ผมเรียนอยู่แถวรังสิต เป็น น.ศ ปี 4 ในตอนนี้ กำลังอยู่ในช่วงใกล้จบ ผมมีเรื่องจะมาเล่าผ่านพานทิปให้ทุกคนได้ฟังผมไม่เคยเล่าให้ให้ได้ฟังเลยยกเว้นคนที่สนิทจริงๆวันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องราวชิวิตของ น.ศ คนหนึ่ง ที่กำลังเรียนปี3อยู่ เป็นเรื่องราวที่ทำให้ผมจำไม่ลืมและมันทำให้โลกของผมพังทลายเช่นกัน.....
ในช่วงปีที่3 ผมกำลังศึกษาอยู่มหาลัยแถวรังสิต ผมเป็นนิสัยร่าเริ่งด้วยปกติพูดเก่งแต่ไม่ค่อยมีเพื่อน ช่วงนั้นเป็นช่วงที่แม่ผมป่วยด้วยไม่รู้สาเหตุ (จริงๆมีสาเหตุแต่ไม่มีใครบอก) ผมคิดว่าแม่ป่วยเพราะพักผ่อนน้อยหรือแม่อาจจะเป็นโรคประจำตัว จนนับวันอาการแม่ยิ่งแย่ลงมากขึ้น จนต้องเข้ารับการรักษาให้อยู่ภายใต้การดูแลจากคุณหมอ อย่างใกล้ชิด ตอนนั้นผมถามพ่อว่าตกลงแล้วแม่เป็นอะไรกันแน่ แต่พ่อผมบอกว่าแม่เป็นโรคตับ แต่แม่ผมไม่เคยดื่มเบียร์หรือเหล้าเลยเพราะแม่แพ้ ผมรู้ว่าพ่อโกหก จนกระทั้งตอนที่ผมกำลังจะไปเยียมแม่เนื่องจากตอนนั้นมีสอบของมหาลัยเลยยังไม่สามารถไปหาได้เลย จนแม่เกิดอาการชักอย่างรุนแรงจนสมองเขาไม่สามารบรับรู้อะไรได้ ผมรู้ข่าวก็ได้ทิ้งการสอบทุกอย่างแล้วนั่งรถกลับบ้านที่ต่างจังหวัดทันที สภาพที่ผมเห็นคือ คุณแม่มีเครื่องช่วยหายกับเครื่องอะไรไม่รู้ที่ผมไม่รู้จักลอมรอบตัวแม่เต็มเลย พอมาถึงผมได้โดนพี่น้องฝังแม่ด่าว่า "ไม่มาดูแลแม่ไม่รอให้แม่เป็นไรก่อนเลยละ การเรียนกับแม่คิดว่าอะไรสำคัญกว่า" ผมจุกจนพูดไม่ออกเลย ขอเล่าย้อนความครับ สมัยก่อนผมไม่ค่อยกลับบ้านบ่อย พี่น้องฝังแม่เลยคิดว่าผมไม่เคยมาดูแม่เลย สาเหตุที่ผมไม่ค่อยกับไปเพราะตอนนั้นเรามีเรื่องฝังใจตอนเด็กเคยโดนพี่ชายแถวนั้นข่มขืนผมตอนป4ผมเลยหาทางออกจากบ้านเพราะไม่อยากกลับมาเจอมัน ผมไม่เคยเล่าให้พ่อหรือแม่ฟังเลย นี้เป็นสาเหตุหลักๆของผม แต่บ้างส่วนเรากลับมาบ้านแล้วเรารู้สึกว่าพี่น้องฝังแม่ไม่ต่อยยอมรับในตัวผม เพราะไม่ใช่คนเก่ง เรียนไม่ได้ดีอะไร ไม่มีอะไรที่ทำให้ครอบครัวภูมิใจ ในตอนนั้นมันเป็นความรู้สึกเหมือนเราไม่เคยถูกในสายตาใคร แต่มีพ่อกับแม่นี้ล่ะที่เชื่อในตัวผมว่าจะสำเสร็จในชีวิตได้สักวัน ผมได้ความคิดมองโลกในแง่ดีมากจากพ่อกับแม่ จนกระทั้งแม่ป่วย ผมได้แต่ปลอมใจตัวเองว่าแม่จะหายแม่จะไม่เป็นไร........
มีอยู่วันหนึ่งผมได้ยินพยาบาลถามว่า "ผมเป็นลูกของสามีคนไหนของแม่" ผมเลยงง กับคำพูดเขา ผมเลยบอกไป "แม่ผมมีแค่พ่อกับผมไม่มีครอบครัวอื่น" จากนั้นเขาก็เงียบไป แล้วเขาก็เดินมาบอกว่า "ไปคุยกับคุณพ่อให้เรียบร้อยว่าแม่เป็นอะไร" ผมงงแล้วเดินไปหาพ่อที่นั่งข้างผมได้แกล้งๆบอกว่าผมรู้แล้วนะว่าแม่เป็นไร พ่อบอกว่าใช่แม่เป็นเอดส์ระยะสุดท้าย ผมตกใจในคำตอบนั้นมากได้แต่คิดว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมแม่ถึงเป็นโรคนี้ สุดท้ายพ่อมาเฉลยเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่จนจบ คือ ตอนที่ผมอยู่ ม.ต้น แม่ได้มีเพื่อนคนหนึ่งซึ้งคนนี้เขาเป็นตำตรวจเป็นเพื่อนของเพื่อนแม่อีกที พวกเขาไปเทียวด้วยกันแล้วแม่ผมเมาถึงเขาจะกินเหล้าเบียร์ไม่ได้แต่เขากินสปายได้แต่ก็เมาเหมือนกัน พ่อเล่าให้ฟังว่าเพื่อนพ่อเขาไปเจอแม่เขาโรงแรมกับผู้ชายคนนั้นพ่อผมรู้เรื่องนั้นทำให้ตอนนั้นพ่อแม่ผมกำลังจะเลิกกัน แต่เพราะตอนนั้นผมเดินไปหาพ่อทำให้พ่อเขาหยุดความคิดเพราะสงสารกลัวว่าผมจะเป็นเด็กมีปัญหาตอนนั้นเขามองหน้าผม ผมยังจำแววตาของพ่อในวันนั้นได้ดี มันคือแววตาที่เศร้ามากๆ ใบหน้าพ่อยิ้มให้ผมพร้อมบอกว่า พ่อจะไม่ทิ้งหนูไปไหน จนวันหนึ่ง มีคนมาบอกพ่อว่าคนที่แม่ผมเข้าโรงแรมด้วยเป็นเอดส์ พ่อผมเลยบอกให้แม่ไปตรวจเลือด แต่ท่านไม่ยอมไปอาจจะกลัวว่าถ้าเจอจะเกิดเรื่องที่ทำให้พ่อผมเขาทิ้งแม่ไป แต่ทุกอย่างเริ่มค่อยถูกเปิดเผยเพราะเมียของผู้ชายคนนั้นได้มาหาแม่ที่บ้านแต่ไม่เจอแม่แต่กลับเจอพี่สาวแม่แทน เขาได้บอกให้แม่ผมไปตรวจรักษาเพราะตัวเมียของผู้ชายคนนั้นเขาก็เป็นแต่รักษาอยู่ แม่ผมพอรู้เรื่องก็โมโหมากถึงขนาดจะไปหาเมียของผู้ชายที่บ้านของเขา แต่สุดท้ายก็ได้พ่อค่อยห้าม ถึงยังไงถึงพ่อจะไม่รู้ว่าแม่ผมเป็นมั้ยแต่สิ่งที่ตามมาคือ พ่อผมโดนเพื่อนในสมาคมนิทาลับหลังเรื่องเกี่ยวกับแม่จนพ่อไม่สามารถไปออกงานได้เหมือนเมื่อก่อน พ่อได้แต่เก็บตัวทำงานอย่างเดี่ยวเพื่อหาเงินมาให้ครอบครัวในขณะที่แม่เขาเริ่มใช่เงินเยอะมากๆจากเดือนล่ะ50000 ไปถึงเดือนล่ะ 100000 พ่อผมมีธุระกิจส่งข้าวออกขอกประเทศในสมั้ยที่ยังไม่มีนายกแบบนี้มาปกครอง ถึงพ่อผมจะสงสัยแต่ไม่เคยถามเลย จนปันจุบัน ในตอนนี้มันชัดเจนแล้วว่าแม่เป็นเพราะอะไร ผมเสียใจมากๆกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เคยคิว่าจะมาเกิดกับครอบครัวเรา ในวันที่แม่เริ่มจะไม่ไหวแล้วเรื่องจากไม่สามารถรักษาได้เพราะมันเป็นระยะสุดท้าย ผมได้อยู่ข้างๆเตียงแม่แล้วนั่งคุยกับแม่เรื่องที่มหาลัย ผมบอกแม่ว่าอยู่รอรับปริญญาตรีหนูนะแม่ แม่ยิ้มแล้วบอกจะไปงานรับปริญญาหนูแน่นอน แล้วผมตัดสินใจถามแม่ไปว่าแม่เป็นอะไร แม้กระทั้งตอนนี้แม่ยังโกหกผมเพื่อให้ผมสบายใจ ผมได้บอกแม่ไปว่าผมรู้ความจริงทั้งหมดแล้ว แม่ผมยกมือขอโทษผม บอก แม่ขอโทษนะลูก แม่ขอโทษพร้อมน้ำตา ผมได้แต่ยิ้มแล้วบอกว่าไม่เป็นไรเราเริ่มต้นใหม่ได้ให้แม่หายเราค่อยไปเริ่มต้นใหม่กันทั้งๆที่รู้ว่ามันเหลือเวลาไม่มากแล้ววันนั้นแม่ผมยิ้มให้ผมคุยกับผมมากกว่าวันไหนๆ มีความสุขและเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เห็น วันที่แม่เสียผมได้เขาข้าวมาให้เขากินแต่เขากินไม่ลงผมได้แต่นอนข้างๆแม่จนแม่ผมหลับไปแบบไม่มีวันตื่นอีกเลย ผมจับมือแม่ไม่ปล่อยทั้งที่รู้ว่าแม่จากไปแล้วแต่ผมไปยอมปล่อยจนกระทั้งสัปเสร่อมาดึงผมออกไป ผมเป็นช่วยสัปเสร่อทำศพให้แม่ตอนนั้นผมได้แต่เขาไปจับมือที่เย็นเฉียบของแม่ แม่ทั้งแม่เสียเขายังยิ้มให้ผมก่อนจะไป ในงานศพแม่ เรื่องที่แม่เป็นเอดส์เริ่มกระจ่ายไปทั่วทำให้คนแถวนั้นพูดกันว่าพ่อผมเป็นคนทำให้แม่เป็นและผมอาจจะเป็นด้วยเพราะอยู่ด้วยกัน ในตอนนั้นพ่อผมโดนพี่น้องแม่ด่าว่าพ่อเป็นคนทำให้แม่ตายส่วนผมก็โดนด่าว่าเป็นลูกเนตรคุณ เพราะตอนที่แม่อยู่ทำไมไม่มาดูแม่ แต่ความจริงนั้นผมกับพ่อรู้ดี พอแม่เสียเลยทำให้รู้ว่าแม่เป็นหนี้เยอะมากเกือบ5แสน ตอนนั้นพ่อผมเครียดมากเพราะตอนนี้พ่อไม่มีอาชีพอะไรแล้ว แต่เราก็ผ่านมาได้เพราะได้เงินประกัน แต่ยังไงสะคนแถวนั้นก็ยังมองพ่อกับผมเป็นแบบนั้นอยู่ดี ผมได้ทำงานช่วยพ่อทุกอย่าง แม้กระทั้งทำงานด้านมืดผมก็ทำเพื่อให้เราอยู่รอดแต่ไม่ได้ขายยาหรือส่งยานะครับ ผมเสียใจทุกวัน ร้องไห้ทุกคืน ฝันเห็นแม่ตลอด เป็นเกือบ3เดือน จนตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้วแต่ผมก็ยังเศร้ากับการจากไปของแม่อยู่ทุกครั้งที่คิดถึง
ขอบคุณท่านผู้อ่านที่อ่านจนจบนะครับขอขอบคุณที่เข้ามาฟังในสิ่งที่ผมอยากจะเล่านะครับ
ผมมีเรื่องจะมาระบาย ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร
ในช่วงปีที่3 ผมกำลังศึกษาอยู่มหาลัยแถวรังสิต ผมเป็นนิสัยร่าเริ่งด้วยปกติพูดเก่งแต่ไม่ค่อยมีเพื่อน ช่วงนั้นเป็นช่วงที่แม่ผมป่วยด้วยไม่รู้สาเหตุ (จริงๆมีสาเหตุแต่ไม่มีใครบอก) ผมคิดว่าแม่ป่วยเพราะพักผ่อนน้อยหรือแม่อาจจะเป็นโรคประจำตัว จนนับวันอาการแม่ยิ่งแย่ลงมากขึ้น จนต้องเข้ารับการรักษาให้อยู่ภายใต้การดูแลจากคุณหมอ อย่างใกล้ชิด ตอนนั้นผมถามพ่อว่าตกลงแล้วแม่เป็นอะไรกันแน่ แต่พ่อผมบอกว่าแม่เป็นโรคตับ แต่แม่ผมไม่เคยดื่มเบียร์หรือเหล้าเลยเพราะแม่แพ้ ผมรู้ว่าพ่อโกหก จนกระทั้งตอนที่ผมกำลังจะไปเยียมแม่เนื่องจากตอนนั้นมีสอบของมหาลัยเลยยังไม่สามารถไปหาได้เลย จนแม่เกิดอาการชักอย่างรุนแรงจนสมองเขาไม่สามารบรับรู้อะไรได้ ผมรู้ข่าวก็ได้ทิ้งการสอบทุกอย่างแล้วนั่งรถกลับบ้านที่ต่างจังหวัดทันที สภาพที่ผมเห็นคือ คุณแม่มีเครื่องช่วยหายกับเครื่องอะไรไม่รู้ที่ผมไม่รู้จักลอมรอบตัวแม่เต็มเลย พอมาถึงผมได้โดนพี่น้องฝังแม่ด่าว่า "ไม่มาดูแลแม่ไม่รอให้แม่เป็นไรก่อนเลยละ การเรียนกับแม่คิดว่าอะไรสำคัญกว่า" ผมจุกจนพูดไม่ออกเลย ขอเล่าย้อนความครับ สมัยก่อนผมไม่ค่อยกลับบ้านบ่อย พี่น้องฝังแม่เลยคิดว่าผมไม่เคยมาดูแม่เลย สาเหตุที่ผมไม่ค่อยกับไปเพราะตอนนั้นเรามีเรื่องฝังใจตอนเด็กเคยโดนพี่ชายแถวนั้นข่มขืนผมตอนป4ผมเลยหาทางออกจากบ้านเพราะไม่อยากกลับมาเจอมัน ผมไม่เคยเล่าให้พ่อหรือแม่ฟังเลย นี้เป็นสาเหตุหลักๆของผม แต่บ้างส่วนเรากลับมาบ้านแล้วเรารู้สึกว่าพี่น้องฝังแม่ไม่ต่อยยอมรับในตัวผม เพราะไม่ใช่คนเก่ง เรียนไม่ได้ดีอะไร ไม่มีอะไรที่ทำให้ครอบครัวภูมิใจ ในตอนนั้นมันเป็นความรู้สึกเหมือนเราไม่เคยถูกในสายตาใคร แต่มีพ่อกับแม่นี้ล่ะที่เชื่อในตัวผมว่าจะสำเสร็จในชีวิตได้สักวัน ผมได้ความคิดมองโลกในแง่ดีมากจากพ่อกับแม่ จนกระทั้งแม่ป่วย ผมได้แต่ปลอมใจตัวเองว่าแม่จะหายแม่จะไม่เป็นไร........
มีอยู่วันหนึ่งผมได้ยินพยาบาลถามว่า "ผมเป็นลูกของสามีคนไหนของแม่" ผมเลยงง กับคำพูดเขา ผมเลยบอกไป "แม่ผมมีแค่พ่อกับผมไม่มีครอบครัวอื่น" จากนั้นเขาก็เงียบไป แล้วเขาก็เดินมาบอกว่า "ไปคุยกับคุณพ่อให้เรียบร้อยว่าแม่เป็นอะไร" ผมงงแล้วเดินไปหาพ่อที่นั่งข้างผมได้แกล้งๆบอกว่าผมรู้แล้วนะว่าแม่เป็นไร พ่อบอกว่าใช่แม่เป็นเอดส์ระยะสุดท้าย ผมตกใจในคำตอบนั้นมากได้แต่คิดว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมแม่ถึงเป็นโรคนี้ สุดท้ายพ่อมาเฉลยเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่จนจบ คือ ตอนที่ผมอยู่ ม.ต้น แม่ได้มีเพื่อนคนหนึ่งซึ้งคนนี้เขาเป็นตำตรวจเป็นเพื่อนของเพื่อนแม่อีกที พวกเขาไปเทียวด้วยกันแล้วแม่ผมเมาถึงเขาจะกินเหล้าเบียร์ไม่ได้แต่เขากินสปายได้แต่ก็เมาเหมือนกัน พ่อเล่าให้ฟังว่าเพื่อนพ่อเขาไปเจอแม่เขาโรงแรมกับผู้ชายคนนั้นพ่อผมรู้เรื่องนั้นทำให้ตอนนั้นพ่อแม่ผมกำลังจะเลิกกัน แต่เพราะตอนนั้นผมเดินไปหาพ่อทำให้พ่อเขาหยุดความคิดเพราะสงสารกลัวว่าผมจะเป็นเด็กมีปัญหาตอนนั้นเขามองหน้าผม ผมยังจำแววตาของพ่อในวันนั้นได้ดี มันคือแววตาที่เศร้ามากๆ ใบหน้าพ่อยิ้มให้ผมพร้อมบอกว่า พ่อจะไม่ทิ้งหนูไปไหน จนวันหนึ่ง มีคนมาบอกพ่อว่าคนที่แม่ผมเข้าโรงแรมด้วยเป็นเอดส์ พ่อผมเลยบอกให้แม่ไปตรวจเลือด แต่ท่านไม่ยอมไปอาจจะกลัวว่าถ้าเจอจะเกิดเรื่องที่ทำให้พ่อผมเขาทิ้งแม่ไป แต่ทุกอย่างเริ่มค่อยถูกเปิดเผยเพราะเมียของผู้ชายคนนั้นได้มาหาแม่ที่บ้านแต่ไม่เจอแม่แต่กลับเจอพี่สาวแม่แทน เขาได้บอกให้แม่ผมไปตรวจรักษาเพราะตัวเมียของผู้ชายคนนั้นเขาก็เป็นแต่รักษาอยู่ แม่ผมพอรู้เรื่องก็โมโหมากถึงขนาดจะไปหาเมียของผู้ชายที่บ้านของเขา แต่สุดท้ายก็ได้พ่อค่อยห้าม ถึงยังไงถึงพ่อจะไม่รู้ว่าแม่ผมเป็นมั้ยแต่สิ่งที่ตามมาคือ พ่อผมโดนเพื่อนในสมาคมนิทาลับหลังเรื่องเกี่ยวกับแม่จนพ่อไม่สามารถไปออกงานได้เหมือนเมื่อก่อน พ่อได้แต่เก็บตัวทำงานอย่างเดี่ยวเพื่อหาเงินมาให้ครอบครัวในขณะที่แม่เขาเริ่มใช่เงินเยอะมากๆจากเดือนล่ะ50000 ไปถึงเดือนล่ะ 100000 พ่อผมมีธุระกิจส่งข้าวออกขอกประเทศในสมั้ยที่ยังไม่มีนายกแบบนี้มาปกครอง ถึงพ่อผมจะสงสัยแต่ไม่เคยถามเลย จนปันจุบัน ในตอนนี้มันชัดเจนแล้วว่าแม่เป็นเพราะอะไร ผมเสียใจมากๆกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เคยคิว่าจะมาเกิดกับครอบครัวเรา ในวันที่แม่เริ่มจะไม่ไหวแล้วเรื่องจากไม่สามารถรักษาได้เพราะมันเป็นระยะสุดท้าย ผมได้อยู่ข้างๆเตียงแม่แล้วนั่งคุยกับแม่เรื่องที่มหาลัย ผมบอกแม่ว่าอยู่รอรับปริญญาตรีหนูนะแม่ แม่ยิ้มแล้วบอกจะไปงานรับปริญญาหนูแน่นอน แล้วผมตัดสินใจถามแม่ไปว่าแม่เป็นอะไร แม้กระทั้งตอนนี้แม่ยังโกหกผมเพื่อให้ผมสบายใจ ผมได้บอกแม่ไปว่าผมรู้ความจริงทั้งหมดแล้ว แม่ผมยกมือขอโทษผม บอก แม่ขอโทษนะลูก แม่ขอโทษพร้อมน้ำตา ผมได้แต่ยิ้มแล้วบอกว่าไม่เป็นไรเราเริ่มต้นใหม่ได้ให้แม่หายเราค่อยไปเริ่มต้นใหม่กันทั้งๆที่รู้ว่ามันเหลือเวลาไม่มากแล้ววันนั้นแม่ผมยิ้มให้ผมคุยกับผมมากกว่าวันไหนๆ มีความสุขและเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เห็น วันที่แม่เสียผมได้เขาข้าวมาให้เขากินแต่เขากินไม่ลงผมได้แต่นอนข้างๆแม่จนแม่ผมหลับไปแบบไม่มีวันตื่นอีกเลย ผมจับมือแม่ไม่ปล่อยทั้งที่รู้ว่าแม่จากไปแล้วแต่ผมไปยอมปล่อยจนกระทั้งสัปเสร่อมาดึงผมออกไป ผมเป็นช่วยสัปเสร่อทำศพให้แม่ตอนนั้นผมได้แต่เขาไปจับมือที่เย็นเฉียบของแม่ แม่ทั้งแม่เสียเขายังยิ้มให้ผมก่อนจะไป ในงานศพแม่ เรื่องที่แม่เป็นเอดส์เริ่มกระจ่ายไปทั่วทำให้คนแถวนั้นพูดกันว่าพ่อผมเป็นคนทำให้แม่เป็นและผมอาจจะเป็นด้วยเพราะอยู่ด้วยกัน ในตอนนั้นพ่อผมโดนพี่น้องแม่ด่าว่าพ่อเป็นคนทำให้แม่ตายส่วนผมก็โดนด่าว่าเป็นลูกเนตรคุณ เพราะตอนที่แม่อยู่ทำไมไม่มาดูแม่ แต่ความจริงนั้นผมกับพ่อรู้ดี พอแม่เสียเลยทำให้รู้ว่าแม่เป็นหนี้เยอะมากเกือบ5แสน ตอนนั้นพ่อผมเครียดมากเพราะตอนนี้พ่อไม่มีอาชีพอะไรแล้ว แต่เราก็ผ่านมาได้เพราะได้เงินประกัน แต่ยังไงสะคนแถวนั้นก็ยังมองพ่อกับผมเป็นแบบนั้นอยู่ดี ผมได้ทำงานช่วยพ่อทุกอย่าง แม้กระทั้งทำงานด้านมืดผมก็ทำเพื่อให้เราอยู่รอดแต่ไม่ได้ขายยาหรือส่งยานะครับ ผมเสียใจทุกวัน ร้องไห้ทุกคืน ฝันเห็นแม่ตลอด เป็นเกือบ3เดือน จนตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้วแต่ผมก็ยังเศร้ากับการจากไปของแม่อยู่ทุกครั้งที่คิดถึง
ขอบคุณท่านผู้อ่านที่อ่านจนจบนะครับขอขอบคุณที่เข้ามาฟังในสิ่งที่ผมอยากจะเล่านะครับ