Yesh in India อยู่อินเดียไม่มีเหงา EP.1 ค่ำคืนแรกในอินเดีย


สวัสดีครับก่อนเข้าเนื้อเรื่อง ขออธิบายสั้นๆ ถึง Blog ซีรี่ย์ดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นจากผมกำลังไปใช้ชีวิตเรียนต่อที่เมือง Pune ประเทศอินเดีย เลยอยากเขียนแชร์ประสบการณ์การใช้ชีวิตในอินเดีย มาแบ่งปันให้ทุกคนได้อ่านกัน และขอไม่สาธยายให้มากความ เอาเป็นว่ามาเริ่มต้นเข้าเนื้อเรื่อง ep.1 กันได้เลยครับ
.
หลังจากผ่านค่ำคืนแรกที่หลับเป็นตาย จริงๆ ต้องเป็นคืนที่สอง แต่คืนแรกไม่ได้นอนทั้งคืน เนื่องจากต้องเดินทางข้ามเมืองและเกิดปัญหาบางอย่าง  จนทำให้ต้องถูกทิ้งไว้ข้างถนนตอนตี 4 ในอินเดีย แต่เอาเป็นว่าตอนนี้ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง
.
ผมมาอยู่ Pune เป็นเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอินเดีย (ใกล้ๆกับมุมไบ) ปูเน่เมืองที่อยู่สภาพอากาศคล้ายๆ เชียงใหม่บ้านเรา ตอนนี้เป็นน่าฝน อากาศช่วงกลางวันประมาณ 27 องศา ฝนตกพรำตลอดทั้งวัน ฝนที่นี่แตกต่างจากเมืองไทย เม็ดฝนเรียวเล็ก สามารถเดินตากฝนได้โดยตัวไม่เปียกนัก (รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ และฝนที่นี่จะไม่ตกหนัก แต่จะเน้นตกเรื่อยๆ เอื่อยๆ ไปตลอดวัน)
.
ในส่วนสภาพการเป็นอยู่ ผมพักในย่าน Aundh มีความคล้ายสีลมบ้านเรา มีห้างใหญ่ มีร้านค้า ถือเป็นย่านธุรกิจที่เจริญ มีความเป็นระเบียบพอตัวเมื่อเทียบกับย่านอื่น แต่ก็แลกมาด้วยค่าเช่าหอพักที่แพงขึ้น เพื่อความเป็นอยู่ก็จำเป็นต้องจ่าย ซื้อความสบายใจและไปปรับค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นอีกที
.
วันแรกของผมหมดไปกับการลงทะเบียนเรียนและหาที่พัก ตอนเย็นรุ่นน้องคนไทยผู้อยู่มาก่อน พาผมไปสำรวจสถานที่สำคัญใกล้หอพัก... ซุปเปอร์มาเก็ตที่คล้ายโลตัส ห้างสรรพสินค้าที่คล้ายเดอะมอล ร้านอาหารแจ่มๆ ร้านหนังสือราคาถูก ที่นี่มีทุกอย่างแทบไม่ต่างจากสิ่งที่เมืองใหญ่ๆ ควรมี
.

.
วันต่อมาผมลองนั่งรถเมล์ไปโรงเรียนสาหัสเอาเรื่องกว่าจะถึง รถเมล์ที่นี่ดูหมายเลขสายยาก และก็มีรถเมล์หลายสายมาก
.
หลังจากนั้นผมนัดเจอกับ Gopal เราเจอกันผ่านapp  Counchsufing
Gopal เป็นนักเรียนกฎหมายชั้นปีสุดท้าย เขาพาผมไปเยี่ยมชม Colleage ของเขา บรรยากาศน่าเรียนมาก อินเดียแม้สภาพแวดล้อมภายนอกจะสกปรกอย่างไร แต่ในสถาบันการศึกษานั้น เรียกได้ว่าสะอาด และน่าอยู่จริงๆ
.
Gopal และเพื่อนๆ ของเขาต้อนรับผมดีมาก ผมได้ชื่ออินเดียเป็นที่เรียบร้อย พวกเขาตั้งชื่อผมว่า Yesh (ยาส) มันหมายถึงความสำเร็จ พวกเขาหวังว่าผมจะสำเร็จตามที่ผมตั้งใจมาใช้ชีวิตที่นี่ 1 ปี
.
พวกเรากิน DAHI PURI เป็นอาหารกลางวัน มันเป็นข้าวและถั่ว ผสมกับน้ำแกง และใช้ขนมปังจิ้มกินเอา อร่อยเอาเรื่องรสชาติเผ็ดจัดจ้าน

.
ส่วนเพื่อนอีกคนชื่อ Aish (แอ๊ส) เธอชอบอ่านหนังสือของมุราคามิเหมือนกับผม เราคุยกันออกรสเมื่อเธอบอกว่าได้อ่าน Norwegian Wood แล้ว เราคุยกับ Aish หลายเรื่องเกี่ยวกับวัฒนธรรมในสังคม เธอบอกว่าคนอินเดียมักจะแต่งงานในช่วงอายุ 25 -35 ปี (คล้ายๆ กับไทย) และผู้หญิงที่แต่งงานแล้วจะสวมแหวนที่นิ้วนางข้างขวา Aish มีความฝันอยากเป็นตุลาการ เธอกำลังทำเรื่องเรียนต่อปริญญาโท และกำลังหาที่ฝึกงานในศาล
.


Gopal / Aish / sorry ผมลืมชื่อเธอ / ผม
.
ก่อนแยกย้ายกันกลับ ผมกับ Gopal สัญญากันว่า เดือนสิงหาคมหลังเขาสอบปลายภาคครั้งสุดท้ายเสร็จ และก่อนที่เขาจะเริ่มชีวิตวัยทำงาน เราจะออกทริป Backpack ด้วยกัน...ผมรอการเดินทางกับเขา
.
2 วันในดินแดนนี้ อินเดียเหมือนคู่ชกที่พร้อมจะต่อยเราให้คว่ำลงไปกองกับพื้น และในขณะเดียวก็พร้อมจะมีมือที่หยิบยื่นให้เราลุกขึ้นมาสู้ใหม่ ก่อนที่อีกไม่นานจะต่อยเราซ้ำอีกครั้ง ได้แต่หวังว่าเมื่อโดนต่อยมากพอ ผมจะไม่ล้มและซัดหมัดใส่คู่แข่งได้ซักหมัดสองหมัด พร้อมโอบกอดใครอีกคนหนึ่ง คนที่เป็นมือที่หยิบยื่นมาช่วยเหลือเราในช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วงเริ่มต้นตั้งหลักครั้งนี้


ฝากติดตามอ่าน ตอนต่อไปกันด้วยนะครับ ผมจะแวะมาเขียนในวันอังคารของ ทุกๆ สัปดาห์ ลงงานภายในเวลา 22.00 น. (ไทย)

 EP.2 เพื่อนใหม่ที่ชื่อว่าปูเน่ (Pune)
https://pantip.com/topic/41528765
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่