มีใครเคยทดลองไหมว่า กินยาแก้อักเสบแล้วหายไอ+เจ็บคอ

กระทู้คำถาม
ก็เข้าใจอยู่ว่าAmoxi ฆ่าแบคทีเรียไม่ฆ่าไวรัส
แต่ทำไมเวลาเป็นหวัดกินแก้อักเสบแล้วหายเร็วกว่าไม่กิน
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
จากประสบการณ์จริง ผนวกกับข้อมูลที่ค้นได้ พอจะสรุปได้ว่า โรคหวัดที่พบได้ทั่วไป มี 3 แบบ คือ

1) โรคไข้หวัดน้อย หรือ ไข้หวัดธรรมดา เกิดจากเชื้อไวรัส จะมีอาการ ไข้สูงปานกลาง  ถ้าตากพัดลมจะรู้สึกเย็นแต่สักพักจะรู้สึกหนาวจนต้องปิดพัดลม อาการเด่นที่แตกต่างจากอีก 2 โรค คือ มีน้ำมูก คัดจมูก(หายใจไม่ออก) และจาม

2) โรคหลอดลมอักเสบ หรือที่เรียกกันว่า หวัดลงคอ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย จะมีอาการ ไข้ต่ำ รู้สึกตัวร้อน-ผิวเห่อๆ เหงื่อจะออกซึมๆทำให้ผิวชื้นทั้งวัน ถ้าตากพัดลมจะรู้สึกเย็นสบาย อาการเด่นที่แตกต่างจากอีก 2 โรค คือ  ไอ เจ็บคอ เสียงแหบ

3) ไข้หวัดใหญ่ เกิดจากเชื้อไวรัส จะมีอาการไข้สูง ถ้าถูกลมจะรู้สึกหนาว ถ้าไข้สูงมากความรู้สึกที่ผิวจะลดลง มีอะไรมาแตะตัวก็ไม่รู้สึกตัว รู้สึกตัวเบาเดินแล้วเท้าลอยไม่ติดพื้น อาจปวดขมับด้วย อาการเด่นที่แตกต่างจากอีก 2 โรค คือ ปวดเมื่อยที่แขนขา ประมาณว่าปวดเมื่อยลึกลงไปถึงกระดูกก็ว่าได้ เพราะเหวี่ยงแขนนวดแขนแล้ว แป๊บๆก็กลับมาเมื่อยอีก

ไข้หวัดลงคอเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย จึงรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ เช่น อะม็อกซิล เป็นต้น

มีโอกาสมากที่จะเป็นโรคหวัด 2 แบบ หรือ 3 แบบ พร้อมกัน โดยเฉพาะแบบที่ 1 (ไข้หวัดธรรมดา) มักเป็นคู่กับแบบที่ 2 (ไข้หวัดลงคอ)


ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม

ไข้ต่ำ คือ อุณหภูมิสูงกว่า 37°C - 39°C
ไข้ปานกลาง คือ อุณหภูมิประมาณ 39°C - 40°C
ไข้สูง คือ อุณหภูมิประมาณ 40°C - 41°C
ไข้สูงมาก คือ อุณหภูมิสูงกว่า 41°C
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่