เมื่อวานตั้งใจไปกินสเต๊กเนื้อร้านนึงที่เมืองกาญฯ เพราะมีเพื่อนๆผมไปทานกันมาหลายคน อยากไปทานบ้าง
เป็นสไตล์โอมากาสุ่ม แล้วแต่ว่ารอบนี้จะได้เนื้อแจ่มๆตัวไหนมา ทางร้านจะคัทติ้งไว้เท่าที่มี เราเลือกเองได้ว่าชอบส่วนไหน
แต่ถ้าอยากกินนอกส่วน ไม่มีครับ เลยขอดูหน้าเนื้อที่มี ได้สบตาแล้วถูกใจ จึงแจ้งว่าขอชิ้นไหนบ้าง
โดยเป็นการคุยผ่านเพจเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/113steak
ผมเลือกไว้ 5 รายการ แต่ขอยืนพื้น 3 รายการ อีก 2 รายกาเป็นสำรอง เพราะเกรงว่าจะอิ่มจนกินไม่ไหว
ที่เลือกไว้ ประกอบด้วย พื้นท้องไทยเฟรนช์ 1 ริบอายแองกัสแจ็คครีก 1 ริบอายวากิวแจ็คครีก 1
สำรอง พิคานย่าแองกัสแจ็คครีก 1 พิคานย่าวากิวแจ็คครีก 1 ทั้งหมดน้ำหนักจะเฉลี่ยราว 400 กรัม ต่อ 1 ชิ้น


จึงวางแผนคร่าวๆ ไว้ว่าจะไปกินกบภูเขาร้านโก๊ขิวเป็นมื้อเที่ยง ค่อยไปเมืองกาญหาร้านกาแฟนั่งจิบชิลๆ รอมื้อเที่ยงย่อย
เพื่อที่จะได้ไปทานมื้อเย็นที่ร้าน 113 Steak แล้วกลับ กทม. แต่เนื่องจากเส้นบายพาสจาก กทม. มุ่งหน้าไปท่ามะการถติดสาหัสมากครับ
เริ่มติดตั้งแต่พุทธมณฑลสาย 5 จึงคุยกับเพื่อนว่า ไม่น่าไหว ตัดสินใจกลับรถมุ่งหน้าเข้านครปฐมหนีไปวิ่งเส้นมาลัยแมน
แล้วไปทานมื้อเที่ยงกันที่กุ่ยหมง บางปลาม้าแทนจะดีกว่า กบภูเขาไว้โอกาสหน้าแล้วกัน

มาถึงกุ่ยหมงบ่ายสองกว่า ผิดเวลาไปมากครับ แต่คิดว่าน่าจะโอเค เพราะไม่ตรงมื้ออาหารคนคงน้อย
ปรากฏว่าคนแน่นร้านครับ รอชั่วโมงกว่าถึงจะเริ่มเสริฟจานแรก
มากันสองคนสั่งแค่สองเมนูกับข้าวเปล่าคนละจานพอครับ เพราะกะว่าเอาแค่พอรองท้อง
กุ้งทอดเกลือไซส์ 1 พัน คนละตัว ยอดเยี่ยมไร้ที่ติเหมือนเดิม เนื้อเด้งฟูกรอบไม่เหนียว ปรุงรสได้พอดีเป๊ะ
มันหอมฉ่ำในปาก เมนูนี้ผมพยายามเสาะแสวงหาไปทานมาหลายร้านมากครับ ยังไม่เจอที่ถูกใจกว่ากุ่ยหมงครับ
ท่านไหนถูกใจร้านไหนตามสบายครับ แกงค์ผมยังให้กุ่ยหมงยืนหนึ่ง


ส่วนกุ้งผัดหน่อไม้ทะเลก็ดีครับ นัวๆ นวลๆ เค็มเบาๆ กุ้งเด้งหน่อไม้ทะเลนุ่มหอม เมนูนี้ผมว่าชนกับไผ่ขวางแบบหาผู้ชนะไม่ได้ครับ
จบมื้อรองท้องสบายตัว ต้องตัดร้านกาแฟทิ้ง ต่อสเต๊กเลย ย่อยแทบไม่ทัน


ได้ทีเลยเทียบกล้องหน่อย อยากรู้ว่าแจ่มขาดลอยมั้ย ห่างกันตั้งหลายปี สรุปว่าของใหม่ดูดีกว่า แต่ก็ไม่ได้ขาดลอย

เช็คบิลมาสบายตัว มีห่อปลาม้าผัดฉ่ากลับบ้านให้แม่ด้วยอีก 1 


เดินทางมุ่งหน้าเมืองกาญนะจ๊ะบุรี ร้าน 113 Steak อยู่ตรงข้าม กาญจนบุรีพลาซ่า ฝั่งเดียวกับสุสารทหารสัมพันธมิตรดอนรัก
เลยร้านขนมครกเจ๊แขกแหกปากไปนิดครับ ที่จอดก็หาริมถนนโลดครับ หน้าร้านก็เป็นร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ธรรมดา
เพราะเค้าไม่ได้ขายสเต๊กเป็นจริงจัง ทำเป็นงานอดิเรก ว่างก็ทำ ไม่ว่างก็ไม่ทำ คุยรู้เรื่องก็รับ คุยไม่รู้เรื่องก็ขอผ่าน
ทำเป็นงานอดิเรก แต่เป็นงานอดิเรกในลักษณะคนบ้า ที่บ้าอะไรสักอย่างจะทำสุดทาง
หลายคนอาจจะคิดว่าเยอะ เยอะแบบนี้ทำกินกันเองเถอะ
ใช่ครับ !!! ท่านเข้าใจถูกต้องแล้ว คือ ไม่ต้องง้อร้านนะครับ แค่คุยกันรู้เรื่อง ร้านก็ไม่ได้เน้นขายครับ 
อ่อ...ร้านนี้ขายสเต๊กแบบไม่มีเกรวี่ราดนะครับ เพราะเค้าคัดเนื้อมาดีแล้ว ไม่อยากด้อยค่าเนื้อลงด้วยซอส

เนื้อทั้งหมดความสุกที่ผมขอ คือ ระดับประมาณมีเดียมครับ ส่วนตัวผมชอบมีเดียมแรร์ แต่เพื่อนผมไม่ไหว ขอมีเดียม
ถ้าไม่เกรงจผม เค้าจะขอ well done ด้วยซ้ำ 555

เปิดมาชิ้นแรกโดยเค้าเรียงจากรสเบาไปรสหนักครับ
เริ่มด้วยพื้นท้อง ซูวีไว้ แล้วมาเซียร์ในกระทะให้ผิวสอย มันกรอบหอม ตัวเนื้อมีความมัน ฉ่ำเต็มปาก รสเบาๆไม่หนัก
มีมัสตาร์ท บัลซามิกทรัฟเฟิ่ล เกลือชมพู ให้เคียงจิ้มครับ


ชิ้นที่สองต่อเลยครับ ริบอายแองกัส ของแจ็คครีก ซูวีไว้ก่อน แล้วมาทอชไฟให้รัดตัว เพิ่มกลิ่น
รสเนื้อค่อนข้างเข้ม ชัด มาดุๆ รสเต็มปาก หอมฉ่ำๆ ชิ้นนี้ไม่ควรจิ้มหรือแกล้มอะไรเลย มันดีมากแล้ว

ชิ้นที่สามครับ ริบอายวากิว จากแจ็คครีก ซูวีไว้แล้วทอชไฟเช่นกันครับ
ตัวนี้รสเนื้อชัด หอมมาก ละมุนกว่าตัวเมื่อกี้ อารมณ์ผู้ดีมากๆครับ ทานได้หลากหลายอารมณ์
จะปาดเกลือซัลเฟอร์ หรือบัลซามิกทรัฟเฟิ่ล แกล้มบูราต้าชีส ก็ยิ่งเข้ากันดีครับ


สรุปจบแค่เนื้อ 3 ตัวครับ ส่วนพิคานย่า 2 ชิ้น ต้องขอผ่าน เพราะผมย่อยกุ้งทอดเกลือมาไม่ทันครับ
มื้อนี้เคาะมากลมๆ 3 พันครับ จิบน้ำหวานซ่าส์ๆปิดท้ายก่อนกลับ กทม.ครับ

สามารถติดตามมินิรีวิว และรูปอาหารอื่นๆที่ไม่ได้ลงในพันทิป เพราะขี้เกียจหรืออะไรก็ตามแต่ได้ทาง
https://www.facebook.com/gazzareview/
https://instagram.com/gazzataste/