ตอนนี้กำลังตัดสินใจระหว่างตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือสอบหคือหยุดเพื่อจะรักษาครอบครัวเอาไว้
ชีวิตครอบครัวไม่สมบูรณ์เหมือนคนอื่นเค้าเลยอยากหาอาชีพที่มั่นคงให้ตัวเอง แต่สามีตัวดีดันไม่พอใจเพราะ
สนามสอบ สพฐ.ปี64(สอบปี65)ดันสอบติดแต่ลำดับ100+ สถิติปี61เรียกถึงลำดับใกล้เคียงเราอยู่เลยพอมีหวังอยู่นิดๆ
สนามสอบต่อไปคือก.พ. กำลังจะทบทวนหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบวันที่8 พ.ค.นี้
สามีคิดมากตั้งแต่ผลสอบออก เพราะกลัวไม่มีคนดูแลแม่สามีอายุ90ปี และลูกไปอีก2คน เปิดเทอมนี้
คนโตจะขึ้นป.4และคนเล็กจะขึ้นป.3 เรียกเรามาคุยตอนดึก(ตี1) บอกให้เก็บหนังสือ เสื้อผ้าแล้วออกไปจากบ้านตอนลูกยังนอนอยู่เดี๋ยวนี้ถ้ายังจะสอบ แต่ถ้าจะอยู่บ้านหลังนี้ต้องหยุดอ่านหนังสือเพราะเค้าไม่ชอบ
ที่ผ่านมาเวลาอ่านหนังสือเตรียมสอบทีไร จะไล่ให้กลับบ้านทุกครั้งและต้องกลับมาหาลูกเพราะลูกยังเล็กและทิ้งความฝันของตัวเองเพื่อจะได้อยู่กับลูก
ปลายปี62 พ่อเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับ พ่อบอกไว้ว่าหลังจากพ่อไม่อยู่ต้องมีอาชีพเลี้ยงดูแม่และลูกๆอย่างทิ่งการสอบ สอบไปเรื่อยๆขอแค่เราตั้งใจ เราก็รับปากพ่อไว้ ว่าจะสอบทุกปีจนกว่าจะได้บรรจุ สามีก็ไม่บ่นไม่ด่าไม่ไล่กลับบ้าน เพราะพ่อได้ขอเอาไว้
ปี63สอบ สพฐ.ครั้งแรก ในรอบ7ปีที่ลาออกจากครู(ตอนนั้นเป็นพนักงานราขการ)เพื่อมาเลี้ยงลูก--ไม่ติด
ปลายปี63 สอบพนักงานราชการกศน.--ติดแต่เรียกไม่ถึง
ปลายปี64 สอบ อปท.ตกภาค ก. ผ่านภาค ข.
ต้นปี65 สอบ สพฐ.--ติดขึ้นบัญชี
เราจะหยุดความฝันหรือเราจะเดินออกจากบ้านสามี
ตามหาความฝันต่อดี ลูกคือห่วงคล้องคอทำให้ติดอยู่บ้านนี้มา10ปีแล้ว
สามีก็มีเล็กมีน้อยมาตลอด คือเค้าไม่ได้รักเราคนเดียว
1ปีแล้วที่ต้องดูแลแม่สามีวัย90 เราเหนื่อยขึ้นเป็นเท่าตัว
จะพาลูกออกมาจากบ้านสามีก็ไม่ได้เพราะสามีฟ้องให้ยกสิทธ์ให้พ่อเป็นผู้ปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียวแล้ว
ลูกบอกจะอยู่กับแม่ แม่ไปอยู่บ้านยาย ลูกจะขอไปด้วยแต่สามีไม่ให้ จะออกมาคนเดียวก็ห่วงลูก
ขอคำแนะนำด้วยค่ะ ลูกจะซึมเศร้าไหมถ้าแม่เลือกที่จะเดินออกมาตามหาความฝัน
จะสานฝันหรือหยุดฝันเป็นแม่ฟลูไทม์ตลอดชีวิต
ชีวิตครอบครัวไม่สมบูรณ์เหมือนคนอื่นเค้าเลยอยากหาอาชีพที่มั่นคงให้ตัวเอง แต่สามีตัวดีดันไม่พอใจเพราะ
สนามสอบ สพฐ.ปี64(สอบปี65)ดันสอบติดแต่ลำดับ100+ สถิติปี61เรียกถึงลำดับใกล้เคียงเราอยู่เลยพอมีหวังอยู่นิดๆ
สนามสอบต่อไปคือก.พ. กำลังจะทบทวนหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบวันที่8 พ.ค.นี้
สามีคิดมากตั้งแต่ผลสอบออก เพราะกลัวไม่มีคนดูแลแม่สามีอายุ90ปี และลูกไปอีก2คน เปิดเทอมนี้
คนโตจะขึ้นป.4และคนเล็กจะขึ้นป.3 เรียกเรามาคุยตอนดึก(ตี1) บอกให้เก็บหนังสือ เสื้อผ้าแล้วออกไปจากบ้านตอนลูกยังนอนอยู่เดี๋ยวนี้ถ้ายังจะสอบ แต่ถ้าจะอยู่บ้านหลังนี้ต้องหยุดอ่านหนังสือเพราะเค้าไม่ชอบ
ที่ผ่านมาเวลาอ่านหนังสือเตรียมสอบทีไร จะไล่ให้กลับบ้านทุกครั้งและต้องกลับมาหาลูกเพราะลูกยังเล็กและทิ้งความฝันของตัวเองเพื่อจะได้อยู่กับลูก
ปลายปี62 พ่อเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับ พ่อบอกไว้ว่าหลังจากพ่อไม่อยู่ต้องมีอาชีพเลี้ยงดูแม่และลูกๆอย่างทิ่งการสอบ สอบไปเรื่อยๆขอแค่เราตั้งใจ เราก็รับปากพ่อไว้ ว่าจะสอบทุกปีจนกว่าจะได้บรรจุ สามีก็ไม่บ่นไม่ด่าไม่ไล่กลับบ้าน เพราะพ่อได้ขอเอาไว้
ปี63สอบ สพฐ.ครั้งแรก ในรอบ7ปีที่ลาออกจากครู(ตอนนั้นเป็นพนักงานราขการ)เพื่อมาเลี้ยงลูก--ไม่ติด
ปลายปี63 สอบพนักงานราชการกศน.--ติดแต่เรียกไม่ถึง
ปลายปี64 สอบ อปท.ตกภาค ก. ผ่านภาค ข.
ต้นปี65 สอบ สพฐ.--ติดขึ้นบัญชี
เราจะหยุดความฝันหรือเราจะเดินออกจากบ้านสามี
ตามหาความฝันต่อดี ลูกคือห่วงคล้องคอทำให้ติดอยู่บ้านนี้มา10ปีแล้ว
สามีก็มีเล็กมีน้อยมาตลอด คือเค้าไม่ได้รักเราคนเดียว
1ปีแล้วที่ต้องดูแลแม่สามีวัย90 เราเหนื่อยขึ้นเป็นเท่าตัว
จะพาลูกออกมาจากบ้านสามีก็ไม่ได้เพราะสามีฟ้องให้ยกสิทธ์ให้พ่อเป็นผู้ปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียวแล้ว
ลูกบอกจะอยู่กับแม่ แม่ไปอยู่บ้านยาย ลูกจะขอไปด้วยแต่สามีไม่ให้ จะออกมาคนเดียวก็ห่วงลูก