ด้วย เหมือนไปรบกวนเขาซะงั้น ทั้งที่มันคืองานบริการ
ผมเลยอยากรู้ว่าท่านอื่นเคยมีประสบการณ์แบบนี้กับผมหรือเปล่า เจอจนชินจนมองข้ามไปแล้วหรือเปล่า? เพราะผมคนนึงที่ไม่มองข้ามเรื่องนี้ งานบริการคืองานที่ต้องทำด้วยใจ และต้องซื้อใจลูกค้า ไม่ใช่งานที่คนสันหลังยาวทำๆ เพื่อหายใจสูดดมกลิ่นเงินไปวันๆ ทั้งที่คุณภาพการให้บริการในฐานะการขนส่วสาธารณะที่ทุกคนเข้าถึงได้ มันควรจะดีกว่านี้
(ปล. นี่ยังไม่นับรถตู้เข็มขัดทิพย์อีกนะ คือมีเข็มขัดที่ใช้งานไม่ได้ มาตรฐานความปลอดภัยเป็นศูนย์ ความเสี่ยงตายแล้วแต่บุญทำกรรมแต่งของผู้โดยสารแต่ละคนอีกนะ แต่บ่นไปในนี้ก็คงไม่ได้ประโยชน์อะไร เพราะนี่คือประเทศไทย บ่นไปสุดท้ายสวัสดิการบางอย่างที่รัฐบาลควรสนับสนุนหรือใส่ใจ กำชับ มันก็คงไม่เกิดจริงๆ ครับ)
ท่านอื่นคิดเห็นอย่างไรบ้าง ลองมาแชร์กันครับ กระทู้นี้อาจจะแรงในสายตาหลายๆ คน แต่มันก็ไม่แรงเกินกว่าที่การบริการรถตู้บางแห่งบางสายเขาประพฤติต่อลูกค้าและผู้โดยสารแน่นอนครับ คุณจะเครียดหรือมีเรื่องแย่ในชีวิตมากแค่ไหน แต่เมื่อคุณทำงานบริการ คุณต้องมีสมองในการกลั่นกรองและแยกแยะการใช้อารมณ์ให้เหมาะสมกว่านี้ครับ