ผมควรทำไงดีครับ?? แม่ที่จากเราไป10กว่าปีกลับมาหาเรา แถมที่บ้านก็ยัดเยียดให้เราเลี้ยงท่านตอนเราไม่พร้อม

ท้าวความก่อนครับว่าตอนผมเด็กๆแม่ได้ทิ้งผมไปหาสามีใหม่เพราะพ่อของผมนั้นติดสุรากับยาเสพติด เข้าคุกอยู่บ่อยครั้งทำให้ท่านต้องทิ้งผมไป จนตอนนี้ผมอายุได้19ย่าง20ปีพ่อผมได้เสียชีวิตลงผมเริ่มทำงานกำลังสร้างเนื้อสร้างตัว แต่อยู่มาวันนึง น้องชายพ่อได้พยายามติดต่อแม่ของผมและพยายามให้ผมได้เจอกับแม่โดยไม่ถามความคิดเห็นจากผมสักคำ พอผมได้เจอแม่ผมก็ได้เข้าไปสวมกอดท่านด้วยความสงสารเพราะตั้งแต่ท่านจากไปชีวิตท่านไม่ได้ดีขึ้นเลยแถมโดนสามีใหม่ทุบตีอีก จนผมจำแม่คนเก่าไม่ได้เลย ในความรู้สึกส่วนตัวของผมลึกๆแล้วผมไม่ได้มีความรักเหลืออยู่เลยมันเป็นความผูกพันทางสายเลือดเล็กๆที่ทำให้ผมทิ้งท่านไปไม่ได้ผมไม่สามารถระบายความรู้สึกนี้ให้กับใครได้ฟังเลย เพราะคนรอบตัวผมได้แต่ผลักไสและพูดซ้ำๆว่าท่านให้กำเนิดผมมาผมต้องตอบแทนท่าน ผมรู้สึกโกรธมากท่านให้กำเนิดผม แล้วความรักของท่านหายไปไหน10กว่าปีที่ไม่มาดูดำดูดีเลย ผมพูดเสมอว่าถ้าผมพร้อมผมจะตามหาท่านด้วยตัวเอง ผมโกรธน้องชายพ่อมากที่แสดงความหวังดีที่ผิดเวลา ผมโกรธตัวเองมากที่รู้สึกสบสนแบบนี้ สิ่งที่ผมต้องการก็คือเวลาผมควรจัดการกับตัวเองอย่างไรดีครับเพราะไม่มีใครเข้าใจผมเลยสักคนเดียว ผมจะระบายให้กับใครฟังได้บ้าง

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
อย่าติดกับดักความกตัญญูครับ เอาเท่าที่เราไหว หายไปเป็นสิบปียังอยู่ได้ พอเรามีงานทำขึ้นมาก็เดือดร้อนขึ้นมาทันที ผมแนะนำให้แยกกันอยู่กับแม่ไปก่อน ใครจะว่ายังไงก็ช่าง ช่างหัวความกตัญญูมันไปก่อน ใครพูดมากก็เอาไปเลี้ยงเอง พร้อมเมื่อไหร่ค่อยไปหาแม่อย่างที่ตั้งใจไว้ ไม่อย่างงั้นก็เตี้ยอุ้มค่อม ไม่ได้ทำอะไรกันพอดี

แม่มีสิทธิ์ทิ้งเราไปได้ เราก็มีสิทธิ์เลือกว่าจะเลี้ยงไหมเหมือนกันครับ
ความคิดเห็นที่ 11
เท่าที่อ่าน  ยังไม่เห็นว่า "แม่มาขอให้คุณเลี้ยง" .. มีแต่น้องชายพ่อ (อา) ที่พยายามยัดเยียดให้คุณ

อาเหมือนจะพยายามผลักไสคุณ ... ซึ่งไม่รู้ว่า สาเหตุคืออิจฉาที่คุณมาแย่งความรักจากปู่ย่า (เพราะพ่อแบบนี้ไม่น่าจะเลี้ยงคุณ)  อยากผลักดันคุณจากบ้าน(และมรดกปู่ย่า)  หรือภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องเลี้ยงดูคุณ (เมื่อพ่อตาย ก็อยากไล่คุณ)

คุณแม่น่าจะ35-45ปี ซึ่งยังแข็งแรงมาก  ยังมีผัวใหม่ มีครอบครัวใหม่   ยังไม่ใช่คนที่กลับมาพึ่งพิงคุณ ... ฉะนั้น คุณแค่ให้กำลังใจและให้อภัย  แค่นั้นคือสิ่งที่แม่ต้องการ

ส่วนคุณ เพียงแค่วัย19-20ปี เด็กวัยรุ่นที่ยังไม่รู้จักโลก ... คุณจึงตีความไปเองว่า  ต้องเลี้ยงดูเค้า   และยังดูเจตนาของแต่ละคนไม่ออก (อย่างไรก็ตาม เราตีความแค่เท่าที่คุณเขียน)  .... ความคิดของ3คนต่างกัน  อาเล่นงานคุณ  แม่แค่ขอกำลังใจ  ส่วนคุณก็เป็นลูกบอลที่ถูกเตะไปมา

ยังไม่ถึงเวลาต้องเป็นต้นไม้ใหญ่ให้คนอื่นพักพิง .. คุณแค่ทำหน้าที่ของคุณ  สร้างตัวให้รอด  
วันหน้า   วันที่คุณแกร่งกว่านี้  วันที่คุณเข้าใจโลก และเป็นไม้ยืนต้นได้แล้ว ... วันนั้น คุณค่อยใส่ปุ๋ยรดน้ำพรวนดิน ต้นไม้แก่ๆที่หักโค่นลง
ความคิดเห็นที่ 18
แม่เราก็ทิ้งตอน15พอเราทำงานด้วยเรียนด้วยก็เริ่มมีบทบาทเข้ามาขอเงิน จนทุกวันนี้เราจบป.ตรี ทำงานราชการ แต่งงาน ซื้อบ้านอยู่ ทุกเหตุการณ์จะโม้ญาติโม้คนนู้นคนนี้ว่าเลี้ยงลูกมาดี ให้หาเลี้ยงตัวเองตั้งแต่เด็กๆ เราก็จะบอกเสมอว่า "คนกำลังจะตายก็ต้องดิ้นรนไม่มีใครปล่อยให้ตัวเองอดตายหรอก"

บางทีญาติก็มาพูดให้ฟังหลายคนมีเงินก็ให้แม่บ้างแกไม่มี ให้เอาแม่มาเลี้ยง โดนกดดันคล้ายๆจขกท.เราก็จะสวนว่า

"เวลาลำบากใครช่วยหนูก็ตอบแทนคนนั้นล่ะ ใครให้ข้าวให้น้ำก็ตอบแทนบุญคุณ สมัยเรียนด้วยทำงานด้วย อายุ15 แกง 1 ถุง แบ่ง 2 มื้อ เย็นกินน้ำเต้าหู้ กินไปร้องไห้ไป เวลาไม่มีใครช่วยอ่ะ ใครเคยสนใจบ้างไม่มีใครช่วยนอกจากตัวเองที่ต้องไปทำงานหาเงินเอง  ค่าเทอม ค่ากิน ค่าบ้านจ่ายเองหมดบางทีพ่อไม่มีก็ให้5,000จากเงินเดือน9,000 แต่งงานจัดโรงแรมไม่ขอพ่อแม่ทั้ง2ฝ่ายเพราะรู้ว่าจน(ความฝันผญ.) แม่ไม่ช่วยยังจะมาเอาเงินเราอีก สรุป ใครทำอะไรได้อย่างนั้นค่ะ บอกเลยแคร์พ่อที่สุดเพราะอย่างน้อยก็ยังให้บ้าง ไม่ใช่ทิ้งลูก พอลูกรวยก็กลับมา" ญาติก็ "อืมมมม ดีแล้ว"ร้องไห้ยิ้มแห้งๆ)

ใครพูดเราว่าหมดล่ะไม่มีกินหาให้เราไหมล่ะ มาเผือกเรื่องเงินเรา บอกคำเดียว งกค่ะ
ความคิดเห็นที่ 6
ฟังคนอื่นมากไป คุณจะลำบากใจแล้วก็สับสน
ช่วยแม่เท่าที่ช่วยได้ ห้าร้อย พันหนึ่ง เท่าที่ไหว
ถ้าคนอื่นมาพูดอะไรใส่ คุณก็แค่ตอบกลับไปว่า ทำได้แค่นี้
หรือไม่ ก็ตอบโต้คนที่มาพูดด้วยการเดินหนีไป ไม่ต้องไปคุยกับมัน
ความคิดเห็นที่ 7
คุณอายุ 19-20 เดาว่าแม่ยังไม่ถึง 50 เรามีเพื่อนรุ่นพี่หลายคนที่อายุ 40+ 50+ ยังแข็งแรง ดูสาว ดูสวยและยังทำงานมีรายได้เพื่อจุนเจือคนรอบข้างได้ปกติเหมือนคนวัยอื่น ฉะนั้นเริ่มจากที่ความคิดของคุณ คุณอย่ามองว่าต้องช่วยแม่ เพราะแม่เป็นคนปกติ ส่วนเวลาญาติกดดัน ก็ค่อยๆ บอกพวกเขาไปว่า แม่คุณยังสาว ยังแข็งแรง จะให้แม่มานั่งๆ นอนๆ ให้คุณเลี้ยงตั้งแต่ตอนนี้ ถ้าแม่อยู่ได้ถึง 80-90 แสดงว่าชีวิจแม่จบลงแล้ว แม่จะต้องมีชีวิตแบบไร้ความหมาย ไร้ศักยภาพไปอีก 30-40 ปีเลยเหรอ คิดแล้วน่าสงสารกว่า การทำงาน การหาเงิน คือการได้มีสังคม ได้เห็นโลกมากขึ้น บอกญาติไปว่าคุณยังอยากให้แม่ได้มีอิสระ ได้ใช้ชีวิตให้คุ้มก่อนตาย คุณเลยจะต้องปล่อยให้แม่ใช้ชีวิตในแบบที่เขาเลือก และคอยดูอยู่ห่างๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่