Audax บางปะอิน หลาย สะพาน 1000 Km (Windy Snails)

จากพิษโควิท ทำให้การปั่นจักรยานทางไกลระดับนานาชาติ หรือ ที่เรียกว่า Audax ต้องพักไปเป็นปี ทำให้นักปั่นอดปั่นกันไปพักใหญ่ มาฤดูกาล 2022 นี้
ทาง Audax ได้เปิดให้นักปั่นได้ไปเสพความบันเทิงกันอีกครั้ง และ ไม่น่าจะพลาดสำหรับระยะเสพความทรมานบันเทิง ระดับ1000 Km สนามแรกในฤดูกาลนี้
ไม่พ้น สนาม บางปะอิน บางสะพาน แน่นอน 

  สำหรับผม ที่เพิ่งจะหวดมาจนจบ SR2022 อย่างรวดเร็วเพราะอึดอัดมานานที่ไม่ได้ปั่น เลยกดไป เต็มๆ 
ระยะ 200 km จันทบุรี
ระยะ 300 km จันทบุรี
ระยะ 400 km กรุงเก่า
ระยะ 600 km กระเสียว
  จบไปได้อย่างทุลักทุเลแทยทุกสนามเพราะขาดการซ้อม และ การปั่นทางไกลมานานเป็นปี แต่ก็อาศัย ความเก่าและเก๋า พาสังขาลจบได้แบบไม่เจ็บ
พอสนาม 1000 km เปิดสนามแรกจะไม่ไปเรอะ ไม่น่าพลาด ไม่ได้ปั่นสนามเลเวล 1000 km มานานมากแล้ว หลังจากไปกดจบที่ 1000 สุวรรณภูมิ งวดนี้ไม่ได้วางแผนอะไรมากเลย เพราะมีทีมไปกันด้วย Windy Snails ทีม รวมตัวเฉพาะกิจเพื่อพา ตัวประกันจบให้ได้ คนนั้นคือ สาวอลิส เป็นชาวต่างชาติ มาอยู่ไทยได้พักใหญ่แล้ว ปั่นจักรยานมาก็นาน แต่ สำหรับการปั่นจักรยานทางไกล ของเธอนั้นยังใหม่นัก เธอมาร่วมทีม Windy ได้พักนึงแล้ว และ ไล่เก็บระยะ ไปได้หลายระยะ แต่ ยังขาดระยะนี้ 1000 km จึงเป็นหน้าที่ และ ภาระกิจในการพา อลิส ต้องจบ สถานเดียว จะงอแง จะท้อแท้ จะถอดใจ ก็ห้ามเลิกปั่น 5555

   ดูจากสนามแล้ว แค่ปั่นจาก ภาคกลาง ไป ภาคใต้ และ ก็ปั่นย้อนกลับขึ้นมา แค่นั้นเอง แต่ถ้าดูสนามดีๆ ทางผู้จัดมีการวางเกมสนามที่ไม่ธรรมดา ทำให้สนามที่ดูแล้ว เหมือนจะราบๆ กลายเป็นสนามที่แสนจะทรมานไปได้ทันที การจัดสนามในครั้งนี้ ผู้จัดเลือกที่จะปั่นในช่วงปลาย เมษายน ซึ่งมันก็มาแล้วกับภาวะ ร้อนดับโลก ทั้งความร้อน กระแสลมที่พัดผ่านมาทางทิศใต้ และ ลมทะเลถล่ม บวกกับทางใต้ที่ไม่ใช่แค่ร้อนแต่มีสายฝนมาเป็นระยะๆ และ ความหนาวที่เราคาดคิดว่า เมืองไทยมันจะหนาวบ้าอะไรในเดือนเมษายน และ เส้นทางที่แสนจะคลาสิค คือ มีองค์ประกอบความทรมานให้ร่างกายพังได้ ทั้งทางถนนที่พัง ทั้งทางทรายกราเวลก็มา ทางปูนพังๆในเขตทางบ้านๆ และมาจุกๆกับเนินที่ซ่อนไว้ ให้ถามว่ามาทำมายอ่ะ 
  ทางทีมเรามีการวางแผนการปั่นที่ไม่ได้เน้นเร็ว แต่เน้นคุมความเร็วและใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด โดยมี หัวขบวนนำคือ พี่โอ๊ด สายซัพพอท พี่วี สายสนับสนุนคอยระวังให้อลิส คือ พี่ตุ๊ และ ผม โป้ง สายระวังหลัง เราต้องพา อลิส ให้จบ 

   งวดนี้ก่อนออกตัว มีน้องท่านนึงเข้ามทักทายผม ชื่อ น้องเอ๋ น้องเคยอ่านบทความที่ผมเคยลง เลยเข้ามาทัก พอดีน้องมาคนเดียว ผมเลยชวนมาร่วมปั่นกับทีมไปเลย ทำให้ทีมเรามีคนเพิ่มมาอีกคนนึง ซึ่งการเพิ่มมาครั้งนี้มีสิ่งดีๆตามมาจนจบทริป 
   ทีมเราออกตัว 8.00 เป็นเช้าที่เห็นอากาศแล้วคาดเดาได้เลยว่า มันต้องร้อน และ อบอ้าวมากๆ เพราะอาการอากาศมันออกมาแบบ ร้อนอบอ้าว พร้อมที่จะลุ้นว่าจะมีฝนตอนไหน นั้นเอง ได้เวลาออกตัวทึมเราออกตัวเป็นทีมสุดท้ายตามระเบียบ ไม่เคยสักครั้งจะออกตัวเร็ว หรือ พร้อมชาวบ้าน วิถี Windy
  งวดนี้สนามมีจุดควบคุมในแต่ละจุดมีระยะห่างออกไป และ ใช้เซเว่นและวัดเป็นหลักในการเข้าเช็คเวลา ผมชอบนะ เซเว่นกินอิ่ม วัดได้พักและเข้าห้องน้ำ ซึ่งนักปั่นก็จะได้ล้างตัว และ ใช้ห้องน้ำวัดได้เพื่อไล่เบา 
  Control 1 ระยะ  97 km 7-11 นราภิรมย์ 11547  ระยะทางจากจุดปล่อยตัวจากที่วัดพยาญาติ มาที่จุด Control แรกมีระยะไกลมากๆพอสมควร ทางทีมต้องแบ่ง การปั่นออกเป็นระยะ เพื่อพักและ ทานข้าว เราออกตัวไปได้ไม่ถึง 20 km เราจอดทันที เกิดเหตุการณ์ที่ต้องเบรคกระทันหัน พี่ตุ๊ ปวดขรี้ OMG เพิ่งจะไล่แซงชาวบ้านมาแบบสนุกสนาน เราวิ่งมาด้วยความเร็ว 30-35 km/hr เหมือนทีมจะสนุกสนานกับการไล่ปั่นเก็บนักปั่นที่ออกตัวไปก่อนหน้านี้  แต่เราต้องหยุด แต่ก็ดี จะได้ทานข้าวกันเลย เราแวะทายนข้าวแบบสบายใจ แถมมีคนเลี้ยงด้วย โดยเป็นพี่ท่านนึงมาปั่นแต่ไม่ปั่นละอยากเที่ยว แกเลยเลี้ยงข้าวเรา สบายได้กินอิ่ม ตังค์อยู่ครบ  
   เราออกตัวไปสักพักด้วยความเร็วของหัวลากสลับกัน พี่โอ๊ด และ พี่วี พาไปแช่ที่ 32-35 km/hr ทำให้เราเริ่มตามไล่กลุ่มได้อีกครั้งและ ก็จอดอีกไหงละ ทำไมจอดเร็วยังไม่ถึง 50 โลเลย เจอทีมเพื่อน ทีมดาริน ทีมใหญ่กับทีมพี่ทอม จอดกันเพราะเพื่อนยางแตก เพื่อนกันเราต้องไปช่วย พี่โอ๊ตเข้าไปช่วยแก้ไขให้ พวกเรามานั่งดื่มโค้กรออย่างสบายใจที่ร้านค้า พร้อมกับทีมอื่นๆ 555 กำลังร้อนเลย ดับด้วยโค้กหน่อย ผมถามเอ๋ น้องใหม่ไหวไหม เอ๋บอกสบายๆ เก่งๆน้องจบ 600 กระเสียวมาแล้ว การันตรีได้ว่าไม่ธรรมดาแน่ๆ  ส่วนอลิสก็เริ่มหานำ้แข็งประคบร้อนแล้ว ทุกๆคนเริ่มรู้ว่าตอนนี้อากาศมันอบอ้าวมากๆ แดดไม่ได้แรง แต่มันอบอ้าว 

 สักพักพี่โอ๊ตก็พาทีมพี่ทอมมา สถานการณ์ดูไม่ดีเหมือนยางนอกหรือยางรองขอบล้อของรถทีมพี่ทอมน่าจะเสื่อม เพราะไม่ได้ปั่นมานานเลยไม่ได้เปลี่ยนของใหม่เลยเกิดการกัดยางในขาด เสร็จเราออกตัวกันไปแบบฝูงใหญ่  เราแยกทีมกันออกไปตามความแรง ทางทีมพี่ทอม มีพี่โด้ขาแรงลากแบบ น่าจะไม่รอดกันหลายคนกว่าจะจบแรงลากเยอะเหลือเกิน ทางทีมผมไม่ตาม ตามไปมีไม่รอดแน่ๆ 35++ ไปเถอะครับไม่ตามแน่นอน

  โฉมหน้าตัวประกันเราในครั้งนี้ อลิส ดูแล้วทรงไม่น่ารอด แต่ผิดคาด อึดกว่าที่คิดมากๆ พี่ตุ๊งวดนี้มาปั่นมาเป็นผู้คุมความประพฤติดูแลอลิส ทั้งการกิน การพัก การปั่น และ คอยกระตุ้น แบบนี้อลิสน่าจะทนยันจบได้แน่ๆ ตัวพี่ตุ๊ก็ยังไม่เคยจบ 1000 โล แบบนี้ถ้าจบก็ได้พันโลแรกทั้งคู่ 

 ช่วงแรกของการปั่น 97 โล เราใช้เวลากับการพัก การรอไปเยอะมากๆ แต่ก็พยายามตีคืนด้วยความเร็ว โชคดีที่เส้นทางเอื้ออำนวยในการทำความเร็วได้ แต่ก็ต้องเปลืองพลังไปเยอะเพื่อแก้เกมที่เสียเวลาไปในช่วงแรก เราไปถึงเซเว่นกันเวลาไม่ได้ขี้เหร่ ยังมีนักปั่นมากมายที่ยังอยู่ในจุดนั้น ไปถึงก็เจอการต้อนรับด้วยฟองสีทองทันที 555 เราเจอพี่อ้วนดักรอแจกน้ำสีทอง พร้อมพี่กวีแจกพาวเว่อร์บาร์ให้นักปั่น สนุกสนานกันตั้งแต่ Control แรก ผมไม่รอช้าจัดอาหารและกาแฟทันที เราใช้เวลาพักที่จุดนี้แค่ 10 นาที และรีบไปต่อทันที อากาสมองไปข้างหน้าเห็นลางไกล เมฒฝนกำลังมา 
   Cp 1 ระยะ 183 km วัดดาวดึงษ์  ใช่ครับ Cp1 ที่ผ่านมาแค่ Control ซึ่งไม่ได้กำหนดเวลา แค่ต้องมาเช็คชื่อเท่านั้นว่ามาถูกทาง แต่ อันต่อไปนี่ละสำคัญ Cp หรือ Check Point ต้องเข้าให้ทัน ไม่ทัน DNF เรารีบออกจากเซเว่น เพื่อไปต่อยัง Cp เส้นทางในจุดนี้เราเจอกับเส้นทางในเขตชุมชน เส้นทางก็แบบถนนปูน สลับ ยางมะตอย มีออกถนนบ้าง 

 มาตรงนี้พี่วี มีอาการผิดปกติเหมือนจะหายใจไม่สะดวก พี่วีเคยD์NFที่สนาม 600กระเสียวเพราะมีอาการหัวใจเต้นแรงเพราะเพิ่งไปฉีดวัคซีนมา เลยทำให้ค่าฮาทเรทสูงทะลุ190ขึ้นไป แต่วันนี้พี่วีดูมีอาการเหมือนอิดโรย ผมทักพี่วีอยู่ตอนเราพักสังเกตุอาการพี่เขาเหมือนดวงตาไม่ค่อยสดชื่น มองดูแบบนี้คงจะมาจากอาการเดิมบวกอากาศที่ร้อนอบอ้าวแน่ๆ เลยทำให้พี่วีเหนื่อยไว ผมกับพี่โอ๊ตจึงสลีบกันลากในช่วงนี้  และ ฝน ก็ปรอยลงมาจิงๆ ทำให้อากาศเย็นขึ้น แต่เราโชคดี ที่เราช้ากว่าเขา ข้างหน้าเละเปียกฝนกันไปแล้วดูจากถนนที่เปียก เรามาตอนแค่ฝนท้ายๆเลยไม่เปียกอะไร กับเย็นสบาย พี่วีกลับมาแล้ว เพราะอากาศเย็นลง กว่าเราจะไปถึงวัดเราได้เบรคพักอยู่ 3 ครั้ง โดยพี่ตุ๊จะเป็นคนให้สัญญาณในการพัก เพราะดูอาการของอลิสว่าต้องพักแล้ว พักทีเราจะวนหาน้ำแข็งเพื่อมาลดอุณหภูมิให้ร่างกายเย็นลง อลิสเอาน้ำแข็งใส่ถุงและใส่หลังเสมอ ผมก็พกน้ำไป2กระติก อัดน้ำแข็งใส่น้ำให้เย็นและฉีดตามตัว ช่วงบ่ายจากเย็นมาร้อนและแดดแรงมากๆ ผิดกับเช้าที่อ้าว มาตอนนี้ร่างกายต้องปรับสภาพตามน่าดู และ ลมก็ทวีความแรงขึ้นเรื่อยๆ มีแต่ลมอัดหน้า อัดข้าง
    
   แถมยังมีน้ำท่วมต้องแบกจักยานขึ้นสะพานกันเลยทีเดียว มาให้ครบในเช้านี้ มาได้ทุกสภาวะ แต่ทุกคนกลับสนุกสนานกัน ใบหน้ายังสู้ไม่ยอมแพ้ ผมหันไปถามเอ๋ สนุกไหม1000โล เอ๋บอกสนุกครับ แววตาและเสียงยังไหวแน่นอน 
                ไว้มาเขียนต่อครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่