การรบแบบหนังสือมัคคาบี

ตัดมาบางส่วนครับ ผมเอาส่วนเป็นเกียวกับการรบ
การถวายบูชาอุทิศแก่ผู้ล่วงลับ j
    38ยูดาสรวบรวมกองทัพยกไปถึงเมืองอดุลลัมk  เมื่อสิ้นสัปดาห์ ชาวยิวก็ชำระตนตามประเพณีและถือวันสับบาโตที่นั่น 39วันรุ่งขึ้น เพราะความจำเป็นเร่งด่วน ยูดาสกับทหารlไปเก็บศพของผู้ที่ถูกฆ่าในการรบ เพื่อนำไปฝังไว้กับญาติพี่น้องในที่ฝังศพของบรรพบุรุษ 40แต่ในเสื้อของผู้ตายแต่ละคนเขาพบเครื่องรางรูปเคารพที่นับถือกันที่เมืองยัมเนียm ซึ่งธรรมบัญญัติห้ามชาวยิวสวม จึงเห็นได้ชัดว่าเพราะเหตุนี้เองทหารเหล่านี้จึงถูกฆ่า 41ดังนั้น ทุกคนถวายพระพรแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงตัดสินอย่างยุติธรรม และทรงเปิดเผยสิ่งที่ซ่อนไว้ 42เขาอธิษฐานภาวนาวอนขอพระเจ้าให้ทรงลบล้างบาปให้หมดสิ้น ยูดาสผู้ทรงศักดิ์เตือนบรรดาทหารให้รักษาตนให้พ้นจากบาป เพราะเขาทั้งหลายได้เห็นกับตาแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นแก่ผู้ที่ตายเพราะทำบาป 43ยูดาสเรี่ยไรเงินจากทหารแต่ละคน ได้เงินจำนวนสองพันเหรียญดรักมา ส่งไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อจัดให้มีการถวายบูชาชดเชยบาป นับว่าเป็นการกระทำที่งดงามและน่ายกย่อง โดยคำนึงถึงการกลับคืนชีพของผู้ตาย 44เพราะถ้าเขาไม่มีความหวังว่าผู้ตายจะกลับคืนชีพ การอธิษฐานภาวนาเพื่อผู้ตายคงไม่มีประโยชน์และไร้ความหมาย 45แต่ถ้าเขาทำไปเพราะคิดว่าผู้ที่ตายขณะที่ยังเลื่อมใสต่อพระเจ้าจะได้รับบำเหน็จรางวัลงดงาม ก็เป็นความคิดที่ดีและศักดิ์สิทธิ์n เขาสั่งให้ถวายเครื่องบูชาชดเชยบาปของผู้ตาย เพื่อจะได้พ้นจากบาป
10เมื่อยูดาสรู้เรื่องนี้ ก็สั่งประชาชนให้อธิษฐานภาวนาทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าทั้งวันทั้งคืนให้ทรงช่วยเขา ณ บัดนี้  เหมือนที่ทรงเคยทำในอดีต เพราะเขาอยู่ในอันตรายที่จะสูญเสียธรรมบัญญัติ บ้านเกิดเมืองนอนและพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ 11และทูลขออย่าทรงปล่อยให้ประชาชนที่เพิ่งหายใจได้ต้องตกในเงื้อมมือของชนต่างชาติที่หยาบช้า 12ทุกคนร่วมใจกันทำเช่นนี้ วอนขอองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพระเมตตา ด้วยการคร่ำครวญ จำศีลอดอาหารและกราบลงที่พื้นดินเป็นเวลาสามวันอย่างต่อเนื่อง ยูดาสปลุกใจเขาทั้งหลายและสั่งให้เตรียมพร้อม 13เขาเรียกบรรดาผู้อาวุโสมาประชุม ตกลงจะแก้ไขสถานการณ์โดยออกไปสู้รบด้วยความช่วยเหลือจากพระเจ้า 14ฝากความสำเร็จไว้กับพระผู้ทรงสร้างโลก ปลุกใจทหารให้สู้รบอย่างกล้าหาญ ยอมตายเพื่อธรรมบัญญัติ พระวิหาร กรุงเยรูซาเล็ม บ้านเกิดเมืองนอนและสถาบันของตน แล้วไปตั้งค่ายอยู่ใกล้เมืองโมดีน 15ให้สัญญาณแก่บรรดาทหารว่า “พระเจ้าทรงชัยชนะ” แล้วเลือกชายหนุ่มผู้กล้าหาญที่สุดเข้าโจมตีกระโจมที่ประทับของกษัตริย์ในค่าย ฆ่าศัตรูประมาณสองพันคน เขายังฆ่าช้างนำทัพกับคนขี่ช้างด้วย 16ในที่สุด เขาทำให้ค่ายของข้าศึกสับสนอลหม่านและมีความหวาดกลัวยิ่งนัก แล้วเขาก็ถอยกลับอย่างมีชัย 17ครั้นรุ่งเช้า การรบที่กล้าหาญนี้ก็สำเร็จเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยเหลือและปกป้องยูดาส
ยูดาสปลุกใจทหาร
    6นิคาโนร์ผู้ยโสต้องการโอ้อวด ตั้งใจจะสร้างอนุสาวรีย์aเพื่อระลึกถึงชัยชนะต่อยูดาสและทหารของเขา 7แต่ยูดาส มัคคาบียังมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม และหวังว่าตนจะได้รับความช่วยเหลือจากองค์พระผู้เป็นเจ้า 8เขาจึงปลุกใจบรรดาทหารของตนไม่ให้กลัวการโจมตีของชนต่างชาติ แต่ให้ระลึกถึงความช่วยเหลือที่เคยได้รับจากสวรรค์ในอดีต และบัดนี้ให้มีความหวังว่าพระผู้ทรงสรรพานุภาพจะประทานชัยชนะครั้งนี้ให้ด้วย 9เขาอ้างถ้อยคำจากธรรมบัญญัติและจากบรรดาประกาศกb มาให้กำลังใจเหล่าทหาร และเตือนให้ระลึกถึงการต่อสู้ต่างๆที่เคยชนะมาแล้ว เขาทำให้เหล่าทหารมีใจฮึกเหิม 10เมื่อพูดปลุกใจเช่นนี้แล้ว เขาก็ออกคำสั่ง ชี้ให้เห็นว่าชนต่างชาติขาดความจริงใจเพราะละเมิดคำสาบาน 11ยูดาสมอบอาวุธให้ทหารแต่ละคน ทั้งโล่และหอกที่ให้ความปลอดภัยและถ้อยคำปลุกใจที่ให้ความกล้าหาญ เขาทำให้ทหารมีกำลังใจโดยเล่าถึงความฝันที่น่าเชื่อถือ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นนิมิตอย่างหนึ่งc
    12นิมิตที่เขาเห็นเป็นดังนี้ เขาเห็นโอนีอัสที่เคยเป็นมหาสมณะเป็นคนดีมีคุณธรรม มีกิริยาท่าทางสุภาพอ่อนโยน คำพูดน่าฟัง ได้รับการอบรมตั้งแต่เยาว์วัยให้ปฏิบัติคุณธรรมทุกประการ กำลังยกมือขึ้นอธิษฐานภาวนาเพื่อชาวยิวทั้งปวงd  13แล้วชายอีกคนหนึ่งปรากฏขึ้น มีผมหงอกขาว ท่าทางสง่า ดูเป็นผู้ยิ่งใหญ่และทรงอำนาจ 14โอนีอัสพูดว่า “นี่คือเยเรมีย์e ประกาศกของพระเจ้า เขารักพี่น้อง และอธิษฐานเพื่อประชากรและนครศักดิ์สิทธิ์อยู่เสมอ” 15เยเรมีย์ยื่นมือขวามอบดาบทองคำให้ยูดาส ขณะที่มอบดาบ เขาพูดว่า 16“จงรับดาบศักดิ์สิทธิ์นี้ไว้เถิด ดาบนี้เป็นของประทานจากพระเจ้า ท่านจะใช้ดาบนี้ปราบศัตรู”
ความฮึกเหิมของทหาร
    17ถ้อยคำน่าฟังของยูดาส ซึ่งมีพลังทำให้คนหนุ่มมีความกล้าหาญ พร้อมจะออกไปเผชิญหน้ากับข้าศึกเยี่ยงชายฉกรรจ์ นำพลังใจมาให้ชาวยิว จนเขาตกลงใจรีบออกไปต่อสู้อย่างกล้าหาญ เข้าประจัญบานอย่างไม่กลัวตาย ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะf เพราะกรุงเยรูซาเล็ม พระวิหารและภาชนะศักดิ์สิทธิ์ตกอยู่ในอันตราย 18เขาเป็นห่วงบุตรภรรยาและญาติพี่น้องน้อยกว่าเป็นห่วงพระวิหาร 19คนที่ยังอยู่ในเมืองมีความกังวลเช่นเดียวกัน เพราะเป็นห่วงผู้ที่สู้รบอยู่ในสมรภูมิ
การชำระพระวิหาร
10    1องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำยูดาสมัคคาบีและพวกไปยึดพระวิหารและกรุงเยรูซาเล็มคืนมา 2เขาทั้งหลายทำลายแท่นบูชาที่ชนต่างชาติสร้างขึ้นในตลาด และในบริเวณพระวิหาร 3เขาชำระพระวิหารให้หมดมลทินและสร้างพระแท่นบูชาใหม่ แล้วใช้หินเหล็กไฟตีให้เกิดประกาย เพื่อก่อไฟเผาเครื่องบูชาหลังจากหยุดมาเป็นเวลาสองปี เผากำยาน จุดตะเกียง และตั้งขนมปังถวาย 4เมื่อทำเสร็จแล้ว เขาก็กราบลงที่พื้น ทูลขอองค์พระผู้เป็นเจ้า อย่าทรงปล่อยให้เขาต้องประสบเคราะห์ร้ายเช่นนี้อีก ถ้าเขาทำบาปเมื่อใด ก็ขอทรงลงโทษเขาแต่พอประมาณ อย่าทรงมอบเขาแก่ชนต่างชาติที่ดูหมิ่นพระเจ้าและทำทารุณ 5เขาชำระพระวิหารในวันครบรอบปีที่ชนต่างชาติทำให้พระวิหารเป็นมลทิน คือวันที่ยี่สิบห้าเดือนคิสเลฟa 6เขาฉลองด้วยความยินดีเป็นเวลาแปดวันเหมือนเทศกาลอยู่เพิง ระลึกว่าก่อนหน้านั้นไม่นานเขาฉลองเทศกาลอยู่เพิงไม่ได้ เพราะกระจัดกระจายอยู่ตามภูเขาและในถ้ำเหมือนสัตว์ป่า 7บัดนี้ เขาถือท่อนไม้พันด้วยเถาวัลย์ และถือกิ่งไม้เขียวหรือกิ่งปาล์ม เดินเป็นขบวนร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าผู้ทรงช่วยให้เขาชำระพระวิหารของพระองค์ได้ 8เขาจึงชุมนุมกันกำหนดให้ชนชาติยิวทั้งชาติจัดงานฉลองวันเหล่านี้ทุกปีb ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย
    เนื้อหาบางส่วนในหนังสือมัคคาบีก็โหดบ้าง แต่รวมอ่านๆแล้วปลุกใจ 
 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่