Advanc ซื้อ 3BB และกอง JasIf ทำให้ Jas จะได้เงินจากดีลนี้มา หลังจากหักหนี้แล้ว จะได้เงินสดเข้าบริษัทประมาณ 25K ล้านบาท หลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแล้ว ทำให้ Jas สามารถจ่ายเงินให้ผู้ถือหุ้นได้ 1-2 บาท (ตามนโยบายของบริษัท ที่ต้องจ่ายขั้นต่ำ 50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษี)
สำหรับธุรกิจ 3BB ที่ให้บริการ เน็ตบ้านหลังๆ เริ่มจะไม่ทำกำไรให้ Jas อีก เนื่องจากอัตราการแข่งขันรุนแรงมาก เพราะ Advanc ก็โดดลงมาเล่นเพื่อแชร์ส่วนแบ่งตลาดอีกรายประกอบกับ เน็ตมือถือที่แข่งกันหนัก แจกแบนวิดท์กันเหลือเฟือ ทำให้บางคนที่ใช้เน็ตไม่แยะ เอาค่าเน็ตบ้าน ไปเพิ่มแพ็ทเกท มือถือแทน
การเข้ามาซื้อ 3BB ของ Advanc เลยสมประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย โดย Advanc ก็ได้โครงข่ายเน็ตบ้านที่ใหญ่ขึ้น ไปทำสงครามราคาสู้กับ Ture ที่ครองตลาดมานานได้อย่างสูสี ส่วน Jas ก็ได้ตัดกิจการที่เริ่มจะไม่ทำกำไรทิ้งไป โดยส่วนต่างตรงนี้ ผู้ที่ซวยคือผู้ถือหน่วย Jasif ที่จะได้ปันผลลดลง เพิ่มกำไรให้กับ Advanc ที่จะจ่ายเงินค่าเช่าให้กอง Jasif ลดลง แลกกับระยะเวลาสัมปทานที่เพิ่มขึ้น
โดยปกติของการซื้อขาย ผู้ซื้อและผู้ขายมักได้ผลประโยชน์ทั้งคู่ ถึงจะซื้อขายกัน(ยกเว้น ผู้ขายประสบปัญหาสภาพคล่อง มีหนี้สินรุงรัง อาจถูกกดราคาจำต้องขายขาดทุนออกมา แต่กรณีของ Jas ก็ไม่น่าเข้าข่ายนี้) ดังนั้นดีลนี้ ถ้า Jas เสียประโยชน์มากๆ Jas ก็ไม่น่าจะขายให้ อยู่เฉยๆ ดีกว่า (ดังนั้นเชื่อว่าผู้บริหารน่าจะมองเห็นประโยชน์อะไรบางอย่างถึงได้ขาย) และที่ผ่านมา Jas ก็พยายามจะเปลี่ยนตัวเองออกมาเปิดธุรกิจใหม่อย่างเหมือง บิทครอย ที่เค้าลงทุนไปแยะมาก เมื่อเค้าทิ้ง 3BB ก็ไม่น่าจะเสียหายตรงไหน นอกจากได้เงิน เข้ามาต่อยอดธุรกิจใหม่ของเค้า
ถ้าผมวิเคราะห์ผิดไป ก็สามารถให้ความเห็นได้ ที่สงสัยคือ พวกคุณไม่ชอบหรือ เค้าอาจจะขาย Jasif ต่ำกว่าราคาตลาดก็จริง แต่รวมๆ แล้วเค้าก็ได้ตังเข้ามา แลกกับธุรกิจที่เริ่มจะไม่ทำกำไรแล้ว มันไม่ดีตรงไหน ทำไมถึงเทขายกันหนักจัง ปันผลฟรีๆ ไม่ชอบกันหรือ
Jas กำลังจะจ่ายปันผลก้อนใหญ่ พวกคุณไม่ชอบหรือ ขายกันหนักเลย
สำหรับธุรกิจ 3BB ที่ให้บริการ เน็ตบ้านหลังๆ เริ่มจะไม่ทำกำไรให้ Jas อีก เนื่องจากอัตราการแข่งขันรุนแรงมาก เพราะ Advanc ก็โดดลงมาเล่นเพื่อแชร์ส่วนแบ่งตลาดอีกรายประกอบกับ เน็ตมือถือที่แข่งกันหนัก แจกแบนวิดท์กันเหลือเฟือ ทำให้บางคนที่ใช้เน็ตไม่แยะ เอาค่าเน็ตบ้าน ไปเพิ่มแพ็ทเกท มือถือแทน
การเข้ามาซื้อ 3BB ของ Advanc เลยสมประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย โดย Advanc ก็ได้โครงข่ายเน็ตบ้านที่ใหญ่ขึ้น ไปทำสงครามราคาสู้กับ Ture ที่ครองตลาดมานานได้อย่างสูสี ส่วน Jas ก็ได้ตัดกิจการที่เริ่มจะไม่ทำกำไรทิ้งไป โดยส่วนต่างตรงนี้ ผู้ที่ซวยคือผู้ถือหน่วย Jasif ที่จะได้ปันผลลดลง เพิ่มกำไรให้กับ Advanc ที่จะจ่ายเงินค่าเช่าให้กอง Jasif ลดลง แลกกับระยะเวลาสัมปทานที่เพิ่มขึ้น
โดยปกติของการซื้อขาย ผู้ซื้อและผู้ขายมักได้ผลประโยชน์ทั้งคู่ ถึงจะซื้อขายกัน(ยกเว้น ผู้ขายประสบปัญหาสภาพคล่อง มีหนี้สินรุงรัง อาจถูกกดราคาจำต้องขายขาดทุนออกมา แต่กรณีของ Jas ก็ไม่น่าเข้าข่ายนี้) ดังนั้นดีลนี้ ถ้า Jas เสียประโยชน์มากๆ Jas ก็ไม่น่าจะขายให้ อยู่เฉยๆ ดีกว่า (ดังนั้นเชื่อว่าผู้บริหารน่าจะมองเห็นประโยชน์อะไรบางอย่างถึงได้ขาย) และที่ผ่านมา Jas ก็พยายามจะเปลี่ยนตัวเองออกมาเปิดธุรกิจใหม่อย่างเหมือง บิทครอย ที่เค้าลงทุนไปแยะมาก เมื่อเค้าทิ้ง 3BB ก็ไม่น่าจะเสียหายตรงไหน นอกจากได้เงิน เข้ามาต่อยอดธุรกิจใหม่ของเค้า
ถ้าผมวิเคราะห์ผิดไป ก็สามารถให้ความเห็นได้ ที่สงสัยคือ พวกคุณไม่ชอบหรือ เค้าอาจจะขาย Jasif ต่ำกว่าราคาตลาดก็จริง แต่รวมๆ แล้วเค้าก็ได้ตังเข้ามา แลกกับธุรกิจที่เริ่มจะไม่ทำกำไรแล้ว มันไม่ดีตรงไหน ทำไมถึงเทขายกันหนักจัง ปันผลฟรีๆ ไม่ชอบกันหรือ