สวัสดีครับ วันนี้จะมาเล่าปัญหาในใจของผมและก็กึ่งๆขอคำแนะนำด้วยครับ ก็ต้องเล่าว่าตอนนี้ยังไม่มีแฟนนะครับ แต่ในอนาคตใครจะไปรู้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ตั้งเป้าแน่ๆคือการ อยากล้างเผ็ดครอบครัวตัวเอง ฟังดูอาจจะดูเลว ดูเป็นเด็กอกตัญญูแต่ขอเล่าก่อนสั้นๆว่าผมมายเบรคเรื่องเกี่ยวกับแฟนต่อครอบครัวตัวเองมาตั้งแต่สมัย ม.4 ตอนนี้ผมเรียนจบมหาลัยมาแล้ว คือผมก็เป็นคนหน้าตาธรรมดาๆ ไม่ใช่มาตราฐานที่จะแบบหาแฟนได้ตลอด มีแฟนครั้งแรกทีก็ตอน ม.4 ซึ่งแน่นอนว่ารักแรกมันก็ต้องรักมาก เผอิญด้วยความรักใหม่ไฟแรงเราก็จู๋จี๋กับแฟนใน รร อยู่กับเพื่อนๆนี้ละไม่ได้ล้วงควักอะไรแบบนั้นเลย แต่โดนอาจารย์ฝ่ายปกครองมายัดคดีชู้สาวให้เฉย แล้วเอาไปเล่าต่อสนุกปาก ไอ่เราก็กลัวพ่อแม่ฝั่งผู้หญิงเขาจะมองเราแย่ แต่กลับกันพ่อแม่ฝั่งผู้หญิงเขาเชื่อลูกเขาว่าลูกเขาไม่ได้ทำอะไรยังงั้นแน่ผมก็อุ่นใจ แถมเขายังเอ็นดูเราและมองว่าครูเนี้ยมันหิวแสงและใส่ความเกินจริง เพื่อนๆก็แห่มาเป็นพยานช่วยเหลือผมกันเต็มที่ เหมือนจะจบสวย แต่หักมุมตรงบ้านผมที่กลายเป็นแม่แบบละครไทยอ่ะ เชื่อครูและก็มองว่าแฟนเราเป็นผู้หญิงแนวๆ ขี้อ่อยส่ำส่อน และเหมือนเขาจะไปแอบคุยกัน
.
พ่อแม่อะคอยมาสอดส่องแชทเรากับแฟน แล้วแคปข้อความที่เราคุยๆกัน ก็เป็นแฟนกันมีคุยเรื่อง 18+ ปกติแต่เรายังไม่เคยมีอะไรกันเลยสักครั้ง แต่เขาเอาไปตีโพยตีพายว่าเราแบบติดกี ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่รู้หรอก จนกระทั่งวันนึงเขามาบอกเราว่าให้พาไปบ้านแฟนหน่อย เราก็ยิ้มนึกว่าเขาเปิดใจแล้ว ก็เลยขนไปหาทั้งบ้าน นึกว่าไปคุยแนวแบบทำความรู้จักฝากเนื้อฝากตัวไรกัน ที่ไหนได้มารู้ทีหลังว่าเขาไปบอกให้เลิกกัน ปัดโธ่ ทีงี้ผมมารู้ทีหลังก็เลยไปตะคอกใส่แม่ก็มีปากเสียงกันเขาก็ไม่ยอมนะเขาคิดว่าเขาถูกมาก และอารมณ์เหมือนเราหลงผู้หญิง จนหันเขี้ยวใส่บ้านงี้ ผมก็ไม่อยากจะมีปากเสียงก็ยอมแพ้ ขอโทษเขาแต่ผมก็ไม่เลิกกับแฟนนะ ก็คบกันต่อมีพ่อแม่แฟนรับรู้ก็พอ พ่อแม่เราก็คิดว่าเลิกกันแล้ว ซึ่งผมกับแฟนคนนี้ก็คบกันไปได้ไม่นานก็เลิกกันด้วยเหตุผลอื่นจนได้ ซึ่งตรงนี้ก็ข้ามไปเลย ผมก็มีแฟนคนใหม่ตามมา อีก 2 คนในช่วงมอปลายและก็เลิกหมดและปัจจุบันก็โสดยาวๆ
.
เกริ่นเยอะไป สรุปก็คือจากที่เล่ามาทำให้ผมมีความรู้สึก แค้น ครอบครัวผม พูดแบบติดตลกก็คือ G u เนี้ยไม่ได้หล่อขนาดจะหาแฟนได้ไว ได้ง่ายๆ แต่พอจะมีที ครอบครัวกลับทำกันยังงี้มันเป็นปมว่าเราไม่อยากจะพาแฟนไปให้พ่อแม่รู้จักอีกเลย เอาตรงๆก็คือไม่อยากให้เขามามีส่วนตัดสินเรื่องชีวิตคู่เราจนกระทั่งเราแต่งงานมีลูกเราก็ไม่อยากให้พ่อแม่เรามารับรู้ด้วย ไว้เรามีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเราอาจจะเอามาบอกเขาทีหลังว่ามีแล้วงี้เมื่ออยากจะบอก
นั้นละครับ อาจจะฟังดูงี่เง่านะแต่มันฝังใจมากที่โดนพ่อแม่แท้ๆ นินทาลับหลังเรื่องแฟนคนแรก แม้ปัจจุบันเขาจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วและยังมีหน้ามาบอกให้เราหาแฟน กลัวเราจะหาแฟนไม่ได้งั้นงี้ คือเวลาได้ยินเขาพูดยังงี้ผมก็ยังแค้นเขานะ ในส่วนชีวิตทั่วไปผมไม่มีปัญหาไรกับพ่อแม่เลย ใช้ชีวิตเป็นครอบครัวสุขสันต์ปกติ ผมก็รักเขาปกติแต่มาในเรื่องของแฟน เราก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนมาเลยเกือบ 8 ปีแล้วละมั้งตั้งแต่วันที่เขาทำยังงั้นกับเรา เรารู้สึกไม่อยากให้เขารับรู้ ทีนี้ปัญหาคือ เมื่อผมมีแฟนครั้งต่อไป (สมมติ) ผมไม่อยากจะให้เขาไปเจอพ่อแม่ในช่วงระยะเวลาที่คบกันจนถึงแต่งงานมีลูกหรืออะไรถ้าเป็นไปได้อะนะ ผมจะบอกแฟนยังไงให้เขาเข้าใจ คือผู้หญิงหลายคนดูมีความคิดว่าการพาแฟนไปเจอครอบครัวคือการพิสูนจ์ความบริสุทธิ์ แต่ ณ ตรงนี้ผมไม่สะดวกใจจริงๆตามที่เล่ายาวๆมา และเรื่องซุกเมียน้อยยิ่งแล้วใหญ่ว่าเราไม่ได้ขายออกง่ายขนาดนั้น สาวๆที่เข้ามาเสียเวลาอ่านอยากลองแลกเปลี่ยนกันหน่อยครับว่าผมบอกเหตุผลตามที่พิมพ์ไปเนี้ยกับแฟนคิดว่ามันรับกันได้ไหม ผมต้องยืนยันความบริสุทธิ์แบบไหนอีก เพราะอย่างอื่นผมก็พร้อมทุ่มเทตามประสาแฟน ซึ่งผมก็เจ็บมาเยอะนะเลยตั้งเป้าว่าถ้ามีแฟนคนต่อไปก็จะพยายามเป็นแฟนที่ดีให้ได้ แต่ขอแค่เรื่องนี้จริงๆ
ลองแลกเปลี่ยนกันครับ ขออย่างเดียวไม่ต้องสอนเรื่องบาปบุญคุณโทษอะไรนะครับเพราะผมไม่เชื่อ และก็ชีวิตปกติผมก็เป็นลูกที่ดี แต่แค่เรื่องแฟนที่ผมขอแค้นครับ
การมีแฟนแล้วไม่พาแฟนไปหาครอบครัวจะบอกยังไงให้เขาเข้าใจ
.
พ่อแม่อะคอยมาสอดส่องแชทเรากับแฟน แล้วแคปข้อความที่เราคุยๆกัน ก็เป็นแฟนกันมีคุยเรื่อง 18+ ปกติแต่เรายังไม่เคยมีอะไรกันเลยสักครั้ง แต่เขาเอาไปตีโพยตีพายว่าเราแบบติดกี ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่รู้หรอก จนกระทั่งวันนึงเขามาบอกเราว่าให้พาไปบ้านแฟนหน่อย เราก็ยิ้มนึกว่าเขาเปิดใจแล้ว ก็เลยขนไปหาทั้งบ้าน นึกว่าไปคุยแนวแบบทำความรู้จักฝากเนื้อฝากตัวไรกัน ที่ไหนได้มารู้ทีหลังว่าเขาไปบอกให้เลิกกัน ปัดโธ่ ทีงี้ผมมารู้ทีหลังก็เลยไปตะคอกใส่แม่ก็มีปากเสียงกันเขาก็ไม่ยอมนะเขาคิดว่าเขาถูกมาก และอารมณ์เหมือนเราหลงผู้หญิง จนหันเขี้ยวใส่บ้านงี้ ผมก็ไม่อยากจะมีปากเสียงก็ยอมแพ้ ขอโทษเขาแต่ผมก็ไม่เลิกกับแฟนนะ ก็คบกันต่อมีพ่อแม่แฟนรับรู้ก็พอ พ่อแม่เราก็คิดว่าเลิกกันแล้ว ซึ่งผมกับแฟนคนนี้ก็คบกันไปได้ไม่นานก็เลิกกันด้วยเหตุผลอื่นจนได้ ซึ่งตรงนี้ก็ข้ามไปเลย ผมก็มีแฟนคนใหม่ตามมา อีก 2 คนในช่วงมอปลายและก็เลิกหมดและปัจจุบันก็โสดยาวๆ
.
เกริ่นเยอะไป สรุปก็คือจากที่เล่ามาทำให้ผมมีความรู้สึก แค้น ครอบครัวผม พูดแบบติดตลกก็คือ G u เนี้ยไม่ได้หล่อขนาดจะหาแฟนได้ไว ได้ง่ายๆ แต่พอจะมีที ครอบครัวกลับทำกันยังงี้มันเป็นปมว่าเราไม่อยากจะพาแฟนไปให้พ่อแม่รู้จักอีกเลย เอาตรงๆก็คือไม่อยากให้เขามามีส่วนตัดสินเรื่องชีวิตคู่เราจนกระทั่งเราแต่งงานมีลูกเราก็ไม่อยากให้พ่อแม่เรามารับรู้ด้วย ไว้เรามีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเราอาจจะเอามาบอกเขาทีหลังว่ามีแล้วงี้เมื่ออยากจะบอก
นั้นละครับ อาจจะฟังดูงี่เง่านะแต่มันฝังใจมากที่โดนพ่อแม่แท้ๆ นินทาลับหลังเรื่องแฟนคนแรก แม้ปัจจุบันเขาจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วและยังมีหน้ามาบอกให้เราหาแฟน กลัวเราจะหาแฟนไม่ได้งั้นงี้ คือเวลาได้ยินเขาพูดยังงี้ผมก็ยังแค้นเขานะ ในส่วนชีวิตทั่วไปผมไม่มีปัญหาไรกับพ่อแม่เลย ใช้ชีวิตเป็นครอบครัวสุขสันต์ปกติ ผมก็รักเขาปกติแต่มาในเรื่องของแฟน เราก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนมาเลยเกือบ 8 ปีแล้วละมั้งตั้งแต่วันที่เขาทำยังงั้นกับเรา เรารู้สึกไม่อยากให้เขารับรู้ ทีนี้ปัญหาคือ เมื่อผมมีแฟนครั้งต่อไป (สมมติ) ผมไม่อยากจะให้เขาไปเจอพ่อแม่ในช่วงระยะเวลาที่คบกันจนถึงแต่งงานมีลูกหรืออะไรถ้าเป็นไปได้อะนะ ผมจะบอกแฟนยังไงให้เขาเข้าใจ คือผู้หญิงหลายคนดูมีความคิดว่าการพาแฟนไปเจอครอบครัวคือการพิสูนจ์ความบริสุทธิ์ แต่ ณ ตรงนี้ผมไม่สะดวกใจจริงๆตามที่เล่ายาวๆมา และเรื่องซุกเมียน้อยยิ่งแล้วใหญ่ว่าเราไม่ได้ขายออกง่ายขนาดนั้น สาวๆที่เข้ามาเสียเวลาอ่านอยากลองแลกเปลี่ยนกันหน่อยครับว่าผมบอกเหตุผลตามที่พิมพ์ไปเนี้ยกับแฟนคิดว่ามันรับกันได้ไหม ผมต้องยืนยันความบริสุทธิ์แบบไหนอีก เพราะอย่างอื่นผมก็พร้อมทุ่มเทตามประสาแฟน ซึ่งผมก็เจ็บมาเยอะนะเลยตั้งเป้าว่าถ้ามีแฟนคนต่อไปก็จะพยายามเป็นแฟนที่ดีให้ได้ แต่ขอแค่เรื่องนี้จริงๆ
ลองแลกเปลี่ยนกันครับ ขออย่างเดียวไม่ต้องสอนเรื่องบาปบุญคุณโทษอะไรนะครับเพราะผมไม่เชื่อ และก็ชีวิตปกติผมก็เป็นลูกที่ดี แต่แค่เรื่องแฟนที่ผมขอแค้นครับ