จากหัวข้อข้างต้นอาจจะดูเหมือนคำกล่าวเกินจริง เหมือนโฆษณา
ที่โอ้อวดสรรพคุณ ประหนึ่งว่าเป็นของวิเศษ เเต่เดี๋ยวก่อน.....
มาฟังเรื่องราว ที่ผมต้องทรมาน กับ อาการจมูกตันเเบบ 100%
ชนิดที่ว่าหายใจไม่ออกจนสมองเบลอ (brain fog) จนส่งผลกระทบต่อ
ประสิทธิภาพการทำงาน การนอนหลับพักผ่อน ความฝัน เเละ ลามไปถึงสุขภาพจิตใจ
ผมสังเกตุอย่างหนึ่ง ว่าถ้าผมมีอาการจมูกตันเมื่อไหร่
ผมมักจะฝันว่าตัวเองกำลังจมน้ำ หรือ ว่ายน้ำ ซึ่งนั่นเอง
ผมมองว่าส่งผลต่อสุขภาพจิต สำหรับผมมองว่า มันกระทบไปในหลายๆเรื่อง
ซึ่งคนที่เป็นไซนัส จะเข้าใจสิ่งที่ผมพยายามจะสื่อได้ดี
ผมพยายามค้นคว้า หลายๆวิธี ในการรักษา เเต่ผมจะโฟกัส
ไปทางเเพทย์ทางเลือก โดย เฉพาะการรักษาตนเอง
ผมได้อ่าน โพสต์ ในเว็บบอร์ดของต่างประเทศ (reddit)
เเม้ผู้ที่ได้รับการผ่าตัด ทำบอลลูน หรือ อะไรก็เเล้วเเต่
ก็ไม่ได้ยืนยันว่าจะรักษาได้ 100% เเถมยังมีผลข้างเคียงที่ฟังดูน่ากลัว
ผมไม่ได้ anti การผ่าตัดนะครับ เพราะหลายๆ คน ก็หายด้วยการผ่าตัด
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก
ในช่วงเเรกผมพยายาม ที่จะหาวิธีรักษา มีคนเเนะนำยาพ่น
พอเริ่มพ่นรู้สึกฟินมาก เพราะฉีดปุ๊ป เพียงไม่กี่นาที ก็หายใจโล่งเลย
รู้สึกเสพติดมันมาก เเต่มีวันหนึ่งได้ไปพักนอกบ้าน ดันลืมพกยาพ่นไปด้วย
คืนนั้น จมูกตันเเบบ 100% รู้สึกทรมานมาก เลยคิดว่าไม่ใช่เลย
เลยพยายามเลิก ช่วงเเรกของการเลิกยาพ่น มันเป็นอะไรที่ทรมาน
พอสมควร เพราะจมูกเเทบจะตันเเบบ 100% เป็นอาการ ( rebound congestion)
เเต่โชคดี ที่มันยังตันเเค่ข้างเดียว
หลังจากนั้นมาพยายาม หาข้อมูลสมุนไพรไทยดู
ทั้งเอาเปลือกกระเทียมมาสูบเข้าจมูก สูบก้านบัวหลวง
ทำไปทำมา มันไม่เวิร์คเลย ไม่หายเเถมมีกลิ่นควัน
ในปากในจมูก เลยคิดว่ามันไม่ใช่ทางเเละ
ส่วนการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ มันก็เเค่บรรเทา เเถมถ้าเป็นหนักนี่ไม่ได้ทำให้ดีขึ้นได้เลย
.
.
.
.
ระหว่างนั้นผมนอนหมดหวัง ในการหาหนทางรักษา เเละคิดไปว่า เราอาจจะต้องทนทุกข์ทรมาน
เเบบนี้ไปทั้งชีวิต พลางนึกภาพปู่ผมที่เวลานอน ปู่ผมต้องเสียบ
หลอดออกซิเจนเข้าจมูก... หลายๆ โพส หลายๆ คอมเมนต์ ใน reddit ผุดขึ้นมา
หลายๆ คนต้อง suffer กับโรคนี้ กระทบอะไรหลายๆ อย่างในชีวิต
เเต่มันมีความคิดหนึ่ง ที่ผุดขึ้นมา เเละผมคิดว่านี่อาจจะเป็นทางออกสุดท้าย
ย้อนไปเมื่อหลายปี ที่เเล้ว ผมสนใจ เรื่อง สมุนไพร โยคะ การทำสมาธิ
ได้ศึกษา โยคะ ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า " การกักลมอัสมิตา "
ในช่วงเวลานั้นผมมีอาการไอไม่หยุด 3 วัน 3 คืน จนนอน ไม่ได้
วันที่ 3 ผมตัดสินใจที่จะไปหาหมอ เเต่ก็นึกถึงอาจารย์ที่ท่าน เป็นคนเผยเเพร่
สูตรการ กักลมอัสมิตา พร้อมกับอธิบายอาการที่ผมเป็น
ตอนตี 4 เเชท อาจารย์ท่านตอบกับมาว่า
" ถ้าเราเลือกที่จะพึ่งยา หาหมอ เราก็ต้องเข้าออกโรงพยาบาล
ต้องอาศัยยาในการรักษาทั้งชีวิต "
ผมเลยเกิด motivation ตั้งใจทำการ "กักลมอัสมิตา "
กักเสร็จผมล้มตัวลงนอนบนโซฟา อาการไอยังคงมีอยู่ เเต่มันทุเลาลง
พอรู้ตัวอีกทีผมหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ เเละพอตื่นขึ้นมาพบว่าผมหายจากอาการไอไปเสียเเล้ว
พอนึกย้อนถึงเรื่องในอดีต ผมเลยตัดสินใจลุกขึ้น
กระโดด กักลมอัสมิตา 50/50 ระหว่าง กัก-กลั้น-อัด-เกร็ง
ตามสูตรของ อจ. พร้อมทั้งกักฟัน ขบกรามให้เเน่น
ในระหว่างกระโดดรู้สึกถึงลม ที่ถูกอัดดันขึ้นไปยังส่วนบนของใบหน้า
ลามไปยังโพรงจมูก
เมื่อกระโดดเสร็จ ผมพบว่ามีกลิ้นคาวเลือดในโพรงจมูก
พร้อมกับการคลาย หดตัวของบางสิ่งในโพรงจมูก
ผมกลับมาหายใจได้ปกติ อาการ rebound congestion
ได้หายไปในทันที คืนนั้นผมนอนหลับ ลงไปได้อย่างมีความสุข ตื่นมาก็สบาย
จากที่ว่า เวลาอยู่ในที่ ที่อากาศร้อนอบอาว หรือ อยู่ในห้องที่มีผุ่น
หรือเเม้เเต่กรดไหลย้อนขึ้นโพรงจมูก จะทำให้จมูกผมตัน เป็น ไซนัสกำเริบ
เเต่ ณ ปัจจุบัน อาการเหล่านี้ไม่มีเลย ถ้าผม " กักลมอัสมิตา " เป็นประจำ
ผมพบว่าอาจจะไม่ต้อง กัก ทุกวัน การกักอย่างมีประสิทธิภาพครั้งเดียว
สามารถคุมอาการได้ถึง 3-7 วัน เเต่เราควร ปฏิบัติในทุกๆวัน เพื่อสร้างความเคยชิน
เเละเพิ่มระยะเวลา กัก-กลั้น-อัด-เกร็ง ได้นานขึ้น
ระยะเวลา ที่ อจ. ท่านนี้เเนะนำคือ 80/80
เเหล่งข้อมูลสำหรับ การศึกษา " การกักลมอัสมิตา "
ทบทวนเท็คนิค 'กักลมอัสมิตา' สำหรับผู้เริ้มตน
ทักษะกระโดดกักลมอัสมิตา
คัมภีร์กักลมอัสมิตา
กระโดดกักลมอัสมิตาท่ามือเปล่า(1)
กระโดดกักลมอัสมิตาท่ามือเปล่า( 2 )
ทำไม ต้อง กักลม ?

เครดิตรูปภาพ :
โยคีขยะ - ฤษีป่าคอนกรีต
ทั้งนี้ขอขอบคุณ อจ. ท่านนี้ เป็นอย่างมาก ที่เเบ่งปัน ความรู้ในการรักษาตนเอง รวมถึงคำเเนะนำ
ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อหลายๆ ท่านที่ประสบทุกข์จากโรคภัยไข้เจ็บ
ผมเองขอเป็น ฟันเฟื่อง เล็กๆ ที่อาจจะช่วยบางท่าน บางคน ให้พ้นจากความทุกข์
จากโรคที่ท่านเป็นอยู่
เรื่องทั้งหมดเป็นประสบการณ์ที่ผมประสบ เเละ ได้ลองทำมากับตนเอง
โดยมีเจตนาบอกเล่า บอกกล่าว เพื่อหวังประโยชน์ ให้เกิดกับหลายๆท่าน
ที่กำลังเเสวงหา วิธีรักษา เเก้ไข โรคภัยที่ทำให้เกิด ทุกข์ทางกาย ทางใจ
เเชร์วิธีรักษา ไซนัส จมูกตัน หายใจไม่ออก กลับมาหายใจปกติได้ ภายใน 5 นาที โดยที่ไม่ต้องใช้ยาพ่น หรือผ่าตัด
ที่โอ้อวดสรรพคุณ ประหนึ่งว่าเป็นของวิเศษ เเต่เดี๋ยวก่อน.....
มาฟังเรื่องราว ที่ผมต้องทรมาน กับ อาการจมูกตันเเบบ 100%
ชนิดที่ว่าหายใจไม่ออกจนสมองเบลอ (brain fog) จนส่งผลกระทบต่อ
ประสิทธิภาพการทำงาน การนอนหลับพักผ่อน ความฝัน เเละ ลามไปถึงสุขภาพจิตใจ
ผมสังเกตุอย่างหนึ่ง ว่าถ้าผมมีอาการจมูกตันเมื่อไหร่
ผมมักจะฝันว่าตัวเองกำลังจมน้ำ หรือ ว่ายน้ำ ซึ่งนั่นเอง
ผมมองว่าส่งผลต่อสุขภาพจิต สำหรับผมมองว่า มันกระทบไปในหลายๆเรื่อง
ซึ่งคนที่เป็นไซนัส จะเข้าใจสิ่งที่ผมพยายามจะสื่อได้ดี
ผมพยายามค้นคว้า หลายๆวิธี ในการรักษา เเต่ผมจะโฟกัส
ไปทางเเพทย์ทางเลือก โดย เฉพาะการรักษาตนเอง
ผมได้อ่าน โพสต์ ในเว็บบอร์ดของต่างประเทศ (reddit)
เเม้ผู้ที่ได้รับการผ่าตัด ทำบอลลูน หรือ อะไรก็เเล้วเเต่
ก็ไม่ได้ยืนยันว่าจะรักษาได้ 100% เเถมยังมีผลข้างเคียงที่ฟังดูน่ากลัว
ผมไม่ได้ anti การผ่าตัดนะครับ เพราะหลายๆ คน ก็หายด้วยการผ่าตัด
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก
ในช่วงเเรกผมพยายาม ที่จะหาวิธีรักษา มีคนเเนะนำยาพ่น
พอเริ่มพ่นรู้สึกฟินมาก เพราะฉีดปุ๊ป เพียงไม่กี่นาที ก็หายใจโล่งเลย
รู้สึกเสพติดมันมาก เเต่มีวันหนึ่งได้ไปพักนอกบ้าน ดันลืมพกยาพ่นไปด้วย
คืนนั้น จมูกตันเเบบ 100% รู้สึกทรมานมาก เลยคิดว่าไม่ใช่เลย
เลยพยายามเลิก ช่วงเเรกของการเลิกยาพ่น มันเป็นอะไรที่ทรมาน
พอสมควร เพราะจมูกเเทบจะตันเเบบ 100% เป็นอาการ ( rebound congestion)
เเต่โชคดี ที่มันยังตันเเค่ข้างเดียว
หลังจากนั้นมาพยายาม หาข้อมูลสมุนไพรไทยดู
ทั้งเอาเปลือกกระเทียมมาสูบเข้าจมูก สูบก้านบัวหลวง
ทำไปทำมา มันไม่เวิร์คเลย ไม่หายเเถมมีกลิ่นควัน
ในปากในจมูก เลยคิดว่ามันไม่ใช่ทางเเละ
ส่วนการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ มันก็เเค่บรรเทา เเถมถ้าเป็นหนักนี่ไม่ได้ทำให้ดีขึ้นได้เลย
.
.
.
.
ระหว่างนั้นผมนอนหมดหวัง ในการหาหนทางรักษา เเละคิดไปว่า เราอาจจะต้องทนทุกข์ทรมาน
เเบบนี้ไปทั้งชีวิต พลางนึกภาพปู่ผมที่เวลานอน ปู่ผมต้องเสียบ
หลอดออกซิเจนเข้าจมูก... หลายๆ โพส หลายๆ คอมเมนต์ ใน reddit ผุดขึ้นมา
หลายๆ คนต้อง suffer กับโรคนี้ กระทบอะไรหลายๆ อย่างในชีวิต
เเต่มันมีความคิดหนึ่ง ที่ผุดขึ้นมา เเละผมคิดว่านี่อาจจะเป็นทางออกสุดท้าย
ย้อนไปเมื่อหลายปี ที่เเล้ว ผมสนใจ เรื่อง สมุนไพร โยคะ การทำสมาธิ
ได้ศึกษา โยคะ ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า " การกักลมอัสมิตา "
ในช่วงเวลานั้นผมมีอาการไอไม่หยุด 3 วัน 3 คืน จนนอน ไม่ได้
วันที่ 3 ผมตัดสินใจที่จะไปหาหมอ เเต่ก็นึกถึงอาจารย์ที่ท่าน เป็นคนเผยเเพร่
สูตรการ กักลมอัสมิตา พร้อมกับอธิบายอาการที่ผมเป็น
ตอนตี 4 เเชท อาจารย์ท่านตอบกับมาว่า
" ถ้าเราเลือกที่จะพึ่งยา หาหมอ เราก็ต้องเข้าออกโรงพยาบาล
ต้องอาศัยยาในการรักษาทั้งชีวิต "
ผมเลยเกิด motivation ตั้งใจทำการ "กักลมอัสมิตา "
กักเสร็จผมล้มตัวลงนอนบนโซฟา อาการไอยังคงมีอยู่ เเต่มันทุเลาลง
พอรู้ตัวอีกทีผมหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ เเละพอตื่นขึ้นมาพบว่าผมหายจากอาการไอไปเสียเเล้ว
พอนึกย้อนถึงเรื่องในอดีต ผมเลยตัดสินใจลุกขึ้น
กระโดด กักลมอัสมิตา 50/50 ระหว่าง กัก-กลั้น-อัด-เกร็ง
ตามสูตรของ อจ. พร้อมทั้งกักฟัน ขบกรามให้เเน่น
ในระหว่างกระโดดรู้สึกถึงลม ที่ถูกอัดดันขึ้นไปยังส่วนบนของใบหน้า
ลามไปยังโพรงจมูก
เมื่อกระโดดเสร็จ ผมพบว่ามีกลิ้นคาวเลือดในโพรงจมูก
พร้อมกับการคลาย หดตัวของบางสิ่งในโพรงจมูก
ผมกลับมาหายใจได้ปกติ อาการ rebound congestion
ได้หายไปในทันที คืนนั้นผมนอนหลับ ลงไปได้อย่างมีความสุข ตื่นมาก็สบาย
จากที่ว่า เวลาอยู่ในที่ ที่อากาศร้อนอบอาว หรือ อยู่ในห้องที่มีผุ่น
หรือเเม้เเต่กรดไหลย้อนขึ้นโพรงจมูก จะทำให้จมูกผมตัน เป็น ไซนัสกำเริบ
เเต่ ณ ปัจจุบัน อาการเหล่านี้ไม่มีเลย ถ้าผม " กักลมอัสมิตา " เป็นประจำ
ผมพบว่าอาจจะไม่ต้อง กัก ทุกวัน การกักอย่างมีประสิทธิภาพครั้งเดียว
สามารถคุมอาการได้ถึง 3-7 วัน เเต่เราควร ปฏิบัติในทุกๆวัน เพื่อสร้างความเคยชิน
เเละเพิ่มระยะเวลา กัก-กลั้น-อัด-เกร็ง ได้นานขึ้น
ระยะเวลา ที่ อจ. ท่านนี้เเนะนำคือ 80/80
เเหล่งข้อมูลสำหรับ การศึกษา " การกักลมอัสมิตา "
ทบทวนเท็คนิค 'กักลมอัสมิตา' สำหรับผู้เริ้มตน
ทักษะกระโดดกักลมอัสมิตา
คัมภีร์กักลมอัสมิตา
กระโดดกักลมอัสมิตาท่ามือเปล่า(1)
กระโดดกักลมอัสมิตาท่ามือเปล่า( 2 )
ทำไม ต้อง กักลม ?
เครดิตรูปภาพ : โยคีขยะ - ฤษีป่าคอนกรีต
ทั้งนี้ขอขอบคุณ อจ. ท่านนี้ เป็นอย่างมาก ที่เเบ่งปัน ความรู้ในการรักษาตนเอง รวมถึงคำเเนะนำ
ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อหลายๆ ท่านที่ประสบทุกข์จากโรคภัยไข้เจ็บ
ผมเองขอเป็น ฟันเฟื่อง เล็กๆ ที่อาจจะช่วยบางท่าน บางคน ให้พ้นจากความทุกข์
จากโรคที่ท่านเป็นอยู่
เรื่องทั้งหมดเป็นประสบการณ์ที่ผมประสบ เเละ ได้ลองทำมากับตนเอง
โดยมีเจตนาบอกเล่า บอกกล่าว เพื่อหวังประโยชน์ ให้เกิดกับหลายๆท่าน
ที่กำลังเเสวงหา วิธีรักษา เเก้ไข โรคภัยที่ทำให้เกิด ทุกข์ทางกาย ทางใจ