สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ผม 20000 ไม่มีลูก อยากกิน ก็กิน อยากเที่ยวก็เที่ยว 2 คนผัวเมีย เงินเดือน รวม 40000 ผมรับจ๊อบอีกเดือนละ 6000 หนี้สินไม่มี มีบ้าน กับ มอไซด์ ขี่มอไซด์ทำงานทุกวันไปกลับ 40 โล ไปส่งของเติมน้ำมันเบิก บริษัท เหลือขี่กับบ้าน เดือนนึง 2 ผัวเมีย ใช้ไม่เกิน 8000 ไม่กล้าซื้อรถเก๋ง เพราะ พักที่คอนโด รถเจ้าของห้องเสียค่าจอด 2500/เดือน (อันนี้ไม่ไหว)
ทุกวันนี้ไม่ฟุ่มเฟือย เงินเหลือ ซื้อกองทุนเก็บไว้
ความสุขทุกวันนี้ทีมีเพราะ
1. ลูกไม่มี
2. ไม่เครียด ไม่อารมณ์ร้อน
ส่วนอนาคต ผมว่าสังคมในเมืองหลวง สำหรับผม ไม่น่าอยู่ ผู้คนไม่ลดราวาศอก อารมณ์ร้อน ไม่ค่อยเคารพ กฎหมายหรือสิ่งที่เป็นพื้นฐานของการอยู่ร่วมกัน อนาคต ผมอยากมีบ้าน กลางทุ่งนา ปลูกผัก ทำนา เลี้ยงสัตว์ ใช้ชีวิตผู้สูงวัยแค่นี้ก็พอแล้ว
ทุกวันนี้ไม่ฟุ่มเฟือย เงินเหลือ ซื้อกองทุนเก็บไว้
ความสุขทุกวันนี้ทีมีเพราะ
1. ลูกไม่มี
2. ไม่เครียด ไม่อารมณ์ร้อน
ส่วนอนาคต ผมว่าสังคมในเมืองหลวง สำหรับผม ไม่น่าอยู่ ผู้คนไม่ลดราวาศอก อารมณ์ร้อน ไม่ค่อยเคารพ กฎหมายหรือสิ่งที่เป็นพื้นฐานของการอยู่ร่วมกัน อนาคต ผมอยากมีบ้าน กลางทุ่งนา ปลูกผัก ทำนา เลี้ยงสัตว์ ใช้ชีวิตผู้สูงวัยแค่นี้ก็พอแล้ว
ความคิดเห็นที่ 10
อยากขอแนวทางไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของท่านครับ โสดหรือมีครอบครัว กินอยู่วันละเท่าไร เดินทางยังไง บ้านต้องเช่าหรือเปล่า เลี้ยงดูพ่อแม่ไหม ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยกับเรื่องอะไรบ้าง แล้ววางแผนการออมเผื่ออนาคตสำหรับเกษียณยังไงครับ
...............................................................................................................................................................................................
เรามีสามีใช้ชีวิตอยู่กันสองคน ไม่มีลูก ไม่มีหลาน ไม่มีทายาท
ทำกับข้าวกินเองเกือบทุกมื้อ ซื้อผัก,เนื้อปลา เนื้อหมู เนื้อไก่ กุ้ง ปลาหมึกฯลฯ จ่ายตลาด ซื้อของในซุเปอร์มาร์เก็ตอาทิตย์ละ2ครั้ง (ครั้งนึงจ่ายเงินประมาณ1พันบาท อาทิตย์นึงจ่ายเงินซื้อของกิน ของใช้ในบ้านที่จำเป็นๆ รวมๆแล้วพยายามไม่เกิน2,500บาท/สัปดาห์
เดินทาง ระยะทางไม่เกิน5กิโลเมตร เราเดินเท้าไป-กลับ ถ้าไกลกว่านั้นก็รถเมล์ รถไฟ
ที่บ้านมีรถเก่าๆอยู่1คัน ใช้งานมา14-15ปีแล้ว ใช้งานตอนไปต่างจังหวัดช่วงวันหยุด ในวันธรรมดาไม่ได้ใช้รถ
บ้านไม่ได้เช่า ซื้ออยู่อาศัย(ปลอดภาระหนี้สิน)
เราไม่ได้เลี้ยงดูพ่อแม่แล้ว เพราะพ่อแม่เราเสียชีวิตหมดแล้ว ปู่ย่าตายายก็เสียชีวิตหมดแล้ว ทุกวันนี้ไม่ต้องส่งเงินให้ทางบ้านแล้ว
เมื่อก่อนใช้จ่ายฟุ่มเฟือยไปกับพวกสินค้าแบรนด์เนมทั้งหลาย พอเจอภัยพิบัติทางธรรมชาติ เจอแผ่นดินไหว เจอสึนามิ เราหอบของแบรนด์เนมขายเกือบหมดตู้ รวมถึงพวกเหรียญกษาปณ์ ธนบัตรที่ระลึก และพระเครื่องด้วย (เป็นผู้หญิงแต่ชอบเก็บสะสมพระเครื่อง เวลาไปวัดชอบเช่ามาบูชา แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยแล้ว เน้นสะสมแต่ท้าวเวสสุวรรณเป็นส่วนใหญ่ค่ะ) แล้วหลังจากนั้นเป็นต้นมาเลิกซื้อของแบรนด์เนมไปเลยโดยปริยาย เหรียญกษาปณ์ ธนบัตรที่ระลึกก็ไม่สะสมอีกเลย แสตมป์ โปสการ์ดก็ไม่สะสมเช่นกัน นึกถึงตอนหอบข้าวของหนีแผ่นดินไหวกับสึนามิ ยังกลัวไม่หาย มีของมากยิ่งมีห่วงมาก และหนักมากด้วย บทเรียนครั้งนั้นมันสอนเราให้คิดได้ว่า เมื่อมีภัย สลัดข้าวของพวกนี้ออกจากตัวให้หมด ตัวจะเบาขึ้น ทำให้คล่องตัวมากขึ้น หนีได้เร็วยิ่งขึ้น
หลังจากนั้น เปลี่ยนมาซื้อทองคำแท่ง ทองรูปพรรณเก็บสะสม ฉุกเฉินต้องการใช้เงินด่วนขายได้ง่าย ได้เงินสดมาอยู่ในมือไวดี
ปลูกพืชผักสวนครัวกินเอง จะได้ไม่ต้องซื้อเขากินไปซะทุกสิ่งอย่าง พริก ตะไคร้ เด็ดๆล้าง แล้วใส่ช่องแช่แข็ง เก็บไว้กินได้นานเป็นปีเลยนะ
อาทิตย์ที่แล้วเพิ่งหว่านเมล็ดผักชี (ต้นรุ่นก่อนปล่อยให้แก่ออกดอก มีเมล็ด รอเมล็ดแก่จัดก็รูดๆเมล็ดหว่านลงกระถางปลูกต่อ)
ปลูกเอง กินเอง ปลอดสารพิษ ปลอดยาฆ่าแมลง มีเยอะแบ่งปันให้เพื่อนบ้านด้วย



วางแผนการออมเพื่ออนาคต วัยเกษียณอย่างไร?
ตอนนี้ฝากเงินไว้ในธนาคาร ส่วนหนึ่ง
มีทองคำแท่ง ทองรูปพรรณเก็บสะสมไว้ส่วนหนึ่ง
เก็บเงินบาทไทย และเงินตราต่างประเทศ(เงินเยนญี่ปุ่น)
เพิ่งเริ่มซื้อกองทุนรวมมาได้3เดือนกว่า เดือนกรกฎาคมจะเข้าเดือนที่สี่ของการลงทุน (ลงทุนระยะยาว ซื้อกองทุนรวม20ปี ไม่มีปันผล ไม่เสียภาษี ครบ20ปีบังคับถอนกองทุนรวม ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ถึงตอนนั้นก็จะได้มีเงินก้อนนี้ไว้เลี้ยงดูตนเองยามแก่ตัวลง แต่ถ้าเราตายก่อน เงินก้อนนี้เราขอยกให้สามีทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว)
พยายามไม่เป็นหนี้ ใช้ชีวิตพอเพียง พอประมาณ ไม่เบียดเบียนใคร ไม่สร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้ใคร พยายามพึ่งพาตนเองเป็นหลัก
ปีหนึ่งเราจะซื้อของขวัญวันเกิด/ของขวัญคริสต์มาส/ของขวัญปีใหม่ให้ตัวเองช่วงปลายปีของทุกปีค่ะ(ปีละครั้ง) เลือกซื้อของที่มีค่าและเป็นของที่เพิ่มมูลค่าได้ ขายได้ จำนำได้ ส่วนมากเราเลือกซื้อทองคำให้ของขวัญให้รางวัลชีวิตตัวเอง นอกนั้นมีของกระจุกกระจิกบ้างเล็กๆน้อยๆ
ทั้งตัวเราเองและสามีเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง ไม่ค่อยเข้าสังคม ชอบอยู่ติดบ้าน ไปไหนมาไหนตามลำพัง ไม่ติดเพื่อน ชอบสันโดษ รักอิสระ
เงินเข้ามือมา แบ่งฝากธนาคารก่อนเป็นอันดับแรก
สำหรับให้ธนาคารหักค่ากองทุนรวม และค่าใช้จ่ายของบัตรเครดิต (จ่ายเต็มจำนวน ตรงเวลา ไม่จ่ายผ่อน ไม่จ่ายขั้นต่ำ)
ออมเงินไว้อีกส่วนสำหรับอนาคตวันข้างหน้า
จดบัญชีรายรับ-รายจ่าย เห็นพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินของตัวเองได้อย่างชัดเจน
กันเงินค่ากับข้าวไว้ส่วนหนึ่ง กันเงินไว้สำหรับค่าหมอค่ายาอีกส่วนหนึ่ง
ที่เหลือเก็บสะสมไว้ซื้อของขวัญวันเกิด/ของขวัญคริสต์มาส/ของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง จะได้เป็นกำลังใจ เป็นแรงจูงใจให้ตัวเองเก็บหอมรอมริบต่อในปีต่อๆไป
...............................................................................................................................................................................................
เรามีสามีใช้ชีวิตอยู่กันสองคน ไม่มีลูก ไม่มีหลาน ไม่มีทายาท
ทำกับข้าวกินเองเกือบทุกมื้อ ซื้อผัก,เนื้อปลา เนื้อหมู เนื้อไก่ กุ้ง ปลาหมึกฯลฯ จ่ายตลาด ซื้อของในซุเปอร์มาร์เก็ตอาทิตย์ละ2ครั้ง (ครั้งนึงจ่ายเงินประมาณ1พันบาท อาทิตย์นึงจ่ายเงินซื้อของกิน ของใช้ในบ้านที่จำเป็นๆ รวมๆแล้วพยายามไม่เกิน2,500บาท/สัปดาห์
เดินทาง ระยะทางไม่เกิน5กิโลเมตร เราเดินเท้าไป-กลับ ถ้าไกลกว่านั้นก็รถเมล์ รถไฟ
ที่บ้านมีรถเก่าๆอยู่1คัน ใช้งานมา14-15ปีแล้ว ใช้งานตอนไปต่างจังหวัดช่วงวันหยุด ในวันธรรมดาไม่ได้ใช้รถ
บ้านไม่ได้เช่า ซื้ออยู่อาศัย(ปลอดภาระหนี้สิน)
เราไม่ได้เลี้ยงดูพ่อแม่แล้ว เพราะพ่อแม่เราเสียชีวิตหมดแล้ว ปู่ย่าตายายก็เสียชีวิตหมดแล้ว ทุกวันนี้ไม่ต้องส่งเงินให้ทางบ้านแล้ว
เมื่อก่อนใช้จ่ายฟุ่มเฟือยไปกับพวกสินค้าแบรนด์เนมทั้งหลาย พอเจอภัยพิบัติทางธรรมชาติ เจอแผ่นดินไหว เจอสึนามิ เราหอบของแบรนด์เนมขายเกือบหมดตู้ รวมถึงพวกเหรียญกษาปณ์ ธนบัตรที่ระลึก และพระเครื่องด้วย (เป็นผู้หญิงแต่ชอบเก็บสะสมพระเครื่อง เวลาไปวัดชอบเช่ามาบูชา แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยแล้ว เน้นสะสมแต่ท้าวเวสสุวรรณเป็นส่วนใหญ่ค่ะ) แล้วหลังจากนั้นเป็นต้นมาเลิกซื้อของแบรนด์เนมไปเลยโดยปริยาย เหรียญกษาปณ์ ธนบัตรที่ระลึกก็ไม่สะสมอีกเลย แสตมป์ โปสการ์ดก็ไม่สะสมเช่นกัน นึกถึงตอนหอบข้าวของหนีแผ่นดินไหวกับสึนามิ ยังกลัวไม่หาย มีของมากยิ่งมีห่วงมาก และหนักมากด้วย บทเรียนครั้งนั้นมันสอนเราให้คิดได้ว่า เมื่อมีภัย สลัดข้าวของพวกนี้ออกจากตัวให้หมด ตัวจะเบาขึ้น ทำให้คล่องตัวมากขึ้น หนีได้เร็วยิ่งขึ้น
หลังจากนั้น เปลี่ยนมาซื้อทองคำแท่ง ทองรูปพรรณเก็บสะสม ฉุกเฉินต้องการใช้เงินด่วนขายได้ง่าย ได้เงินสดมาอยู่ในมือไวดี
ปลูกพืชผักสวนครัวกินเอง จะได้ไม่ต้องซื้อเขากินไปซะทุกสิ่งอย่าง พริก ตะไคร้ เด็ดๆล้าง แล้วใส่ช่องแช่แข็ง เก็บไว้กินได้นานเป็นปีเลยนะ
อาทิตย์ที่แล้วเพิ่งหว่านเมล็ดผักชี (ต้นรุ่นก่อนปล่อยให้แก่ออกดอก มีเมล็ด รอเมล็ดแก่จัดก็รูดๆเมล็ดหว่านลงกระถางปลูกต่อ)
ปลูกเอง กินเอง ปลอดสารพิษ ปลอดยาฆ่าแมลง มีเยอะแบ่งปันให้เพื่อนบ้านด้วย



วางแผนการออมเพื่ออนาคต วัยเกษียณอย่างไร?
ตอนนี้ฝากเงินไว้ในธนาคาร ส่วนหนึ่ง
มีทองคำแท่ง ทองรูปพรรณเก็บสะสมไว้ส่วนหนึ่ง
เก็บเงินบาทไทย และเงินตราต่างประเทศ(เงินเยนญี่ปุ่น)
เพิ่งเริ่มซื้อกองทุนรวมมาได้3เดือนกว่า เดือนกรกฎาคมจะเข้าเดือนที่สี่ของการลงทุน (ลงทุนระยะยาว ซื้อกองทุนรวม20ปี ไม่มีปันผล ไม่เสียภาษี ครบ20ปีบังคับถอนกองทุนรวม ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ถึงตอนนั้นก็จะได้มีเงินก้อนนี้ไว้เลี้ยงดูตนเองยามแก่ตัวลง แต่ถ้าเราตายก่อน เงินก้อนนี้เราขอยกให้สามีทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว)
พยายามไม่เป็นหนี้ ใช้ชีวิตพอเพียง พอประมาณ ไม่เบียดเบียนใคร ไม่สร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้ใคร พยายามพึ่งพาตนเองเป็นหลัก
ปีหนึ่งเราจะซื้อของขวัญวันเกิด/ของขวัญคริสต์มาส/ของขวัญปีใหม่ให้ตัวเองช่วงปลายปีของทุกปีค่ะ(ปีละครั้ง) เลือกซื้อของที่มีค่าและเป็นของที่เพิ่มมูลค่าได้ ขายได้ จำนำได้ ส่วนมากเราเลือกซื้อทองคำให้ของขวัญให้รางวัลชีวิตตัวเอง นอกนั้นมีของกระจุกกระจิกบ้างเล็กๆน้อยๆ
ทั้งตัวเราเองและสามีเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง ไม่ค่อยเข้าสังคม ชอบอยู่ติดบ้าน ไปไหนมาไหนตามลำพัง ไม่ติดเพื่อน ชอบสันโดษ รักอิสระ
เงินเข้ามือมา แบ่งฝากธนาคารก่อนเป็นอันดับแรก
สำหรับให้ธนาคารหักค่ากองทุนรวม และค่าใช้จ่ายของบัตรเครดิต (จ่ายเต็มจำนวน ตรงเวลา ไม่จ่ายผ่อน ไม่จ่ายขั้นต่ำ)
ออมเงินไว้อีกส่วนสำหรับอนาคตวันข้างหน้า
จดบัญชีรายรับ-รายจ่าย เห็นพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินของตัวเองได้อย่างชัดเจน
กันเงินค่ากับข้าวไว้ส่วนหนึ่ง กันเงินไว้สำหรับค่าหมอค่ายาอีกส่วนหนึ่ง
ที่เหลือเก็บสะสมไว้ซื้อของขวัญวันเกิด/ของขวัญคริสต์มาส/ของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง จะได้เป็นกำลังใจ เป็นแรงจูงใจให้ตัวเองเก็บหอมรอมริบต่อในปีต่อๆไป
แสดงความคิดเห็น
คนเงินเดือนไม่เกิน 25k ที่ชีวิตครอบครัวการงานมีความสุข มีพอใช้ไม่ขัดสนเหลือเก็บออม มีบ้างไหม