JJNY : อ่วมอีก!6ผู้เสียหายแจ้งความเพิ่ม│หมอธีระชวนจับตาป่วยพุ่ง│ตายพุ่งโควิดไม่ล็อกดาวน์│รัสเซียหวนถล่มเคียฟ-เมืองอื่นๆ

อ่วมอีก! ทนายตั้ม นำ6ผู้เสียหาย แจ้งความเพิ่ม “อดีตรองหน.พรรค” สน.ลุมพินี พรุ่งนี้
https://www.matichon.co.th/politics/news_3293014
 
 
ทนายตั้ม เตรียมนำ6ผู้เสียหาย แจ้งความเพิ่ม “อดีตรองหน.พรรค” สน.ลุมพินี พรุ่งนี้
 
เมื่อวันที่ 17 เมษายน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (18 เมษายน) เวลาประมาณ 16.00 น. จะพาผู้เสียหายอีก 6 คน เข้าแจ้งความเพิ่มเติม ที่ สน.ลุมพินี โดยมีทั้งผู้เสียหายที่ถูกลวนลาม และถูกข่มขืน ซึ่งเหตุเกิดในพื้นที่  สน.ลุมพินีทั้งหมด
 
ขณะที่ เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สน.ลุมพินี พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผบช.น.ดูแลงานกฎหมายและคดี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทินกร สมวันดี รอง ผบก.น.5, พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี นำตัว นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ต้องหาคดีข่มขืนกระทำชำเรา 1 คดี และกระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล 2 คดี รวม 3 คดี ส่งฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ หลังทำการยื่นคำร้องผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
 
พล.ต.ต.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ได้ยื่นคำร้องขอฝากขัง และศาลได้พิจารณาแล้ว ทางพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ได้ยื่นคำร้องขอฝากขังโดยคัดค้านการประกันตัว แต่ผู้ต้องหาได้ยื่นขอการประกันตัว ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ต้องหาพักอาศัยอยู่เมืองนอกเป็นเวลานาน พนักงานสอบสวนจึงได้ร้องต่อศาล หากอนุญาตให้ประกันตัว ขอให้กำหนดเงื่อนไขห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ส่วนการให้ปากคำเพิ่มเติมของผู้ต้องหานั้น ผู้ต้องหามีความพร้อมต่อสู้คดีดังกล่าว โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
 
พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าตั้งแต่วันแรกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมารวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ กรณีผู้ต้องหาเข้าพบก่อนออกหมายจับ ก็ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่หนักใจ โดยเปิดโอกาสให้ผู้เสียหายและผู้ต้องหาดำเนินการตามสิทธิ์ที่พึงกระทำได้ ส่วนกรณีเหยื่อบางรายที่มาแจ้งความแล้วหรือไม่มาแจ้งแล้วจะไม่เอาเรื่องนั้น กรณีไม่มาแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการอะไรไม่ได้ ส่วนคนที่แจ้งความแล้วนั้นยังไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่กรณีที่ผู้เสียหายให้การไว้ ก็ได้สอบปากคำไว้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนพยานบุคคลและพยานวัตถุไว้แล้ว ส่วนกรณีคดีที่เกิดขึ้นหมดอายุความนั้น ต้องดูไปแต่ละคดี ซึ่งการมาแจ้งความที่สน.ลุมพินี นั้นยังไม่หมดอายุความ ทุกคดีมาแจ้งความไว้ตำรวจก็ดำเนินการตามพยานหลักฐาน โดยทำเต็มที่ทุกคดี ส่วนการชี้จุดเกิดเหตุนั้นอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอน



หมอธีระ ชวนจับตายอดป่วยโควิดพุ่ง 3 เท่า หลังสงกรานต์ ภาพซ้ำปี 64
https://www.prachachat.net/general/news-911027

หมอธีระ ชวนติดตามโควิดหลังสงกรานต์ ยอดติดเชื้อจะปะทุขึ้น 3 เท่าเหมือนปี 2564 หรือไม่ ห่วงเปิดเทอม เด็กที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ฉีดวัคซีน ย้ำเตือนผู้ปกครองดูลูก หากติดโอมิครอน เป็นเหตุป่วยหนัก เสียชีวิตได้มาก 
 
วันที่ 17 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า 

ไทยผ่านช่วงพีคมาตั้งแต่ 10 มีนาคม 2565 ขาลงใช้เวลาราว 1.5 เท่าของขาขึ้น ตามลักษณะที่เห็นจากธรรมชาติการระบาดของประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก จึงสังเกตได้จากภาพที่ 3 และ 4 (ภาพด้านล่าง) ว่า กราฟการระบาดที่แสดงจำนวนการติดเชื้อจากรายงานทางการ (RT-PCR) รวมกับจำนวน ATK มีลักษณะเหมือนกับต่างประเทศ

ทั้งนี้ ด้วยเงื่อนไขของไทย ที่มีเสรีการใช้ชีวิตมากขึ้น กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ร่วมกับเทศกาลหยุดยาวสงกรานต์ ก็จะมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการปะทุระบาดหนักมากขึ้นได้คล้ายกับหลายประเทศในยุโรป ซึ่งส่วนใหญ่จะปะทุจนทำให้จำนวนการติดเชื้อต่อวันสูงขึ้นเป็น 2-3 เท่าของ baseline (เส้นพื้นฐาน) ก่อนเกิดการปะทุ ภายในเวลา 3-4 สัปดาห์
ดังนั้นหากยอด RT-PCR รวมกับ ATK ในจุดที่ต่ำสุดอยู่ราว 30,000 การปะทุก็น่าจะทำให้เกิดจำนวนติดเชื้อมากขึ้นราว 2-3 เท่า ถ้าเป็นไปตามลักษณะของต่างประเทศ
 
แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ สงกรานต์ปีที่แล้ว ในช่วง 2 สัปดาห์หลังของเมษายนเราพบว่าการติดเชื้อเฉลี่ยต่อวันสูงขึ้นเป็น 3 เท่าของช่วงก่อนสงกรานต์ และเกิดผลกระทบต่อเนื่องไปในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ที่มีจำนวนสูงขึ้นไปอีกเป็น 2 เท่าของปลายเมษายน

รศ.นพ.ธีระ ระบุว่า คงต้องติดตามดูต่อไปว่า การระมัดระวัง ป้องกันตัวของเราทุกคนจะช่วยลดโอกาสเกิดการปะทุซ้ำได้มากน้อยเพียงใด เพราะเดือนพฤษภาคมจะมีการเปิดเทอมของเด็ก ๆ ซึ่งหากจำนวนติดเชื้อในชุมชนสูงมาก ก็คงน่าเป็นห่วง เพราะมีเด็กเล็กอีกจำนวนไม่น้อย ที่ไม่ได้อยู่ในช่วงอายุที่จะรับวัคซีนได้ และมีอีกไม่น้อยที่แม้อยู่ในช่วงอายุที่รับวัคซีนได้ ก็ยังไม่ได้ไปรับ
 
นอกจากนี้ รศ.นพ.ธีระ ยังย้ำเตือนว่า การติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนในเด็กเล็ก นำไปสู่การเจ็บป่วยและเสียชีวิตได้มาก ผู้ปกครองควรดูแล ป้องกันเด็ก ๆ ให้ดี
 

 
ตายพุ่งโควิดไม่ล็อกดาวน์
https://www.innnews.co.th/video/general-news-clips/news_323702/
 
พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องกับยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ขณะที่จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ยังไม่แผ่วทะลุ 2 หมื่นคนต่อวัน ซึ่งหลายฝ่ายประเมิณว่าหลังสงกรานต์ปีนี้ เราอาจจะได้เห็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 1 แสนคนต่อวัน
 
ดังนั้น เศรษฐกิจไทยในห้วงจังหวะโควิดพุ่ง ยอดตายทำนิวไฮ จะเป็นอย่างไร จะถึงขั้นที่ต้องล็อกดาวน์อีกหรือไม่ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.พาไปวิเคราะห์กับ “นายสมชัย จิตสุชน” คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งเขามองว่า รัฐบาลจะไม่ล็อกดาวน์อีกแล้ว เพียงแต่รอดูว่ายอดผู้ป่วยรายใหม่จะลดลงอย่างไรในช่วง 1 เดือนนับจากนี้ นั่นเพราะโอไมครอนรักษาหายเร็ว ขณะเดียวกันถ้าเจาะลึกในรายละเอียดของผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่พบว่าเป็นกลุ่ม 608 มากกว่าคนหนุ่มสาววัยทำงาน ดังนั้นจึงไม่กระทบกับเศรษฐกิจและภาคการผลิต
  
นายสมชัย กล่าวด้วยว่า ปัจจัยที่น่าห่วงในระยะต่อไปคือ สงครามรัสเซียยูเครนที่จะส่งผลให้ราคาน้ำมันแพงขึ้น กระทบต่อราคาสินค้า ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.มองว่า อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ปี 2565 ดังนั้นรัฐบาลยังคงต้องออกมาตรการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม ขณะเดียวกันการตรึงราคาน้ำมันดีเซลโดยใช้กองทุนน้ำมันเข้ามาช่วยเหลือยังเป็นสิ่งที่จำเป็น
  
ขณะที่นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สถานการณ์โควิด-19 หลังสงกรานต์ไม่ได้รุนแรงเหมือนในปีที่ผ่านมาที่ผู้ประกอบการเจอการล็อคดาวน์ และใช้มาตรการ bubble&seal ทำให้ทุกอย่างหยุดชะงักลง ซึ่งในปีนี้ได้มีการวางแผนรับมือหลายด้าน และการเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นสามารถช่วยป้องกันและบรรเทาอาการติดเชื้อรุนแรงได้ และการตรวจ ATK ทั้งก่อนและหลังเดินทางช่วยลดความเสี่ยงควบคุมการระบาดไปได้ในระดับหนึ่ง เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อกำลังการผลิตสินค้าภายในประเทศ
 
จากนี้ต่อไปจะต้องติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19หลังสงกรานต์อย่างใกล้ชิด เพราะนี่คืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เชื่อมโยงกับความเชื่อมั่นและบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนนั่นเอง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่