ควรทำยังไงคะ หาทางออกไม่เจอ?

คือพ่อเราเป็นคนอารมณ์ร้อนและหงุดหงิดง่ายค่ะ ช่วงแรกๆตอนเราเด็กๆยันม.ต้นก็พอรับไหว หลายครั้งที่ด่าเราว่าโง่ต่อหน้าคนอื่น ยันโตก็ยังมีคำว่าโง่ สมองน้อย ทำไมไม่จำใส่สมอง อะไรพวกนี้อ่ะค่ะ จนคนอื่นกลับสงสารเรา แต่เราก็ทำว่าไม่เป็นไร ไม่อยากให้คนอื่นมองว่าครอบครัวไม่อบอุ่น หรือ ทำไมพ่อเธอเป็นอย่างงี้อ่ะค่ะ เพราะเราก็รักพ่อแม่เลยไม่อยากให้ใครมาว่าแบบนั้นมันรู้สึกไม่ดี จนบ่อยๆครั้งเข้า บางทีก็ด่าเราต่อหน้าเหล่าเพื่อนสนิท ด่าว่าเพื่อนเราโง่ อย่าซ่า ทำนองนี้ จนเราอายเพื่อน หรือ สงสารเพื่อนแทนค่ะเพราะเค้าต้องมาเจออะไรแบบนี้ทั้งๆที่ไม่ใช่พ่อแม่ตัวเอง เราก็ทำแบบสเต็ปเดิมค่ะ คือทำเป็นว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้ร้ายแรง และ ไม่อยากให้มองว่าครอบครัวไม่อบอุ่น บ่อยครั้งที่พ่อเราชอบอารมณ์เสียและหงุดหงิดง่ายกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เช่น ไม่ว่างรับโทรศัพท์เพราะทำอย่างอื่นอยู่พอรับก็จะอารมณ์เสียใส่ทันที บางทีใช้ให้ทำไรแล้วไม่ทันใจหรือหาของที่ใช้ไม่เจอก็จะหงุดหงิดทันทีและบ่นว่าไม่เคยสังเกตอะไรเลย หรือไม่มีสมองอ่ะค่ะ บ่อยครั้งที่เวลาทะเลาะกับแม่และเราก็งงทุกครั้งที่แม่ไม่ผิดแต่แม่ต้องเป็นฝ่ายยอมเข้าหาก่อนและขอโทษ และเก็บคำพูดที่เป็นสิ่งถูกต้องไว้ในใจไม่กล้าอธิบายเพราะกลัวจะพูดแล้วบานปลายกลายเป็นทะเลาะหนักกว่าเดิมอ่ะค่ะ (ที่รู้เพราะเคยลองอธิบายเเล้วหาว่าเถียงหาว่าไม่ยอมแล้วยิ่งทะเลาะบ่อยครั้ง)บางทีโทรศัพท์ค้างหรือไม่เป็นไปแบบที่เค้าคิดหรือไม่ทันใจก็จะทุบโทรศัพท์ค่ะ ทุบบ่อยค่ะ กระทืบบ้าง ขว้างบ้าง หรือบางทีการออกไปหาเพื่อนของแม่ ถ้าแม่กลับช้า กลับไม่ตรงเวลาแบบเป๊ะๆ ก็จะโดนพูดแบบข่มต่อหน้าเพื่อนแม่ตลอดค่ะ เหมือนฟีลต้องกลัวผัว แต่กลับกันเวลาพ่อไปหาเพื่อนแม่กลับไม่ว่าแถมปล่อยให้ไปดึกแค่ไหนก็ได้ แต่ถ้า5ทุ่มเที่ยงคืนก็จะเป็นห่วงและโทรตามบ้างค่ะแต่ไม่โทรจิก เราก็แอบหงุดหงิดใจเรื่องนี้บ่อยแต่ไม่กล้าพูดกับพ่อ แต่กับแม่พูดเรื่องพ่อกันตลอดค่ะ เป็นแบบนี้มาจนม.ปลาย พ่อเริ่มหนักขึ้นอารมณ์เริ่มร้ายมากขึ้น พูดอะไรขัดใจนิดหน่อย ก็จะอารมณ์ไม่ดีไปเป็นวันและพาลทะเลาะกับคนอื่นไปอีกค่ะ โดยตอนม.ปลายนี่ครั้งนึงพ่อเคยมีอาการวิ่งออกกำลังกายที่บ้านแล้วเหนื่อย พ่อมานั่งพัก ก็มือหงิกมือเกร็ง เคยเข้าไปอ่านในเน็ตเเล้วเค้าบอกรับคาร์บอนไดออกไซด์เยอะไป หรือ อาการหอบทางอารมณ์ พอตั้งแต่นั้นเราเลยสงสัยว่าจะเป็นทางจิตเลยคาดคั้นให้ไปหาจิตเเพทย์ตอนแรกพ่อไม่ยอมไปค่ะ จนเค้ามีอาการหนักคือนอนไม่หลับหลายวัน จนร่างกายจะไม่ไหว เลยยอมพบ พอได้พูดคุยกับหมอ พ่อบอกหมอไม่ได้บอกว่าเป็นโรคทางจิตอะไร แต่ให้ยามาหลายตัว เป็นยานอนหลับดีขึ้น ยาระงับประสาท พอเสิร์ชเน็ตดูเป็นยาเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า โรคทางจิตของคนกลุ่มนี้ค่ะเเต่ไม่ระบุว่าโรคอะไร พ่อเราได้รับยาถามว่าดีขึ้นไหม คืออาการนอนหลับดีขึ้นค่ะ หลับยาวยันเช้า ไม่ตื่นกลางดึกเหมือนเดิม เเต่เรื่องอารมณ์มันเหมือนยิ่งทวีคูณค่ะ พอเขาไม่ได้ดั่งใจแล้วเราจะอธิบายเหตุผลและบอกว่าไม่ใช่อย่างงั้นงี้ เค้าจะบอกอย่าเอาอะไรมาเติมให้พ่อ พ่อเป็นโรคนะ เค้าจะพูดว่าพ่อเป็นโรคเกือบจะทุกครั้งที่ทะเลาะกัน จน3เดือนแรกเรายอมทุกอย่าง แม่และเรายอมเหมือนเป็นหุ่นยนต์ที่กดปุ่มบังคับให้ทำไรทำค่ะ พูดจาดี จนนานเข้าครึ่งปีอารมณ์แรงเหมือนเดิม สกัดกั้นทุกคำพูด ทุกความคิดเราค่ะ เราเริ่มไม่อ่อนน้อมและแสดงจุดยืนเริ่มอธิบาย จนทะเลาะกันมากมาย เรื่อยๆแต่สุดท้ายยันตอนนี้เราและแม่ก็เป็นฝ่ายเข้าหาก่อนทุกครั้งเหมือนเดิมค่ะ เเม่เราจะเป็นจำพวกเเบบว่ายอมมากกก ไม่เลิกรากับพ่อเพราะแม่บอกว่าบั้นปลายชีวิตแล้ว ไม่อยากไปเริ่มต้นใหม่ และคิดถึงความดีทั้งหมดมาทำให้อารมณ์ดีขึ้นและเข้าไปขอโทษค่ะ  แต่เรากลับยอมขนาดนั้นไม่ได้ เคยลองทำแบบแม่แล้ว แต่มันขัดใจมาก มันแบบถ้าไม่ถูกต้องมันก็ต้องบอกว่าไม่ถูกต้อง ถ้ายอมเงียบปาก ก็จะเสียนิสัยและเคยตัว เหมือนคนเอาเเต่ใจค่ะ เราก็พูดงี้และปรึกษากับแม่ ก็อย่างที่บอกค่ะทะเลาะกันอีกเช่นเคยเราเคยจะหักดิบกับสิ่งที่พ่อทะเลาะกับเราแต่เราไม่ผิด เราเลยไม่ขอโทษและนิ่งๆไป2วัน ถ้าอยู่นิ่งๆเราคงทำได้ แต่พ่อเราเล่นพาลใส่คนนู้นทีคนนี้ที ทำตัวไม่ปกติไปกับทุกคน จนแม่เราเดินมาหาเราว่าไปขอโทษพ่อสะให้จบๆ เราด้วยความที่เห็นแม่ทุกข์ใจเลยยอมเข้าไปขอโทษด้วยใจที่ขัดมากกกๆๆๆค่ะ เคยปรึกษาแม่ และคนที่สนิท มีแต่คนบอกว่า ยังไงเราก็หนีไม่พ้น เค้าเป็นพ่อ ด้วยคำนี้ยิ่งทำให้เรารู้สึกยิ่งเหมือนกักขัง เราไม่อยากสุขภาพจิตเสีย เราอยากเป็นคนปกติแบบที่เคยเป็น แจ่มใสร่าเริง เรากลัวว่าถ้าวันนึงมันอิ่มตัวเเบบขั้นสุด แล้วเราจะกลายเป็นคนที่มีปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งเราไม่อยากเป็นค่ะ
   ถ้าถามเรื่องความดีของพ่อเรา ก็มีเยอะค่ะ ทุกครั้งที่แม่อยากจะเลิกกับพ่อ แม่จะมาพูดว่า ความดีมันก็มี เวลาเราเจ็บไข้ได้ป่วยเค้าไว เค้าดูแลดี กว่าแม่ เค้าคอยถามคอยเป็นห่วง พ่อเราเค้าก็ดีกับเรานะคะ เค้าส่งเสียค่าเล่าเรียนให้เราแต่เด็กจนตอนนี้ เค้าก็ดูแลเราเวลาเราเจ็บป่วย เรื่องความใส่ใจพ่อเรามีมากค่ะ เเต่เรื่องที่อยากบอกพ่อเเต่ไม่กล้าเพราะแค่เกริ่นก็เริ่มมีน้ำโหกันแล้วค่ะ ก็คือ เรื่องของอารมณ์อยากให้เปิดฟังความคิดคนอื่นให้จบก่อนค่อยแย้ง ลดความเชื่อมั่นในตัวเองว่าตัวเองจะถูกเสมอไปมันไม่ได้ คนอื่นก็ถูกเป็น ยอมปล่อยให้คนอื่นมีความคิดบ้างไม่ใช่ทุกคนที่ต้องมีความคิดเหมือนพ่อ อยากให้รอให้เป็น อยากให้เลิกข่มคนอื่นและด่าคนอื่นในที่สาธารณะหรือต่อหน้าคนอื่น เลิกห้ามคนอื่นทำอะไรแต่ตัวเองทำได้  เลิกพูด- เลิกเอาแต่ใจ เลิกพูดจาทิ่มแทงใจคนอื่นมากๆแบบมากๆจริงๆนะคะ(เคยมีตอนทะเลาะกันพ่อบอกเสียดายเวลาที่เลี้ยงมา,แล้วก็ด่าว่าเวรกรรมจะติดตัวเราบ้างไรบ้าง,ด่าว่าแก่ไปคงไม่มีลูกเลี้ยงต้องดิ้นรนเอาเอง)อะไรทำนองนี้ค่ะ แรกๆเราเสียใจมาก ได้ยินเเค่นี้น้ำตาไหลกลางวง ทำไมพ่อคิดกับเราแบบนี้ แต่พอมันสะสมนาน จนป่านนี้เกือบ10ปีได้มั้ง เรากลับใจเเข็ง เสียใจนะ แต่ไม่ร้องไห้ )
*ปล.เรารักพ่อและเเม่มากๆนะคะ แต่อยากให้ปรับเพราะอยากให้ชีวิตข้างหน้ามีสุขภาพจิตที่ดีไปพร้อมๆกันค่ะ อยากให้ไม่ต้องกลัวว่าเวลาอยู่ร่วมกลุ่มกับคนอื่นจะอายเค้าไหมที่ไม่รู้พ่อจะอารวาดด่ากลางวงต่อหน้าคนอื่นเมื่อไหร่ อะไรทำนองนี้อะค่ะ จนโตป่านนี้18ปีไม่เคยพาเพื่อนมาบ้านเลยค่ะ55555 กลัวว่าถ้าทำไรไม่ถูกใจพ่อจะด่าเพื่อน เห้อออออ ก็ทำนองนี้ค่ะ เรื่องที่อยากให้ช่วยหาวิธีแก้ ไม่รู้จะทำไง จะไปอยู่หอก็คิดถึงหมา เพราะหมาตัวใหญ่เอาไปด้วยไม่ได้5555
*ปล.ช่วงหลังๆมานี้ทะเลาะกันไม่ว่ากับแม่หรือเรา พ่อเริ่มโพสเฟสทำนองแบบเหมือนจะหายไปจากโลกนี้ แล้วก็หนีออกจากบ้านค่ะ ซึ่งเราก็ต้องยอมถ้าเค้าทำแบบนี้เพราะเรากลัวเค้าตายเเละเป็นอะไรค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่