JJNY : โทนีลั่นถ้ายังเป็นนายกฯ ‘ยาเสพติด’เอาอยู่!│ของแพงหมูโลละ 210│ธุรกิจรถเช่าโอด2ปีไร้เยียวยา│สหรัฐฯเพิ่มงบช่วยยูเครน

โทนี ลั่นถ้ายังเป็นนายกฯ รับรองปัญหา ‘ยาเสพติด’ เอาอยู่!
https://www.matichon.co.th/politics/news_3337096
 
 
โทนี ลั่นถ้ายังเป็นนายกฯ รับรองปัญหา ‘ยาเสพติด’ เอาอยู่!
 
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 พฤษภาคม เฟซบุ๊ก CARE • แคร์ คิด เคลื่อน ไทย ได้ไลฟ์สด การพูดคุยกับ โทนี วู้ดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร ในหัวข้อ ระบอบทักษิณในมัลติเวิร์สของความจน
 
โดยระหว่างการไลฟ์สด นายทักษิณ กล่าวว่า กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ภายในเดือนกันยายน 2565 หรือสิ้นปีงบประมาณนี้ คนไทยจะหายจน รู้สึกตกใจมาก เพราะส่วนตัว หากให้ดำเนินการดังกล่าว ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 กันยายน ทำไม่ได้ เพราะเวลาสั้นมาก และหากจะให้หายจนได้ทัน คงต้องเปลี่ยนชื่อจากบัตรคนจนที่แจกไป 20 ล้านใบ เป็นบัตรไม่จนแล้ว
 
“เป็นไปไม่ได้กับสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะความจริงวันนี้ คนลำบากมาก อดอยาก เป็นหนี้และไม่ใช่หนี้ในระบบ แต่นอกระบบด้วย บางคนหันไปค้ายาเสพติด ทำหวยใต้ดิน ไปจนถึงเป็นนักใบ้หวย หรือมีเงินอยู่ก็เอาไปซื้อหวย เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไร เผื่อฟลุ๊ค แม้โอกาสถูกรางวัลจะต่ำมาก จึงอยากให้นายกรัฐมนตรี ได้ลงไปสัมผัสจริงๆ จะรู้ว่า คนลำบากมาก จากความล้มเหลวในการบริหารประเทศ ประดังเข้ากับปัญหาสงครามระหว่างยูเครน-รัสเซีย ที่แม้ประเทศใหญ่ๆ ยังเจ็บปวด ไทยจึงยากที่จะหลีกเลี่ยง ทุกอย่างราคาแพง ขณะที่ โดยเฉลี่ยกำลังซื้อตกต่ำมาก หากไม่บริหารจัดการ ไม่มียุทธศาสตร์อยู่แบบนี้ อาจไปต่อไม่ได้”
 
หากระบอบประชาธิปไตยยังอยู่ ไม่ถูกปฏิวัติ และเป็นไปตามครรลอง โดยให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ เชื่อว่าบ้านเมืองจะไม่แย่แบบนี้ ดีกว่านี้เยอะ ขอย้ำคำพูดของ บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ กล่าวว่า 
 
ถ้าเราเกิดมาจน ไม่ใช่ความผิดของเรา 
แต่ถ้าเราตายจน เป็นความผิดของเรา 
แต่ถ้าเราไม่อยากตายจน ยังต้องตายจน เป็นความผิดของรัฐบาล 
เพราะรัฐบาลมีหน้าที่สร้างโอกาสให้ประชาชน 
ถ้ารัฐบาลไร้ฝีมือ ประชาชนก็จะหมดโอกาส ไม่เห็นช่องทางการเจริฐเติบโต ความก้าวหน้าในชีวิต
 
ถ้าเรามีรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากประชาชน รัฐบาล[เผล่ะจัง] มาจากการยึดอำนาจ และมีรัฐธรรมนูญที่ไม่เห็นหัวประชาชน มีไว้เพื่อรักษาอำนาจมากกว่ารักษาความมั่งคั่งของประเทศ แบบนี้ไปไม่ได้ โดยประเทศต้องมีทั้งฮาร์ดพาวเวอร์ และซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งทุกวันนี้ไม่ถูกพัฒนา ไม่เปิดโอกาส ทำให้คนเหล่านี้กลายเป็นแรงงานราคาถูก ทำให้บ้านเมือง และคนเหล่านี้ยังยากจนอยู่
 
“ประเทศยิ่งจนเท่าไร ยาเสพติดยิ่งเยอะ ด้วยทฤษฎีอาชญาวิทยา ระบุว่า ถ้าช่องทางที่ถูกกฎหมายไม่เปิด เขาก็จะไปหากินในทางที่ผิดกฎหมาย และถ้าผิดกฎหมายแล้วโอกาสถูกจับกุมต่ำ ก็จะยิ่งไปหากินทางนั้น แม้เป็นทฤษฎีที่นานมากแล้ว แต่ยังเป็นความจริงอยู่โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาอย่างเรา อย่าเพิ่งบอกว่าประเทศเราจะพัฒนาแล้ว ผมว่าอีกนาน และยิ่งเป็นรัฐบาลอย่างนี้ยิ่งแย่ ซึ่งถ้ายังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ ปัญหายาเสพผมติดเอาอยู่หมด ลูกหลานต้องไม่ตกเป็นทาสเหมือนทุกวันนี้ และถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลยืนพื้นเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดแน่นอน เพราะเป็นเรื่องใหญ่”
 
และถ้ายังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ ด้านการรักษาพยาบาล ทุกอำเภอจะมีโรงพยาบาล หรือคลีนิก และจะมีเซ็นเตอร์เพื่อเช็กดีเอ็นเอของคนในพื้นที่ ว่ามีแนวโน้มป่วยเป็นโรคอะไร เพื่อดูแลและวินิจฉัย ทำการวิเคราะห์วิจัยต่อเนื่อง กระจายให้ทุกโรงพยาบาลสามารถซื้อยาได้เอง เพราะมีการคัดกรองผ่านระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด และมีระบบการนัดหมอผ่านแอพพลิเคชั่น ส่วนการป้องกัน จะมีการส่งเสริมการออกกำลังกาย และการทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมไปถึง การดูแลเรื่องสุขภาพจิต จัดแพทย์เข้าไปเยี่ยม หรือฝีกให้ อสม. เพื่อเป็นการป้องกันโรค เมื่อตรวจเจอจะสามารถรักษาได้ทันทวงที ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยายาลต่อคนลงได้
 
ด้านกองทุนหมูบ้าน จะมีการพัฒนาให้เป็นธนาคารประจำหมู่บ้าน เพื่อดูแลคนในหมู่บ้าน โดยจะจัดให้มีงบประมาณหมู่บ้าน เพื่อแก้ไขปัญหาของตัวเอง เป็นการกระจายอำนาจ และสินค้าโอทอป จะผนวกกับเอสเอ็มอี โดยสร้างเป็นไทยแลนด์แบรนด์ ตั้งเป็นเอาท์เลท ไว้ตามมหานครใหญ่ที่สำคัญของโลก อย่างนิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน เซี่ยงไฮ และโตเกียว เพื่อโปรโมทสินค้าไทย และใก้ลเคียงสินค้าแบรนด์เนม รวมไปถึงมีการสนับสนุนครัวไทยสู่ครัวโลก เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร ในรูปแบบอาหารกึ่งสำเร็จรูปและสำเร็จรูป เพื่อส่งออกไปยังร้านอาหารไทยที่มีอยู่ทั่วโลก ดังนั้น จึงเสียดายโอกาสของประเทศ
 

 
ของแพงหมูโลละ 210 บ./กก.น้ำมันปาล์มทะลุขวด 70 บ.
https://www.innnews.co.th/news/news_337164/

ตลาดสดของแพง เนื้อหมูขึ้นราคา กก.ละ 210 บาท น้ำมันปาล์ม ทะลุขวดละ 70 บาท แม่ค้าโอดลูกค้าไม่ซื้อเลิกขาย
  
จากการสำรวจการจำหน่ายสินค้าภายในตลาดสดบางเขน พบว่า ราคาสินค้าหลายรายการปรับราคาสูงขึ้น โดยราคาเนื้อหมูปรับราคาเพิ่มขึ้นมาตลอดในช่วง 3 วันพระติดต่อกัน ส่งผลทำให้ราคาขายปลีกหมูเนื้อแดง อยู่ที่กิโลกรัมละ 210 บาท หมูสามชั้น กิโลกรัมละ 230 บาท โดยทางพ่อค้าระบุว่า ในวันพระหน้าคือวันที่ 15 พฤษภาคม คาดว่า ราคาส่งจะปรับเพิ่มขึ้นอีก ในขณะที่บรรยากาศการขายสินค้าช่วงนี้ถือว่า ค่อนข้างซบเซา เนื่องจากประชาชนบางส่วนประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะใกล้ช่วงเปิดเทอม ทำให้ในแต่ละวันขายเนื้อหมูได้น้อยลง
 
ทางด้านแม่ค้าร้านจำหน่ายสินค้าเครื่องปรุงรส น้ำมันปาล์ม อาหารกระป๋องภายในตลาดสด บอกว่า ราคาน้ำมันปาล์มปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องล่าสุดอยู่ที่ลังละ 840 บาท 12 ขวดเฉลี่ยแล้วตกราคาขวดละ 70 บาท จึงตัดสินใจหยุดขายไปก่อนชั่วคราว เพราะหากต้องขายในราคาเกินขวดละ 70 บาท ลูกค้าจะไม่ซื้อ เพราะมีราคาสูงเกินไป


 
ธุรกิจรถเช่ากระอัก หลังน้ำมันแพงทำลูกค้าเทจองเที่ยว โอดโควิด 2 ปีไร้เยียวยาจากรัฐ
https://www.matichon.co.th/economy/news_3337239
 
ธุรกิจรถเช่ากระอัก หลังน้ำมันแพงทำลูกค้าเทจองเที่ยว โอดโควิด 2 ปีไร้เยียวยาจากรัฐ
 
นายวสุเชษฐ์ โสภณเสถียร นายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย (สปข.) รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจขนส่งและรถเช่าในปัจจุบันเงียบเหงาลงไปมาก หลังจากการระบาดโควิด-19 ผ่านมากว่า 2 ปีแล้ว เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ตัวเลขการติดเชื้อโควิดรายวันเริ่มทยอยลดลง และรัฐบาลกลับมาเปิดประเทศใหม่อีกครั้ง ผ่านการปรับลดเงื่อนไขการเข้าประเทศ เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเริ่มฟื้นตัวกลับมาบ้าง เริ่มมีการติดต่อเช่ารถล่วงหน้าเข้ามา รวมถึงโปรแกรมทัวร์จากต่างประเทศ ก็เริ่มเห็นการประสานเข้ามาบ้าง แต่เมื่อมีการปรับขึ้นราคาน้ำมัน ก็ทำให้อัตราค่าเช่ารถประเภทต่างๆ ต้องปรับขึ้นตาม จึงเห็นการชะลอตัวในการเช่ารถและการเดินทางในส่วนนี้ไปมากพอสมควร โดยเบื้องต้นประเมินว่า มีการเลื่อนและยกเลิกการจองเช่ารถล่วงหน้าไปกว่า 50% ของกลุ่มลูกค้าที่ได้ติดต่อประสานข้อมูลไว้แล้ว
 
นายวสุเชษฐ์ กล่าวว่า ธุรกิจรถเช่าและขนส่งในขณะนี้รายได้หายไปกว่า 80% เทียบกับช่วงก่อนเกิดการระบาดโควิด-19 โดยทิศทางในตอนแรก เดิมเราคาดว่า พอมีสัญญาณของการเปิดประเทศ การประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น ก็มีแนวโน้มปรับดีขึ้น แต่เมื่อเจอสถานการณ์ราคาน้ำมันแพง และสินค้าปรับราคาขึ้นค่อนข้างมาก ก็ทำให้ทุกอย่างชะลอตัวลงไปอีก โดยหากเทียบช่วงก่อนเกิดการระบาดโควิด เมื่อปี 2562 ลูกค้าเริ่มฟื้นตัวกลับมาประมาณ 20% แต่พอเจอราคาน้ำมันแพง ก็ทำให้ลูกค้าหายไปอีกครั้ง ซึ่งเริ่มหายไปตั้งแต่เดือนเมษายน ที่ผ่านมา เมื่อมีการปรับราคาน้ำมันขึ้นเป็น 32 บาท จากเดิม 29 บาท ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ติดต่อเข้ามาก็ขอหยุดแผนการเดินทางท่องเที่ยวไว้ก่อน ซึ่งการหยุดในรูปแบบนี้ก็ไม่สามารถประเมินได้ว่า หลังจากนี้ลูกค้าจะกลับมาช่วงใด เนื่องจากหากราคาน้ำมันปรับขึ้นแบบเป็นขั้นบันไดเหมือนที่รัฐบาลบอก อัตราค่าบริการของรถเช่าและขนส่งก็ต้องปรับขึ้นตาม โดยอัตราน้ำมันที่ 32 บาท ค่าบริการจะปรับขึ้น 5-10% หรือทุก 1 บาทจะขึ้น 5% อาทิ บริการรถบัส ค่าเช่าเดิมอยู่ที่ 10,000 บาท ในราคาน้ำมัน 29 บาท เมื่อน้ำมันขึ้นมาที่ 32 บาท ก็ต้องขึ้นค่าบริการที่ 1,000 บาท และหากน้ำมันขึ้นอีก ก็ต้องขึ้นตามต่อเนื่องกันไป
 
“พอน้ำมันปรับขึ้น ผู้ประกอบการก็ได้รับผลกระทบทุกส่วนเทียบเท่ากัน เพราะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันก็ปรับขึ้นตามด้วย ทั้งอะไหล่รถยนต์ การซ่อมบำรุง ซึ่งถือเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งหมด โดยสิ่งที่ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นแบบเร่งด่วนคือ อยากทราบความชัดเจนของราคาน้ำมัน ว่าจะทรงตัวอยู่ประมาณเท่าใด เมื่อปรับขึ้นจะขึ้นเท่าใด กินระยะเวลานานมากน้อยเท่าใด เพราะธุรกิจการเช่ารถและขนส่งเป็นการติดต่อล่วงหน้า ทำให้ผู้เช่าจะต้องประเมินได้ว่า หากเดินทางในเดือนนี้ค่าเช่าจะอยู่ที่เท่าใด หากเลื่อนไปอีกจะอยู่เท่าใด และการจัดหากองทุนเพื่อใช้ในการซ่อมบำรุงรถเช่าที่จอดมา 2 ปีกว่าแล้ว หากจะกลับมาให้บริการใหม่ ก็ต้องใช้เงินในการซ่อมบำรุงสูง รวมถึงอัตราโควต้าน้ำมันพิเศษในการช่วยเหลือธุรกิจ อาทิ ปัจจุบันมีโควต้าให้แท็กซี่ ก็ควรพิจารณาให้เราด้วย เพราะการระบาดโควิด 2 ปีที่ผ่านมา เราไม่เคยได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่เราค่อนข้างน้อยใจ เพราะขออะไรไปก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลเลย” นายวสุเชษฐ์ กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่