เกี่ยวกับคดีล่วงละเมิดทางเพศ แนะนำให้ไปดูซีรีส์ใน Netflix เรื่อง Jimmy Savile: A British Horror Story

จากข่าวการล่วงละเมิดทางเพศที่กำลังเป็นโด่งดังอยู่ในตอนนี้ เลยอยากเล่าเรื่องราวของเซอร์ Jimmy Savile ตำนานสุดยอดพิธีกรและนักระดมทุนเพื่อการกุศลชาวอังกฤษ (ใครอยากรู้เรื่องราวโดยละเอียด แนะนำให้ไปดูซีรีส์ใน Netflix เรื่อง Jimmy Savile: A British Horror Story)

จิมมีคือสุดยอดพิธีกรของช่อง BBC ในอังกฤษ รายการทีวีที่โด่งดังสุดๆที่เขาเป็นพิธีกรมีสองรายการคือ  Top of the Pops เป็นรายการบอกลำดับ chart เพลงรูปแบบคอนเสิร์ตที่เอาให้แต่ละวงมาแสดงสดไปด้วย อีกรายการหนึ่งก็คือ Jim'll Fix It คือรายการที่ให้เด็กๆส่งจดหมายมาบอกเล่าความฝัน แล้วจิมมีจะทำให้ความฝันเหล่านั้นเป็นจริงเอง ทั้งสองรายการฉายต่อเนื่องมาหลายสิบปี และได้รับความนิยมสุดๆในอังกฤษ มีคนดูแต่ละสัปดาห์หลายสิบล้านคน โดยเฉพาะรายการหลังที่มีจดหมายเข้ามาในรายการหลายหมื่นฉบับต่อสัปดาห์

ไม่ใช่แค่งานวงการบันเทิง แต่จิมมียังเป็นสุดยอดนักระดมทุนและอาสาสมัครเพื่อการกุศล จิมมีทำงานเป็นอาสาสมัครกับรถพยาบาล (แนวปอเต๊กตึ๊งบ้านเรา) อาสาสมัครในโรงพยาบาล ทำกิจกรรมการกุศลระดมทุนมากมาย เช่น วิ่งข้ามประเทศอังกฤษเพื่อระดมทุนให้โรงพยาบาล ทำแคมเปญระดมทุนสิบล้านปอนด์ให้โรงพยาบาลสำเร็จในสามปี เป็นต้น 

ภาพลักษณ์ของจิมมีนับตั้งแต่ปี 80 เป็นต้นมาคือสมบัติแห่งชาติของอังกฤษ ด้วยความสำเร็จในวงการบันเทิงและการทำงานการกุศลอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย บวกกับบุคลิกขี้เล่น ตลก มีไหวพริบ ทำให้เขาเป็นคนบันเทิงที่เป็นที่นิยมและเป็นที่รักของชาวอังกฤษมาอย่างยาวนาน (ให้เปรียบเทียบก็คงเหมือนจับเอาโน๊ส อุดม น้าเน็ก กับพี่ตูนมารวมอยู่ในคนเดียว) โดยจิมมีเป็นเพื่อนกับคนดังมากมาย ทั้งมากาเร็ธ แธชเชอร์ นายกรัฐมนตรีของอังกฤษในขณะนั้น เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และเจ้าหญิงได้อาน่า  โดยเฉพาะเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ที่ส่งจดหมายถึงจิมมีบ่อยครั้ง เพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับร่างสุนทรพจน์และกิจกรรมต่างๆของทางวัง 

ในปี 1990 จิมมีได้รับพระราชทานยศเซอร์จากราชินีอลิซาเบธที่ 2 ในบทบาทนักกิจกรรมการกุศล และได้รับพระราชทานยศอัศวินจากสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น พอลที่ 2 แห่งวาติกันในปีเดียวกัน 

จิมมีใช้ชีวิตบั้นปลายในฐานะบุคคลสำคัญของชาติ ยังคงปรากฏตัวในสื่อบันเทิงและช่วยงานการกุศลเป็นครั้งราว เขาเสียชีวิตอย่างสงบเมื่อเดือนตุลาคม 2011 สองวันก่อนวันเกิดอายุครบ 85 ปีที่ห้องพักในเมืองลีดส์ ร่างของจิมมีถูกนำไปตั้งไว้ที่โรงแรมกลางเมืองลีดส์เพื่อให้คนมาร่วมไว้อาลัย และได้รับการฝังอย่างสมเกียรติที่สุสาน Woodlands

แต่แล้วหลังการเสียชีวิตของจิมมี เรื่องราวอันน่าสยดสยองก็ทยอยปรากฏขึ้น 
- ช่วงที่เขาไปเป็นอาสาสมัครที่โรงพยาบาล เขาล่วงละเมิดทางเพศคนไข้มากมาย โดยเฉพาะคนไข้ที่ไม่รู้สึกตัวหรือเป็นอัมพาต
- ช่วงที่เขาไปเป็นอาสาสมัครที่โรงพยาบาลเด็ก เขามักพาเด็กๆขึ้นรถตู้ออกไปเที่ยวครั้งละสองสามคน แล้วก็ล่วงละเมิดทางเพศเด็กๆเหล่านั้นบนรถตู้
- ช่วงที่เขาไปเป็นพิธีกรที่  BBC เขาล่วงละเมิดทางเพศเด็กๆที่มาร่วมรายการนับไม่ถ้วน
- “ช่วง” ที่ว่ามากินระยะเวลาหลายสิบปี

จากการสืบสวนของตำรวจพบว่า จิมมีล่วงละเมิดทางเพศเหยื่อไปไม่น้อยกว่า 450 ราย อย่างน้อย 34 รายเป็นการข่มขืน โดยเหยื่อมีช่วงอายุระหว่าง 8 – 75 ปี และการล่วงละเมิดรายแรกสุดเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 1958 

เรื่องน่าเศร้าก็คือ มีการร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศของจิมมีหลายครั้ง แต่ทุกครั้งเรื่องราวก็ถูกเมินหรือถูกกลบฝังไป ด้วยความที่จิมมีเป็นบุคคลมีชื่อเสียงในด้านดีมากๆ และเป็นเพื่อนกับคนใหญ่คนโต ผู้เสียหาย นักข่าว คอลัมนิสต์คนใดโจมตีจิมมี ก็จะโดนแฟนๆรุมด่า หาว่ามาเกาะคนดังบ้าง หิวแสงบ้าง 

เหตุการณ์ที่ทำให้เรื่องราวเริ่มแดงขึ้นมาก็คือ หลังจิมมีเสียชีวิต มีการไว้อาลัยจิมมีในสื่อต่างๆและอินเตอร์เน็ตมากมาย แต่นักข่าว BBC คนหนึ่งไปพบเว็บบอร์ดที่มีกลุ่มคนไม่น้อยมาแฉพฤติกรรมอันน่าสยดสยองของจิมมีและสาปแช่งให้เขาให้ลงนรก นักข่าวคนนั้นก็เริ่มสืบสวนเรื่องราวด้านมืดเหล่านี้และพบว่ามันมีมูล เลยเตรียมทำสกู๊ปนำเสนอออกอากาศ แต่เมื่อข่าวไปถึงผู้บริหาร BBC ก็โดนสั่งเบรกทันที นักข่าวคนนั้นก็เลยเอาสคริปท์เรื่องราวส่งไปให้ ITV (สถานีคู่แข่งของ BBC) และเรื่องราวก็ถูกเปิดโปงออกมา นำมาซึ่งผู้เสียหายและพยานมากมายที่กล้าออกมาเปิดโปงจิมมีในที่สุด

เมื่อย้อนกลับไปทบทวนเหตุการณ์รอบๆตัวจิมมีตลอดหลายสิบปี ก็พบว่ากิจกรรมฉากหน้าทั้งหลายของเขาล้วนเป็นไปเพื่อความสะดวกในการก่ออาชญากรรมทางเพศของเขาทั้งนั้น 
- เป็นอาสาสมัคร และระดมทุนในโรงพยาบาลหลายแห่ง จนมีห้องพักของตัวเองในโรงพยาบาลเหล่านั้น เข้านอกออกในโรงพยาบาลและแผนกต่างๆได้ตามใจชอบ
- เป็นอาสาสมัครให้กับโรงพยาบาลเด็ก จนพาเด็กๆออกไปเที่ยวได้
- เป็นพิธีกรรายการทีวีชื่อดัง เลือกเด็กๆที่จะมาร่วมรายการได้ เลือกรูปแบบรายการการดำเนินรายการได้ (หลายครั้งคือพาเด็กๆออกไปถ่ายทำนอกสถานที่) 

แม้จะไม่สามารถตามไปเอาผิดกับจิมมีที่เสียชีวิตไปแล้วได้ก็จริง แต่ก็นำมาซึ่งการสอบสวนการการล่วงละเมิดทางเพศและการสอบสวนภายในขององค์กรต่างๆครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ  ไม่ว่าจะเป็นสถานี BBC สถานีตำรวจของเมืองต่างๆ และโรงพยาบาลต่างๆ ที่จิมมีเคยไปอยู่และเกี่ยวข้อง จากการสอบสวนพบผู้เสียหายเพิ่มเป็นจำนวนมาก พบการละเลยและคอรัปชันของเจ้าหน้าที่ในองค์กร ที่ส่งผลให้จิมมีทำความผิดมาได้ต่อเนื่องเป็นเวลานับครึ่งศตวรรษและเอาผิดอะไรเขาไม่ได้ในตอนที่เขามีชีวิตอยู่ 

ปัจจุบันชื่อของจิมมีถูกถอดออกจากสถานที่ทุกแห่งที่ตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่เขา ป้ายหลุมศพของเขาก็ถูกยกออกไป รายการของเขาใน BBC ก็จะไม่ถูกนำมาฉายซ้ำอีกต่อไป ยศอัศวินจากวาติกันก็ถูกถอด ส่วนยศเซอร์นั้นทางวังอังกฤษบอกว่าในทางนิตินัยนั้นสิ้นสุดไปตั้งแต่เซอร์จิมมีเสียชีวิตแล้ว ส่วนการถอดยศคนที่ตายไปแล้วนั้นไม่มีกฎระเบียบเรื่องนี้ 

ความเห็นส่งท้ายก็คือ คดีหรือเหตุการณ์ที่ถูกปกปิดไว้โดยการใช้อำนาจและความหวาดกลัว เมื่อถึงเวลาที่อำนาจนั้นเสื่อมไปหรือหมดลง ความหวาดกลัวก็จะหายไป และข้อเท็จจริงต่างๆก็จะค่อยๆปรากฏออกมาเอง แม้บางครั้งมันดูเหมือนจะสายเกินไปแล้วก็ตาม 

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่