กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่มาขอความคิดเพื่อนๆและแนวทางการแก้ปัญหาที่ถูกต้องนะคะ ขอความกรุณาไม่ดุ ด่าว่ากันนะคะ
เข้าเรื่องเลยนะคะน้องเราเป็นพนักงานส่งของบริษัทหนึ่ง ซึ่งเค้ามีนโยบายข้อหนึ่งว่า ถ้าผู้รับให้เบอร์ติดต่อผิดหรือไม่ชัดเจนหรือติดต่อผู้รับไม่ได้ห้ามตีสินค้ากลับ ต้องจะนำส่งให้ได้ เว้นแต่ว่าหมดหนทางในการนำส่งแล้วจริงๆถึงจะสามารถตีกลับได้ ซึ่งนโยบายข้อนี้ไม่ได้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรแต่มีการแจ้งให้พนักงานทุกคนต้องปฏิบัติตาม เมื่อวันพุธที่ผ่านมาน้องของเราได้ไปส่งสินค้าในหมู่บ้านที่ไม่ใช่สายงานของน้อง น้องของเราได้โทรไปถามเส้นทางของบ้านผู้รับตามเบอร์โทรศัพท์ที่อยู่หน้ากล่องพัสดุปรากฎว่าเบอร์ที่ให้ไว้ไม่สามารถติดต่อได้ น้องจึงได้ถามคนในหมู่บ้านว่ารู้จักบุคคล คนนี้หรือไม่ แล้วคนในหมู่บ้านก็บอกทางไปบ้านของผู้รับ พอไปถึงบ้านตามที่คนในหมู่บ้านบอกน้อง น้องก็ขับรถไปบ้านหลังนั้นทันทีแล้วตะโกนเรียกให้คนมารับพัสดุ หลังจากนั้นก็มีคนออก น้องเลยถามออกไปว่าใช่บ้านของคุณ XXX ไหม เค้าก็บอกว่าใช่ เดี๋ยวเก็บไว้ให้ แล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามีพนักงานมาแจ้งน้องว่าของชิ้นนี้ลูกค้ายังไม่ได้รับของให้ติดต่อลูกกลับไปหาลูกค้าด้วย น้องเลยติดต่อกลับไปหาลูกค้าจึงได้ความว่า คนที่รับของเป็นญาติของลูกค้าซึ่งอยู่บ้านข้างกัน พอรับไปแล้วหลานของญาติก็ได้แกะพัสดุและนำสินค้าไปใช้ แล้วทางลูกค้าเองขอให้น้องเรารับผิดชอบเรื่องนี้โดยการโอนเงินคืนลูกค้าตามราคาสินค้าชิ้นนั้นเพื่อที่เค้าจะได้นำเงินจำนวนนี้ไปสั่งซื้อใหม่ น้องเราจึงตอบตกลงไปแต่มีข้อแม้ว่าทางลูกค้าต้องนำของที่น้องส่งไปแล้วกลับคืนมาให้น้องเรา ซึ่งทางลูกค้าก็ได้ตอบตกลงว่าจะนำของมาให้น้องเรา หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงต่อมาลูกค้าได้บอกว่าทางญาติเค้าแจ้งมาว่าสินค้าไม่รู้ว่าหลานคนไหนเอาไปตามกลับมาให้ไม่ได้ แต่จะให้น้องเราโอนเงินคืนให้อย่างเดียวเลย เพราะเค้ามองว่ามันเป็นความผิดน้องเรา เค้ายังบอกอีกว่าก็เหมือนที่น้องเราทำพัสดุหาย เราก็ต้องชดเชยค่าเสียหาย เพื่อนๆว่าเราควรแนะนำน้องอย่างไรดีคะ ยอดเงินมันอาจจะไม่เยอะนะคะแค่สองร้อยกว่าบาท แต่ด้วยความที่เรามองว่ามันก็ไม่ใช่ความผิดของน้องเราไปซะทีเดียว เราเลยอยากจะมาขอคำแนะนำจากเพื่อนๆว่าน้องเราควรจ่ายไปให้จบๆ หรือเมินเฉยไปเลยคะ เพราะเค้าก็โทรมาทวงทุกวันเลย
เมื่อทำงานผิดพลาด
เข้าเรื่องเลยนะคะน้องเราเป็นพนักงานส่งของบริษัทหนึ่ง ซึ่งเค้ามีนโยบายข้อหนึ่งว่า ถ้าผู้รับให้เบอร์ติดต่อผิดหรือไม่ชัดเจนหรือติดต่อผู้รับไม่ได้ห้ามตีสินค้ากลับ ต้องจะนำส่งให้ได้ เว้นแต่ว่าหมดหนทางในการนำส่งแล้วจริงๆถึงจะสามารถตีกลับได้ ซึ่งนโยบายข้อนี้ไม่ได้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรแต่มีการแจ้งให้พนักงานทุกคนต้องปฏิบัติตาม เมื่อวันพุธที่ผ่านมาน้องของเราได้ไปส่งสินค้าในหมู่บ้านที่ไม่ใช่สายงานของน้อง น้องของเราได้โทรไปถามเส้นทางของบ้านผู้รับตามเบอร์โทรศัพท์ที่อยู่หน้ากล่องพัสดุปรากฎว่าเบอร์ที่ให้ไว้ไม่สามารถติดต่อได้ น้องจึงได้ถามคนในหมู่บ้านว่ารู้จักบุคคล คนนี้หรือไม่ แล้วคนในหมู่บ้านก็บอกทางไปบ้านของผู้รับ พอไปถึงบ้านตามที่คนในหมู่บ้านบอกน้อง น้องก็ขับรถไปบ้านหลังนั้นทันทีแล้วตะโกนเรียกให้คนมารับพัสดุ หลังจากนั้นก็มีคนออก น้องเลยถามออกไปว่าใช่บ้านของคุณ XXX ไหม เค้าก็บอกว่าใช่ เดี๋ยวเก็บไว้ให้ แล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามีพนักงานมาแจ้งน้องว่าของชิ้นนี้ลูกค้ายังไม่ได้รับของให้ติดต่อลูกกลับไปหาลูกค้าด้วย น้องเลยติดต่อกลับไปหาลูกค้าจึงได้ความว่า คนที่รับของเป็นญาติของลูกค้าซึ่งอยู่บ้านข้างกัน พอรับไปแล้วหลานของญาติก็ได้แกะพัสดุและนำสินค้าไปใช้ แล้วทางลูกค้าเองขอให้น้องเรารับผิดชอบเรื่องนี้โดยการโอนเงินคืนลูกค้าตามราคาสินค้าชิ้นนั้นเพื่อที่เค้าจะได้นำเงินจำนวนนี้ไปสั่งซื้อใหม่ น้องเราจึงตอบตกลงไปแต่มีข้อแม้ว่าทางลูกค้าต้องนำของที่น้องส่งไปแล้วกลับคืนมาให้น้องเรา ซึ่งทางลูกค้าก็ได้ตอบตกลงว่าจะนำของมาให้น้องเรา หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงต่อมาลูกค้าได้บอกว่าทางญาติเค้าแจ้งมาว่าสินค้าไม่รู้ว่าหลานคนไหนเอาไปตามกลับมาให้ไม่ได้ แต่จะให้น้องเราโอนเงินคืนให้อย่างเดียวเลย เพราะเค้ามองว่ามันเป็นความผิดน้องเรา เค้ายังบอกอีกว่าก็เหมือนที่น้องเราทำพัสดุหาย เราก็ต้องชดเชยค่าเสียหาย เพื่อนๆว่าเราควรแนะนำน้องอย่างไรดีคะ ยอดเงินมันอาจจะไม่เยอะนะคะแค่สองร้อยกว่าบาท แต่ด้วยความที่เรามองว่ามันก็ไม่ใช่ความผิดของน้องเราไปซะทีเดียว เราเลยอยากจะมาขอคำแนะนำจากเพื่อนๆว่าน้องเราควรจ่ายไปให้จบๆ หรือเมินเฉยไปเลยคะ เพราะเค้าก็โทรมาทวงทุกวันเลย