ทูตรัศม์ ตอกอีก ชี้รัฐบาลทหารพม่าไม่ใช่เพื่อน แต่คือพ่อรัฐบาลไทยไปแล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_3431485
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม นาย
รัศม์ ชาลีจันทร์ เจ้าของเพจทูตนอกแถว และอดีตเอกอัครราชทูตไทยในหลายประเทศ เขียนบทความวิจารณ์ กรณีท่าทีของกองทัพไทยต่อเหตุการณ์ความมั่นคงชายแดน โดยเฉพาะการให้สัมภาษณ์ชี้แจงของนายกรัฐมนตรีไทย โดยระบุว่า
แบบนี้ไม่ใช่เพื่อนแล้ว แต่คือพ่อครับ
พอเห็นผู้บริหารรัฐบาลออกมาแถเรื่องเครื่องบินรบพม่าที่รุกล้ำดินแดนไทยอย่างโจ่งแจ้ง ว่าไม่เป็นไร เรื่องเล็ก เขาแค่มาตีวงตั้งหลักเฉยๆ อย่าไปทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ก็อดไม่ได้ที่จะต้องพูดเรื่องนี้ต่ออีก
ก็ไม่รู้ว่าใครแนะนำให้พูดแบบนั้น เพราะคำพูดที่ออกมานั้นมันเท่ากับเป็นการยอมรับโดยปริยายว่าทางการไทยได้ยินยอม รู้เห็นเป็นใจ ให้ทหารพม่าใช้ดินแดนและอธิปไตยของไทยเพื่อเป็นฐานเข้าโจมตีชนกลุ่มน้อยในพม่านั่นเอง
ก่อนหน้านี้ทางโฆษก ทอ.ก็ได้แถลงเองว่าได้ติดตามตลอดและเห็นในจอเรดาร์แล้วว่าบินวนอยู่ ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่าบริเวณดังกล่าวนั้นกำลังมีการสู้รบ ถ้ายังปล่อยให้เครื่องบินรบทหารพม่าเข้ามาในเขตไทยได้อีก และให้เขามีเวลาพอเหลือเฟือที่จะบินอ้อมตีโค้งกลับลำสบายๆ ก่อนที่จะค่อยส่งเครื่องบินของเราขึ้นไป (ซึ่งป่านนั้นเขาก็บินไปลิบแล้ว)
เมื่อรวมกับคำพูดที่ออกมาจากปากของผู้บริหารรัฐบาลเอง มันก็ยากที่จะมองเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากคือการยอมรับว่าประเทศไทยกำลังร่วมมือกับ [เผล่ะจัง] ทหารพม่าในการปราบปรามเข่นฆ่าชนกลุ่มน้อย
ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ทั่วโลกประณามขณะนี้ และอาจมีผลให้ไทยต้องตกเป็นจำเลยร่วมกับ [เผล่ะจัง] ทหารพม่าด้วย
และไม่ต้องห่วงนะครับ ป่านนี้สถานทูตต่างๆ ในไทยเขาคงประมวลคำพูดและสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เพื่อรายงานให้ประเทศของตนทราบแล้ว
เราก็ลองคิดกันดูนะครับ ว่าการที่ไทยถูกรุกล้ำอธิปไตยด้วยเครื่องบินรบพม่าอย่างชัดแจ้งและจงใจแน่นอน (เพราะบินวนนานแล้ว)
และยังเข้ามาสร้างความเสียหายในดินแดนไทย (มีรายงานรถชาวบ้านถูกยิงที่อาจทำให้เสียชีวิตได้ ลูกเด็กเล็กแดงต้องหลบหนีกันจ้าละหวั่น)
แถมยังจะมีผลทำให้ไทยตกเป็นจำเลยของโลกในการร่วมมือกับ [เผล่ะจัง] ทหารพม่าในการเข่นฆ่าประชาชนคนกลุ่มน้อย
แต่ยังมีผู้บริหารรัฐบาลออกมาบอกสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กน้อย คนแบบนี้ยังสมควรเป็นผู้บริหารอีกไหม?
และถ้าสิ่งเหล่านี้คือเรื่องเล็กสำหรับเขา พม่าไม่ใช่เพื่อนแล้วครับ แต่คือพ่อ
https://www.facebook.com/thealternativeambassadorreturns/posts/pfbid0jkomcZLtisgSqDX3bELSEcjEHKBCQ4nnpW2Ux6qKqwfZzFNKMkLCc6pmAL7VNCvGl
เพื่อไทย ชี้ ศธ.ตั้งงบกระจุก กำหนดเป้าเน้นเอาง่าย ติง สพฐ.ใช้สิ่งก่อสร้างนำความรู้
https://www.matichon.co.th/politics/news_3431470
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 กรกฎาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นาย
เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค พท. ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายงบประมาณประจำปี พ.ศ.2566 แถลงถึงการพิจารณางบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ ว่า
ปัจจุบันคุณภาพการศึกษาไทยตกต่ำสุดขีด เด็กวัยเรียนส่วนใหญ่ไอคิวต่ำกว่าค่ากลางมาตรฐานสากล ส่วนอีคิวต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ คะแนนสอบโอเน็ต (O-NET) เฉลี่ยต่ำในทุกกลุ่มสาระ ส่วนการสอบพิซ่า (PISA) ต่ำกว่าประเทศคู่แข่งในระดับเดียวกัน ทั้งนี้ สถานศึกษาจำนวนมากตกเกณฑ์ประเมิน ปัญหาหนี้สินครู การพัฒนาครูถูกละเลย กระทรวงตั้งเป้าหมายที่เน้นเอาง่าย โดยอันดับความสามารถในการแข่งขัน (IMD) อยู่อันดับ 53 จาก 64 ประเทศ แต่กระทรวงกลับตั้งเป้าอยู่ที่อันดับ 55 ซึ่งแย่กว่าอันดับปัจจุบันเสียอีก ตัวชี้วัดเข้าถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิต ตั้งเป้าหมายต่ำลงเกือบครึ่งจากปีที่แล้ว
นาย
เผ่าภูมิกล่าวว่า ในส่วนของงบสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) งบก่อสร้างซ่อมแซมอาคารและสิ่งก่อสร้างสูงถึง 4,058 ล้านบาท ถือว่ายังเป็นแนวคิดแบบเก่า โดยการใช้สิ่งก่อสร้างนำ ความรู้ตาม ในขณะที่โครงการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทำ กลับได้งบเพียง 5 ล้านกว่าบาท ผ่านโครงการห้องเรียนอาชีพเพียง 6 แห่ง ส่วนในแง่ของการกระจายงบ 10 จังหวัดใหญ่ ได้งบกว่า 1 ใน 3 ของงบทั้งหมด ซึ่งเป็นจังหวัดเดิมๆ และจังหวัดรั้งท้ายได้งบน้อยกว่าจังหวัดอันดับ 1 ถึง 22 เท่าตัว
"ลีโอ" ขึ้นราคาแล้ว 12-18 บาท แต่ปริมาณยังเท่าเดิม
https://www.tnnthailand.com/news/wealth/118223/
บุญรอดเทรดดิ้ง ประกาศปรับขึ้นราคาเบียร์ ลีโอ. ทั้งราคาขายปลีก และ ขายส่ง 12-18 บาท หลังแบกรับต้นทุนไม่ไหว แต่ยังยืนยันจะไม่มีการปรับลดปริมาณ
บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่มและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประกาศปรับขึ้นราคาจำหน่ายทั้งปลีก-ส่ง เครื่องดื่มเบียร์ ลีโอ 12-18 บาท โดยได้เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา
วันนี้( 2 ก.ค.65) นาย
ภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา เบียร์ ลีโอ ได้มีการปรับขึ้นราคาขายปลีกและขายส่งดังนี้ ขวดใหญ่ (62 0ml) ปรับขึ้น 12 บาทต่อลัง หรือเท่ากับปรับขึ้น 1 บาทต่อขวด, ขวดเล็ก (320 ml) ปรับขึ้น 18 บาทต่อลัง หรือเฉลี่ยขวดละ 0.75 บาท ส่วนกระป๋องยาว (490 ml) ปรับขึ้น 11 บาทต่อลัง หรือ 0.90 บาทต่อกระป๋อง และ กระป๋องสั้น (320 ml) ปรับขึ้น 18 บาทต่อลังหรือกระป๋องละ 0.75 บาท
สำหรับราคาขายปลีกเบียร์ ลีโอ จะเพิ่มขึ้นลังละ 12 บาท และถาดละ 18 บาท ทำให้ราคาเบียร์ลีโอขวดใหญ่จะอยู่ที่ขายส่ง 616 บาทต่อลัง ขายปลีก 626 บาทต่อลัง และ 59 บาทต่อขวด ส่วนกระป๋องเล็กอยู่ที่ขายส่ง 750 บาทต่อถาด ขายปลีก 762 บาทต่อถาด และ 39 บาทต่อกระป๋อง
ทั้งนี้บริษัทยืนยันว่าไม่มีนโยบายในการปรับลดปริมาณสินค้าอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทพยายามตรึงราคาเบียร์ลีโอ โดยไม่มีการปรับขึ้นราคาหรือลดปริมาณสินค้าทุกขนาดบรรจุมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 ในขณะที่สถานการณ์ต้นทุนการผลิตสินค้าปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาพลังงาน และวัตถุดิบ เพื่อลดผลกระทบต่อผู้บริโภคในสถานการณ์ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้บุญรอดฯ มีแผนจะปรับขึ้นราคา ลีโอ มาแล้วครั้งหนึ่งตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ได้ชะลอไว้ก่อน เนื่องจากรอดูความชัดเจนในเรื่องของแนวโน้มราคาน้ำมันและภาพรวมของกำลังซื้อในตลาด ส่วนเบียร์ยี่ห้ออื่นต่างทยอยปรับขึ้นราคาในระดับ 10-50 บาท ไปก่อนหน้าแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ช้าง คลาสสิคเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม เช่นเดียวกับไฮเนเก้นและสิงห์
ข้อมูลจาก : บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด
JJNY : ทูตรัศม์ตอก รบ.ทหารพม่าคือพ่อรบ.ไทย│พท.ชี้ศธ.ตั้งงบกระจุก│"ลีโอ"ขึ้นราคาแล้ว│แจ้งความมือดีทับชื่อสะพานพิบูลสงคราม
https://www.matichon.co.th/politics/news_3431485
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม นายรัศม์ ชาลีจันทร์ เจ้าของเพจทูตนอกแถว และอดีตเอกอัครราชทูตไทยในหลายประเทศ เขียนบทความวิจารณ์ กรณีท่าทีของกองทัพไทยต่อเหตุการณ์ความมั่นคงชายแดน โดยเฉพาะการให้สัมภาษณ์ชี้แจงของนายกรัฐมนตรีไทย โดยระบุว่า
แบบนี้ไม่ใช่เพื่อนแล้ว แต่คือพ่อครับ
พอเห็นผู้บริหารรัฐบาลออกมาแถเรื่องเครื่องบินรบพม่าที่รุกล้ำดินแดนไทยอย่างโจ่งแจ้ง ว่าไม่เป็นไร เรื่องเล็ก เขาแค่มาตีวงตั้งหลักเฉยๆ อย่าไปทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ก็อดไม่ได้ที่จะต้องพูดเรื่องนี้ต่ออีก
ก็ไม่รู้ว่าใครแนะนำให้พูดแบบนั้น เพราะคำพูดที่ออกมานั้นมันเท่ากับเป็นการยอมรับโดยปริยายว่าทางการไทยได้ยินยอม รู้เห็นเป็นใจ ให้ทหารพม่าใช้ดินแดนและอธิปไตยของไทยเพื่อเป็นฐานเข้าโจมตีชนกลุ่มน้อยในพม่านั่นเอง
ก่อนหน้านี้ทางโฆษก ทอ.ก็ได้แถลงเองว่าได้ติดตามตลอดและเห็นในจอเรดาร์แล้วว่าบินวนอยู่ ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่าบริเวณดังกล่าวนั้นกำลังมีการสู้รบ ถ้ายังปล่อยให้เครื่องบินรบทหารพม่าเข้ามาในเขตไทยได้อีก และให้เขามีเวลาพอเหลือเฟือที่จะบินอ้อมตีโค้งกลับลำสบายๆ ก่อนที่จะค่อยส่งเครื่องบินของเราขึ้นไป (ซึ่งป่านนั้นเขาก็บินไปลิบแล้ว)
เมื่อรวมกับคำพูดที่ออกมาจากปากของผู้บริหารรัฐบาลเอง มันก็ยากที่จะมองเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากคือการยอมรับว่าประเทศไทยกำลังร่วมมือกับ [เผล่ะจัง] ทหารพม่าในการปราบปรามเข่นฆ่าชนกลุ่มน้อย
ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ทั่วโลกประณามขณะนี้ และอาจมีผลให้ไทยต้องตกเป็นจำเลยร่วมกับ [เผล่ะจัง] ทหารพม่าด้วย
และไม่ต้องห่วงนะครับ ป่านนี้สถานทูตต่างๆ ในไทยเขาคงประมวลคำพูดและสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เพื่อรายงานให้ประเทศของตนทราบแล้ว
เราก็ลองคิดกันดูนะครับ ว่าการที่ไทยถูกรุกล้ำอธิปไตยด้วยเครื่องบินรบพม่าอย่างชัดแจ้งและจงใจแน่นอน (เพราะบินวนนานแล้ว)
และยังเข้ามาสร้างความเสียหายในดินแดนไทย (มีรายงานรถชาวบ้านถูกยิงที่อาจทำให้เสียชีวิตได้ ลูกเด็กเล็กแดงต้องหลบหนีกันจ้าละหวั่น)
แถมยังจะมีผลทำให้ไทยตกเป็นจำเลยของโลกในการร่วมมือกับ [เผล่ะจัง] ทหารพม่าในการเข่นฆ่าประชาชนคนกลุ่มน้อย
แต่ยังมีผู้บริหารรัฐบาลออกมาบอกสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กน้อย คนแบบนี้ยังสมควรเป็นผู้บริหารอีกไหม?
และถ้าสิ่งเหล่านี้คือเรื่องเล็กสำหรับเขา พม่าไม่ใช่เพื่อนแล้วครับ แต่คือพ่อ
https://www.facebook.com/thealternativeambassadorreturns/posts/pfbid0jkomcZLtisgSqDX3bELSEcjEHKBCQ4nnpW2Ux6qKqwfZzFNKMkLCc6pmAL7VNCvGl
เพื่อไทย ชี้ ศธ.ตั้งงบกระจุก กำหนดเป้าเน้นเอาง่าย ติง สพฐ.ใช้สิ่งก่อสร้างนำความรู้
https://www.matichon.co.th/politics/news_3431470
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 กรกฎาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค พท. ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายงบประมาณประจำปี พ.ศ.2566 แถลงถึงการพิจารณางบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ ว่า
ปัจจุบันคุณภาพการศึกษาไทยตกต่ำสุดขีด เด็กวัยเรียนส่วนใหญ่ไอคิวต่ำกว่าค่ากลางมาตรฐานสากล ส่วนอีคิวต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ คะแนนสอบโอเน็ต (O-NET) เฉลี่ยต่ำในทุกกลุ่มสาระ ส่วนการสอบพิซ่า (PISA) ต่ำกว่าประเทศคู่แข่งในระดับเดียวกัน ทั้งนี้ สถานศึกษาจำนวนมากตกเกณฑ์ประเมิน ปัญหาหนี้สินครู การพัฒนาครูถูกละเลย กระทรวงตั้งเป้าหมายที่เน้นเอาง่าย โดยอันดับความสามารถในการแข่งขัน (IMD) อยู่อันดับ 53 จาก 64 ประเทศ แต่กระทรวงกลับตั้งเป้าอยู่ที่อันดับ 55 ซึ่งแย่กว่าอันดับปัจจุบันเสียอีก ตัวชี้วัดเข้าถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิต ตั้งเป้าหมายต่ำลงเกือบครึ่งจากปีที่แล้ว
นายเผ่าภูมิกล่าวว่า ในส่วนของงบสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) งบก่อสร้างซ่อมแซมอาคารและสิ่งก่อสร้างสูงถึง 4,058 ล้านบาท ถือว่ายังเป็นแนวคิดแบบเก่า โดยการใช้สิ่งก่อสร้างนำ ความรู้ตาม ในขณะที่โครงการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทำ กลับได้งบเพียง 5 ล้านกว่าบาท ผ่านโครงการห้องเรียนอาชีพเพียง 6 แห่ง ส่วนในแง่ของการกระจายงบ 10 จังหวัดใหญ่ ได้งบกว่า 1 ใน 3 ของงบทั้งหมด ซึ่งเป็นจังหวัดเดิมๆ และจังหวัดรั้งท้ายได้งบน้อยกว่าจังหวัดอันดับ 1 ถึง 22 เท่าตัว
"ลีโอ" ขึ้นราคาแล้ว 12-18 บาท แต่ปริมาณยังเท่าเดิม
https://www.tnnthailand.com/news/wealth/118223/
บุญรอดเทรดดิ้ง ประกาศปรับขึ้นราคาเบียร์ ลีโอ. ทั้งราคาขายปลีก และ ขายส่ง 12-18 บาท หลังแบกรับต้นทุนไม่ไหว แต่ยังยืนยันจะไม่มีการปรับลดปริมาณ
บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่มและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประกาศปรับขึ้นราคาจำหน่ายทั้งปลีก-ส่ง เครื่องดื่มเบียร์ ลีโอ 12-18 บาท โดยได้เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา
วันนี้( 2 ก.ค.65) นายภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา เบียร์ ลีโอ ได้มีการปรับขึ้นราคาขายปลีกและขายส่งดังนี้ ขวดใหญ่ (62 0ml) ปรับขึ้น 12 บาทต่อลัง หรือเท่ากับปรับขึ้น 1 บาทต่อขวด, ขวดเล็ก (320 ml) ปรับขึ้น 18 บาทต่อลัง หรือเฉลี่ยขวดละ 0.75 บาท ส่วนกระป๋องยาว (490 ml) ปรับขึ้น 11 บาทต่อลัง หรือ 0.90 บาทต่อกระป๋อง และ กระป๋องสั้น (320 ml) ปรับขึ้น 18 บาทต่อลังหรือกระป๋องละ 0.75 บาท
สำหรับราคาขายปลีกเบียร์ ลีโอ จะเพิ่มขึ้นลังละ 12 บาท และถาดละ 18 บาท ทำให้ราคาเบียร์ลีโอขวดใหญ่จะอยู่ที่ขายส่ง 616 บาทต่อลัง ขายปลีก 626 บาทต่อลัง และ 59 บาทต่อขวด ส่วนกระป๋องเล็กอยู่ที่ขายส่ง 750 บาทต่อถาด ขายปลีก 762 บาทต่อถาด และ 39 บาทต่อกระป๋อง
ทั้งนี้บริษัทยืนยันว่าไม่มีนโยบายในการปรับลดปริมาณสินค้าอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทพยายามตรึงราคาเบียร์ลีโอ โดยไม่มีการปรับขึ้นราคาหรือลดปริมาณสินค้าทุกขนาดบรรจุมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 ในขณะที่สถานการณ์ต้นทุนการผลิตสินค้าปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาพลังงาน และวัตถุดิบ เพื่อลดผลกระทบต่อผู้บริโภคในสถานการณ์ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้บุญรอดฯ มีแผนจะปรับขึ้นราคา ลีโอ มาแล้วครั้งหนึ่งตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ได้ชะลอไว้ก่อน เนื่องจากรอดูความชัดเจนในเรื่องของแนวโน้มราคาน้ำมันและภาพรวมของกำลังซื้อในตลาด ส่วนเบียร์ยี่ห้ออื่นต่างทยอยปรับขึ้นราคาในระดับ 10-50 บาท ไปก่อนหน้าแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ช้าง คลาสสิคเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม เช่นเดียวกับไฮเนเก้นและสิงห์
ข้อมูลจาก : บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด