เด็กหนุ่มนิปปอน นามว่า โอสึกะ เด็กที่เกิดในปี 2000 รุ่นราวคราวเดียว กับ นิชิดะ และ รัน(2001)
Otsuka มาจากครอบครัวที่ดี อบอุ่น สุขสันต์ พ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกมากและพยายามส่งเสริมในสิ่งที่ดีให้กับลูก ทำให้เขาเติบโตขึ้นมาอย่างดี เป็นเด็กที่ใจเย็น มีมารยาท อ่อนน้อมถ่อมตนและยังเป็นเด็กที่ซื่อสัตย์ อีกด้วย
คุณแม่จุนโก๊ะ พูดถึงลูกว่าว่า ลูกชายของเธอที่เป็นพี่คนโต เป็นคนตรงไปตรงมา(ถ้าแปลเป็นไทย น่าจะประมาณเป็นเด็กซื่อๆ) เป็นเด็กที่มุ่งมั่นและมีความตั้งใจที่สูงมากด้วย ลูกชายของเธอเป็นเด็กที่สนิทกับครอบครัวมาก เวลามีเรื่องราวอะไรก็มักจะมาเล่า มาแชร์ให้พ่อแม่ฟังเสมอ
otsuka กล่าวว่า
“หลังจากที่ผมเข้ามหาวิทยาลัย ผมเริ่มอยู่ห่างๆ จากครอบครัว แต่ผมก็ยังติดต่อกับครอบครัวทุกวัน ตั้งแต่ผมยังเด็ก พ่อแม่ถามผมเสมอว่า "สนุกไหมวันนี้" และยังคงให้ความสำคัญกับการสนทนาในครอบครัว เช่น ชีวิตในวิทยาลัยเป็นอย่างไร แะสัตว์เลี้ยงที่บ้านสบายดีไหม”
ตอนนั้นเขาเข้าเรียนใน ม.วาเซดะ และอยู่ชมรมวอลเลย์บอลเป็นผู้เล่นตัวจริงผู้ทำคะแนนให้กับทีม ถึงแม้เขาจะยุ่งอยู่กับการเรียนและการฝึกซ้อม แต่เขาไม่ละเลย ที่จะโทรกลับบ้าน เล่าเรื่องราวชีวิตในมหาวิทยาลัยให้ครอบครัวฟัง
เขาได้รับเลือกให้ติดทีมชาติชายญี่ปุ่นเข้าร่วมรายการ VNL2021 ที่อิตาลี มหาวิทยาลัยได้ยกย่องความสำเร็จของเขา
เมื่อครอบครัวทราบก็ตื่นเต้นกันมาก
สมาชิกครอบครัวทั้งสามคน(พ่อ แม่ น้องสาว เฝ้าดูผู้กล้าและรอเชียร์ในสนามทุกนัดในการแข่งขัน น้องสาวของเขาพูดว่า
“เมื่อลงสนาม พี่ชายของฉันจะประหม่าหรือเปล่านะ? (หัวเราะ)
“ระหว่างนั้นผมติดต่อกับครอบครัวแต่ไม่ได้แตะเนื้อหาของเกมหรือการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และได้สนทนาแบบสบายๆ ตามปกติเช่น “ผมทำดีที่สุดแล้วนะครับเกมนี่” และเขาบอกว่า “ ผมมีรอยยิ้มที่ดี (หัวเราะ)" โอสึกะกล่าว
“ตั้งแต่ผมอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ผมก็ชอบวอลเลย์บอลมาโดยตลอด ไม่ว่าผมจะหลับหรือตื่น ด้วยใจที่ "ชอบ" อย่างเดียว ผมวิ่งขึ้นไปบนเวทีที่สูงขึ้น และในที่สุดก็มาถึงเวทีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ผมใฝ่ฝัน ผมกำลังดูร่างที่กล้าหาญจากทีวี ผมอยากให้คนดูสนุกกับวอลเลย์บอลที่คุณชอบ ราวกับว่าคุณเป็นปรมาจารย์ ขอบคุณ(ตัวเอง)ที่ยังคงทำในสิ่งที่ชอบต่อไป” โอสึกะกล่าว
เขาได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของประเทศญี่ปุ่นและการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียว (ครอบครัวรวมถึงตัวเขาเองคือตื่นเต้นและดีใจมาก)
“เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้เล่นคนที่แข็งแกร่งกว่า ผมไม่ได้รู้สึกด้อยกว่า แต่เป็นโอกาสที่จะทำให้ผมเติบโตขึ้น ผมไม่ได้รู้สึกขาดพลังและกังวลขนาดนั้น”
“ เมื่อนึกย้อนกลับไปสมัยนั้นเมื่อผมไม่สามารถเข้าร่วมการฝึกได้เนื่องจากกล้ามเนื้อหน้าท้องตึงเพราะบาดเจ็บ ผมก็กระตือรือร้นที่จะสนับสนุนทีม เมื่อผมไปไม่ถึงแชมป์ที่ All Japan High School Championships (Spring High School) ในชั้น ปี2 หรือ National High School Championships (Inter-High School Championships) ในชั้น 3 แทนที่จะรู้สึกหดหู่ ผมกลับพูดว่า "ตอนนี้ผมอาจจะยังไม่ได้ ดังนั้นต่อไป ผมจะทำให้ดีที่สุดเพื่อที่ผมจะได้รับมันในวันข้างหน้า"
“มันมีช่วงการฝึกอยู่พักหนึ่ง ที่ผมกำลังเฝ้าดูกระบวนการเอาชนะกำแพง(ตบผ่านบล็อก)ด้วยตัวเอง หลังจากช่วงทดลองฝึก ผมได้รับชัยชนะในฤดูใบไม้ผลิสุดท้าย ตอนนั้นผมหลั่งน้ำตาด้วยความปิติ ผมรู้สึกว่าผมมีหน้าที่รับผิดชอบในฐานะผู้นำทีมที่เป็นแรงผลักดันและเก่งในตัวเอง” โอสึกะ กล่าว
ความแข็งแกร่งอย่างหนึ่งของ Otsuka เพราะว่าเขาสนุกกับตัวเองเขาทำอย่างสุดกำลังและมุ่งไปที่จะขึ้นไปให้สูงด้วยความทะเยอทะยาน
@@@@
บทสัมภาษณ์เก่า (ตัดออกบางส่วน)
—- คุณคิดอย่างไรเมื่อได้เข้าร่วมโอลิมปิกที่โตเกียว?
Otsuka “ความฝันของผมเมื่ออยู่ในปีแรกของมัธยมต้น ตอนนั้นผมคิดว่ามันคงยาก ที่จะติดโอลิมปิกในอายุ 20 ปี แต่แล้วความใฝ่ฝันของผมกลายเป็นจริง ถึงแม้ผมจะมีประสบการณ์ต่ำแต่ความรู้สึกของผมคือมหาศาล และเห็นได้ชัดว่าผมทะเยอทะยานที่จะเล่นมาก มันเป็นโอกาสที่ดีที่จะคิดว่าผมอยากเป็นนักตบแบบไหน ไม่รู้ว่าปีหน้าจะถูกคัดเลือกหรือเปล่าแต่ต้องทำอย่างไรถึงจะเป็นผู้เล่นหลักในโอลิมปิกปารีส ที่กำลังจะมาถึง ผมคิดว่าผมเข้าใจแล้ว และผมคิดว่ามันสำคัญที่จะต้องตระหนักในสิ่งนั้นและใช้ชีวิตอย่างทุ่มเททุกวัน ดังนั้นผมจึงได้เรียนรู้สิ่งนั้นที่แคมป์ฝึกของทีมชาติญี่ปุ่น”
--นิสัยของคุณเปลี่ยนไปหรือไม่?
Otsuka “แม้จะไม่มาก แต่ก็เป็นความรู้สึก ผมคิดว่ามีบางครั้งที่ทัวร์นาเมนต์หายไปเพราะโรคระบาด ซึ่งทำให้แรงจูงใจของผมลดลง แต่จุดยืนของผมในตัวเองคือการมองไปข้างหน้าไปและปีต่อๆ ไป ดังนั้นผมมจึงมีแรงจูงใจมากขึ้น ผมฝึกด้วยแนวคิดที่ว่า อยู่บนเวทีที่สูงขึ้น. การแข่งขันระดับมหาวิทยาลัยก็มีความสำคัญเช่นกัน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมไม่สูญเสียแรงจูงใจ และผมกำลังฝึกซ้อมในสภาพที่ดีผมคิดว่าผมมีช่วงเวลาที่ดีในปีนี้”
――ดูเหมือนคุณจะกระตือรือร้นในการแข่งขันระยะไกลของทีมชาติญี่ปุ่น?
Otsuka : เมื่อค่ายฝึกอบรมตัวแทนเพิ่งเริ่มต้น รู้สึกเหมือนเป็นคนดู เพราะคนรอบข้างผมช่างน่าอัศจรรย์ใจ (หัวเราะ) นอกจากนี้ยังมี Ran Takahashi (นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของ Nippon Sport Science University) อยู่ในค่ายด้วย มีบางส่วนที่ผมมักจะละเว้น แต่ผมคิดว่าผมสามารถบอกผู้เล่นรอบตัวผมได้ว่า ผมต้องการทำอะไรในช่วงเวลาการแข่งขัน และผมคิดว่าผมสามารถทำได้มากกว่านี้ ดังนั้นผมหวังว่าผมจะทำได้ขึ้นในปีหน้าและปีต่อๆ ไป ในแง่นั้น ผมคิดว่าผมสามารถถ่ายทอดความต้องการของตัวเองไปยังผู้คนรอบๆ ตัวผมได้ และจนกระทั่งตอนนี้ผมกลับมาที่ Waseda ผมหวังว่าผมจะทำสิ่งนั้นได้โดยไม่คำนึงถึงเกรด ผมคิดว่านั่นจะสร้างทีมที่ดีได้ ผมจึงอยากจะสามารถตอบแทนสิ่งที่ได้เรียนรู้จากแคมป์ฝึกซ้อมของทีมชาติญี่ปุ่นไปสู่มหาวิทยาลัย”
เด็กหนุ่มที่พูดตรงไปตรงมา ให้สัมภาษณ์หลังจบโอลิมปิกที่โตเกียว
Otsuka: “ผมไม่มีโอกาสได้ลงสนามในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว ดังนั้นผมจึงผิดหวังจริงๆ ถึงแม้ว่า Asian Championship จะเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายของฤดูกาลนี้ ทั้งทีมและรายบุคคลคิดว่ามันเป็นทัวร์นาเมนต์แรกในฐานะทีมสำหรับการก้าวไปสู่การแข่งขัน Paris Olympics ครั้งต่อไป ดังนั้นผมจะเอาทุกสิ่งอย่างที่ผมทำในปีนี้ออกไปก่อน ผมอยากจะ ท้าทายสิ่งต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ ผมหวังว่าผมจะสามารถต่อสู้ผ่านทัวร์นาเมนต์นี้ด้วยความรู้สึกนั้น”
เมื่อเขาต้องใส่เสื้อหมายเลข 5 ซึ่งเป็นเบอร์เก่าของรุ่นพี่ Fukuzawa เขากล่าวว่า
Otsuka: บอกตามตรง ผมแปลกใจมากเมื่อได้รับแจ้งว่าเลขชุดของผมจะเปลี่ยนเป็นเบอร์ 5 แต่ผมก็มีความสุขมาก เขายังเป็นรุ่นพี่ในโรงเรียนมัธยมปลาย (Rakunan High School) และมิสเตอร์ฟุกุซาวะก็เก่งด้านวิชาการและมนุษยธรรมทั้งในบุนบุและบูโดะ ดังนั้นเขาจึงเป็นแรงบันดาลใจที่ผมใฝ่ฝันมาตั้งแต่ยังเด็ก ผมมีความสุขมากที่สามารถสืบทอดเบอร์ของผู้เล่นดังกล่าวได้ และผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อที่จะได้เป็นผู้เล่นหลักในญี่ปุ่นเช่นคุณฟุกุซาวะในอนาคต”
พูดถึงเกี่ยวกับ ผู้เล่นอย่าง Yuki Ishikawa
Otsuka: ผมคิดว่าคุณอิชิกาวะเป็นผู้เล่นที่สามารถดึงเกมผมเข้ามาเล่นได้ ผมรู้ด้วยว่าเกมนี้อยู่ที่ไหนในฉากเดียว ผมจึงรู้สึกขอบคุณสำหรับคำพูดของเขาเช่น "มาทำกันเป็นทีม" ในทางกลับกัน ผมคิดว่ามันเป็นความสัมพันธ์แบบทีมที่เราสามารถพูดคุยกันโดยพูดว่า "เกมนี้อยู่ที่นี่" ดังนั้นผมจึงคิดว่ามันคงจะดีถ้าเราสามารถพูดคุยกันอย่างกระตือรือร้น”
จาก Waseda สู่ วีลีก Panasonic Panther 2021/22
มื่อวันที่ 6 มกราคม V-League Panasonic Panthers ได้ประกาศการเข้าร่วมของ Tatsunori Otsuka (นักศึกษาปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัย Waseda)
ขอบคุณภาพจากพี่หมี ณ พันทิป
Otsuka มีความฝันที่อยากไปเล่นที่ต่างประเทศ
“Yuki Ishikawa กัปตันทีมชาติญี่ปุ่น และ Tatsuya Fukuzawa ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่ Rakunan High School ก็เคยเล่นในต่างประเทศ และผมได้เห็นทักษะในสนามและทักษะการสื่อสารด้านภาษาที่ได้รับการหล่อเลี้ยงจากที่นั่น เป็นเรื่องปกติสำหรับผมที่จะมีความปรารถนา อยากไปต่างประเทศด้วย" Otsuka กล่าว
เมื่อ Otsuka มองผู้เล่นอย่าง ชิมิซูและ ฟุกุซาว่า เขากล่าวว่า
“ผมเคารพทั้งสองคนมากเลยครับ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่พูดคุยกันอย่างมีความสุขเกี่ยวกับชีวิตของพวกพวกเขาได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ปักกิ่งปี 2008 เดียวกันและยังอยู่ในสโมสร Panasonic เดียวกันด้วย”
และชิมิสึก็พูดกับโอสึกะอย่างสบายๆ
“ควรทำเท่าที่ทำได้ และทำได้ทันที พยายามทำให้ดีที่สุด”
“ตอนแรกผมไม่คิดว่าจะเข้าร่วมวีลีกในขณะที่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย” โอสึกะ กล่าว
"ในหัวของผม ผมมีความคิดเหมารวมว่า V-League เป็นที่สำหรับผู้เล่นเข้าร่วมหลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่ผมสามารถเล่นใน V-League ได้ในขณะที่ผมยังอยู่ในวิทยาลัย โอ้ว นั่นบ้ามาก ผมไม่เคยรู้เลย เป็นครั้งแรกที่ผมเพิ่งมารู้ความจริง” โอสึกะกล่าว
ที่สำคัญ ผมได้เข้าร่วมกับผู้เล่นระดับโลก ปรมาจารย์โค้ช ทิลลี่ จากฝรั่งเศสที่คว้าทองโอลิมปิก
“นอกจากนี้ยังมี Michał Kubiak กัปตันทีมชาติโปแลนด์ โห มีอะไรให้เรียนรู้อีกมากมายเลยในที่นั่น และยังต้องเผชิญหน้ากับผู้เล่นระดับโลกเช่น Bartosz Kurek ของ Wolfdogs Nagoya และ Dmitriy Muserski ของ Suntory Sunbirds อีก มันสุดยอดจริงๆ”
เมื่อต้องก้าวเข้าสู่ประตูวีลีกโอสึกะ ต้องทำ 2 อย่างควบคู่การ ทั้งการเรียน และ วอลเล่ย์บอล
“ตั้งแต่ผมเข้ามาสู่วอลเล่ย์บอลมีบางวิชาที่ผมเรียนไม่ผ่าน ตอนนี้ผมออนไลน์ได้อยู่ แต่มีข้อจำกัด (ถ้าผมไปต่างประเทศ) ในปีที่แล้วผมเป็นนักเรียนหัวกะทิ(หมายถึงเรียนได้เกรดดีมาก) แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ผมจึงปรึกษากับศาสตราจารย์มัตสึอิ (ไทจิ) ว่าผมอยากจะลองเข้าในวีลีก “
ศาสตราจารย์มัตสึอิยังมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในระดับการศึกษาของผมด้วย ดังนั้นเขาจึงกล่าวว่า
"หากคุณสามารถทำมันได้ ก็เดินหน้าต่อเลย ครูรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเข้าร่วมวีลีกและทีมพานาโซนิค ได้จงทำงานเต็มที่”
เราคิดว่าครูในมหาวิทยาลัยสนับสนุนโอสึกะอยู่แล้ว เพราะเขาสร้างชื่อเสียงมาให้มหาลัยด้วย
ในฐานะผู้เล่น ผมจะท้าทาย V League ไม่ใช่แค่ในประเภทมหาวิทยาลัย เป็นความท้าทายที่นำไปสู่การพัฒนาระดับและทักษะของตนเอง แต่ Otsuka หวังว่าจะเป็นความท้าทายที่จะนำไปสู่รุ่นต่อไป
“ผมถูกสอนเรื่องวอลเลย์บอล วิธีคิด และคำศัพท์เพราะผมได้รับอนุญาตให้ทำที่ Panthers Junior เมื่อผมอยู่มัธยมต้น อย่างไรก็ตาม เมื่อผมเข้าสู่โรงเรียนมัธยมปลายและมหาวิทยาลัยได้เพิ่มระบบความเข้าใจก็สูงขึ้นด้วย บางทีก็มีผู้เล่นหลายคนที่ไม่สามารถแสดงด้านที่ดีในแต่ละส่วนได้ ดังนั้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าสู่วีลีกได้ “
บทส่งท้าย
ปัจจุบัน Otsuka กำลังเข้าร่วมรายการ VNL2022 เพิ่งจบสัปดาห์แรกที่สนามบราซิล ทีมญี่ปุ่นทำผลงานดีมาก
นอกจากนี้ผู้เล่นญี่ปุ่นทีมชาย ยังขึ้นชื่อเรื่องบุคลิกที่น่ารัก รอยยิ้มที่สดใส ทำให้แฟนๆในสนามบราซิลรู้สึกชื่นชอบและเอ็นดู จนพิธีกรผู้จัดการในสนามอดไม่ได้ที่จะเชื้อเชิญให้หนุ่มทีมนิปปอน ออกมาเต้นแซมบ้า โชว์เอนเตอร์เทนแฟนๆในสนาม
ซึ่งหนุ่มๆนิปปอน ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พิธีกรสั่งให้เต้นแบบไหน ก็พากันเต้นตาม ซึ่งสร้างความประทับใจและความสนุกสนานให้กับแฟนๆเป็นอย่างยิ่ง มีคลิปในไอจีนะคะ
Otsuka Tatsunori เด็กหนุ่มที่เติบโตมาอย่างดี ทีมชาตินิปปอน
เด็กหนุ่มนิปปอน นามว่า โอสึกะ เด็กที่เกิดในปี 2000 รุ่นราวคราวเดียว กับ นิชิดะ และ รัน(2001)
Otsuka มาจากครอบครัวที่ดี อบอุ่น สุขสันต์ พ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกมากและพยายามส่งเสริมในสิ่งที่ดีให้กับลูก ทำให้เขาเติบโตขึ้นมาอย่างดี เป็นเด็กที่ใจเย็น มีมารยาท อ่อนน้อมถ่อมตนและยังเป็นเด็กที่ซื่อสัตย์ อีกด้วย
คุณแม่จุนโก๊ะ พูดถึงลูกว่าว่า ลูกชายของเธอที่เป็นพี่คนโต เป็นคนตรงไปตรงมา(ถ้าแปลเป็นไทย น่าจะประมาณเป็นเด็กซื่อๆ) เป็นเด็กที่มุ่งมั่นและมีความตั้งใจที่สูงมากด้วย ลูกชายของเธอเป็นเด็กที่สนิทกับครอบครัวมาก เวลามีเรื่องราวอะไรก็มักจะมาเล่า มาแชร์ให้พ่อแม่ฟังเสมอ
otsuka กล่าวว่า
“หลังจากที่ผมเข้ามหาวิทยาลัย ผมเริ่มอยู่ห่างๆ จากครอบครัว แต่ผมก็ยังติดต่อกับครอบครัวทุกวัน ตั้งแต่ผมยังเด็ก พ่อแม่ถามผมเสมอว่า "สนุกไหมวันนี้" และยังคงให้ความสำคัญกับการสนทนาในครอบครัว เช่น ชีวิตในวิทยาลัยเป็นอย่างไร แะสัตว์เลี้ยงที่บ้านสบายดีไหม”
ตอนนั้นเขาเข้าเรียนใน ม.วาเซดะ และอยู่ชมรมวอลเลย์บอลเป็นผู้เล่นตัวจริงผู้ทำคะแนนให้กับทีม ถึงแม้เขาจะยุ่งอยู่กับการเรียนและการฝึกซ้อม แต่เขาไม่ละเลย ที่จะโทรกลับบ้าน เล่าเรื่องราวชีวิตในมหาวิทยาลัยให้ครอบครัวฟัง
เขาได้รับเลือกให้ติดทีมชาติชายญี่ปุ่นเข้าร่วมรายการ VNL2021 ที่อิตาลี มหาวิทยาลัยได้ยกย่องความสำเร็จของเขา
เมื่อครอบครัวทราบก็ตื่นเต้นกันมาก
สมาชิกครอบครัวทั้งสามคน(พ่อ แม่ น้องสาว เฝ้าดูผู้กล้าและรอเชียร์ในสนามทุกนัดในการแข่งขัน น้องสาวของเขาพูดว่า
“เมื่อลงสนาม พี่ชายของฉันจะประหม่าหรือเปล่านะ? (หัวเราะ)
“ระหว่างนั้นผมติดต่อกับครอบครัวแต่ไม่ได้แตะเนื้อหาของเกมหรือการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และได้สนทนาแบบสบายๆ ตามปกติเช่น “ผมทำดีที่สุดแล้วนะครับเกมนี่” และเขาบอกว่า “ ผมมีรอยยิ้มที่ดี (หัวเราะ)" โอสึกะกล่าว
“ตั้งแต่ผมอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ผมก็ชอบวอลเลย์บอลมาโดยตลอด ไม่ว่าผมจะหลับหรือตื่น ด้วยใจที่ "ชอบ" อย่างเดียว ผมวิ่งขึ้นไปบนเวทีที่สูงขึ้น และในที่สุดก็มาถึงเวทีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ผมใฝ่ฝัน ผมกำลังดูร่างที่กล้าหาญจากทีวี ผมอยากให้คนดูสนุกกับวอลเลย์บอลที่คุณชอบ ราวกับว่าคุณเป็นปรมาจารย์ ขอบคุณ(ตัวเอง)ที่ยังคงทำในสิ่งที่ชอบต่อไป” โอสึกะกล่าว
เขาได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของประเทศญี่ปุ่นและการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียว (ครอบครัวรวมถึงตัวเขาเองคือตื่นเต้นและดีใจมาก)
“เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้เล่นคนที่แข็งแกร่งกว่า ผมไม่ได้รู้สึกด้อยกว่า แต่เป็นโอกาสที่จะทำให้ผมเติบโตขึ้น ผมไม่ได้รู้สึกขาดพลังและกังวลขนาดนั้น”
“ เมื่อนึกย้อนกลับไปสมัยนั้นเมื่อผมไม่สามารถเข้าร่วมการฝึกได้เนื่องจากกล้ามเนื้อหน้าท้องตึงเพราะบาดเจ็บ ผมก็กระตือรือร้นที่จะสนับสนุนทีม เมื่อผมไปไม่ถึงแชมป์ที่ All Japan High School Championships (Spring High School) ในชั้น ปี2 หรือ National High School Championships (Inter-High School Championships) ในชั้น 3 แทนที่จะรู้สึกหดหู่ ผมกลับพูดว่า "ตอนนี้ผมอาจจะยังไม่ได้ ดังนั้นต่อไป ผมจะทำให้ดีที่สุดเพื่อที่ผมจะได้รับมันในวันข้างหน้า"
“มันมีช่วงการฝึกอยู่พักหนึ่ง ที่ผมกำลังเฝ้าดูกระบวนการเอาชนะกำแพง(ตบผ่านบล็อก)ด้วยตัวเอง หลังจากช่วงทดลองฝึก ผมได้รับชัยชนะในฤดูใบไม้ผลิสุดท้าย ตอนนั้นผมหลั่งน้ำตาด้วยความปิติ ผมรู้สึกว่าผมมีหน้าที่รับผิดชอบในฐานะผู้นำทีมที่เป็นแรงผลักดันและเก่งในตัวเอง” โอสึกะ กล่าว
ความแข็งแกร่งอย่างหนึ่งของ Otsuka เพราะว่าเขาสนุกกับตัวเองเขาทำอย่างสุดกำลังและมุ่งไปที่จะขึ้นไปให้สูงด้วยความทะเยอทะยาน
@@@@
บทสัมภาษณ์เก่า (ตัดออกบางส่วน)
—- คุณคิดอย่างไรเมื่อได้เข้าร่วมโอลิมปิกที่โตเกียว?
Otsuka “ความฝันของผมเมื่ออยู่ในปีแรกของมัธยมต้น ตอนนั้นผมคิดว่ามันคงยาก ที่จะติดโอลิมปิกในอายุ 20 ปี แต่แล้วความใฝ่ฝันของผมกลายเป็นจริง ถึงแม้ผมจะมีประสบการณ์ต่ำแต่ความรู้สึกของผมคือมหาศาล และเห็นได้ชัดว่าผมทะเยอทะยานที่จะเล่นมาก มันเป็นโอกาสที่ดีที่จะคิดว่าผมอยากเป็นนักตบแบบไหน ไม่รู้ว่าปีหน้าจะถูกคัดเลือกหรือเปล่าแต่ต้องทำอย่างไรถึงจะเป็นผู้เล่นหลักในโอลิมปิกปารีส ที่กำลังจะมาถึง ผมคิดว่าผมเข้าใจแล้ว และผมคิดว่ามันสำคัญที่จะต้องตระหนักในสิ่งนั้นและใช้ชีวิตอย่างทุ่มเททุกวัน ดังนั้นผมจึงได้เรียนรู้สิ่งนั้นที่แคมป์ฝึกของทีมชาติญี่ปุ่น”
--นิสัยของคุณเปลี่ยนไปหรือไม่?
Otsuka “แม้จะไม่มาก แต่ก็เป็นความรู้สึก ผมคิดว่ามีบางครั้งที่ทัวร์นาเมนต์หายไปเพราะโรคระบาด ซึ่งทำให้แรงจูงใจของผมลดลง แต่จุดยืนของผมในตัวเองคือการมองไปข้างหน้าไปและปีต่อๆ ไป ดังนั้นผมมจึงมีแรงจูงใจมากขึ้น ผมฝึกด้วยแนวคิดที่ว่า อยู่บนเวทีที่สูงขึ้น. การแข่งขันระดับมหาวิทยาลัยก็มีความสำคัญเช่นกัน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมไม่สูญเสียแรงจูงใจ และผมกำลังฝึกซ้อมในสภาพที่ดีผมคิดว่าผมมีช่วงเวลาที่ดีในปีนี้”
――ดูเหมือนคุณจะกระตือรือร้นในการแข่งขันระยะไกลของทีมชาติญี่ปุ่น?
Otsuka : เมื่อค่ายฝึกอบรมตัวแทนเพิ่งเริ่มต้น รู้สึกเหมือนเป็นคนดู เพราะคนรอบข้างผมช่างน่าอัศจรรย์ใจ (หัวเราะ) นอกจากนี้ยังมี Ran Takahashi (นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของ Nippon Sport Science University) อยู่ในค่ายด้วย มีบางส่วนที่ผมมักจะละเว้น แต่ผมคิดว่าผมสามารถบอกผู้เล่นรอบตัวผมได้ว่า ผมต้องการทำอะไรในช่วงเวลาการแข่งขัน และผมคิดว่าผมสามารถทำได้มากกว่านี้ ดังนั้นผมหวังว่าผมจะทำได้ขึ้นในปีหน้าและปีต่อๆ ไป ในแง่นั้น ผมคิดว่าผมสามารถถ่ายทอดความต้องการของตัวเองไปยังผู้คนรอบๆ ตัวผมได้ และจนกระทั่งตอนนี้ผมกลับมาที่ Waseda ผมหวังว่าผมจะทำสิ่งนั้นได้โดยไม่คำนึงถึงเกรด ผมคิดว่านั่นจะสร้างทีมที่ดีได้ ผมจึงอยากจะสามารถตอบแทนสิ่งที่ได้เรียนรู้จากแคมป์ฝึกซ้อมของทีมชาติญี่ปุ่นไปสู่มหาวิทยาลัย”
เด็กหนุ่มที่พูดตรงไปตรงมา ให้สัมภาษณ์หลังจบโอลิมปิกที่โตเกียว
Otsuka: “ผมไม่มีโอกาสได้ลงสนามในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว ดังนั้นผมจึงผิดหวังจริงๆ ถึงแม้ว่า Asian Championship จะเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายของฤดูกาลนี้ ทั้งทีมและรายบุคคลคิดว่ามันเป็นทัวร์นาเมนต์แรกในฐานะทีมสำหรับการก้าวไปสู่การแข่งขัน Paris Olympics ครั้งต่อไป ดังนั้นผมจะเอาทุกสิ่งอย่างที่ผมทำในปีนี้ออกไปก่อน ผมอยากจะ ท้าทายสิ่งต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ ผมหวังว่าผมจะสามารถต่อสู้ผ่านทัวร์นาเมนต์นี้ด้วยความรู้สึกนั้น”
เมื่อเขาต้องใส่เสื้อหมายเลข 5 ซึ่งเป็นเบอร์เก่าของรุ่นพี่ Fukuzawa เขากล่าวว่า
Otsuka: บอกตามตรง ผมแปลกใจมากเมื่อได้รับแจ้งว่าเลขชุดของผมจะเปลี่ยนเป็นเบอร์ 5 แต่ผมก็มีความสุขมาก เขายังเป็นรุ่นพี่ในโรงเรียนมัธยมปลาย (Rakunan High School) และมิสเตอร์ฟุกุซาวะก็เก่งด้านวิชาการและมนุษยธรรมทั้งในบุนบุและบูโดะ ดังนั้นเขาจึงเป็นแรงบันดาลใจที่ผมใฝ่ฝันมาตั้งแต่ยังเด็ก ผมมีความสุขมากที่สามารถสืบทอดเบอร์ของผู้เล่นดังกล่าวได้ และผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อที่จะได้เป็นผู้เล่นหลักในญี่ปุ่นเช่นคุณฟุกุซาวะในอนาคต”
พูดถึงเกี่ยวกับ ผู้เล่นอย่าง Yuki Ishikawa
Otsuka: ผมคิดว่าคุณอิชิกาวะเป็นผู้เล่นที่สามารถดึงเกมผมเข้ามาเล่นได้ ผมรู้ด้วยว่าเกมนี้อยู่ที่ไหนในฉากเดียว ผมจึงรู้สึกขอบคุณสำหรับคำพูดของเขาเช่น "มาทำกันเป็นทีม" ในทางกลับกัน ผมคิดว่ามันเป็นความสัมพันธ์แบบทีมที่เราสามารถพูดคุยกันโดยพูดว่า "เกมนี้อยู่ที่นี่" ดังนั้นผมจึงคิดว่ามันคงจะดีถ้าเราสามารถพูดคุยกันอย่างกระตือรือร้น”
จาก Waseda สู่ วีลีก Panasonic Panther 2021/22
มื่อวันที่ 6 มกราคม V-League Panasonic Panthers ได้ประกาศการเข้าร่วมของ Tatsunori Otsuka (นักศึกษาปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัย Waseda)
ขอบคุณภาพจากพี่หมี ณ พันทิป
Otsuka มีความฝันที่อยากไปเล่นที่ต่างประเทศ
“Yuki Ishikawa กัปตันทีมชาติญี่ปุ่น และ Tatsuya Fukuzawa ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่ Rakunan High School ก็เคยเล่นในต่างประเทศ และผมได้เห็นทักษะในสนามและทักษะการสื่อสารด้านภาษาที่ได้รับการหล่อเลี้ยงจากที่นั่น เป็นเรื่องปกติสำหรับผมที่จะมีความปรารถนา อยากไปต่างประเทศด้วย" Otsuka กล่าว
เมื่อ Otsuka มองผู้เล่นอย่าง ชิมิซูและ ฟุกุซาว่า เขากล่าวว่า
“ผมเคารพทั้งสองคนมากเลยครับ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่พูดคุยกันอย่างมีความสุขเกี่ยวกับชีวิตของพวกพวกเขาได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ปักกิ่งปี 2008 เดียวกันและยังอยู่ในสโมสร Panasonic เดียวกันด้วย”
และชิมิสึก็พูดกับโอสึกะอย่างสบายๆ
“ควรทำเท่าที่ทำได้ และทำได้ทันที พยายามทำให้ดีที่สุด”
“ตอนแรกผมไม่คิดว่าจะเข้าร่วมวีลีกในขณะที่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย” โอสึกะ กล่าว
"ในหัวของผม ผมมีความคิดเหมารวมว่า V-League เป็นที่สำหรับผู้เล่นเข้าร่วมหลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่ผมสามารถเล่นใน V-League ได้ในขณะที่ผมยังอยู่ในวิทยาลัย โอ้ว นั่นบ้ามาก ผมไม่เคยรู้เลย เป็นครั้งแรกที่ผมเพิ่งมารู้ความจริง” โอสึกะกล่าว
ที่สำคัญ ผมได้เข้าร่วมกับผู้เล่นระดับโลก ปรมาจารย์โค้ช ทิลลี่ จากฝรั่งเศสที่คว้าทองโอลิมปิก
“นอกจากนี้ยังมี Michał Kubiak กัปตันทีมชาติโปแลนด์ โห มีอะไรให้เรียนรู้อีกมากมายเลยในที่นั่น และยังต้องเผชิญหน้ากับผู้เล่นระดับโลกเช่น Bartosz Kurek ของ Wolfdogs Nagoya และ Dmitriy Muserski ของ Suntory Sunbirds อีก มันสุดยอดจริงๆ”
เมื่อต้องก้าวเข้าสู่ประตูวีลีกโอสึกะ ต้องทำ 2 อย่างควบคู่การ ทั้งการเรียน และ วอลเล่ย์บอล
“ตั้งแต่ผมเข้ามาสู่วอลเล่ย์บอลมีบางวิชาที่ผมเรียนไม่ผ่าน ตอนนี้ผมออนไลน์ได้อยู่ แต่มีข้อจำกัด (ถ้าผมไปต่างประเทศ) ในปีที่แล้วผมเป็นนักเรียนหัวกะทิ(หมายถึงเรียนได้เกรดดีมาก) แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ผมจึงปรึกษากับศาสตราจารย์มัตสึอิ (ไทจิ) ว่าผมอยากจะลองเข้าในวีลีก “
ศาสตราจารย์มัตสึอิยังมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในระดับการศึกษาของผมด้วย ดังนั้นเขาจึงกล่าวว่า
"หากคุณสามารถทำมันได้ ก็เดินหน้าต่อเลย ครูรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเข้าร่วมวีลีกและทีมพานาโซนิค ได้จงทำงานเต็มที่”
เราคิดว่าครูในมหาวิทยาลัยสนับสนุนโอสึกะอยู่แล้ว เพราะเขาสร้างชื่อเสียงมาให้มหาลัยด้วย
ในฐานะผู้เล่น ผมจะท้าทาย V League ไม่ใช่แค่ในประเภทมหาวิทยาลัย เป็นความท้าทายที่นำไปสู่การพัฒนาระดับและทักษะของตนเอง แต่ Otsuka หวังว่าจะเป็นความท้าทายที่จะนำไปสู่รุ่นต่อไป
“ผมถูกสอนเรื่องวอลเลย์บอล วิธีคิด และคำศัพท์เพราะผมได้รับอนุญาตให้ทำที่ Panthers Junior เมื่อผมอยู่มัธยมต้น อย่างไรก็ตาม เมื่อผมเข้าสู่โรงเรียนมัธยมปลายและมหาวิทยาลัยได้เพิ่มระบบความเข้าใจก็สูงขึ้นด้วย บางทีก็มีผู้เล่นหลายคนที่ไม่สามารถแสดงด้านที่ดีในแต่ละส่วนได้ ดังนั้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าสู่วีลีกได้ “
บทส่งท้าย
ปัจจุบัน Otsuka กำลังเข้าร่วมรายการ VNL2022 เพิ่งจบสัปดาห์แรกที่สนามบราซิล ทีมญี่ปุ่นทำผลงานดีมาก
นอกจากนี้ผู้เล่นญี่ปุ่นทีมชาย ยังขึ้นชื่อเรื่องบุคลิกที่น่ารัก รอยยิ้มที่สดใส ทำให้แฟนๆในสนามบราซิลรู้สึกชื่นชอบและเอ็นดู จนพิธีกรผู้จัดการในสนามอดไม่ได้ที่จะเชื้อเชิญให้หนุ่มทีมนิปปอน ออกมาเต้นแซมบ้า โชว์เอนเตอร์เทนแฟนๆในสนาม
ซึ่งหนุ่มๆนิปปอน ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พิธีกรสั่งให้เต้นแบบไหน ก็พากันเต้นตาม ซึ่งสร้างความประทับใจและความสนุกสนานให้กับแฟนๆเป็นอย่างยิ่ง มีคลิปในไอจีนะคะ