สอบถามเรื่อง สภาพแวดล้อม, ความเข้มงวดในครอบครัว

สวัสดีครับ 
คือผมเป็นนักเรียนแพทย์ที่กำลังจะขึ้นปี 3 เรื่องการเรียนก็ปกติครับเรื่อยๆ แต่มีความไม่สบายใจเรื่องสิ่งแวดล้อมในครอบครัวเป็นพิเศษครับ คือผมเป็นลูกคนเดียว ที่บ้านมีแค่พ่อกับแม่ ซึ่งพ่อจะทำงานต่างประเทศ กลับบ้านเดือนละครั้งครับ เวลาที่ไม่ต้องไปอยู่หอพักแพทย์ก็จะอยู่บ้านกับแม่ตลอด แม่ผมทำงานที่โรงพยาบาล ก็คือจะเจอกันแค่ช่วงเย็น ผมเป็นคนกรุงเทพ อยู่มาั้งแต่เกิดจนถึงตอนนี้ครับ ผมจะขอแยกประเด็น เป็นเรื่องความเข้มงวดในครอบครัว สภาพแวดล้อมในครอบครัว และความรู้สึกที่ผมรู้สึกครับ

ประเด็นที่หนึ่ง ความเข้มงวดในครอบครัว
คือเรื่องนี้เป็นปัญหามานานครับ ด้วยความที่มารดาทำงานพวกสุขภาพ เอาความเข้มงวดและระเบียบมาลงที่ผมมาตั้งแต่เด็ก เข้าใจว่าเขาอยากฝึกให้ผมมีระเบียบ แต่ผมรู้สึกว่ามันมากเกินไป และไม่ผ่อนคลายให้ลูกเลย มารดาจะไม่เคยให้ตื่นเกิน 7 โมงเช้า ไม่ว่าจะเป็นวันหยุด บางวันผมเหนื่อยและดีใจที่วันหบุดจะได้นอนยาว แต่ไม่เลยผมต้องตื่นครับ อีกอย่างคือมารดาผมประหยัด ไม่เคยซื้ออะไรที่นอกจากปัจจัย 4 และคาดหวังให้ผมทำแบบเดียวกัน ผมไม่เคยได้รับของขวัญ ของฝาก กินข้าวนอกบ้าน หรือไปเที่ยวที่ไหนเลย คือผมรู้สึกว่ามันมากไปอะครับ แล้วมากกว่านั้นคือ เขาดุมาก เป๊ะมาก ทุกอย่างต้องตามแผนผมต้อวทำตัวถูกระเบียบตลอดเวลา ไม่ว่าในบ้าน การแต่งตัว ไปจนถึงขนาดกฎระเบียบนักศึกษา เขาชอบให้ผมเรียบร้อยตลอดเวลา อีกทั้งยังไม่เคยให้ผมออกไปเที่ยวกับเพื่อน หรือแม้แต่กินข้าวกับเพื่อนมื้อนึง เขายังไม่ให้ทำครับ นี่ยังดีเพราะบิดาไม่อยู่บ้าน ถ้าเวลาบิดาอยู่พร้อมมารดา ยิ่งเหมือนคูณสองครับ
อีกเรื่องคือ สิ่งที่พวกเขาชอบแบะคาดหวังคือ ชอบเห็นผมอ่านหนังสืออยู่หน้าไอแพดอดเวลาครับ ไม่มีการพัก ห้ามใช้เงินซื้อของที่อยากได้ ห้ามเจอเพื่อน ห้ามทำอะไรเสียเวลา ห้ามห้ามและห้าม ทุกเช้าวันหยุด ไม่มีวันไหนที่ผมไม่อยากตื่น 9 โมง ผมต้องตื่นเช้า (หรืออาจจะไม่เช้าสำหรับหลายๆท่านนะครับ แต่ผมรู้สึกง่วงมากจริงๆ) เพื่อมาอ่านหน้าไอแพด ซึ่งผมแทบไม่ได้ประโยชน์อะไร เพราะง่วงมาก ก็มีแต่จะใช้เวลาเปิดดูอะไรที่ทำให้เบี่ยงเบนจากความง่วงครับ
มารดาเข้มงวดมาก ขนาดที่ไม่ให้เงินผมเป็นรายเดือน เวลาไปมหาวิทยาลัย เขาให้เงินแบบพอดีๆ ให้พอค่าข้าวมื้อละ 40-45 สามมื้อครอบสัปดาห์ ละค่อยมาเอาเงินไปใหม่ ถ้าเมื่อไรที่เงินหายไป เขาจะดุด่าอย่างหนัก ว่าผมเอาเงินไปทำอะไร

ประเด็นที่สองและสาม สภาพแวดล้อมในครอบครัว และความรู้สึกที่ผมรู้สึก
มาจากมารดาเป็นส่วนใหญ่ครับ เพราะบิดาอยู่ต่างประเทศ มารดาผมดุด่าหนักมาก แบบมากจริงๆอะครับ กับทุกเรื่องที่ขัดหูขัดตาเขา เวลาเขาดุด่า เสียงดังมากจริงๆ คือผมบอกตรงๆนะครับ แทนที่การกลับบ้าน จะทำให้รู้สึกสบายใจ โล่งใจ แต่สิ่งเดียวที่ผมรู้สึกคือความอึดอัด และการต้องฝืนตัวเองครับ ทุกคนครับคือเอาจริงๆ มันเกิดมานานตั้งแต่ผมเริ่มเรียนหนังสือละครับ แต่รู้สึกว่ายิ่งมารดาเข้าวัยทอง อาการมันหนักขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกกดดันมากครับ ละพอเราขีดใจเขา เขาจะยกความดีงามเขามาพูดพร้อมดุด่าอย่างหนัก เสียวดังมากครับว่าเขาเสียสละมาแค่ไหน ประหยัดทุกสตางค์ แต่เรากลับไม่เห็นคุณค่า คือไม่ได้มีใครบอกให้เขาประหยัดอะครับ เงินเดือนเค้าก็เป็นแสน เงินเก็บหลายล้านแต่ไม่เคยกินอะไรนอกจากอาหารตามสั่ง ห้ามเกิน 60 บาทต่อมื้อ แล้วผมรู้สึกว่ามันเอาความกดดันมาลงที่ผม ให้ผมทำตัวเหมือนที่เขาสร้างภาพอยากให้เป็น คือผมรู้สึกกดดันมานานมากแล้วโดยไม่รู้ตัว ตอนเด็กผมไม่มีความรู้สึกเท่าไร ผมก็ทำตามแต่ที่เขาอยากให้เป็น ผลคือผมไม่รู้ตัวว่าตัวเองไม่มีความสุข จนผมเป็นภาวะวิตกกังวล ต้องทานยาพวก SSRI มาตลอดจนถึงตอนนี้ แต่ปริมาณน้อยมากๆแค่ครึ่งเม็ดครับ ผมกลายเป็นคนต้องทำอะไรแอบๆ บางวันผมง่วงมาก แต่ก็นอนไม่ได้ ต้องไปแอบนอนในห้องน้ำส่วนกลางของคอนโด โกหกมารดานับไม่ถ้วน เพื่อให้ได้ออกไปอ่านหนังสือกับเพื่อน หรือไปแอบซื้อของที่ตัวเองอยากได้ครับ 

อยากปรึกษาทุกคนที่อ่านมาถึงนี่ครับว่า ทำไงดีให้ความรู้สึกผมเปลี่ยนไปในทางบวกครับ คือผมไม่รู้สักรักพ่อแม่ รู้สึกว่าอึดอัด กดดัน ไม่เป็นตัวเองเวลาต้องกลับบ้าน และรู้สึกเกลียดแม่ในหลายๆครั้ง ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ดี แต่มันรู้สึกจริงๆครับ เพื่อนหลายๆคนบอกว่า ไม่ต้องคิดมากแค่รีบเรียนให้จบละพอเราหาเงินได้ เอาเงินให้พวกพ่อแม่เห็น เขาจะวางใจละปล่อยเราสู้อิสระครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่