ต้องไปทำธุระสำคัญไกลสามีไม่ให้ใช้รถของเขา

เรากับสามี มีนัดทำสัญญาซื้อที่ดินด้วยกัน แต่ติดที่สามีต้องทำงาน ไม่สามารถลางานแล้วไปด้วยกันได้จึงจะให้เราเดินทางไปคนเดียว โดยให้ใช้บริการรถตู้โดยสาร ซึ้งต้องต่อรถตู้ถึง2 ต่อ (จากจังหวัดนราธิวาสไปหาดใหญ่ และนั้งรถจากหาดใหญ่ไปอีกอำเภอหนึ่งในจังหวัดสงขลา) และต้องค้างคืนถึง2คืน ที่บ้านแม่ของฝ่ายสามี  (ซื้อที่ดินแถวบ้านของแม่สามี)เพราะไม่สามารถไปกลับได้ในวันเดียว ไม่ทันรอบรถตู้ รถจะหมดก่อน ระยะทางที่ต้องเดินทาง ไป-กลับ เกือบ 550 กิโล   เราเข้าใจว่ารถเป็นของเขา เขารักรถมาก  แล้วเราเองก็เป็นคนขับรถเร็ว และไม่ได้รักรถเหมือนเขา เพราะเรามองรถว่าเป็นแค่ของที่ซื้อมาใช้งาน แต่การที่สามีให้เราเดินทางไปกับรถตู้สาธารณะนั้นลำบากเรามากเลยนะ ทำให้เราน้อยใจอย่างมาก ในหัวมีแต่คำถามว่าสามีเรารักรถมากกว่าเราหรอ เราไม่น่าไว้ใจห้ขับรถขนาดนั้นเลยหรือ  จนตอนนี้ เราเองก็ไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกของเราได้เลย ขอคำแนะนำในการจัดการกับความคิดและความรู้สึกของเราหน่อยค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ก็ให้ลองคิดเสียใหม่อีกมุมหนึ่งว่าเขาอาจจะเป็นห่วง ไม่อยากให้คุณขับรถทางค่อนข้างไกลตามลำพัง กลัวจะเกิดอันตรายกับคุณ ก็เป็นไปได้เช่นกัน

บางครั้งหากลองเปลี่ยนมุมคิด ให้คิดในทางที่ดีในแง่บวกก่อน น่าจะดีกว่าการคิดลบแล้วทำให้ตัวเองเป็นทุกข์ไม่สบายใจเสียเปล่า ๆ
ความคิดเห็นที่ 16
ผมคิดต่างกับทุกท่านในนี้   ผมก็รักรถ  หวงรถ  แต่ถ้าเมียจะใช้  เอาไปเลยครับ  แต่เตือนว่า อย่าขับรถเร็ว

บ้ารึเปล่าครับ  นั่งรถตู้ กับใครไม่รุ้  ตั้งหลายต่อ  ฝีมือแค่ไหน  และต้องไปค้างคืนด้วย

ลองคิดกลับกัน  ขอยืมรถเมียไปต่างจังหวัด แล้วเมียหวงรถ ไม่ให้ยืม  คิดเยอะๆครับ
ความคิดเห็นที่ 39
เรามองข้าม เรื่อง รถ  ไปแล้วค่ะ
เนื้อหาสำคัญของเรื่องนี้คือ  เงิน  และ  ที่ดิน  ที่คุณบอกว่าจะ  "ซื้อด้วยกัน"
แปลว่า  เงิน  มาจากทั้ง ผัวและเมีย  ใช่ไหม
เราคิดว่า  ที่ดิน  ที่จะซื้อนั้นอยู่ใกล้ๆครอบครัวฝ่ายชาย   การเดินทางไปเองคนเดียวก็ลำบากขนาดที่คุณเล่ามา    ขนาดนั้น
แถม แววของความรักห่วงใยและเอาใจใส่  ที่สามีมีให้คุณ  มันแลดูจืดจางมาก
จนไม่น่าซื้อแล้วค่ะ     สืบต่อไปตั้งแต่ต้น  ใครกันที่อยากได้ที่ดินผืนนี้  
ประโยชน์ของการใช้ที่ดิน  ใครได้กันแน่ ..  วิเคราะห์ดีๆค่ะ  ปรึกษาผู้ใหญ่ครอบครัวของคุณดูก่อนไหม
การรักรถ  เราเข้าใจได้  มีเหตุผลมากมายที่จะอ้างว่าทำไมไม่ให้คุณขับรถ   จะห่วงรถ  หรือห่วงคุณ   แค่คำพูดก็พูดได้หมดค่ะ   แต่สิ่งที่แสดงออกว่า  ห่วงจริง  มันมีวิธีแสดงออกหรือจัดการได้ดีกว่าแค่ไล่เมียให้ไปนั่งรถตู้สองทอด +รอนแรมไปซื้อที่และค้างบ้านสามีคนเดียวโดยไม่มีสามีไปด้วยอีก
จะจัดหารถรับส่งไว้ใจได้ปลอดภัยให้เมีย  จองตั๋วเครื่องบิน  จัดหาญาติมาช่วยรับ  ฯลฯ
สารพัดวิธีดูแล  ไม่ทำ    
เราว่า อย่าซื้อเลยที่ผืนนี้  เลิกกันมา  ลำบากต้องฟ้องแบ่ง   กำเงินตัวเองไว้ดีกว่า  เขาอยากได้ให้เขาซื้อเองเถอะ
ความคิดเห็นที่ 20
คุณเจ้าของกระทู้ไม่ต้องไปนะคะ
ไว้ให้สามีว่างวันไหนค่อยไปด้วยกัน
สามีจะมาทำนิสัยอย่างนี้ไม่ได้ค่ะ
แมว
ความคิดเห็นที่ 18
ปกติเราเป็นคนชอบมองอะไรบวกเสมอ
แตเคสคุณ เราไม่โอเคกับสามีคุณ
มองบวกไปว่าเค้าเป็นห่วงคุณไม่ได้เลย
ห่วงมากก็ไปส่งสิพ่อคู้ณ

แต่กลัวว่าเราจะตอบคุณแบบอคติ เราเลยเอาเคสคุณ
ไปถามสามีเราทั้งสมมุติว่าเค้าเป็นคุณ และเป็นสามีคุณ

สามีเราก็คิดเหมือนเรา คือสามีคุณเว่อร์ เค้าไม่ยอมหรอก
รักรถน่ะรู้ แต่ถ้ารักมากกว่าเมีย ก็แต่งงานกับรถเถอะ

เค้าบอกว่า เค้าก็จะให้รถคุณไป แล้วสั่งว่า
สัญญานะว่าอย่าขับเร็ว และรักษารถดี ๆ นะ

คือนี่เมียนะไม่ใช่เด็ก 5 ขวบ จะได้ไม่รู้ภาษา
เปลี่ยนพฤติกรรมไม่ได้

แล้วอย่าเรียกว่ายืมรถเลย นี่มันรถครอบครัว
เป็นเจ้าของเท่ากันจ้า
ถ้ารักรถมาก เก็บตังค์ซื้ออีกคันแล้วเอาไว้นอนกอดให้พอ
หนอย มีคันเดียวแต่ดันรักมากกว่าเมียไม่ให้แตะเลย
จะบ้าเรอะ

เราก็เป็นคนรักบ้านมาก สามีเราก็ใช้ของไม่ระวัง
ปิดประตูแรงเอย ใช้เครื่องครัวไม่ระวังเอย
ตามประสาผู้ชายอ่ะเนอะ แบบนี้เรามิต้องห้ามเข้าบ้านเรอะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่