🇹🇭มาลาริน💚27เม.ย.ไทยติดเชื้อใหม่อันดับ10โลก/ป่วย14,887คน หาย18,919คน/ไวรัลเวคเตอร์-mRNA ลดป่วยหนัก เสียชีวิตกว่า 90%


https://www.sanook.com/news/8552502/

https://www.bangkokbiznews.com/news/1001262

27 เม.ย. 2565 เวลา 17:10 น.223
  
"แอสตร้าเซนเนก้า" เผยผลศึกษา "วัคซีนโควิด-19" ชนิด "ไวรัลเวคเตอร์" และ วัคซีน "mRNA" ล้วนมีประสิทธิผลเท่ากัน ในการป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 91.3-92.5% และการเสียชีวิตจาก "โรคโควิด-19" 91.4 – 93.3% ชี้ ลดป่วยหนัก เสียชีวิต ตัวแปรสำคัญ บ่งบอกประสิทธิผลวัคซีน
 
2 ปีที่ผ่านมา ความเสียหายที่เกิดจากโรคระบาด โควิด-19 หนักหนากระทบผู้คนทั่วโลก รวมถึงภาคเศรษฐกิจ โควิด-19 ถือเป็นการทดสอบระบบสาธารณสุขทั่วโลก ซึ่งยังเป็นความท้าทายที่เราต้องจับตามองต่อไป
 
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 65 รศ.ดร.นพ.ประตาป สิงหศิวานนท์ เลขาธิการเครือข่ายซีมีโอทรอปเมด และอดีตคณบดีคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในงานแถลงข่าว “ประสิทธิผลของวัคซีนป้องกันโควิด-19” จัดโดย บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย โดยระบุว่า สิ่งสำคัญ คือ การสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อให้บริการทางการแพทย์พื้นฐาน เพื่อช่วยชีวิต และเป็นการลงทุนด้านสุขภาพ "วัคซีน" จึงเป็นเสาหลักสำคัญ ของความมั่นคงของสาธารณสุขในโลก และการต่อสู้กับการระบาดโควิด-19 และโรคระบาดใหม่ๆ ในอนาคต
 
ลดป่วยหนัก เสียชีวิต ตัวแปรสำคัญ บ่งบอกประสิทธิผลวัคซีน
 
"สิ่งที่เห็นได้ชัด คือ การให้วัคซีน ถือเป็นการป้องกันโดยเฉพาะในเรื่องของผลข้างเคียงรุนแรง เช่น อาการรุนแรง และเสียชีวิต ขณะเดียวกัน ประสิทธิผลของวัคซีน แต่เดิมเราใช้วิธีการวัดการสร้างแอนติบอดีข้างต้นได้ดี แต่ประสิทธิผลวัคซีนในโลกความเป็นจริง สะท้อนให้เห็นจากประสบการณ์ใช้งานจริง ปัจจุบัน สามารถวัดตัวแปรสำคัญ โดยเฉพาะการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยรักษาตัวใน รพ. และ เสียชีวิต" รศ.ดร.นพ.ประตาป กล่าว 
 
ไวรัลเวคเตอร์ - mRNA ลดเข้ารพ. 91.3-92.5%
 
รายงานการวิเคราะห์ข้อมูลฉบับใหม่โดยผู้เชี่ยวชาญจากงานวิจัยที่มาจากกรณีศึกษากว่า 79 เรื่อง เผยว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วโลก ต่างให้ประสิทธิผลที่เท่ากันในการการป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 หลังการให้วัคซีนสองเข็ม
 
โดยรายงานฉบับดังกล่าวแสดงข้อมูลอย่างชัดเจนว่าทั้งวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของ แอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดไวรัล เวคเตอร์ (Viral Vector) และวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิด mRNA ต่างให้ประสิทธิผลในการป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล อยู่ที่ระหว่าง 91.3-92.5% และการเสียชีวิต อยู่ที่ระหว่าง 91.4 – 93.3% ในระดับเดียวกัน โดยไม่มีความต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ซึ่งครอบคลุมผู้ป่วยในทุกช่วงอายุ
 
แม้ว่าข้อมูลในขณะที่ทำรายงานการวิเคราะห์ฉบับนี้จะเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับสายพันธุ์เดลต้าและสายพันธุ์ก่อนหน้า แต่ข้อมูลจากการระบาดระลอกใหม่ได้บ่งชี้ให้เห็นถึงผลที่คล้ายคลึงกันเกี่ยวกับประสิทธิผลของวัคซีนต่อการป้องกันอาการรุนแรงจากโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
 
ศาสตราจารย์กาย ทเวทส์ ผู้อำนวยการหน่วยวิจัยทางคลินิกของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดในเวียดนาม เปิดเผยว่า วัคซีนโควิด-19 มีความสำคัญต่อการช่วยชีวิตและช่วยให้ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้ในปีที่ผ่านมา
 
ซึ่งผลการวิเคราะห์ข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญของเราแสดงให้เห็นว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า และ วัคซีนชนิด mRNA ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันต่างให้ประสิทธิผลในการป้องกันโรคโควิด-19 ได้ในระดับสูง และเป็นข้อมูลที่สำคัญสำหรับภาครัฐและผู้กำหนดนโยบายในภูมิภาคนี้ เพื่อพิจารณานำวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปใช้กับประชาชนอย่างเหมาะสมที่สุดในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
 
ประสิทธิภาพวัคซีน ต้องดูผลระยะยาว
 
ด้าน พญ.สุเนตร ชื่นกิจมงคล รองผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า การศึกษาประสิทธิผลวัคซีนในประเทศไทย พบว่า แอนติบอดีจะสูงขึ้นในช่วงแรกหลังจากได้รับวัคซีน และ ปกป้องเราจากอาการไม่พึงประสงค์ต่างๆ เดิมทีเราใช้ตัวเลขแอนติบอดีเป็นเกณฑ์หลัก และพบว่า mRNA จะสูงมาก เมื่อเทียบกับ ไวรัลเวคเตอร์ และ เชื้อตาย รวมถึงการ บูสเตอร์โดส ด้วย mRNA และไวรัลเวคเตอร์ จะสูงกว่าเชื้อตายอย่างมาก
 
อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาหลายปัจจัยประกอบกัน ไม่ใช่เพียงแค่ระดับการตอบสนองของแอนติบอดีเบื้องต้น แต่ยังต้องดูประสิทธิผลของวัคซีนจากกรณีศึกษาจริง เพื่อพิสูจน์ว่าวัคซีนที่ใช้นั้นได้ผล โดยสามารถการป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ได้อย่างดี
 
"จากการศึกษางานวิจัยกว่า 79 เรื่อง ที่ศึกษาเกี่ยวกับการใช้วัคซีนจริง และพบว่า วัคซีนชนิดไวรัลเวคเตอร์ และวัคซีน mRNA ที่ใช้กันอยู่อย่างแพร่หลาย ล้วนมีประสิทธิผลในการป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงได้ในระดับสูงไม่แตกต่างกัน”
 
โดยข้อมูลที่ถูกวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจากทั่วเอเชียนั้นมาจาก VIEW-hub ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแบบอินเตอร์แอคทีฟที่แสดงข้อมูลระดับโลกพร้อมภาพประกอบเกี่ยวกับการใช้วัคซีนและผลกระทบ โดยถูกพัฒนาขึ้นจากความร่วมมือของวิทยาลัยสาธารณสุขจอห์น ฮอปกินส์ บลูมเบิร์ก (Johns Hopkins Bloomberg School of Public Health) และศูนย์การเข้าถึงวัคซีนนานาชาติ (International Vaccine Access Center)
 
จากข้อมูลของประเทศไทย ที่เป็นข้อมูลจากการปฏิบัติจริง สะท้อนให้เห็นว่า ไวรัลเวคเตอร์ ให้ความสามารปกป้องการเข้า รพ. และ เสียชีวิต โดยเฉาะความรุนแรงจากการติดเชื้อเทียบเท่า mRNA สามารถมั่นใจได้ว่า ประชาชนได้รับความคุ้มครองที่ดี โดยเฉพาะความรุนแรงจากเชื้อโควิด และได้รับการคุ้มครองจากวัคซีนที่ใช้ทั่วไป
 
"ดังนั้น การประเมินวัคซีนไม่ควรใช้ตัวแปรในประสิทธิผลระยะสั้น แต่ต้องดูระยะยาว โดยเฉาะการเข้า รักษาตัวใน รพ. และเสียชีวิตจากโควิด" พญ.สุเนตร กล่าว 
 
โอมิครอน กับการฉีดบูสเตอร์ 
 
ดร.บรูซ มุนกอลล์ ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ประจำภูมิภาคเอเชีย วัคซีนและโรคติดเชื้อ แอสตร้าเซนเนก้า กล่าวใน หัวข้อ “วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า : โอมิครอน และข้อมูลบูสเตอร์เข็มที่สาม” โดยระบุว่า โอมิครอนที่เกิดขึ้นเป็นสายพันธุ์ใหม่ ทำให้คนติดเชื้อทั่วโลก แม้จะได้รับวัคซีน หลายคนมองว่าวัคซีนไม่เวิร์คหรือเปล่า ? ดังนั้น ต้องเข้าใจว่าวัคซีนมีประสิทธิผลอย่างไร
 
ข้อมูลจาก สหราชอาณาจักร ซึ่งขณะนี้ มีวัคซีนที่ใช้หลัก คือ ไวรัลเวคเตอร์ และ mRNA เรื่องของการคุ้มครองการติดเชื้อกับการเจ็บป่วยเล็กน้อย พบว่า สามารถลดการเข้ารพ.และเจ็บป่วยรุนแรง จากโอมิครอนได้ดี รวมถึง เดลตาด้วยเช่นกัน
 
ไวรัลเวคเตอร์ - mRNA สองโดสป้องกันโอมิครอนได้หรือไม่ 
 
ขณะที่ ผลในเชิงประสิทธิภาพลดการเข้า รพ. เสียชีวิต ถือว่าน่าสนใจ ข้อมูลใน สหรราชอาณาจักร ระหว่างเดลตา และ โอมิครอน คนที่ได้รับ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 โดส หรือ ไฟเซอร์ 2 โดส เห็นได้ชัดว่าตัวเลขใกล้เคียงกัน ขณะเดียวกัน ทั้ง 2 ชนิด ต่อให้ได้รับ 2 โดส ก็ไม่สามารถป้องกันโอมิครอนได้ดีในระยะยาว
 
บูสเตอร์โดส สำคัญป้องกัน โอมิครอน
 
อย่างไรก็ตาม การป้องกันการเจ็บป่วย เข้ารพ. ประสิทธิภาพระยะยาวถือว่ารักษาระดับได้ดี ทั้งเดลต้า และ โอมิครอน แต่ประสิทธิภาพลดลงราว 30% หลังจาก 6 เดือน ดังนั้น บูสเตอร์โดส จึงมีความสำคัญ
 
เมื่อเทียบวัคซีน 2 โดส และหลังจากให้ "บูสเตอร์โดส" จากข้อมูลในราชอาณาจักร พบว่า อัตราการป้องกันการเข้า รพ. กระโดดขึ้นมากกว่า 90% หลังจากได้รับเข็มที่ 3 ในทั้งเดลตา และโอมิครอน
 
"การป้องกันการเข้า รพ. ประสิทธิผลของวัคซีนเหล่านี้ 3 โดส น่าจะไปในทิศทางเดียวกันทั้งวัคซีนสองประเภท ก่อนหน้านี้ต้องยอมรับว่า ความสามารถในการรองรับสายพันธุ์โอมิครอนอาจจะน้อยกว่าเมื่อเทียบสายพันธุ์อื่น แต่วัคซีนทั้ง 2 ชนิด ประชาชน มั่นใจได้ว่า จะสามารถป้องกันอาการหนัก และ เสียชีวิต จากโควิด-19 ได้"  ดร.บรูซ มุนกอลล์  กล่าว 

https://www.bangkokbiznews.com/social/1001345

นานาเรียนติดตามข่าวโควิดวันนี้นะคะ
จังหวัดในภาคอีสานติดเชื้อTop10ถึง6จังหวัดค่ะ ขอนแก่นมาเป็นที่2

โควิดทั่วโลกสถานการณ์ดีขึ้น ไทยก็เช่นกัน แต่การเสียชีวิตยังสูง

ฉีดวัคซีนช่วยได้ ต้องพากลุ่มเสี่ยง608ไปฉีดนะคะ

.....🤟💕🤟💕
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันพุธที่ 27 เมษายน 2565
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/549860653298930


จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 26 เม.ย. 2565)
รวม 132,825,666 โดส ใน 77 จังหวัด

ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 26 เมษายน 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 132,459 โดส

เข็มที่ 1 : 21,514 ราย
เข็มที่ 2 : 46,860 ราย
เข็มที่ 3 : 64,085 ราย

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 56,184,323 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 51,074,520 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 25,566,823 ราย

แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/549817453303250


รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันพุธที่ 27 เมษายน 2565 จำนวน 125 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/549860843298911


สูตรฉีดวัคซีนเด็ก 5 - 17 ปี ทั้งเข็ม 1, 2 และเข็มกระตุ้น

ที่มา: กรมควบคุมโรค
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/549910376627291


CAAT ออกประกาศแจ้งสายการบินให้ปฏิบัติตามมาตรการเข้าประเทศใหม่ที่จะเริ่ม 1 พ.ค. นี้

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ได้ออกประกาศนักบิน (NOTAM) แจ้งสายการบินทั่วโลกถึงมาตรการที่ปรับปรุงล่าสุดในการเดินทางทางอากาศเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป เพื่อสร้างความเข้าใจและให้สายการบินปฏิบัติตามมาตรการได้อย่างถูกต้อง ดังนี้

1. ผู้โดยสารที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว สามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องมีการตรวจ COVID – 19 ใด ๆ เพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ผู้โดยสารตรวจ ATK หากมีอาการ

2. ผู้โดยสารที่ยังไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนยังไม่ครบถ้วน สามารถตรวจ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และจะสามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องมีการตรวจ COVID – 19 ใด ๆ เพิ่มเติมเช่นเดียวกับผู้โดยสารที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว หากผู้โดยสารกลุ่มนี้ไม่มีผลตรวจ RT-PCR จะต้องเข้ากักตัวตามที่เจ้าหน้าที่ด่านกักกันโรคสั่ง และจะต้องทำการตรวจ RT-PCR ในวันที่ 4 หรือวันที่ 5 ของการกักตัว

3. ผู้โดยสารทุกคนต้องมีประกันสุขภาพคุ้มครอง COVID – 19 หรือจดหมายรับประกันมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ที่มีระยะคุ้มครองตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งผู้โดยสารสามารถใช้ประกันนี้ในการรักษาอาการของ COVID – 19 หากพบว่าเป็นผู้ติดเชื้อ

4. ผู้โดยสารจะต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน หรือผลการตรวจ RT-PCR และประกันสุขภาพคุ้มครอง COVID – 19 ในระบบ Thailand Pass ก่อนการเดินทาง และเมื่อเอกสารได้รับการตรวจสอบแล้วผู้โดยสารจะได้รับ QR Code เพื่อใช้แสดงต่อสายการบิน หากไม่มี QR Code สายการบินอาจปฏิเสธการรับขนส่งผู้โดยสารได้

5. สายการบินจะต้องตรวจสอบผู้โดยสารว่ามี QR Code จากระบบ Thailand Pass ก่อนรับเป็นผู้โดยสารมากับอากาศยาน และหากพบว่าผู้โดยสารเดินทางมาถึงประเทศไทย โดยไม่มี QR Code สายการบินจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบส่งผู้โดยสารกลับประเทศต้นทาง

6. สนามบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการตามมาตรการของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด เช่น การให้สวมหน้ากาก การตรวจสอบอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าหรือออกสถานที่

CAAT ยังเน้นย้ำและขอความร่วมมือสายการบินให้ช่วยตรวจสอบกลั่นกรองเอกสารและเฝ้าระวัง อย่างเคร่งครัดตามมาตรการใหม่ ขณะเดียวกันให้สายการบินแจ้งข้อมูลผู้โดยสารให้ครบถ้วนถูกต้องเพื่อสามารถเตรียมพร้อมและอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางเข้าประเทศตามมาตรการใหม่ได้อย่างเต็มที่

ที่มา: สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT)
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/549861029965559


ก.เกษตรฯ คุมเข้มมาตรการ Zero Covid ผลไม้ไทยทั้งระบบ

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าและสร้างรายได้อันดับ 1 ให้ประเทศไทย โดยจีนเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด19 ที่เกิดขึ้น ทำให้การส่งออกทุเรียนได้รับผลกระทบ ดังนั้น จึงขอให้เกษตรกร ล้ง หน่วยงานราชการ ร่วมมือให้ทุเรียนไทย เป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ เน้นย้ำให้มีการส่งเสริมการขายภายในประเทศ ซึ่งประเทศไทยมีความเข้มงวดในการดำเนินมาตรการ Zero Covid และใช้มาตรการ GAP Plus ที่สวนทุเรียน และ GMP Plus ที่ล้ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุเรียนไทยทุกลูกต้องมีความปลอดภัย จึงขอให้ช่วยกันทำให้มาตรการนี้เกิดขึ้นได้จริง พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ฟื้นเศรษฐกิจ และใช้มาตรการดังกล่าวในสินค้าส่งออกทุกประเภท

ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/549834839968178


สรรพากร ขยายเวลาหักรายจ่าย 1.5 เท่า ถึงสิ้นปี ซื้อชุดตรวจ ATK ให้พนักงาน-ลูกจ้าง

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการขยายเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนรายจ่ายค่าซื้อชุดตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (COVID - 19 Antigen test self-test kits) สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีรายจ่ายค่าซื้อชุดตรวจโควิด - 19 แบบเร่งด่วน เพื่อใช้สำหรับพนักงานหรือลูกจ้าง มาหักเป็นรายจ่ายได้เพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนร้อยละ 50 (หักได้ 1.5 เท่า) ของรายจ่ายที่จ่ายไปตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - 31 ธ.ค. 65 เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการสำหรับใช้ตรวจพนักงานหรือลูกจ้างเป็นประจำ สอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศ หรือที่ศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร.1161

ที่มา กรมสรรพากร
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/549847919966870


ชวนเด็กๆ ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นก่อนเปิดเทอม
สำหรับเยาวชนอายุ 12-17 ปี
ทีฉีดเข็ม 2 มาแล้ว นานกว่า 4 เดือน
หรือติดเชื้อมาแล้ว นานกว่า 3 เดือน

ลงทะเบียนขอรับวัคซีนผ่านสถานศึกษา
หรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน
https://web.facebook.com/permalink.php?story_fbid=305863895025941&id=100068069971811


การเดินทางเข้าประเทศไทยทางอากาศ

สามารถลงทะเบียนบน Thailand Pass ได้ตั้งแต่ 29 เม.ย. 2565 เวลา 00.01 น. (เวลาประเทศไทย)
มาตรการเดินทางเข้าประเทศไทยทางอากาศ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 65 เป็นต้นไป มีดังนี้

กลุ่ม 1 - ผู้ได้รับวัคซีนครบตามข้อกำหนด
- ลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass
- แนบเอกสารประกอบ ได้แก่ หนังสือเดินทาง เอกสารรับรองการได้รับวัคซีน และหลักฐานการมีประกันที่ครอบคลุมการรักษาพยาบาลในไทย วงเงินขั้นต่ำ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (สำหรับชาวต่างชาติ)
(ไม่ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทั้งก่อนเดินทางและเมื่อเดินทางถึงประเทศไทย)

กลุ่ม 2 - ผู้ไม่ได้รับวัคซีน/ได้รับวัคซีนไม่ครบตามข้อกำหนด
• กรณี (1) หากมีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบ ที่ออกภายใน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง
- ลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass
- แนบเอกสารประกอบ ได้แก่ หนังสือเดินทาง ผลตรวจ RT-PCR ที่ออกภายใน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง (ต้องแนบบน Thailand Pass เท่านั้น)
- แนบหลักฐานการมีประกันที่ครอบคลุมการรักษาพยาบาลในไทย วงเงินขั้นต่ำ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (สำหรับชาวต่างชาติ)
(ไม่ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย)
ทั้งนี้ ผู้เดินทางที่ได้รับอนุมัติให้เดินทางเข้าไทยในรูปแบบ AQ เดิม จะต้องลงทะเบียนบน Thailand Pass อีกครั้ง หากประสงค์เดินทางเข้าไทยโดยยกเว้นการกักตัว
• กรณี (2) เข้ากักกัน 5 วัน
- ลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass
- แนบเอกสารประกอบ ได้แก่ หนังสือเดินทาง หลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรมสำหรับกักกัน (Alternative Quarantine) จำนวน 5 วัน (พร้อมค่าตรวจ RT-PCR 1 ครั้ง)
- แนบหลักฐานการมีประกันที่ครอบคลุมการรักษาพยาบาลในไทย วงเงินขั้นต่ำ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (สำหรับชาวต่างชาติ)
- รับการตรวจ RT-PCR ในวันที่ 4-5 (ไม่ต้องตรวจก่อนเดินทางมาไทย)
ทั้งนี้ สำหรับผู้เดินทางที่ได้รับอนุมัติ Thailand Pass ก่อนหน้านี้แล้ว สามารถใช้ QR Code ที่ได้รับแล้วในการเดินทางได้ โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่
https://web.facebook.com/permalink.php?story_fbid=305709315041399&id=100068069971811


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แนวทางป้องกันโรคโควิด-19 ตามช่วงอายุเด็ก ที่ผู้ปกครองต้องใส่ใจ เข้าใจ และเต็มใจ ที่จะปฏิบัติตามข้อแนะนำต่าง ๆ เพื่อให้บุตรหลานลดความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19

Cr. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/361138206048917
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่