สวัสดีค่ะ เราคือนักศึกษากำลังจะขึ้นชั้นปีที่ 3 คิดไว้นานว่าจะเขียนดีมั้ย เป็นคนบอกจบความสัมพันธ์เอง แต่ตอนนี้ 1 ปี ครึ่งแล้วเราเพิ่งมารู้สึกเสียใจกับการที่เราบอกเลิกเขาไป เหมือนเรากลายเป็นคนที่ Move On ใหม่ หลังจากเจอกัน TT เริ่มเลยนะคะเรื่องเราความรักของเรามันเริ่มตอนมัธยมค่ะ ม.4 ช่วงนั้นแอบชอบเพื่อนคนนึงชื่อท. ตอนแรกเกลียดกันเลยนะคะเพราะเป็นคนกวนตีนมาก แต่สุดท้ายก็หลงรักเขาอาจจะเป็นเพราะเขาเป็นคนตลก เป็นตัวเอง มีPassion เราชอบเขาตรงนั้น เราสนิทกันมากตัวติดกันตลอดเรียกได้ว่าตรงไหนมีเราตรงนั้นมีท. เพื่อนในห้องก็แซวแล้วก็เชียร์ เราอยากไปค่ายเขาไม่ได้ชอบเขาก็ไปเป็นเพื่อน เราอยากไปโอเพนเฮ้ามหาลัยที่อยากเข้า เขาก็ไปเป็นเพื่อน เขาเป็นกำลังใจให้เราเสมอมา ตลอดระยะเวลา 2-3 ปีเราเป็นแค่คนคุยกันค่ะเฟรนด์โซน อาจจะเป็นเพราะเราไม่มั่นใจ และกลัวการสูญเสีย วันนึงเรากลับมีพี่ที่ทำงานแล้วมาคุยด้วย ตอนม.6 งานการเขาดูค่อนข้างมั่นคงมากอายุยังน้อยแต่รับราชการตอนนั้นเรารู้สึกว่าพี่เขามีแรงดึงดูดมาก เราคุยทั้งกับท.ด้วยและพี่เขาด้วย รู้สึกผิดนะคะ มากๆ คุย 2 คนจนกระทั่งอยู่มหาลัยปี 1 ค่ะ เราเรียนอยู่สงขลา ส่วนท.เรียนสถาปัตอีกมหาลัยหนึ่ง เราเลยเริ่มมั่นใจว่าโอเคเรารู้สึกอยากจริงจังกับพี่คนที่ 2 (ท.ไม่เคยรับรู้ถึงพี่คนนั้น) เราเลยบอกท.ไปว่า "รู้ใช่ไหมว่ากูคิดกับแค่เพื่อน" เป็นเพื่อนกันดีที่สุดแล้วยาวนานกว่า เขาช็อคค่ะ เขาร้องไห้ตอนนั้นเราก็ร้องไห้ด้วย เขาบอกเขาไม่รู้เลย เขาอยากกลับมาหาเราตลอดตอนปิดเทอม เราเศร้านะคะแต่ไม่ได้นานเพราะเราคิดเรื่องจบความสัมพันธ์มาก่อนหน้านี้แล้ว เรากับท.ก็ยังติดต่อกันบ้าง สุดท้ายเราก็ไม่ได้ลงเอยกับพี่คนที่ 2 นะคะ เพราะด้วยความแตกต่างในตอนนั้นเลยห่างๆกันไป เรายังโทรคุยกับ ท.เป็นครั้งคราว เขาเป็นเพื่อนสนิทเราที่สุดคนนึง แต่แล้วพอเรามีแฟนคนใหม่ก็ไม่ได้คุยกันเป็นปีค่ะ แล้วเราก็ได้มาเจอกันตอนที่ปิดเทอม ปี2 ไปกินข้าวด้วยกัน ตอนนั้นเราเห็นว่าท.ปิดเทอม เราเลยอยากนัดเจอตามประสาเพื่อน และอยากถามว่าตอนนั้นโกรธหรือเปล่า... ทีนี้จากที่คิดว่าจะยกภูเขาออกจากอกกลายเป็นหนักอกเพิ่มค่ะ ตอนกินข้าวกันเขาก็พูดประมาณว่า ยัง...เหมือนเดิมเลยนะ มีหลายอย่างที่เขาจำได้ และจำได้มาตลอด เราอึ้ง.... จากนั้นพอเรากลับหอ เราร้องไห้ค่ะ เรารู้สึกว่ามันเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้นทำไมเราถึงเห็นแก่ตัว ทำไมเราถึงใจร้ายกับเขาได้ขนาดนี้ เราเลยเริ่มย้อนแชทอ่าน ดูรูป บลาๆ ทำทุกอย่าง ปรึกษาเพื่อน เราเริ่มกลายเป็นคนที่กลับไป Move On ใหม่อีกครั้ง และเราก็ได้เจอกันครั้งที่ 2 วันไปกางเต็นท์ มีเพื่อนๆเรากับเขา จริงๆพวกเราสนิทกันอยู่แล้วค่ะอยู่มัธยมห้องเดียวกัน พอกลับจากเต็นท์ ทำให้ได้รู้จริงๆว่า ที่ผ่านมาเขาคือคนที่ทำให้เราสบายใจตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เราเป็นตัวเอง เราไม่ฝืน เขามีวิธีการรับมือกับปัญหาได้ดีมองโลกในแง่บวก เรากลับหอมาเราร้องไห้หนักมาก เราไม่เคยหยุดย้อนแชทเขาทุกวันๆ เป็นอาทิตย์ เรารวบรวมความกล้าโทรไปหา ไปขอโทษทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง เขาบอกเขาไม่โกรธดีแล้วที่เราพูดแบบนั้น เขาบอกเขาเข้าใจนะ เพราะเขาอยู่คนละจังหวัดกับเรา เขาก็เป็นห่วง เวลาที่เราร้องไห้เขาไม่สามารถกลับมาหาได้ เขาบอกให้เราไปหาคนดีดี เข้าสังคมเยอะๆ ตอนนั้นเราบอกไปว่าอยากกลับมาคุยกันเหมือนเดิม เขาบอกเป็นเพื่อนกันดีที่สุดแล้ว เขาอยากให้เราเจอคนที่สามารถซัพพอร์ตเราได้ คนที่มีเวลาให้ เขาเรียนสถาปัตย์ ไม่ได้มีเวลาเหมือนเมื่อก่อน เมื่อก่อนเรียนมัธยมด้วยกัน เรียนเหมือนกัน เลยเวลาค่อนข้างจะว่างตรงกัน ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว... เขาไม่เคยมีใครเลยตอนเราเลิกคุยกัน ขนาดนอนยังไม่มีเวลาเลยเพราะตัดโม เขาพูดติดตลก เขาบอกว่าเขาไม่สามารถแบ่งเวลามาจากการเรียนได้เขาเรียนหนัก เชื่อสิเดี๋ยวปัญหาเดิมก็จะวนลูปกลับมา เขาบอก"เอาจริงๆกุคิดว่าแค่ต้องการใครสักคนเท่านั้นเอง" เขาบอกว่าตอนไม่มีเราเขากลายเป็นคนติดเพื่อน เขาอยู่ได้แล้ว เราไม่คิดว่าวันนึงเราจะโดนปฏิเสธ หลังจากวันนั้นสมองบอกให้เรา Move On ค่ะ แต่ใจก็บอกว่าให้ทักไปชวนคุย เผื่อเขาจะกลับมา แต่เขาไม่ค่อยตอบ TT เราไม่รู้ว่าทำไมเราถึงเลิกทักไปสักที ใจเรามันตีกันว่า ง้อเถอะยังไงเราก็รู้ว่าเขาคือคนที่ใช่มาตลอด เราไม่อยากให้เขาหลุดมือไปอีกแล้ว อีกใจเราก็คิดว่า ความรักไม่จำเป็นต้องอยู่ในความสัมพันธ์แบบแฟนกันก็ได้นะก้าวต่อไปเถอะ ตอนนี้เราคิดทั้งสองแบบทุกวันเลยค่ะ อยากหาวิธี Move On เราบอกเลิกเองแต่ทำไมเราเสียใจ เราเพิ่งมาเสียใจทีหลังด้วยซ้ำมันสายไปแล้ว 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา เราฝันถึงเขาหลายครั้ง พอได้เจอกันทำให้รู้ว่าเรารักเขาจริงๆ
บอกเลิกเอง แต่ต้อง Move On เอง