คือเราพยายามหาเงินอยู่ค่ะ เพราะอยากเก็บเงินสำหรับไปฝึกงานที่กทม ทางเลือกของเราคือ ทำPart time หรือ ขอทุนคณะ(ทำงานแลก) ซึ่งก็ตั้งใจว่าจะทำทั้งสองอย่างเพราะตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเก็บให้ได้ 40000 ค่ะ ทีนี้เราก็สมัครไปที่ร้านไอติมแห่งหนึ่งในเชียงใหม่แถวนิมมานค่ะ ติดต่อร้านไว้หมดแล้วพร้อมเริ่มงานแล้วทางร้านก็เรียกไปฝึกแล้วด้วย ซึ่งก็จะได้กะดึกค่ะ ประมาณ 17.00-22.00 ตัวเราเองไม่มีปัญหาอะไร แต่พอเราบอกคุณพ่อเท่านั้นแหละค่ะ เป็นเรื่อง
เหมือนว่าจะไม่ถูกใจเอามากๆ ถึงขั้นเครียดจนนอนไม่หลับ คือจริงๆเราก็สามารถขับรถไปเองได้นะคะ แต่พอกลัวว่าพ่อจะเป็นห่วงก็เลยเสนอให้คุณพ่อไปส่ง ซึ่งแถวนิมมานก็มีร้านที่สามารถนั่งชิลล์ได้ ถ้าคุณพ่ออยากนั่งรอ แล้วคุณพ่อก็เสียงสั่นพูดประมาณว่า ทำไมต้องไปทำร้านแบบนั้น นึกภาพออกเลย ไปเป็นลูกจ้างเขา ได้ไม่กี่บาท พ่อไม่โอเคเลย บลาๆๆ เราก็ตกใจเห็นคุณพ่อเสียงสั่นเราก็ใจหาย เลยบอกไปประมาณว่าเดี๋ยวพน.จะโทรไปบอกเขาว่าเราติดโควิดแล้วกัน ;_; คุณพ่อถึงอารมณ์ดีขึ้นค่ะ //ขอโทษทางร้านด้วยจริงๆนะคะ เราไม่ได้ติดโควิดหรอก ตรงนี้คือเราไม่เข้าใจเลยว่าเพราะอะไร มันถึงไม่ได้ มันแย่ขนาดนั้นเลยหรอคะ ตอนอยู่ที่บ้านปกติเราก็จะพยายามช่วยงานอยู่นะคะ ออกไปส่งของให้บ้าง ช่วยแพคของบ้าง หรือตัวเราเองก็ขายของออนไลน์ด้วยค่ะ แต่พอช่วงเรียนไม่ได้เข้าร้านนานๆ ยอดเลยไม่ขึ้นเลย ;_; พอปิดเทอมพยายามกระตุ้นมันอีก หาของมาลง ก็ไม่มีคนมาซื้อเลยค่ะ
คุณพ่อเขาก็ค่อนข้างจะปูทางไว้ให้ค่ะ เหมือนพยายามสนับสนุนในสายงาน พูดประมาณว่าถ้าจะทำ Part time ทำไมไม่ทำที่มันตรงสายกับที่เรียน คือเราเรียนสถาปัตย์ค่ะ คุณพ่อก็พยายามดันหลายๆอย่าง เช่น มีห้องว่างไว้ให้สำหรับเปิดให้สอนติว สอนโปรแกรมเฉพาะทาง ประมาณนี้ ซึ่งบอกตามตรงเราทำไม่ได้ค่ะ เพราะรู้สึกว่าไม่เก่งพอจะไปสอนใคร ไม่อยากหลอกลวงผู้บริโภค รู้สึกแย่มากๆ แต่คุณพ่อก็พยายามดึงดัน เอาป้ายมาติด พยายามโฆษณาให้เรา ซึ่งเราก็พยายามอธิบายให้เขาเข้าใจว่าเราไม่โอเค ทำตรงนี้ไม่ได้จริงๆ เราไม่จอย พอดูแบบนี้เหมือนเราจะเป็นลูกที่แย่มากเลยใช่ไหมคะ เราก็รู้สึกผิดอยู่ทุกวันค่ะ แต่ไม่รู้จะทำยังไง ให้วินวินทั้งพ่อทั้งเรา
แต่ทั้งนั้นทั้งนี้เราก็พยายามหางานแบบอื่นมาทำนะคะ เช่น NFT ซึ่งก็กำลังพยายามศึกษาอยู่ค่ะ เราเป็นคนไม่มีสไตล์การวาดรูปที่ชัดเจนเท่าไหร่ เลยยังไม่รู้ว่าควรเดินไปไหม เพราะเราก็ดันขอซื้อไอแพด(เอามาใช้เรียนออนไลน์อยู่แล้ว)กับโปรครีเอต(สนองนีดอยากขีดๆเขียนๆ)ด้วย พ่อเราเขาก็สนับสนุนนะคะ ไม่ขัดอะไร แต่จะชอบมากดดัน ว่า เมื่อไหร่จะทำๆๆๆ คือเรายังคิดคอนเท้นไม่ออกค่ะ กลัวลงสุ่มสี่สุ่มห้าจะกลายเป็นเสียเงินเปล่าๆ เราไม่ได้มีทุนเยอะขนาดนั้น แค่ที่รับมาก็เกรงใจจนบอกหลายครั้งแล้วว่า ไม่เอา ไม่เป็นไร ยังไม่อยากได้ขนาดนั้น แต่สุดท้ายเราก็ได้ของมาอยู่ดีพร้อมความรู้สึกผิดที่รู้สึกว่าเอามาแล้วก็อาจไม่ส่งผลประโยชน์เท่าไหร่
เราเป็นลูกที่แย่มากเลยใช่ไหมคะ คุณพ่อพยายามดันเราหลายอย่างมาก แต่กลายเป็นว่าเราทำอะไรไม่ได้สักอย่าง เหมือนไม่พยายาม เรารู้สึกกดดันมากค่ะ แล้วก็เครียด คุณพ่อก็คงตาดหวังอยากให้เราได้ดี อยากให้เราเป็นเจ้าของบริษัท อยากให้เราเปิดบริษัทเอง แต่บอกตามตรงเราคิดว่าเราเกิดมาเพื่อเป็นผู้ตามค่ะ อยากทำงานในออฟฟิศ เป็นลูกจ้าง คาดหวังหาสังคมออฟฟิศดีๆ เจ้านายดีๆ ซึ่งก็เข้าใจว่าหายากนะคะ แต่เราก็ยังไม่อยากปักธงว่าไม่มี แปลกใช่ไหมคะ เด็กสมัยนี้คงอยากเป็นเจ้าของบ.กัน เราดันอยากเป็นลูกจ้าง
แล้วทุกวันนี้คุณพ่อก็พยายามจะคาดคั้นให้เราทำในสิ่งที่เขาอยากให้ทำค่ะ ทุกครั้งที่เห็นเราเล่นโทรศัพท์ หรือนั่งดูซีรี่ย์ อ่านเวปตูน ก็จะพูดขึ้นมาเลยค่ะ ประมาณว่า วันๆเราไม่ทำอะไร พยายามหาทุกอย่างมาให้แต่ก็ไม่ลงมือทำสักที พอเราฟังเราก็หงุดหงิดเลยเถียงกลับบ้าง กลายเป็นทะเลาะกันค่ะ เป็นปัญหามากๆ
ตอนนี้อีกทางเลือกของเราก็คือทำพอร์ตแล้วส่งสมัคร Part time ตาม บ.สถาปนิกค่ะ เราไม่รู้ว่าเปิดเทอมเราจะทำไหวไหมเพราะที่เรียนก็หนักพอสมควร (กำลังจะขึ้นปี 4) อยากได้คำแนะนำนิดนึงด้วยค่ะ
ขออภัยถ้าอ่านยากหรือสับสนนะคะ ดูเหมือนเกริ่นประเด็นยาวด้วย เราไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี ยังไงกระทู้นี้ก็คงมาระบายค่ะ แล้วก็อยากรู้คำตอบว่าเราเป็นลูกที่แย่มากจริงๆใช่ไหม เพราะถ้าแย่มากคงโดนจวก แต่พร้อมค่ะ มาเลยชาวเน็ต!!
คุณพ่อเตรียมให้ทุกอย่าง แต่เราเองที่ไม่เอาถ่าน
เหมือนว่าจะไม่ถูกใจเอามากๆ ถึงขั้นเครียดจนนอนไม่หลับ คือจริงๆเราก็สามารถขับรถไปเองได้นะคะ แต่พอกลัวว่าพ่อจะเป็นห่วงก็เลยเสนอให้คุณพ่อไปส่ง ซึ่งแถวนิมมานก็มีร้านที่สามารถนั่งชิลล์ได้ ถ้าคุณพ่ออยากนั่งรอ แล้วคุณพ่อก็เสียงสั่นพูดประมาณว่า ทำไมต้องไปทำร้านแบบนั้น นึกภาพออกเลย ไปเป็นลูกจ้างเขา ได้ไม่กี่บาท พ่อไม่โอเคเลย บลาๆๆ เราก็ตกใจเห็นคุณพ่อเสียงสั่นเราก็ใจหาย เลยบอกไปประมาณว่าเดี๋ยวพน.จะโทรไปบอกเขาว่าเราติดโควิดแล้วกัน ;_; คุณพ่อถึงอารมณ์ดีขึ้นค่ะ //ขอโทษทางร้านด้วยจริงๆนะคะ เราไม่ได้ติดโควิดหรอก ตรงนี้คือเราไม่เข้าใจเลยว่าเพราะอะไร มันถึงไม่ได้ มันแย่ขนาดนั้นเลยหรอคะ ตอนอยู่ที่บ้านปกติเราก็จะพยายามช่วยงานอยู่นะคะ ออกไปส่งของให้บ้าง ช่วยแพคของบ้าง หรือตัวเราเองก็ขายของออนไลน์ด้วยค่ะ แต่พอช่วงเรียนไม่ได้เข้าร้านนานๆ ยอดเลยไม่ขึ้นเลย ;_; พอปิดเทอมพยายามกระตุ้นมันอีก หาของมาลง ก็ไม่มีคนมาซื้อเลยค่ะ
คุณพ่อเขาก็ค่อนข้างจะปูทางไว้ให้ค่ะ เหมือนพยายามสนับสนุนในสายงาน พูดประมาณว่าถ้าจะทำ Part time ทำไมไม่ทำที่มันตรงสายกับที่เรียน คือเราเรียนสถาปัตย์ค่ะ คุณพ่อก็พยายามดันหลายๆอย่าง เช่น มีห้องว่างไว้ให้สำหรับเปิดให้สอนติว สอนโปรแกรมเฉพาะทาง ประมาณนี้ ซึ่งบอกตามตรงเราทำไม่ได้ค่ะ เพราะรู้สึกว่าไม่เก่งพอจะไปสอนใคร ไม่อยากหลอกลวงผู้บริโภค รู้สึกแย่มากๆ แต่คุณพ่อก็พยายามดึงดัน เอาป้ายมาติด พยายามโฆษณาให้เรา ซึ่งเราก็พยายามอธิบายให้เขาเข้าใจว่าเราไม่โอเค ทำตรงนี้ไม่ได้จริงๆ เราไม่จอย พอดูแบบนี้เหมือนเราจะเป็นลูกที่แย่มากเลยใช่ไหมคะ เราก็รู้สึกผิดอยู่ทุกวันค่ะ แต่ไม่รู้จะทำยังไง ให้วินวินทั้งพ่อทั้งเรา
แต่ทั้งนั้นทั้งนี้เราก็พยายามหางานแบบอื่นมาทำนะคะ เช่น NFT ซึ่งก็กำลังพยายามศึกษาอยู่ค่ะ เราเป็นคนไม่มีสไตล์การวาดรูปที่ชัดเจนเท่าไหร่ เลยยังไม่รู้ว่าควรเดินไปไหม เพราะเราก็ดันขอซื้อไอแพด(เอามาใช้เรียนออนไลน์อยู่แล้ว)กับโปรครีเอต(สนองนีดอยากขีดๆเขียนๆ)ด้วย พ่อเราเขาก็สนับสนุนนะคะ ไม่ขัดอะไร แต่จะชอบมากดดัน ว่า เมื่อไหร่จะทำๆๆๆ คือเรายังคิดคอนเท้นไม่ออกค่ะ กลัวลงสุ่มสี่สุ่มห้าจะกลายเป็นเสียเงินเปล่าๆ เราไม่ได้มีทุนเยอะขนาดนั้น แค่ที่รับมาก็เกรงใจจนบอกหลายครั้งแล้วว่า ไม่เอา ไม่เป็นไร ยังไม่อยากได้ขนาดนั้น แต่สุดท้ายเราก็ได้ของมาอยู่ดีพร้อมความรู้สึกผิดที่รู้สึกว่าเอามาแล้วก็อาจไม่ส่งผลประโยชน์เท่าไหร่
เราเป็นลูกที่แย่มากเลยใช่ไหมคะ คุณพ่อพยายามดันเราหลายอย่างมาก แต่กลายเป็นว่าเราทำอะไรไม่ได้สักอย่าง เหมือนไม่พยายาม เรารู้สึกกดดันมากค่ะ แล้วก็เครียด คุณพ่อก็คงตาดหวังอยากให้เราได้ดี อยากให้เราเป็นเจ้าของบริษัท อยากให้เราเปิดบริษัทเอง แต่บอกตามตรงเราคิดว่าเราเกิดมาเพื่อเป็นผู้ตามค่ะ อยากทำงานในออฟฟิศ เป็นลูกจ้าง คาดหวังหาสังคมออฟฟิศดีๆ เจ้านายดีๆ ซึ่งก็เข้าใจว่าหายากนะคะ แต่เราก็ยังไม่อยากปักธงว่าไม่มี แปลกใช่ไหมคะ เด็กสมัยนี้คงอยากเป็นเจ้าของบ.กัน เราดันอยากเป็นลูกจ้าง
แล้วทุกวันนี้คุณพ่อก็พยายามจะคาดคั้นให้เราทำในสิ่งที่เขาอยากให้ทำค่ะ ทุกครั้งที่เห็นเราเล่นโทรศัพท์ หรือนั่งดูซีรี่ย์ อ่านเวปตูน ก็จะพูดขึ้นมาเลยค่ะ ประมาณว่า วันๆเราไม่ทำอะไร พยายามหาทุกอย่างมาให้แต่ก็ไม่ลงมือทำสักที พอเราฟังเราก็หงุดหงิดเลยเถียงกลับบ้าง กลายเป็นทะเลาะกันค่ะ เป็นปัญหามากๆ
ตอนนี้อีกทางเลือกของเราก็คือทำพอร์ตแล้วส่งสมัคร Part time ตาม บ.สถาปนิกค่ะ เราไม่รู้ว่าเปิดเทอมเราจะทำไหวไหมเพราะที่เรียนก็หนักพอสมควร (กำลังจะขึ้นปี 4) อยากได้คำแนะนำนิดนึงด้วยค่ะ
ขออภัยถ้าอ่านยากหรือสับสนนะคะ ดูเหมือนเกริ่นประเด็นยาวด้วย เราไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี ยังไงกระทู้นี้ก็คงมาระบายค่ะ แล้วก็อยากรู้คำตอบว่าเราเป็นลูกที่แย่มากจริงๆใช่ไหม เพราะถ้าแย่มากคงโดนจวก แต่พร้อมค่ะ มาเลยชาวเน็ต!!