โมเมนต์ในครอบครัวเรา
-“ชนะครอบครัวแต่สายสัมพันธุ์ขาด” ประโยคนี้ไม่สามารถใช้ในครอบครัวเราได้
ตรงกันข้าม หากเราเลือกที่จะยอม ครอบครัวเราจะคิดว่าเราเนี่ยกดได้ง่าย
ยกตัวอย่าง คุณแม่ของเราท่านเป็นคนพูดไม่ค่อยคิดและมีนิสัยพูดไปเรื่อย หลายครั้งที่เราอารมณ์ดีท่านมักจะพูดให้เราหงุดหงิด ช่วงแรกๆเราปล่อยผ่านปรากฎท่านกลับยังคงพูดไปเรื่อย จนเราเปลี่ยนวิธีการใหม่เป็นฟันต่อฟัน
เมื่อท่านปากพล่อยเราก็เหวี่ยงกลับทุกครั้ง ในที่สุดท่านก็เริ่มรู้จักคิดก่อนพูด
-อย่าลืมเรื่องเก่าๆ ไม่ใช่เพื่อความแค้นแต่เอาไว้เป็นอาวุธเมื่ออีกฝ่ายหยิบเรื่องเก่ามาพูด
พี่สาวเรามักจะหยิบเรื่องเก่ามาด่า เราจึงต้องเก็บเรื่องเก่าที่พี่สาวทำไม่ดีมาด่ากลับ เพื่อให้อีกฝ่ายหยุด
-อย่ารักษาน้ำใจเมื่อถูกยัดเยียด
ช่วงที่เราได้งานใหม่ๆ คุณแม่ท่านคงมีท่าทางดีใจ จึงพาเราไปซื้อรองเท้าหนังสำหรับทำงาน แต่ร้านดังกล่าวมีราคาสูง เราจึงขอให้เปลี่ยนร้านแต่แม่ไม่สน แล้วยังเลือกซื้อรองเท้าราคาสูงให้ เราจึงอาศัยจังหวะที่พนักงานกำลังหารองเท้าให้หลังร้าน เดินออกไปจากร้านโดยไม่สนใจคุณแม่ที่พยายามโบกมือเรียกหรือพนักงานที่กำลังเรียกเรา
สุดท้ายเราจึงให้คุณแม่ซื้อรองเท้าหนัง ที่มีราคาถูกกว่าจนได้
-ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เราไม่ได้รับปาก
ครั้งหนึ่งหลังเลิกงานในวันทำงานสุดสัปดาห์พรุ่งนี้เราจะได้หยุด ปรากฎคุณแม่บอกเราให้ไปเยี่ยมคุณพ่อที่แยกทางกันไปแล้ว เราบอกว่าเราจะขอพักผ่อน แต่คุณแม่บอกเราว่าแม่บอกคุณพ่อไปแล้วว่าเราจะมาเยี่ยมวันพรุ่งนี้
เราจึงพูดไปว่านั้นปัญหาของแม่ ไม่ใช่ปัญหาของเรา คุณแม่ตัดสินใจเองโดยไม่ปรึกษาเราเอง
ใครมีโมเมนต์นี้บ้างว่า ครอบครัวเหมือนศัตรู แต่ยังรักนะ?
-“ชนะครอบครัวแต่สายสัมพันธุ์ขาด” ประโยคนี้ไม่สามารถใช้ในครอบครัวเราได้
ตรงกันข้าม หากเราเลือกที่จะยอม ครอบครัวเราจะคิดว่าเราเนี่ยกดได้ง่าย
ยกตัวอย่าง คุณแม่ของเราท่านเป็นคนพูดไม่ค่อยคิดและมีนิสัยพูดไปเรื่อย หลายครั้งที่เราอารมณ์ดีท่านมักจะพูดให้เราหงุดหงิด ช่วงแรกๆเราปล่อยผ่านปรากฎท่านกลับยังคงพูดไปเรื่อย จนเราเปลี่ยนวิธีการใหม่เป็นฟันต่อฟัน
เมื่อท่านปากพล่อยเราก็เหวี่ยงกลับทุกครั้ง ในที่สุดท่านก็เริ่มรู้จักคิดก่อนพูด
-อย่าลืมเรื่องเก่าๆ ไม่ใช่เพื่อความแค้นแต่เอาไว้เป็นอาวุธเมื่ออีกฝ่ายหยิบเรื่องเก่ามาพูด
พี่สาวเรามักจะหยิบเรื่องเก่ามาด่า เราจึงต้องเก็บเรื่องเก่าที่พี่สาวทำไม่ดีมาด่ากลับ เพื่อให้อีกฝ่ายหยุด
-อย่ารักษาน้ำใจเมื่อถูกยัดเยียด
ช่วงที่เราได้งานใหม่ๆ คุณแม่ท่านคงมีท่าทางดีใจ จึงพาเราไปซื้อรองเท้าหนังสำหรับทำงาน แต่ร้านดังกล่าวมีราคาสูง เราจึงขอให้เปลี่ยนร้านแต่แม่ไม่สน แล้วยังเลือกซื้อรองเท้าราคาสูงให้ เราจึงอาศัยจังหวะที่พนักงานกำลังหารองเท้าให้หลังร้าน เดินออกไปจากร้านโดยไม่สนใจคุณแม่ที่พยายามโบกมือเรียกหรือพนักงานที่กำลังเรียกเรา
สุดท้ายเราจึงให้คุณแม่ซื้อรองเท้าหนัง ที่มีราคาถูกกว่าจนได้
-ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เราไม่ได้รับปาก
ครั้งหนึ่งหลังเลิกงานในวันทำงานสุดสัปดาห์พรุ่งนี้เราจะได้หยุด ปรากฎคุณแม่บอกเราให้ไปเยี่ยมคุณพ่อที่แยกทางกันไปแล้ว เราบอกว่าเราจะขอพักผ่อน แต่คุณแม่บอกเราว่าแม่บอกคุณพ่อไปแล้วว่าเราจะมาเยี่ยมวันพรุ่งนี้
เราจึงพูดไปว่านั้นปัญหาของแม่ ไม่ใช่ปัญหาของเรา คุณแม่ตัดสินใจเองโดยไม่ปรึกษาเราเอง