สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 18
คนเป็นพ่อแม่ห่วงลูกมากเกินไปทุกข์ใจไปเปล่าๆ เขาโตจนทำมาหากินได้เองแล้วก็ยังจะห่วง แก่แล้วหัดปลงหัดปล่อยวางไว้บ้างก็ดี ไม่ว่าใครก็ไม่มีทางอยู่ด้วยกันไปตลอดได้หรอก มองโลกให้เห็นความเป็นจริงเข้าไว้ อย่าอยู่แต่ในโลกอุดมคติครบครัวสุขสันต์ ชีวิตจริงไม่ใช่เล่นขายของ คนเรายิ่งแก่ยิ่งคิดไม่ได้ก็เยอะ
ส่วนคุณเองก็โตแล้ว อย่าห่วงพ่อแม่ให้มาก สปอยล์พ่อแม่เยอะเกินไป ให้เขาหัดเจอความผิดหวังจากลูกบ้าง ถ้าอยู่ในกรอบก็ไปได้เลย แค่บอกไว้ก็พอว่าไปไหนไม่ต้องมาขออนุญาตให้เป็นเรื่องเป็นราว บอกไว้แล้วก็ไปเลย บอกว่าจะกลับกี่โมงก็กลับตามนั้น อย่าโทรมาถ้าไม่มีเรื่องสำคัญ คุณทำมาขนาดนี่ถือว่าเป็นลูกที่ดีแล้ว เรียนจบมีการมีงานทำหาเงินใช้ได้เอง ถือว่าดีที่สุดเท่าที่คนเป็นลูกคนหนึ่งจะทำได้แล้ว
ถ้าคุณมั่นใจว่าไม่ได้ทำให้พ่อแม่เดือดร้อนเสื่อมเสีย ก็ทำไปเลยชีวิตของคุณความสุขของคุณ บางเรื่องอาจจะไม่ถูกใจเขา บางเรื่องอาจจะทำให้เขาเสียใจร้องให้บ้าง ก็ช่างเขาบ้าง จะสอนพ่อแม่ให้เข้าใจในสัจธรรมชีวิตมันไม่บาปหรอก ถ้าเป็นผมนะ ผมจะแกล้งให้อดนอนทุกวันเลย บ่อยๆเข้าทนไม่ไหวก็ไปนอนเองแหละ เป็นลูกต้องหัดสอนพ่อแม่ให้ได้ในบางเรื่องครับ ไม่ใช่สปอยล์ตามใจพ่อแม่ไปซะทุกอย่าง
ลูกบางคนฉลาดกว่าพ่อแม่ก็มี เขาสอนพ่อแม่ให้คิดเป็นด้วย ลูกไม่ฉลาดทำตามพ่อแม่บอกทุกอย่างไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง พ่อแม่ก็จะห่วงอยู่แบบนั้นแหละ ห่วงกันไปห่วงกันมามีแต่ความทุกข์ใจ
คนพูดกันเยอะสปอยล์เด็กทำให้เสียคน แต่สปอยล์ผู้ใหญ่นี่แหละยิ่งแก่ยิ่งเสียคน แก่แล้วไม่รู้จักคิดให้เป็น จะคิดยิงไงให้ชีวิตมีความสุขในบั้นปลายก็ยังไม่รู้จัก ตายแบบยึดติดกับตายแบบปล่อยวางอันไหนจะดีกว่ากันก็ยังไม่รู้
ปีที่แล้วผมไปคุยกับคุณตาที่รู้จักกันแกอายุ89 รู้จักกันมาเกือบ30ปี สนิทคุ้นเคยกัน เขาทุกข์ใจเป็นห่วงลูกหลาน กินไม่ได้นอนไม่หลับ ผมพูดอยู่ชั่วโมงนึงเขาคลายใจหายห่วง ผมสอนให้เขาคิดเป็น หัดปล่อยหัดวางให้เป็น พอเขาคิดได้ปล่อยวางเป็น หมดห่วงลูกหลาน เขามาขอบคุณผมขอบคุณแล้วขอบคุณอีก ปีนี้เขาก็เสียไปแล้ว ผมดีใจที่เขารู้จักปล่อยวางก่อนตาย จากไปแบบไร้ห่วง คนเราห่วงกันมากไม่ดีหรอก
ความดีที่ลูกควรมีให้พ่อแม่มันไม่ใช่แค่ทำตามที่เขาบอกทุกอย่างครับ บางอย่างอาจจะไม่ถูกใจเขาแต่ก็ต้องทำเพื่อเขาจะได้เข้าใจปรับทัศนะคติได้ใหม่ เหมือนพ่อแม่พาลูกไปฉีดยา แม้ลูกจะไม่ถูกใจร้องให้บ้างพ่อแม่ก็ต้องทำ กรณีนี้ก็เช่นกัน อยากให้หมดห่วงก็ต้องฉีดยากันบ้าง แม้จะเสียใจร้องให้ก็ต้องทำครับ ไม่งั้นพ่อแม่จะคิดเองไม่ได้
ขออภัยถ้ายาแรงไป ยานี่ไม่ใช่ขนม - -
ส่วนคุณเองก็โตแล้ว อย่าห่วงพ่อแม่ให้มาก สปอยล์พ่อแม่เยอะเกินไป ให้เขาหัดเจอความผิดหวังจากลูกบ้าง ถ้าอยู่ในกรอบก็ไปได้เลย แค่บอกไว้ก็พอว่าไปไหนไม่ต้องมาขออนุญาตให้เป็นเรื่องเป็นราว บอกไว้แล้วก็ไปเลย บอกว่าจะกลับกี่โมงก็กลับตามนั้น อย่าโทรมาถ้าไม่มีเรื่องสำคัญ คุณทำมาขนาดนี่ถือว่าเป็นลูกที่ดีแล้ว เรียนจบมีการมีงานทำหาเงินใช้ได้เอง ถือว่าดีที่สุดเท่าที่คนเป็นลูกคนหนึ่งจะทำได้แล้ว
ถ้าคุณมั่นใจว่าไม่ได้ทำให้พ่อแม่เดือดร้อนเสื่อมเสีย ก็ทำไปเลยชีวิตของคุณความสุขของคุณ บางเรื่องอาจจะไม่ถูกใจเขา บางเรื่องอาจจะทำให้เขาเสียใจร้องให้บ้าง ก็ช่างเขาบ้าง จะสอนพ่อแม่ให้เข้าใจในสัจธรรมชีวิตมันไม่บาปหรอก ถ้าเป็นผมนะ ผมจะแกล้งให้อดนอนทุกวันเลย บ่อยๆเข้าทนไม่ไหวก็ไปนอนเองแหละ เป็นลูกต้องหัดสอนพ่อแม่ให้ได้ในบางเรื่องครับ ไม่ใช่สปอยล์ตามใจพ่อแม่ไปซะทุกอย่าง
ลูกบางคนฉลาดกว่าพ่อแม่ก็มี เขาสอนพ่อแม่ให้คิดเป็นด้วย ลูกไม่ฉลาดทำตามพ่อแม่บอกทุกอย่างไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง พ่อแม่ก็จะห่วงอยู่แบบนั้นแหละ ห่วงกันไปห่วงกันมามีแต่ความทุกข์ใจ
คนพูดกันเยอะสปอยล์เด็กทำให้เสียคน แต่สปอยล์ผู้ใหญ่นี่แหละยิ่งแก่ยิ่งเสียคน แก่แล้วไม่รู้จักคิดให้เป็น จะคิดยิงไงให้ชีวิตมีความสุขในบั้นปลายก็ยังไม่รู้จัก ตายแบบยึดติดกับตายแบบปล่อยวางอันไหนจะดีกว่ากันก็ยังไม่รู้
ปีที่แล้วผมไปคุยกับคุณตาที่รู้จักกันแกอายุ89 รู้จักกันมาเกือบ30ปี สนิทคุ้นเคยกัน เขาทุกข์ใจเป็นห่วงลูกหลาน กินไม่ได้นอนไม่หลับ ผมพูดอยู่ชั่วโมงนึงเขาคลายใจหายห่วง ผมสอนให้เขาคิดเป็น หัดปล่อยหัดวางให้เป็น พอเขาคิดได้ปล่อยวางเป็น หมดห่วงลูกหลาน เขามาขอบคุณผมขอบคุณแล้วขอบคุณอีก ปีนี้เขาก็เสียไปแล้ว ผมดีใจที่เขารู้จักปล่อยวางก่อนตาย จากไปแบบไร้ห่วง คนเราห่วงกันมากไม่ดีหรอก
ความดีที่ลูกควรมีให้พ่อแม่มันไม่ใช่แค่ทำตามที่เขาบอกทุกอย่างครับ บางอย่างอาจจะไม่ถูกใจเขาแต่ก็ต้องทำเพื่อเขาจะได้เข้าใจปรับทัศนะคติได้ใหม่ เหมือนพ่อแม่พาลูกไปฉีดยา แม้ลูกจะไม่ถูกใจร้องให้บ้างพ่อแม่ก็ต้องทำ กรณีนี้ก็เช่นกัน อยากให้หมดห่วงก็ต้องฉีดยากันบ้าง แม้จะเสียใจร้องให้ก็ต้องทำครับ ไม่งั้นพ่อแม่จะคิดเองไม่ได้
ขออภัยถ้ายาแรงไป ยานี่ไม่ใช่ขนม - -
แสดงความคิดเห็น
อายุจะ 27 แล้ว แต่เวลาจะทำอะไร ต้องขออนุญาตหรือรายงานครอบครัวอยู่เรื่อยๆ รู้สึกอึดอัด อยากใช้ชีวิตบ้าง
เราเพิ่งจบมหาลัยและกลับมาอยู่บ้านได้ปีกว่าๆ เกือบ 2 ปีแล้วค่ะ
กระทู้ยาวนิดนึงนะคะ อยากได้ความเห็นพร้อมกับระบายไปในตัวค่ะ
เข้าเรื่องเลยแล้วกันค่ะ
ตั้งแต่เกิดมา เราก็อยู่กับพ่อแม่มาโดยตลอด ยกเว้นตอนเข้ามหาลัยค่ะ (5-6 ปีที่อยู่หอ)
พ่อกับแม่ดูแลเราดีมาก เวลาทำอะไรไปไหน เราก็คอยรายงาน หรือขออนุญาตพ่อแม่ตลอด
จนเข้ามหาลัย ได้ใช้ชีวิตที่หอ มีเพื่อน อยากทำอะไรก็ได้ทำ ไปไหนก็ไป แต่ดูแลตัวเองดีตลอด
รู้สึกว่าชีวิตสนุกมีสีสัน แต่ไม่ใช่ลืมที่บ้านนะคะ ติดต่อหากัน ระบายทุกข์สุขให้พ่อแม่ฟังเสมอ
เรารู้สึกว่า พอเข้ามหาลัยแล้วได้ใช้ชีวิตของตัวเองก็สนุกดี (เงินกินเที่ยวหาเพิ่มเอง จากการสอนพิเศษ)
ทีนี้ หลังจากเรียนจบ เรากลับมาทำงานใกล้บ้าน และได้กลับมาอยู่กับพ่อแม่
เรามีความสุขมากนะคะ แต่ก็มีบ้างครั้ง ที่เราอยากไปไหนมาไหนบ้าง แต่ก็อึดอัดเวลาจะขอพ่อแม่
คือไม่กล้าขอค่ะ ไม่รู้จะเอาเหตุผลจากไหนมาขอ เพราะพ่อแม่จะเป็นห่วงมาก
ยกตัวอย่างเช่น เพื่อนที่ทำงานชวนแฮงค์เอ้าท์ ดื่ม สังสรร เราก็มีกลับดึกบ้าง เช่น 4-5 ทุ่ม
แต่ครอบครัวก็โทรตามตั้งแต่ทุ่มสองทุ่ม และโทรจิก 2-3 รอบอยากให้กลับ
ทั้งๆที่ที่เราสังสรร อยู่ห่างจากบ้านไม่ถึง 2 กิโลเมตร
มันทำให้เราอึดอัดและไม่กล้าไปไหนมาไหนกับใครเลย จนคนอื่นมองเราว่าเป็นลูกแหง่ ต้องขออนุญาตพ่อแม่เสมอ
บางทีอยากไปเที่ยวต่างจังหวัด อยากไปค้างคืน พ่อแม่ก็จะถามตลอด ไปกับใคร ไปที่ไหน ไปยังไง
พอเราบอกไป ท่านก็จะบอกว่าไม่ต้องไปหรอก จะไปทำไม โควิดก็เยอะ
ซึ่งการที่เราไปเที่ยวนี่ คือไม่บ่อยเลยนะคะ 4-5 เดือนครั้ง ไปสังสรรค์กับเพื่อนเหมือนกัน นานๆที หลายเดือนครั้ง
เพราะเราไม่กล้าไป กลัวพ่อแม่กังวล
เราเข้าใจว่าเราเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่ห่วงมาก แต่เราก็อยากแสดงให้ท่านเห็น ว่าเราดูแลตัวเองได้
เราใช้ชีวิตได้ เราอยากไปเที่ยว หรือไปไหนมาไหนได้อย่างสบายใจ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าพ่อแม่จะเครียด
มีวันหนึ่งที่เราไปต่างจังหวัดกับครอบครัว แล้วนัดทานข้าวกับเพื่อน เพราะไม่ได้เจอกันนาน
เราขอออกไปทานกับเพื่อนได้ไหม พ่อแม่เราห้ามแล้วห้ามอีก จะไปทำไม อยากให้เราอยู่แต่ที่พัก
แต่สุดท้ายก็ยอมให้เราไป เราบอกท่านว่า นอนก่อนเลย ไม่ต้องรอ เพราะจะกลับดึกนิดหน่อย ไม่ได้เจอเพื่อนนาน
พอกลับมาถึงพบว่า ท่านไม่ยอมนอนเลยค่ะ นั่งรอเราจนดึก ตอนนั้นเรารู้สึกผิดมาก แค่ไปทานข้าวกับเพื่อน
ทำไมถึงทำให้พ่อแม่เครียดขนาดนี้ เรารู้สึกผิดมากเลยค่ะ
เพื่อนๆ ว่าเราจะทำยังไงดีคะ ให้ท่านเห็นว่าเราดูแลตัวเองได้
เราไม่ใช่คนติดเที่ยวค่ะ นานทีๆ ออกจะเป็น introvert ด้วยซ้ำ แต่มีบางครั้งอยากออกไปสังสรรบ้างค่ะ
แต่ติดที่จะทำยังไงถึงจะกล้าขอพ่อแม่ เข้าใจว่าท่านห่วงเรามาก แต่มีวิธีไหนที่ทำให้ท่านห่วงลดลงไหม
จนทุกวันนี้เราแทบไม่กล้าออกไปไหนนอกจากไปทำงานและกลับบ้าน (ก่อน 5 โมงเย็น)
จนบางทีเราคิดว่า อีกไม่นานเราก็คงแก่ตัวลง แต่เรายังไม่ได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นเต็มที่เลย
ตอนที่มีงาน มีเงิน มีแรง กลับไม่ได้ไปไหนเลย เราแอบเครียดค่ะ อยู่แต่บ้าน เพราะติดปัญหาเดียว กลัวพ่อแม่เครียด
ล่าสุดเราจัดทริปไปทะเลกับเพื่อนค่ะ ใกล้จะได้ไปแล้ว แต่ยังไม่กล้าบอกที่บ้านเลยค่ะ
เรากลัวท่านเครียด แต่เราเชื่อว่าดูแลตัวเองได้ค่ะ มีใครมีปัญหาแบบนี้ไหมคะ