[SJ] เปิดบทสัมภาษณ์ของ SUPER JUNIOR กับ 1883 Magazine 🇬🇧

1883 Magazine จากสหราชอาณาจักรได้ลงบทสัมภาษณ์ของ SUPER JUNIOR ในวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมาทางออนไลน์แพลตฟอร์ม จึงขออนุญาตนำคำแปลบทสัมภาษณ์มาแบ่งปันค่ะ




การยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งมาเกือบสองทศวรรษ ในสายอาชีพที่ต้องใช้ความสร้างสรรค์ นับว่าเป็นสิ่งที่น่าเกรงขามอย่างมาก ยิ่งในวงการ K-POP ที่มีความสามารถและหน้าตาสดใหม่เกิดขึ้นมากมาย ยิ่งทำให้เห็นว่า วงมากประสบการณ์อย่าง SUPER JUNIOR ควรค่ากับการยกย่องที่พวกเขาได้รับตลอดหลายปีที่ผ่านมา

วงที่แอคทีฟมาอย่างยาวนาน ซึ่งครองพื้นที่ในวงการ K-POP มาเป็นเวลา 18 ปี สร้างคำว่า "ตำนาน" ขึ้นมาอย่างปฏิเสธไม่ได้ สร้างการเดินทางที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ จากช่วงแรกที่ล้มลุกคลุกคลาน สู่ความอยู่ตัวที่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ในปีต่อๆ มาของตัววง ในการพูดคุยกับ 1883 SUPER JUNIOR ได้เจาะลึกถึงอัลบั้มล่าสุดของพวกเขา "The Road: Winter for Spring" ว่าพวกเขารักษาแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์อย่างไรหลังจากผ่านไปหลายปี สิ่งที่พวกเขาอยากทำ รวมถึงคำแนะนำที่พวกเขาอยากจะแบ่งปันให้กับตัวเองในอดีต และอื่นๆ

ข้อความหรือแรงบันดาลใจที่อยู่เบื้องหลังอัลบั้ม "The Road : Winter for Spring" ?

อีทึก: "The Road : Winter for Spring" เป็นอัลบั้มที่แสดงให้เห็นถึง การเปลี่ยนจากฤดูหนาวไปเป็นฤดูใบไม้ผลิ พร้อมกับความหนาวที่อบอุ่นขึ้น และเรื่องที่ไม่ดีเปลี่ยนไปในทางที่ดี เป็นอัลบั้มที่แสดงออกถึงความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ที่มักจะเจอได้ในความรักเช่นกัน และเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถรู้สึกร่วมได้
 
ขั้นตอนในการทำอัลบั้มนี้มีอะไรบ้าง? คุณจะอธิบายความเป็นอัลบั้มนี้ว่าอย่างไร?

อึนฮยอก: อัลบั้มนี้อ้างอิงมาจากคอนเซ็ปต์ของฤดูหนาวที่รอคอยฤดูใบไม้ผลิ เราอยากจะแสดงให้เห็นถึงความเป็นคู่กันของฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ โดยมัดรวม "Callin" เพลงบัลลาดที่เป็นตัวแทนของฤดูหนาวที่หนาวเหน็บ และ "Analogue Radio" ที่เป็นตัวแทนของฤดูใบไม้ผลิที่อบอุ่น ไว้ด้วยกัน แม้ว่าเราจะยังคงอยู่ในฤดูหนาวที่หนาวเหน็บ และเป็นช่วงต้นของฤดูใบไม้ผลิที่หนาวเย็น แต่ก็เป็นอัลบั้มที่มีความรู้สึกมากมายที่จะทำให้คุณตั้งตารอฤดูใบไม้ผลิมากยิ่งขึ้น

ช่วยเล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับเพลง "Callin" ได้ไหม และโดยส่วนตัวคุณสามารถเชื่อมโยงกับเพลงนี้ได้อย่างไร? คอนเซ็ปต์ของ MV คืออะไร?

ซีวอน: "Callin" เป็นเรื่องราวของผู้ชายที่ขังตัวเองไว้ในห้องที่เต็มไปด้วยอารมณ์ เขายังคงหวนคิดถึงความรักผ่านสิ่งของในห้อง รวมถึงสถานที่ต่างๆ และนี่คือความรู้สึกโหยหาที่เราพยายามจะแสดงให้เห็น เมื่อคุณคิดถึงใครสักคน คุณจะจดจ่ออยู่กับคนที่คุณอยากเจอ และผมก็รู้สึกเชี่อมโยงกับเรื่องนั้นได้เป็นอย่างดี

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

เพลงรอง "Analog Radio" แตกต่างจาก "Callin" อย่างไร?

คยูฮยอน: ในขณะที่ "Callin" เป็นเพลงที่บรรยายถึงความรักที่ไม่มีใครอยากปล่อยให้ผ่านไปเหมือนกับสีสันของฤดูหนาว "Analog Radio" ก็คือความทรงจำอันอบอุ่นของความรักที่มีสีสันของฤดูใบไม้ผลิ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ปกติคุณเอาประสบการณ์ส่วนตัวมาใส่ในเพลงหรือไม่?

ทงเฮ: ผมเอาประสบการณ์ของตัวเองมาใส่ในเพลงค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวปัจจุบันที่เจอ หรือความรู้สึกที่เกิดขึ้นในบางช่วงเวลา ผมมักจะเขียนสิ่งเหล่านี้ลงไป และใช้มันเป็นพื้นฐานในเพลงทีหลัง มันเป็นความรู้สึกที่คุ้มค่ามาก เวลาที่คนฟังสามารถเชื่อมโยงถึงความรู้สึกและเรื่องราวเหล่านั้นได้ ในขณะที่ฟังเพลงที่ผมแต่ง ผมอยากให้พวกเขาคิดว่าเพลงเหล่านี้คือเรื่องราวของตัวผม และเมื่อต้องเจอกับสถานการณ์เดียวกัน พวกเขาก็จะสามารถฟังเพลงเหล่านั้นเพื่อเยียวยา และเชื่อมโยงได้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่มีความสุขหรือยากลำบาก ผมอยากให้เพลงของเราเป็นแบบนั้น

ถ้าย้อนดูพัฒนาการของวง เพลงหรืออัลบั้มไหนที่โดดเด่นขึ้นแท่นเป็นตัวแทนตลอดการทำงาน และเพราะอะไร?

อึนฮยอก: ผมก็คงบอกว่าอัลบั้มที่สาม ที่มีเพลง "Sorry, Sorry" เป็นหนึ่งในช่วงเวลาเหล่านั้น เราได้รับความรักจากแฟนๆ มากมายทั่วโลกผ่านเพลงนี้ และเป็นเพลงที่เราพอใจและมีความสุขมากด้วย!

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ทำไมคุณถึงเลือกออกอัลบั้มนี้ในช่วงที่กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 18?

รยออุค: แม้ว่าจะไม่บ่อยนัก แต่ในฐานะ SUPER JUNIOR เราพยายามที่จะปล่อยเพลงอย่างต่อเนื่องเป็นระยะๆ และก็เพื่อไม่ให้แฟนๆ รู้สึกว่าเราหายหน้าหายตากันไปนาน อีกอย่าง เราไม่ได้ร่วมงานกับนักแต่งเพลง KENZIE นานแล้ว มันจึงเป็นเรื่องดีๆ ที่ได้กลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง เราคิดว่า "Callin" สามารถเป็นเพลงบัลลาดสไตล์ SUPER JUNIOR อีกเพลงหนึ่งได้ ซึ่งนั่นยิ่งทำให้มีความหมายมากขึ้นไปอีก

หลังจาก 18 ปีที่อยู่ด้วยกัน คุณยังคงรักษาแรงบันดาลใจและแรงจูงใจไว้อย่างไร?

เยซอง: ผมมักจะหาอัลบั้มใหม่ๆ ฟังทุกวัน อันที่จริง เมื่อจำนวนปีเริ่มมากขึ้น มันก็มีช่วงเวลาที่รู้สึกว่าตัวเองสูญเสียความหลงใหลไป และนั่นก็เป็นตอนที่ผมซื้อแผ่นเสียงและเริ่มสะสมมัน งานอดิเรกใหม่นี้ช่วยให้ผมมีแรงจูงใจอยู่เสมอ และช่วยทำให้ความหลงใหลในฐานะศิลปินกลับมา

หลังจากหลายปีผ่านไป มีช่วงที่แรงบันดาลใจหมดบ้างหรือไม่? คุณเอาชนะอาการหมดไฟในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เหล่านั้นอย่างไร?

รยออุค: เมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกโดดเดี่ยวเหล่านั้นมักจะเติบโตขึ้นในตัวคุณ แม้ว่าผมจะทำโปรเจ็กต์ได้สำเร็จ แต่ความรู้สึกว่างเปล่านั้นก็ยังคงอยู่ และมันสามารถทำให้รู้สึกหมดแรงได้ทันที ตลอดเวลา เมื่อมันเกิดขึ้น ผมพยายามที่จะพึ่งพาคนรอบข้าง เพราะเวลาที่ผมพูดความคิดและความรู้สึกออกไป ผมมักจะได้คำตอบของปัญหาและข้อกังวลใจเหล่านั้น ไม่ว่าใครก็สามารถรู้สึกโดดเดี่ยวได้ ผมเลยคิดว่าการพึ่งพากัน และเผชิญเรื่องราวในชีวิตไปด้วยกัน เป็นเรื่องที่ดี

ทงเฮ: ผมค่อนข้างเอาชนะอาการหมดไฟได้ไว และทุกวันนี้การออกกำลังกายช่วยให้ผมผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นไปได้ อาการหมดไฟสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และมันจะเป็นแค่ช่วงสั้นๆ ดังนั้น ผมจึงบอกตัวเองว่าผมสามารถเอาชนะมันได้ และพยายามจดจำความรู้สึกในช่วงเวลานั้นไว้ ในขณะที่ยังคงคิดบวกอยู่เสมอ

นอกจากความผูกพันที่คุณสร้างขึ้นในฐานะ SUPER JUNIOR แล้ว มีงานอดิเรกหรือความสนใจร่วมกันที่ทำให้คุณใกล้ชิดกันไหม?

ฮีชอล: ในหมู่สมาชิก ผมดื่มกับคยูฮยอนบ่อยที่สุด เรามีความสนใจที่คล้ายกัน การใช้เวลาร่วมกับเขาเลยเป็น "งานอดิเรก" ที่สนุกสำหรับผม ซึ่งผมสามารถผ่อนคลายและปลดปล่อยความเครียดได้

ชินดง: เราสื่อสารกันอย่างกระตือรือร้นและอัปเดตกันและกันอย่างสม่ำเสมอ แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่าง โทรศัพท์รุ่นใหม่มีอะไรเจ๋งๆ บ้าง เทรนด์อะไรกำลังมาแรงในตอนนี้ ร้านอาหารฮิปๆ ตั้งอยู่แถวไหน และเรื่องอื่นๆ เรามักจะแบ่งปันเรื่องราวในชีวิตของกันและกัน การมีปฏิสัมพันธ์เหล่านี้ช่วยให้เราใกล้ชิดเป็นทีมเดียวกัน

หลายปีที่ผ่านมา คุณได้ทำหลากหลายแนวเพลงและคอนเซ็ปต์ ทิศทางแบบไหนที่คุณอยากจะลองในครั้งถัดไป เพื่อที่จะดึงดูดคนฟังหน้าใหม่ๆ และเพราะอะไร?

อึนฮยอก: ผมอยากจะลองเพลงฮิปฮอป (เพราะ)มันเป็นแนวเพลงที่ได้รับความรักจากคนทั่วโลกมาอย่างยาวนาน และเป็นหนึ่งในสไตล์ที่ผมรู้สึกว่าเรายังไม่ค่อยได้โชว์ในฐานะ SUPER JUNIOR เท่าไหร่นัก ผมเลยอยากให้เราลองทำดู

เยซอง: ผมมักจะคิดเยอะและมองหาไอเดียใหม่ๆ ถ้าเป็นเรื่องของเพลง แต่สุดท้าย ผมก็เข้าใจว่า การแสดงที่ถ่ายทอดความเป็นตัวเองได้ดีที่สุด คือสิ่งที่ดีที่สุด ดังนั้นผมจึงใช้เวลาไปกับการคิดเรื่องของอารมณ์ และวิธีที่จะแสดงอารมณ์ผ่านเพลงให้ดียิ่งขึ้น

หลังจากอยู่รวมกันเป็นวงมาหลายปี ถ้าต้องบอกหนึ่งอย่างที่คุณได้เรียนรู้จากประสบการณ์ทั้งหมดที่มีร่วมกัน และจากประสบการณ์ของกันและกัน สิ่งนั้นก็คือ?

ชินดง: เนื่องจากวงเรามีสมาชิกจำนวนมาก และอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานาน เราเข้าใจว่าเรามีความแตกต่างกันทั้งในวิธีการคิดและแสดงออก ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราได้เรียนรู้ที่จะอดทนและเข้าใจอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันก็มองหาวิธีที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันไปด้วย

ณ จุดนี้ในอาชีพของคุณ คุณกำลังเผชิญกับแรงกดดันหรือความท้าทายอะไรบ้าง? อะไรคือสิ่งที่ช่วยให้คุณเอาชนะสิ่งเหล่านั้น?

ฮีชอล: มีหลายคนที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเพราะโรคระบาด ผมเลยคิดว่าความท้าทายในปัจจุบันที่กำลังเผชิญอยู่นั้นเล็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับของพวกเขา ผมพูดไม่ได้จริงๆ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับผม ผมรู้สึกเศร้าเล็กๆ ที่ไม่สามารถไปต่างประเทศเพื่อพบกับแฟนๆ ทั่วโลกได้

หากคุณสามารถแบ่งปันคำแนะนำหนึ่งข้อให้กับตัวเองในอดีตได้ สิ่งนั้นจะเป็นอะไร และสิ่งที่กำลังรอคอยให้เกิดขึ้น?

คยูฮยอน: ผมอยากจะบอกตัวเองในอดีตว่า "พยายามทำให้ดีที่สุดในทุกๆ ช่วงเวลา เพราะเมื่อมันผ่านไปแล้ว มันจะไม่มีวันหวนกลับมา!" ในอนาคตอันใกล้นี้ ผมอยากจะเดินทางรอบโลกและร้องเพลง

ชินดง: ถ้าผมต้องแบ่งปันคำแนะนำกับตัวเองในอดีต ผมอยากบอกว่ามันจะได้ผลและรู้สึกสบายใจมากกว่าถ้าโอบกอดตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก แทนที่จะไปโอบกอดคนอื่น พูดอีกอย่างก็คือ ผมอยากเน้นย้ำว่าความรักที่มีให้ตัวเองเป็นความรักที่สำคัญและดีที่สุด เป็นเคล็ดลับที่จะได้รับความสุขเข้ามา เพราะการรักตัวเองสามารถเอาชนะได้ทุกอย่าง และความปรารถนาเดียวของผมก็คือการเอาชนะความยากลำบากที่จะเข้ามา!

มันอาจจะยาก แต่ถ้าให้นึกถึงเหตุการณ์สำคัญของการทำอาชีพนี้ ช่วงเวลาไหนที่ผุดขึ้นมาในหัวของคุณ?

ฮีชอล: ช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดในอาชีพของเรา ก็คือตอนที่เรากำลังรออยู่หลังเวทีระหว่างคอนเสิร์ตครั้งแรกในปี 2008 ผมยังจำได้เลยว่าตอนนั้นผมประหม่าแค่ไหน และจะไม่มีวันลืมเสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มมาจากแฟนๆ ตอนที่เริ่มคอนเสิร์ต ตอนนั้นเรายังเด็กกันจริงๆ...

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

การสัมภาษณ์ครั้งนี้เป็นหนึ่งในสิ่งที่อยากทำ (Bucket List) ของฉัน คุณมีสิ่งที่อยากทำที่คุณยังไม่บรรลุในฐานะ SUPER JUNIOR หรือไม่?

อึนฮยอก: หนึ่งในสิ่งที่อยากทำของผมก็คือไปทริป(พักผ่อน)​ต่างประเทศกับพวกสมาชิกอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ ผมอยากไปสนุกกับพวกเขา!

ทงเฮ: เราประสบความสำเร็จมากมายในฐานะ SUPER JUNIOR จนถึงตอนนี้ และทุกครั้งก็มีเอลฟ์ของเราคอยอยู่เคียงข้าง และผมรู้สึกขอบคุณแฟนๆ ที่ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ มีอีกหลายประเทศและภูมิภาคที่เรายังไม่เคยไป มีเอลฟ์มากมายคอยส่งความรักและรอเรามาตลอด ถ้าหากเรามีโอกาสได้พบกับพวกเขาทั้งหมด นั่นจะเป็นช่วงเวลาที่ผมบรรลุสิ่งที่อยากทำในฐานะสมาชิกของ SUPER JUNIOR
 
หากคุณต้องอธิบายวงของคุณให้กับคนที่อาจจะไม่เคยได้ยินชื่อของคุณ สามคำที่คุณจะใช้ในการแนะนำตัวเองทั้งแบบรายคนและวง?

อีทึก: ผมจะอธิบายว่า SUPER JUNIOR เป็น 'Super Special One' เพราะเราเป็นวงที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน

รยออุค: คำที่ผมจะใช้ก็คือ 'วงที่แอคทีฟยาวนาน' 'มีความสามารถหลายด้าน' และ 'เจ้าชายน้อย' ซึ่งเป็นชื่อเล่นที่แฟนๆ เรียกผม

Source



► SUPER JUNIOR Official
http://www.youtube.com/SUPERJUNIOR
https://www.facebook.com/superjunior
https://www.instagram.com/superjunior
https://www.twitter.com/sjofficial
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่