หน้าตา vs ทัศนคติ อย่างไหนสำคัญกว่ากัน
.
ปัญหาโลกแตกจริงๆ สำหรับคนที่อาจจะไม่ได้เจอคนรักที่ถูกใจทั้งสองอย่าง
.
เรามักเคยได้ยิน หรือเจอกับตัวเองว่าเมื่ออายุน้อยๆ หน้าตาจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่พอโตขึ้นมาทัศนคติหรือนิสัยจะสำคัญกว่า อันนี้จริงหรือไม่จริง มันขึ้นอยู่กับอายุจริงๆ น่ะหรอ
.
สำหรับผม ผมว่ามันขึ้นอยู่กับประสบการณ์ต่างๆ ที่พบเจอมา และมันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะเราอาจจะเจอทั้งคนที่หน้าตากับนิสัยไม่โอเคทั้งคู่เลยก็ได้ หน้าตาดีไม่ได้แปลว่านิสัยดี หน้าตาไม่ดีก็ไม่ได้แปลว่านิสัยดีเหมือนกัน นิสัยมันอยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่า
.
ประสบการณ์ที่ว่าก็คือ ถ้าเราเจอคนสวยแต่นิสัยแย่บ่อยๆ เข้า เราอาจจะเห็นคุณค่าของทัศนคติมากขึ้น หรือถ้าเราเจอคนสวยทัศนคติดีๆ บ่อยๆ เราก็เชื่อว่าเราจะหาได้ แต่ว่าเราคู่ควรกับเขาไหมนะ
.
สังเกตได้ว่าผู้หญิงจะชอบผู้ชายที่รู้สึกอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ปลอดภัยมากกว่า เพราะว่าผู้ชายมีโอกาสจะเจ้าชู้มากกว่า และส่วนมากก็เกิดกับคนหล่อด้วยบ่อยครั้ง คนหล่อมากๆ จึงไม่ใช่คำตอบของผู้หญิงหลายๆ คน แต่เป็นคนที่ดูแลเธอได้ ปกป้องเธอได้ ส่วนผู้ชายที่ขึ้หึงหนักๆ อนาคตต่อไปก็จะเลือกคนที่ไม่ต้องทำให้เราหวาดระแวง (บางทีเราก็หวาดระแวงไปเองน่ะล่ะ) โดยรวมคืออยู่แล้วสบายใจมากขึ้น
.
แล้วเราควรเลือกอย่างไหนล่ะ? ก็ต้องตอบว่าทัศนคติดี กับทัศนคติที่ใช่มันแตกต่างกัน คุณอาจจะต้องลองมีประสบการณ์ความรักที่มากขึ้น คุณอาจจะรู้ได้ว่าบางทัศนคติที่แย่สำหรับบางคน ก็อาจจะเป็นทัศนคติที่ดีสำหรับเราก็เป็นได้ คุณจะไม่มีทางรู้จนกว่าจะได้เรียนรู้ว่าเราชอบคนแบบไหนกันแน่
.
ส่วนเรื่องหน้าตานั้นในเชิงผลกระทบทางอ้อมแล้วมักส่งผลให้คนบางคนเกิดความลำพองตนมากจนเกินไป และคิดว่าฉันหล่อ ฉันสวย ฉันคู่ควรกับคนทั้งหน้าตาดีและนิสัยก็ดี โดยที่ลืมคิดไปว่า คนเหล่านั้นก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกคนที่ทั้งสวยและก็ทัศนคติดีเช่นกัน หลายครั้งเราเลยมักจะพบว่าคนที่หน้าตาดี ก็มักจะถูกสังคม Treat แบบพิเศษ และก็อาจทำให้เกิดความเอาแต่ใจ เห็นแก่ตัวเพิ่มขึ้นได้
.
ซึ่งถ้าถามว่าอย่างไหน สำคัญกว่ากัน ก็คงต้องขึ้นอยู่กับแต่ละคน เพียงแต่ว่าหน้าตาจะช่วยทำให้เพิ่มความสนใจ ทำให้เริ่มทำความรู้จักกันได้ง่าย หรือดึงดูดที่มากกว่า แต่บางครั้งหน้าตาไม่ได้ดีมาก แต่ว่ามีความเป็นมิตร ก็ทำให้คุยง่ายเหมือนกัน เพราะว่าการที่หน้าตาดีเนี่ยไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย เวลาไปเข้าหาใครก่อนก็อาจจะถูกมองว่าเจ้าชู้ เข้ามาอ่อย เข้ามาจีบ แล้วก็อาจจะถูกไม่ชอบขี้หน้าได้มากกว่า กลับกันคนที่หน้าตาธรรมดาเวลาเข้าหาคน ต่อให้เข้ามาจีบ คนก็อาจจะไม่รู้สึก ไม่ได้กลัว ส่วนระยะยาวตอนคบไป เป็นแฟน คู่หมั้น แต่งงาน เป็นครอบครัว ยังไงทัศนคติก็สำคัญกว่าแน่นอนครับ
.
เพราะฉะนั้นแล้วถ้าเราอยากจะได้ทุกอย่างที่ถูกใจเรา ที่แน่ๆ เลยก็คือ เราต้องตามหาทัศนคติที่ใช่สำหรับเราก่อน วิธีหาก็คือการได้ศึกษา ออกเดต เรียนรู้กับคนที่หลากหลาย โดยที่อย่าพึ่งตกลงปลงใจกัน เพื่อให้เราได้เรียนรู้ตัวเองมากขึ้น การอัพเกรดตัวเองให้ดี น่าดึงดูด จะทำให้เราสามารถเข้าหาคนหน้าตาดีได้เอง ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะหาไม่ได้ง่าย แต่เชื่อเถอะครับว่าคนที่ทัศนคติเข้ากันได้ จะช่วยให้เรามองข้าม หรืออีกความหมายนึงก็คือ คนที่เราชอบแล้ว ก็จะได้รับข้อยกเว้นสารพัดอย่างให้ เช่นเราชอบคนนี้ เขาสวยมาก เพราะงั้นนิสัยไม่ดีบางอย่างเราก็ยกเว้นให้เขาเป็นต้น
สุดท้ายนี้ก็ขอทิ้งท้ายไว้ว่ามันสำคัญที่ความรู้สึกเรา และการวางแผนในอนาคต อย่าลืมว่าเมื่ออยู่ด้วยกันแล้วทัศนคติ นิสัย ย่อมมีผลในระยะยาวมากกว่า ส่วนหน้าตาก็เป็นความสุขระยะเริ่มมากกว่า ให้เราจัดการอย่างสมดุลก็พอ
และถ้าอยากพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ก็สามารถมาจอยได้ที่ดิสคอร์ดเลยนะครับ
https://discord.gg/3hKXqFME
หรือที่เพจของผมได้เลย
https://www.facebook.com/icevisuwat 
หน้าตา vs ทัศนคติ อย่างไหนสำคัญกว่ากัน
.
ปัญหาโลกแตกจริงๆ สำหรับคนที่อาจจะไม่ได้เจอคนรักที่ถูกใจทั้งสองอย่าง
.
เรามักเคยได้ยิน หรือเจอกับตัวเองว่าเมื่ออายุน้อยๆ หน้าตาจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่พอโตขึ้นมาทัศนคติหรือนิสัยจะสำคัญกว่า อันนี้จริงหรือไม่จริง มันขึ้นอยู่กับอายุจริงๆ น่ะหรอ
.
สำหรับผม ผมว่ามันขึ้นอยู่กับประสบการณ์ต่างๆ ที่พบเจอมา และมันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะเราอาจจะเจอทั้งคนที่หน้าตากับนิสัยไม่โอเคทั้งคู่เลยก็ได้ หน้าตาดีไม่ได้แปลว่านิสัยดี หน้าตาไม่ดีก็ไม่ได้แปลว่านิสัยดีเหมือนกัน นิสัยมันอยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่า
.
ประสบการณ์ที่ว่าก็คือ ถ้าเราเจอคนสวยแต่นิสัยแย่บ่อยๆ เข้า เราอาจจะเห็นคุณค่าของทัศนคติมากขึ้น หรือถ้าเราเจอคนสวยทัศนคติดีๆ บ่อยๆ เราก็เชื่อว่าเราจะหาได้ แต่ว่าเราคู่ควรกับเขาไหมนะ
.
สังเกตได้ว่าผู้หญิงจะชอบผู้ชายที่รู้สึกอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ปลอดภัยมากกว่า เพราะว่าผู้ชายมีโอกาสจะเจ้าชู้มากกว่า และส่วนมากก็เกิดกับคนหล่อด้วยบ่อยครั้ง คนหล่อมากๆ จึงไม่ใช่คำตอบของผู้หญิงหลายๆ คน แต่เป็นคนที่ดูแลเธอได้ ปกป้องเธอได้ ส่วนผู้ชายที่ขึ้หึงหนักๆ อนาคตต่อไปก็จะเลือกคนที่ไม่ต้องทำให้เราหวาดระแวง (บางทีเราก็หวาดระแวงไปเองน่ะล่ะ) โดยรวมคืออยู่แล้วสบายใจมากขึ้น
.
แล้วเราควรเลือกอย่างไหนล่ะ? ก็ต้องตอบว่าทัศนคติดี กับทัศนคติที่ใช่มันแตกต่างกัน คุณอาจจะต้องลองมีประสบการณ์ความรักที่มากขึ้น คุณอาจจะรู้ได้ว่าบางทัศนคติที่แย่สำหรับบางคน ก็อาจจะเป็นทัศนคติที่ดีสำหรับเราก็เป็นได้ คุณจะไม่มีทางรู้จนกว่าจะได้เรียนรู้ว่าเราชอบคนแบบไหนกันแน่
.
ส่วนเรื่องหน้าตานั้นในเชิงผลกระทบทางอ้อมแล้วมักส่งผลให้คนบางคนเกิดความลำพองตนมากจนเกินไป และคิดว่าฉันหล่อ ฉันสวย ฉันคู่ควรกับคนทั้งหน้าตาดีและนิสัยก็ดี โดยที่ลืมคิดไปว่า คนเหล่านั้นก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกคนที่ทั้งสวยและก็ทัศนคติดีเช่นกัน หลายครั้งเราเลยมักจะพบว่าคนที่หน้าตาดี ก็มักจะถูกสังคม Treat แบบพิเศษ และก็อาจทำให้เกิดความเอาแต่ใจ เห็นแก่ตัวเพิ่มขึ้นได้
.
ซึ่งถ้าถามว่าอย่างไหน สำคัญกว่ากัน ก็คงต้องขึ้นอยู่กับแต่ละคน เพียงแต่ว่าหน้าตาจะช่วยทำให้เพิ่มความสนใจ ทำให้เริ่มทำความรู้จักกันได้ง่าย หรือดึงดูดที่มากกว่า แต่บางครั้งหน้าตาไม่ได้ดีมาก แต่ว่ามีความเป็นมิตร ก็ทำให้คุยง่ายเหมือนกัน เพราะว่าการที่หน้าตาดีเนี่ยไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย เวลาไปเข้าหาใครก่อนก็อาจจะถูกมองว่าเจ้าชู้ เข้ามาอ่อย เข้ามาจีบ แล้วก็อาจจะถูกไม่ชอบขี้หน้าได้มากกว่า กลับกันคนที่หน้าตาธรรมดาเวลาเข้าหาคน ต่อให้เข้ามาจีบ คนก็อาจจะไม่รู้สึก ไม่ได้กลัว ส่วนระยะยาวตอนคบไป เป็นแฟน คู่หมั้น แต่งงาน เป็นครอบครัว ยังไงทัศนคติก็สำคัญกว่าแน่นอนครับ
.
เพราะฉะนั้นแล้วถ้าเราอยากจะได้ทุกอย่างที่ถูกใจเรา ที่แน่ๆ เลยก็คือ เราต้องตามหาทัศนคติที่ใช่สำหรับเราก่อน วิธีหาก็คือการได้ศึกษา ออกเดต เรียนรู้กับคนที่หลากหลาย โดยที่อย่าพึ่งตกลงปลงใจกัน เพื่อให้เราได้เรียนรู้ตัวเองมากขึ้น การอัพเกรดตัวเองให้ดี น่าดึงดูด จะทำให้เราสามารถเข้าหาคนหน้าตาดีได้เอง ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะหาไม่ได้ง่าย แต่เชื่อเถอะครับว่าคนที่ทัศนคติเข้ากันได้ จะช่วยให้เรามองข้าม หรืออีกความหมายนึงก็คือ คนที่เราชอบแล้ว ก็จะได้รับข้อยกเว้นสารพัดอย่างให้ เช่นเราชอบคนนี้ เขาสวยมาก เพราะงั้นนิสัยไม่ดีบางอย่างเราก็ยกเว้นให้เขาเป็นต้น
สุดท้ายนี้ก็ขอทิ้งท้ายไว้ว่ามันสำคัญที่ความรู้สึกเรา และการวางแผนในอนาคต อย่าลืมว่าเมื่ออยู่ด้วยกันแล้วทัศนคติ นิสัย ย่อมมีผลในระยะยาวมากกว่า ส่วนหน้าตาก็เป็นความสุขระยะเริ่มมากกว่า ให้เราจัดการอย่างสมดุลก็พอ
และถ้าอยากพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ก็สามารถมาจอยได้ที่ดิสคอร์ดเลยนะครับ
https://discord.gg/3hKXqFME
หรือที่เพจของผมได้เลย https://www.facebook.com/icevisuwat