คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
คุณแบ่งเวลาไม่เป็น ทำให้ชีวิตไม่สมดุลค่ะ
ที่เคยทำงานวันละ 10+ กว่าชั่วโมงขึ้นไปนี่ก็ไม่ใช่จะดีนะ มันมากเกินไป
แล้วพอคิดจะพัก ก็คิดถึงถึงคิดแคท... (555 ไม่ใช่!!!) ก็เล่นเกมแบบมากเกินอีก ทำให้ชีวิตไม่มีความพอดีเลย
ซึ่งเมื่อก่อนเราก็เคยเป็นแบบนั้น คิดว่าตอนทำงานก็ลุยให้เต็มที่ ยิงยาว ไม่กินไม่นอน อยากให้มันเสร็จเร็วๆ
ระหว่างที่มีโปรเจ็กงานเราก็จะไม่แตะเกม ไม่ดูซีรีส์ เก็บตัวปั่นงานแบบไม่แตะต้องความบันเทิงใดๆ เลย
ผลกลับกลายเป็นเราทำงานได้ช้ามาก เพราะสมองกับร่างกายมันล้า มันมีขีดจำกัดของมัน
แล้วพองานเสร็จ กลับมาเล่นเกมดูซีรีส์ ก็ติดหนักมากอีก ไม่อยากกลับทำงานเลย
ตอนหลังเราเลยมาสังเกตตัวเอง ว่าเวลาที่สมาธิดีๆ จะจดจ่อกับงานได้นานเท่าไหร่ ได้เนื้องานแค่ไหน
แล้วเอางานมาซอยแบ่งเป็นส่วนๆ วางแผนเลยว่า งานนี้มีเวลากี่วัน วันนึงต้องได้เนื้องานเท่าไหร่ แล้วใช้เวลาวันละกี่ชั่วโมง
มีเผื่อวันพักให้ตัวเองด้วยนะ กับเผื่อวันที่ทำไม่ได้ตามเป้าหมายแล้วงานดีเลย์ด้วย จากนั้นก็ทำตามเป้าหมายเล็กๆ ไปทีละวัน
เราพบว่า พอแบ่งงานเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วทำไปทีละวัน เรามีสมาธิกับงานดีขึ้นมาก ใช้เวลาน้อยลงเยอะ
จากที่กำหนดไว้ว่าจะทำ 8 ชั่วโมง กลายเป็น 3-4 ชั่วโมงก็เสร็จ แล้วพอเป้าหมายของวันนั้นเสร็จเราจะพักเลย
(เคยอยากจะทำแถม สมองก็ไม่เอาแล้ว ตั้งไว้แค่ไหนต้องแค่นั้นจริงๆ ถ้าฝืนแล้วรวนยาวเลย)
พองานของวันนั้นเสร็จเราจะเล่นเกม ดูซีรีส์ เล่นกีฬา ทำอะไรก็ได้ที่เป็นการผ่อนคลาย แล้ววันรุ่งขึ้นเอาใหม่ ทำแบบนี้วนไป
ผลคือเราใช้เวลาในการทำงานน้อยลงมาก งานเสร็จตามแผน แล้วก็ได้พักผ่อนบันเทิงเริ่งใจไปด้วยทุกวัน
ลองปรับเวลาของตัวเองดูนะคะ ช่วงแรกๆ มันต้องฝืนใจหน่อย ต้องบังคับตัวเองพอสมควร
หรือถ้าคิดว่าไม่อยากลองวิธีนี้ คุณก็ทำให้การเล่นเกมกลายเป็นงานไปเลยก็ได้ ลองหาเงินจากมันให้ได้ดู
จะได้เล่นไปเลยทั้งวัน แต่คนสตรีมเกมก็มีเยอะแยะมากมาย และไม่ใช่จะประสบความสำเร็จกันทุกคน
สุดท้ายแล้วมันก็หนีไม่พ้นการบริหารจัดการชีวิตตัวเองให้ดีหรอกค่ะ
ที่เคยทำงานวันละ 10+ กว่าชั่วโมงขึ้นไปนี่ก็ไม่ใช่จะดีนะ มันมากเกินไป
แล้วพอคิดจะพัก ก็คิดถึงถึงคิดแคท... (555 ไม่ใช่!!!) ก็เล่นเกมแบบมากเกินอีก ทำให้ชีวิตไม่มีความพอดีเลย
ซึ่งเมื่อก่อนเราก็เคยเป็นแบบนั้น คิดว่าตอนทำงานก็ลุยให้เต็มที่ ยิงยาว ไม่กินไม่นอน อยากให้มันเสร็จเร็วๆ
ระหว่างที่มีโปรเจ็กงานเราก็จะไม่แตะเกม ไม่ดูซีรีส์ เก็บตัวปั่นงานแบบไม่แตะต้องความบันเทิงใดๆ เลย
ผลกลับกลายเป็นเราทำงานได้ช้ามาก เพราะสมองกับร่างกายมันล้า มันมีขีดจำกัดของมัน
แล้วพองานเสร็จ กลับมาเล่นเกมดูซีรีส์ ก็ติดหนักมากอีก ไม่อยากกลับทำงานเลย
ตอนหลังเราเลยมาสังเกตตัวเอง ว่าเวลาที่สมาธิดีๆ จะจดจ่อกับงานได้นานเท่าไหร่ ได้เนื้องานแค่ไหน
แล้วเอางานมาซอยแบ่งเป็นส่วนๆ วางแผนเลยว่า งานนี้มีเวลากี่วัน วันนึงต้องได้เนื้องานเท่าไหร่ แล้วใช้เวลาวันละกี่ชั่วโมง
มีเผื่อวันพักให้ตัวเองด้วยนะ กับเผื่อวันที่ทำไม่ได้ตามเป้าหมายแล้วงานดีเลย์ด้วย จากนั้นก็ทำตามเป้าหมายเล็กๆ ไปทีละวัน
เราพบว่า พอแบ่งงานเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วทำไปทีละวัน เรามีสมาธิกับงานดีขึ้นมาก ใช้เวลาน้อยลงเยอะ
จากที่กำหนดไว้ว่าจะทำ 8 ชั่วโมง กลายเป็น 3-4 ชั่วโมงก็เสร็จ แล้วพอเป้าหมายของวันนั้นเสร็จเราจะพักเลย
(เคยอยากจะทำแถม สมองก็ไม่เอาแล้ว ตั้งไว้แค่ไหนต้องแค่นั้นจริงๆ ถ้าฝืนแล้วรวนยาวเลย)
พองานของวันนั้นเสร็จเราจะเล่นเกม ดูซีรีส์ เล่นกีฬา ทำอะไรก็ได้ที่เป็นการผ่อนคลาย แล้ววันรุ่งขึ้นเอาใหม่ ทำแบบนี้วนไป
ผลคือเราใช้เวลาในการทำงานน้อยลงมาก งานเสร็จตามแผน แล้วก็ได้พักผ่อนบันเทิงเริ่งใจไปด้วยทุกวัน
ลองปรับเวลาของตัวเองดูนะคะ ช่วงแรกๆ มันต้องฝืนใจหน่อย ต้องบังคับตัวเองพอสมควร
หรือถ้าคิดว่าไม่อยากลองวิธีนี้ คุณก็ทำให้การเล่นเกมกลายเป็นงานไปเลยก็ได้ ลองหาเงินจากมันให้ได้ดู
จะได้เล่นไปเลยทั้งวัน แต่คนสตรีมเกมก็มีเยอะแยะมากมาย และไม่ใช่จะประสบความสำเร็จกันทุกคน
สุดท้ายแล้วมันก็หนีไม่พ้นการบริหารจัดการชีวิตตัวเองให้ดีหรอกค่ะ
แสดงความคิดเห็น
เงินเดือนเป็นแสนๆ แต่ผมติดเกมจนไม่ได้ทำงานเลยครับ