ผมมีนิสัยเวลามีเห็นคนพวกเดียวกัน ทะเลาะกัน แตกคอกัน คนผิดใจกัน คนมีปัญหากัน คนเริ่มไม่ถูกกัน เป็นโอกาส
ผมมักจะมองสาเหตุว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร แล้วค่อยเสนอตัวเข้าไปช่วยแก้ปํญหาให้ ทำหน้าที่แทนคนที่มีปัญหา
สุดท้ายผมได้งาน ไอ้คนที่มีปัญหาฝั่งนึงโดนเขี่ยออก
โดยเฉพาะคนที่ผมไม่ชอบหน้า พอเห็นเขาเริ่มมีปัญหากับคนที่เขาทำงานด้วย ผมมักจะใช้โอกาสเข้าไปช่วยเหลือคนที่มีปัญหากับคนที่ผมหมั่นไส้
สุดท้ายผมได้งาน ไอ้คนที่ผมไม่ชอบหน้าโดนเขี่ยออก สะใจมาก
อีกสถานการณ์ เป็นกิ๊กกับแม่หม้ายลูกติด (แค่กิ๊กนะครับแต่ยังไม่ผูกมัด) แล้วลูกเขาก็โตพอสมควรทำงานแล้ว วันนึงลูกในไส้เขาทะเลาะกับแม่ทะเลาะแรงมากด้วย
ผมเลยถือโอกาสทำดียาวๆ ทำคะแนนยาวๆ สุดท้ายได้ส่วนแบ่งทรัพย์สิน ในส่วนที่เขาต้องให้ลูกตอนแรกจะไม่ให้ ตอนนี้แบ่งกับลูก 50%เลย
ประมาณว่าเห็นคนมีปัญหากัน แล้วชอบฉวยโอกาสทำดีใส่ ทำให้เขาที่จิตใจไม่มั่นคงรู้สึกอบอุ่น จนได้ผลประโยชน์
เลยสอบถามว่าวิธีแบบนี้ถือว่าไม่ดีหรือเปล่า โดนคอมเมนต์มาว่าไม่โอเคกับวิธีแบบนี้ โดนหาว่าเป็นมือที่ 3 (ทั้งๆที่ผมแค่ทำดีให้เฉยๆเจตนาอะไรผมก็ไม่ได้พูดอะไรนะ แค่เห็นโอกาสจึงทำดีใส่ตอนที่อีกฝ่ายจิตใจไม่มั่นคง)
มันข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้างครับ วิธีแบบนี้
แบบนี้เรียกมือที่ 3 ไหมครับ
ผมมักจะมองสาเหตุว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร แล้วค่อยเสนอตัวเข้าไปช่วยแก้ปํญหาให้ ทำหน้าที่แทนคนที่มีปัญหา
สุดท้ายผมได้งาน ไอ้คนที่มีปัญหาฝั่งนึงโดนเขี่ยออก
โดยเฉพาะคนที่ผมไม่ชอบหน้า พอเห็นเขาเริ่มมีปัญหากับคนที่เขาทำงานด้วย ผมมักจะใช้โอกาสเข้าไปช่วยเหลือคนที่มีปัญหากับคนที่ผมหมั่นไส้
สุดท้ายผมได้งาน ไอ้คนที่ผมไม่ชอบหน้าโดนเขี่ยออก สะใจมาก
อีกสถานการณ์ เป็นกิ๊กกับแม่หม้ายลูกติด (แค่กิ๊กนะครับแต่ยังไม่ผูกมัด) แล้วลูกเขาก็โตพอสมควรทำงานแล้ว วันนึงลูกในไส้เขาทะเลาะกับแม่ทะเลาะแรงมากด้วย
ผมเลยถือโอกาสทำดียาวๆ ทำคะแนนยาวๆ สุดท้ายได้ส่วนแบ่งทรัพย์สิน ในส่วนที่เขาต้องให้ลูกตอนแรกจะไม่ให้ ตอนนี้แบ่งกับลูก 50%เลย
ประมาณว่าเห็นคนมีปัญหากัน แล้วชอบฉวยโอกาสทำดีใส่ ทำให้เขาที่จิตใจไม่มั่นคงรู้สึกอบอุ่น จนได้ผลประโยชน์
เลยสอบถามว่าวิธีแบบนี้ถือว่าไม่ดีหรือเปล่า โดนคอมเมนต์มาว่าไม่โอเคกับวิธีแบบนี้ โดนหาว่าเป็นมือที่ 3 (ทั้งๆที่ผมแค่ทำดีให้เฉยๆเจตนาอะไรผมก็ไม่ได้พูดอะไรนะ แค่เห็นโอกาสจึงทำดีใส่ตอนที่อีกฝ่ายจิตใจไม่มั่นคง)
มันข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้างครับ วิธีแบบนี้