ถอดรหัส "รุ้งสีเทา" : ชวนดูรุ้งสีเทาอีกรอบ หลังการกลับมาพบกันอีกครั้งของนัท-กานต์ในซีรีย์ "คุณหมอครับผมมารับวิญญาณคนไข้"

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง:
จับโป๊ะ? "รุ้งสีเทา" | รวมฉากที่คนดูตั้งข้อสังเกตว่าไม่สมจริง ดูแล้วขัดอารมณ์?
อยากให้รีเมค "รุ้งสีเทา" เป็นซีรีย์ขนาดยาวเพื่อนำทางความรักของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศไปถึงแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

ก่อนจะถอดรหัส/สัญลักษณ์/เรื่องราวแปลกประหลาดมหัศจรรย์ในซีรีส์มิติรักผ่านเลนส์ ตอน “รุ้งสีเทา” ผมขอมโนให้ตัวเองมีความสุขก่อนว่าซีรีส์เรื่อง “คุณหมอครับผมมารับวิญญาณคนไข้” เป็นภาคต่ออย่างไม่เป็นทางการของรุ้งสีเทา เป็นชาติภพถัดไปของเหนือและพอร์ช เป็นเหตุการณ์หลังจากที่เหนือเสียชีวิต และพอร์ชได้อยู่เลี้ยงแตงอ่อน ดูแลพ่อแม่และกิจการปางช้างของเหนือ ไม่ได้มีแฟนใหม่อย่างที่ให้สัญญากับเหนือในตอนท้ายเรื่อง พอร์ชก็ใช้ชีวิตมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งแก่ตาย และด้วยความที่พอร์ชมีญาณพิเศษสามารถหยั่งรู้วันเวลาตายของคนอื่นได้ พอร์ชเลยได้เกิดเป็นยมทูต B88 (ตั๋วผี) คอยรับดวงวิญญาณไปสู่ยมโลก ส่วนเหนือผู้หัวใจวายตายกะทันหัน ชาติถัดไปเลยเกิดเป็นหมอปราการ แพทย์ผู้อุทิศตัวทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถเพื่อยื้อชีวิตผู้ป่วยที่กำลังจะตาย หมอปราการเห็นยมทูตตนเดียวเท่านั้นคือตั๋วผี แบบนี้ถ้าไม่เรียกว่าเนื้อคู่แล้วก็คงต้องเรียกว่าบุพเพสันนิวาสแล้วแหละ

ในเรื่องคุณหมอครับฯ ใน ep. แรก มีบางประโยคที่ทั้งสองคุยกันแล้วทำให้นึกถึงรุ้งสีเทามาก ๆ นั่นก็คือ

หมอปราการ: ใครจะไปรู้อ่ะ ผมเห็นแค่คุณอะ

ตั๋วผี : ใครจะไปคิดนะครับ...ว่าคุณหมอกำลังนั่งกินพุดดิ้งอยู่กับยมทูต

นึกออกแล้วใช่มั้ยครับ 2 ฉากนี้ทั้งสองคุยกันด้วยประโยคขึ้นต้นว่า “ใครจะไปคิด...” “ใครจะไปรู้...” เหมือนฉากที่เหนือกับพอร์ชนอนคุยกันบนดาดฟ้าแล้วดูดาวไปด้วย อาจจะเป็นความบังเอิญหรือเป็นความจงใจของทีมเขียนบทที่ตั้งใจใส่ประโยคนี้เพื่อให้คนดูคิดถึงเหนือ-พอร์ชในรุ้งสีเทา เพื่อปลอบใจคนดูที่รุ้งสีเทาไม่มีภาคต่อ  หรืออาจจะใส่เพื่อแสดงความขอบคุณทีมงานรุ้งสีเทาที่ทำให้นัท-กานต์เป็นที่รู้จักและเป็นที่รักของแฟน ๆ ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องคุณหมอครับฯ ก็คงมีฐานแฟนคลับจากรุ้งสีเทาตามมาดูอยู่ไม่น้อย

เหนือ: ใครจะไปคิดวะ...ว่ามืงจะอยากต่อยมวย ทั้ง ๆ ที่มืงไม่ชอบความรุนแรง
พอร์ช: ใครจะไปรู้วะ...ว่ามืงจะไปกระทืบหน้าไอ้นั่นแทนกูอะ
ไปดูฉากนี้ต่อกันเอาเองนะ นี่แค่นึกต่อก็ฟินละ ><

แล้วที่ชวนฟินยิ่งไปอีกก็คือ นอกจากนัทแล้ว กานต์ไม่เคยเล่นเป็นคู่รักเกย์กับพระเอกคนไหนเลย ทำให้นึกถึงตอนที่พอร์ชบอกเหนือว่า

ในชีวิตเนี้ย มืงเป็นผู้ชายคนเดียวเท่านั้นแหละที่กูรัก

ส่วนพ่อนัทของเราน่ะเหรอ หลังจากรุ้งสีเทาก็ได้แสดงประกบพระเอกนางเอกหลายเรื่อง จนทำให้ผมนึกถึงฉากที่พอร์ชไปง้อเหนือที่เตนท์แถว ๆ โรงเลี้ยงช้างเลย ขำมาก แต่ก็น่ารักดี ^^

แต่เราก็มีสิทธิ์หึงแฟนตัวเองป้ะวะ เห็นแฟนตัวเองไปกอดกับคนอื่นอย่างงั้นอะ ถึงจะเป็นเพื่อนก็เหอะ ทีหลังไม่เอาอย่างนี้แล้วนะ อย่ากอดกับคนอื่นเค้าไปเรื่อยดิ จะเป็นผู้ชายผู้หญิงก็ไม่ได้ เข้าใจมั้ย! (พี่นัท)

เอาล่ะครับ จิ้นแต่พอประมาณ เข้าหลักใหญ่ใจความของกระทู้กันซะที เมื่อไม่นานมานี้ผมได้ดูรุ้งสีเทาแล้วประทับใจมาก ๆ ถึงแม้การดูจบรอบแรกจะทำให้ผมร้องไห้ฟูมฟาย ซึมไป 2-3 วันทุกครั้งที่คิดถึงเหนือกับพอร์ช แต่พอได้อ่านกระทู้ต่าง ๆ ในพันทิปที่คนพูดถึงเรื่องนี้ ได้อ่านความคิดเห็นต่าง ๆ ของหลาย ๆ คน ก็ทำให้ผมเห็นแง่มุมต่าง ๆ ในซีรีส์เรื่องนี้กว้างมากขึ้น ผมจึงกลับไปดูอีกรอบ แล้วจึงสังเกตเห็นว่าเรื่องนี้มีรหัส/สัญลักษณ์ /เหตุการณ์แปลกประหลาดมหัศจรรย์ให้ตีความอยู่เยอะทีเดียว เริ่มจาก

1.  เหนือเป็นอะไรตาย พอร์ชรู้ล่วงหน้าได้อย่างไรว่าเหนือจะตาย ทำไมพอร์ชถึงหยุดเวลาได้
ในเรื่องไม่ได้มีการบอกหรือกล่าวถึงที่มาที่ไปว่าพอร์ชรู้วันตายล่วงหน้าของเหนือได้อย่างไร และคงไม่มีประโยชน์ที่เราจะไปซักไซ้ไล่เลียงทีมเขียนบทว่าอะไรคืออะไร เพราะผู้กำกับก็ได้บอกไว้ในลิงค์ของช่อง PPTV >> https://www.pptvhd36.com/news/ประเด็นร้อน/26996 แล้วว่า “ละครหรือซีรีส์ก็เหมือนงานศิลปะชิ้นหนึ่ง ใครจะมองให้เป็นแบบไหนก็ได้” ก็จริงนะครับ เพราะส่วนใหญ่ศิลปินเวลาผลิตผลงานออกสู่สายตาผู้ชมแล้ว ไม่ค่อยมีใครมาอธิบายหรอกครับว่าภาพนี้หรือฉากนี้ตั้งใจจะสื่ออะไร มีที่มาที่ไปอย่างไร คือเขาถือว่าเมื่อผลิตผลงานออกสู่สาธารณชนแล้ว ผลงานนั้นก็ไม่ได้เป็นผลงานของเขาคนเดียวอีกต่อไป เขาไม่ได้มีหน้าที่ต้องมายืนข้าง ๆ รูปภาพหรือผลงานเพื่ออธิบายสิ่งต่าง ๆ ในภาพหรือผลงานของตัวเองให้ผู้ชมฟัง แต่ผู้ชมมีหน้าที่พิจารณารูปภาพหรือผลงานนั้นแล้วตีความสารจากงานศิลปะเอาเองตามประสบการณ์และความรู้สึกของแต่ละคน ไม่มีผิดไม่มีถูก แต่แอดมินเพจมิติรักผ่านเลนส์ก็อุตส่าห์มาตอบคำถามให้แฟนคลับคลายสงสัยอยู่บ้างนะครับ เช่น คำถามที่ว่าเหนือเป็นอะไรตาย แล้วพอร์ชรู้ล่วงหน้าว่าเหนือจะตายหรือไม่


จากคำตอบด้านบน ก็สรุปได้ว่าเหนือหัวใจวายตายกะทันหัน และพอร์ชรู้มาตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วว่าเหนือจะตายวันไหน แต่อย่างที่แฟนคลับสงสัย ทำไม ep.1-3 ไม่มีสัญญาณใด ๆ ให้เห็นเลยว่าเหนือเป็นโรคหัวใจ ทำไมเหนือยังชกมวยได้อยู่ทั้ง ๆ ที่คนเป็นโรคหัวใจน่าจะต้องระวังเรื่องการออกกำลังกายมาก ๆ แต่แอดมินก็ไม่ได้ให้คำตอบแต่อย่างใด อย่างที่ผู้กำกับบอกไว้ข้างบนว่างานศิลปะเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถตีความได้หลากหลาย ดังนั้นหากแอดมินไม่ตอบทุกคำถามก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่คนดูก็ไม่ผิดที่มีสิทธิ์จะอยากรู้

สำหรับประเด็นนี้ ผมมองว่าในการดูรอบแรก ผู้ชมถูกทำให้เชื่อว่าโลกเหนือจริงที่พอร์ชมองเห็นและรับรู้เป็นโลกเดียวกับที่ตัวละครอื่น ๆ มองเห็นและรับรู้ เป็นโลกเดียวกันกับโลกแห่งความเป็นจริงที่เราทุกคนมองเห็น จับต้องได้ และดำรงชีวิตอยู่ สามารถอธิบายได้ตามหลักเหตุและผลแบบวิทยาศาสตร์ แต่พอมาถึงท้ายเรื่องความมหัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้นเมื่อพอร์ชดีดนิ้วหยุดเวลาและกอดเหนือไว้ก่อนที่เหนือจะตาย ที่แอดมินบอกว่าทุกอย่างเชื่อมโยงไว้หมดแล้ว แอดมินไม่ได้โกหก มีการเชื่อมโยงไว้แล้วจริง ๆ หากทุกคนยังจำฉากเหนือกับพอร์ชนอนดูดาวบนดาดฟ้าด้วยกันได้ ก่อนที่เหนือกับพอร์ชจะต่อบทสนทนาหวานซึ้งที่ขึ้นต้นด้วยประโยคเดียวกัน เหนือได้พูดขึ้นมาว่า

“ไอ้พอร์ช มืงว่าป้ะ บนโลกเนี้ย ไม่มีความบังเอิญหรอก ทุกอย่างอะ มันถูกกำหนดไว้หมดละ”

และการตายของเหนือก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเหมือนกัน การตายของเหนือถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องตาย ณ วินาทีนั้น และพอร์ชก็รู้มาตลอดอย่างที่แอดมินบอกไว้ การที่พอร์ชเห็นภาพนิมิตว่าเหนือตายตอนจับสร้อยคอช้างเงินของเหนือขณะกำลังเรียนอยู่ กับตอนฝันเห็นงานศพเหนือก่อนฉากปาจรวดกระดาษสื่อรัก ก็เป็นเพียงการย้ำเตือนว่าเวลานั้นใกล้มาถึงแล้ว แต่พอร์ชก็ได้ทำใจไว้แล้วตั้งแต่ก่อนจะมาเจอเหนือที่สถานีรถไฟใน ep.แรก

การดำเนินเรื่องแบบสมจริงตั้งแต่ต้นเรื่องทำให้การตายของเหนือดูเป็นการตายแบบ “ผิดธรรมชาติ” ตามที่มีผู้ตั้งข้อสังเกต แต่หากเราดูปรากฏการณ์ “เหนือจริง” ที่เกิดขึ้นท้ายเรื่องตอนที่พอร์ชดีดนิ้วหยุดเวลา ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดหากจู่ ๆ เหนือจะทรุดเข่าล้มลงไปตายต่อหน้าต่อตาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย เรื่องนี้ผมมองว่าโลกเหนือจริงของพอร์ชมีอำนาจเหนือโลกแห่งความเป็นจริงของทุกตัวละครในเรื่อง การตายของเหนือไม่ใช่การตายแบบผิดธรรมชาติ แต่เป็นการตายแบบ “เหนือธรรมชาติ” หากจะอธิบายในทางพุทธศาสนาก็คงต้องบอกว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม คนเมื่อถึงคราวตายก็ต้องตายไม่ว่าจะด้วยสาเหตุหรือวิธีการใดก็ตาม ไม่มีใครหนีความตายไปได้ ก็ดูสมเหตุสมผลดี แต่หากจะพูดให้ตรงกว่านี้ก็คือคนเขียนบทนั่นแหละเป็นคนกำหนดให้เหนือตาย คนเขียนบทเปรียบเสมือนพระเจ้าที่สร้างเรื่องนี้ขึ้นมา ดังนั้นเขาจะทำอย่างไรก็ได้กับตัวละครหรือเหตุการณ์ในเรื่อง การตายของเหนือจึงไม่สามารถอธิบายได้ตามหลักเหตุและผลแบบวิทยาศาสตร์ของโลกแห่งความเป็นจริง แต่ตายเพราะอำนาจจากมือที่มองไม่เห็น

แต่ก็อย่าไปโกรธหรือไปว่าคนเขียนบทเลยครับ เพราะผู้กำกับเขาก็ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ที่ลิงค์ด้านบนแล้วว่าสาระสำคัญของเรื่องที่ต้องการสื่อถึงคนดูก็คือ “การให้เวลาและความสำคัญกับคนรักมากขึ้น” แล้วการที่ให้ตัวละครที่เป็นที่รักของคนดูอย่างเหนือตายอย่างปัจจุบันทันด่วนในวันแต่งงาน ยังไม่ทันได้ใช้ชีวิตหลังแต่งงานกับพอร์ช ก็ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้ชมอย่างเรา ๆ เหมือนโดนสายฟ้าฟาดลงมาอย่างหนักหน่วงกลางหัวใจจนใจสลาย แต่ความเศร้าจากการสูญเสียเหนือนั้นก็ทำให้ผู้ชมตระหนักถึงการให้เวลาและความสำคัญต่อคนรักมากขึ้นอย่างที่ผู้กำกับต้องการ

ส่วนคำถามที่ว่าพอร์ชรู้ล่วงหน้าได้อย่างไรว่าเหนือจะตาย กับทำไมพอร์ชถึงหยุดเวลาได้ ก็ต้องบอกเหมือนเดิมว่าเป็นเพราะพอร์ชได้รับพลังอำนาจจากมือที่มองไม่เห็น แล้วได้รับตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็คงตั้งแต่ต้นเรื่อง ตั้งแต่ก่อนที่พอร์ชจะมาเจอเหนือที่สถานีรถไฟนั่นแหละครับ ส่วนพอร์ชจะรู้วันตายของตัวเองหรือคนอื่น ๆ อีกหรือไม่ อันนี้คงเป็นความตั้งใจของคนเขียนบทที่อยากให้คนดูไปคิดต่อให้สนุกกันเอาเอง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่