มีเพื่อนแบบนี้ เรียกว่าเป็นความสัมพันธ์ "Toxic" ได้ไหม

กระทู้คำถาม
เรามีเพื่อนสนิทคนนึงที่คบกันมาตั้งแต่ม.ปลาย ตอนนี้เรียนจบแล้วแต่ก็ยังติดต่อไปมาหากันตลอด พวกเรามีไลฟ์สไตล์คล้ายกัน ไปไหนไปกัน เป็นคนที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่เคยพูดอะไรที่ทำให้เรารู้สึกแย่เลย แต่การกระทำของเพื่อนคนนี้กลับทำให้เรารู้สึกแย่หลายครั้ง แต่เราเลือกที่จะปล่อยผ่านถึงจะรู้สึกไม่โอเคก็ตาม แต่พอเกิดเรื่องครั้งนี้เรากลับหมดความอดทนถึงมันจะดูเป็นเรื่องเล็กๆ ก็ตาม
เราตั้งใจจะไปสมัครงานที่หนึ่ง และได้ชวนเพื่อนคนนี้ไปสมัครด้วย ตอนแรกเพื่อนคนนี้ไม่ว่าง เราเลยบอกว่างั้นเราไปสมัครคนเดียวก็ได้เดี๋ยวให้พี่ไปส่ง หลังจากนั้นเพื่อนคนนี้ก็เปลี่ยนใจจะไปสมัครงานด้วย ซึ่งเพื่อนคนนี้จะขับรถตัวเองพาไป เราเลยไม่ได้บอกพี่ไว้เรื่องสมัครงาน  พอมาตอนเย็นเพื่อนคนนี้ก็ทักมาบอกว่าไปสมัครงานไม่ได้แล้วที่บ้านจะพาไปทำบุญที่ต่างจังหวัด ตอนนั้นยอมรับว่าโกรธ เพราะคุยกันไว้แล้วแต่กลับมาผิดคำพูด และเราตั้งใจไปสมัครงานจริงๆ ถึงต้องไปคนเดียวก็ตาม แต่นี่มาบอกกระทันหัน เราเองก็บอกให้พี่พาไปไม่ได้เพราะมันกระทันหันและพี่เราก็อยู่อีกที่ เราเสียความรู้สึกมากๆ ถึงจะดูเป็นเรื่องเล็กก็ตาม เราก็คิดว่าปฏิเสธที่จะไม่ไปไม่ได้หรอ ในเมื่อตกลงกันไว้แล้วว่าจะไปแต่กลับผิดคำพูด ถ้าเป็นเราก็คงปล่อยให้ญาติไปทำบุญกันเลยไว้ไปด้วยกันใหม่ได้ เพราะเรามีธุระของเราอยู่แล้ว 
หลังจากวันนั้นเราก็ไม่ค่อยคุยกับเพื่อนคนนั้นอีก มันเหมือนกับว่าเราอดทนมา 100 ครั้ง แต่ครั้งที่ 101 เราไม่ทนแล้วไง ถึงจะดูเป็นเรื่องเล็กก็ตาม แต่มันสุดแล้วจริงๆ เรากลับมาคิดว่าถอยออกมาแบบนี้ดีแล้วใช่ไหม คิดถึงเรื่องที่ทำให้รู้สึกแย่ที่ผ่านมาแต่เราเลือกที่จะปล่อยผ่าน 
ครั้งนึงเคยมีโอกาสได้ทำงานด้วยกัน ตอนนั้นต้องทำรายงานกับเพื่อนคนนี้ร่วมกับเพื่อนคนอื่นๆ แต่ว่าเพื่อนคนนี้ต้องไปทำใบขับขี่รถยนต์และขอให้เราไปเป็นเพื่อน เราก็ไปและเอาโน๊ตบุ๊คไปทำรายงานด้วยเพราะอีกใจนึงก็เกรงใจเพื่อนคนอื่นๆ ที่ทำรายงานกัน แต่ก็ห่วงเพื่อนคนนี้ไม่อยากให้ไปคนเดียว เพื่อนคนอื่นๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ทำใบขับขี่ต้องไปสองวัน วันที่สองเพื่อนคนนี้ก็ให้เราไปเป็นเพื่อนอีก แต่ก็กลัวเพื่อนคนอื่นจะว่าที่เอาเราไปด้วยเลยบอกให้เราโกหกไปว่ามีธุระหรือปวดท้องปจด. ก็ได้ แต่เรายืนยันว่าจะไม่โกหก เพื่อนคนนี้เลยบอกว่าจะบอกเพื่อนคนอื่นให้ว่าขอให้เราไปด้วย แต่พอมาอีกวันเพื่อนที่ทำรายงานก็ทักมาบอกว่าให้เราไปทำรายงานที่บ้านเพื่อน เราก็ถามกลับไปว่า.....ยังไม่ได้บอกหรอว่าให้เราไปเป็นเพื่อน เพื่อนที่ทำรายก็บอกว่าไม่ได้บอกอะไร เราก็รู้สึกนอยด์นะ สุดท้ายเราก็ต้องจัดการเอง เราก็กลัวเพื่อนในกลุ่มคิดว่าไม่รู้จะไปทำไมแทนที่จะอยู่ช่วยงาน แต่เราก็ยังเอาโน๊ตบุ๊คไปนั่งทำงานรอระหว่างเพื่อนทำใบขับขี่ 
อีกเรื่องก็ตอนที่ทำรายงานบ้านเพื่อนอีกคนแต่ตอนนั้นเริ่มจะค่ำแล้วเราก็เลยขอกลับก่อนเพราะบ้านอยู่ไกล แต่เพื่อนคนนี้ยังไม่กลับจะให้เพื่อนอีกคนไปส่ง แต่เราเอาหมวกกันน็อคไว้ที่บ้านเพื่อนคนนี้ตอนที่ขับไปรับ แต่เพื่อนคนนี้ก็กลัวว่าแม่จะว่าตัวเองที่ไม่รีบกลับกันเพราะบ้านเราไกลและทางกลับจะเปลี่ยว เราเลยบอกว่างั้นไม่ไปเอาก็ได้เดี๋ยวกลับเลยแล้วให้บอกแม่ว่าเรากลับนานแล้ว แต่ลึกๆ ก็แอบน้อยใจอยู่นะว่าไม่ห่วงเราเลยหรอ วันนั้นตอนขับรถมอไซค์กลับแมลงเยอะมากแต่โชคดีที่เราเอาแว่นไปด้วย ถ้าไม่ใส่แว่นคงกลับไม่ถึงบ้านซักที ทุกครั้งที่กลับถึงบ้านเราจะทักบอกเพื่อนคนนี้ตลอดว่าถึงบ้านแล้ว แต่ก็มีบางครั้งที่ไม่ได้ทักบอกแต่เพื่อนคนนี้ก็ไม่เคยทักถามเราเลยเหมือนกัน 
และอีกเรื่องที่เรารู้สึกว่าเราแคร์และห่วงความรู้สึกเพื่อนคนนี้มากๆ คือตอนที่เพื่อนคนนี้ต้องไปอบรมงานที่ใหม่ทั้งวันและขอให้เรานั่งรถไปเป็นเพื่อน เราก็ไปด้วยและทั้งวันก็คือไปนั่งรอเพื่อนคนนี้ที่ห้างรอเพื่อนอบรมเสร็จแล้วมารับ แต่วันนั้นเราตื่นสายและเพื่อนมารอรับที่ปากทางหมู่บ้านแล้ว เพื่อนคนนี้โทรหาเราและเราเพิ่งตื่น เพื่อนคนนี้ว่าไม่เป็นไรและขับไปคนเดียว เรารู้สึกไม่ดีเลยโทรไปบอกว่าเดี๋ยวจะนั่งรถบัสตามไปแล้วไปรอที่ห้างแล้วกลับเป็นเพื่อน นึกถึงจุดนี้เรารู้สึกว่าที่ผ่านมาเราแคร์และห่วงความรู้สึกเพื่อนคนนี้มากๆ แต่เพื่อนคนนี้กลับไม่ห่วงความรู้สึกเราเลย เราทำถูกไหมที่ถอยออกมา ที่ผ่านมาเราคิดว่าพวกเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจริงๆ แต่ตอนนี้เราคงเข้าใจผิดไปเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่