เรื่องเล่าสุดสะพรึง
เริ่มแรกทำสัญญาได้มีการตกลงว่า ภาษี หัก ณ ที่จ่ายฝั่งผู้เช่าเป็นผู้ออกให้
พอเช่ามาสักพัก ผู้ให้เช่าเพิ่งโดนสรรพากรเรียก ให้ชำระภาษีเงินได้จากค่าเช่า ทางผู้ให้เช่าได้โมโห มีการโทรมาต่อว่า
ว่าทางเราแอบหักค่ะ ทั้งๆที่สัญญา มีการระบุเรียบร้อย ละบอกว่าเราแอบทำ...ทำให้เค้าโกรธมาก และภาษีที่เค้าต้องโดนเพิ่ม
ยอดตอนแรกที่เค้าแจ้งมาคือ 40000 บาท ด้วยความที่ตอนนั้นเราคิดน้อยไปค่ะ เลยบอกว่าจะจ่ายให้
หลังจากวางสายไป เราก็เครียดมากค่ะ ด้วยความที่ธุรกิจช่วงโควิดทำให้ยอดไม่ดีเหมือนปีก่อนโควิดมา เราไม่มีเงินให้เค้าค่ะ
เราเลยไปคำนวณดู ค่าเช่าเดือนละ 10000 ภาษีมันกลายเป็น 40000 ได้ไง งงมากมาย
ฝั่งเราเลยปรึกษาข้อมูลหลายๆท่านดูค่ะ เค้าบอกว่า ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของผู้ให้เช่า ไม่เกี่ยวกับเราแล้วค่ะ เราไม่จำเป็นต้องจ่ายก้อนนี้
อีกอย่างเค้าก็เอา หัก ณ ที่จ่ายที่เราออกให้ เอาไปใช้สิทธิ์ไปลดหย่อนเรียบร้อย เค้าบอกว่ายังมีภาษีที่ต้องจ่ายเค้าด้วยอัตราภาษี 30% เราต้องจ่ายให้เค้าค่ะ! ละห้ามมาหักเค้าอีก ทั้งที่ฝั่งเราไม่เคยหักเค้าเลย เค้ารับเต็ม 10000 ทุกเดือน อีก 500 บาทเราออกจ่ายภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้เค้า
ตอนนี้สัญญาเช่าหมดลงแล้วค่ะ ทางนู้นไม่ได้ต่อให้ แต่เรายังคงจ่ายค่าเช่าตามปกติ เราลองจ่ายช้าลง ในสัญญาให้จ่าย 1-5 ของทุกเดือน เราจ่ายวันที่ 1 ตลอดถ้าแอพธนาคารไม่ขัดข้อง ช่วงมีปัญหาเดือนแรกเราจ่ายช้าลง วันที่ 3 เจ้าของก็โทรมาทวงทันที เราเลยแจ้งเค้าอีกครั้งว่าสัญญาเช่าหมดขอสัญญาเช่าตัวใหม่ด้วยนะคะ เค้าก็รับรู้นะคะ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตอนนี้ไม่สบายใจเลย เพราะหักใครนำส่งไม่ได้ ทำให้ค่าเช่าเราไม่สามารถมาบันทึกเป็นรายจ่ายกิจการได้ และยังไม่สามารถนำไปขอกู้กับทางธนาคารเพื่อช่วยเหลือด้านสภาพคล่องอีก ช่วงที่ธนาคารมีโปรบรรเทาช่วงโควิดเราไม่ได้ ยังดีได้โครงการพักเงินต้น 3 เดือน ที่ไม่ได้เงินทุนมาหมุนเพราะขาดสัญญาเช่าซึ่งทางธนาคารระบุว่าต้องมีตัวนี้ แม้ว่าทางเราจะแจ้งขอสัญญาตัวใหม่ไป เค้าก็ไม่สนใจเลยค่ะ
ผ่านไป 6 เดือนเราพยายามอดทนเดินหน้าธุรกิจต่อไป แต่เค้ากลับมาทวงภาษีเงินได้ของเค้าอีกครั้งอย่างเป็นทางการ ทั้ง ปีภาษี 63 และ 64 ค่ะ ยอดรวมประมาณ 26xxx.xx- รวมค่าปรับสรรพากรด้วย
เราพยายามอธิบายแล้วว่าตัวนี้ไม่เกี่ยวกับเราเลย เราได้ออก หัก ณ ที่จ่าย 5%แทนให้แล้ว แต่เค้าก็แจ้งกลับมาว่า ภาษีเค้าเพิ่มเท่าไหร่เค้าก็จะมาเก็บเราเท่านั้น แค่แจ้งยอดเราก็ไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่าจริงหรือไม่ เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว เราไม่อยากล้ำเส้นให้เค้ามาโชว์แบบยื่นภาษี และอีกอย่างมันไม่ใช่หน้าที่ผู้จ่ายเงินได้ที่ต้องจ่ายภาษีเงินได้ให้กับคนรายได้สูงๆอย่างเค้า ถ้าเราจ่ายไปมันจะกลายว่าเราเป็นฝ่ายผิด และกลายเป็นมาตรฐานที่ต้องจ่ายต่อเนื่องทุกปี
เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ มีใครพอจะมีไอเดียทำให้เรื่องยุ่งนี้ให้ดีขึ้นได้บ้าง จะทำไงให้ฝั่งนู้นเข้าใจ เรากลัวโดนคุกคาม และ โดนฟ้อง รู้สึกไม่สบายใจมาก ตอนนี้เราไม่ได้จ่ายเค้าค่ะ
ถ้าเกิดเหตุการณ์เลวร้ายทำให้เราต้องย้าย เราจะต้องเสียค่าย้ายรวมบิ้วอินใหม่เกือบ 3 แสน ถ้าเราจ่าย 26xxx.xx นั่นหมายความว่าเราจะต้องจ่ายตลอดไป
ฝั่งผู้ให้เช่าทิ้งท้ายว่า เป็นความผิดเราที่ทำให้รายได้เค้าเพิ่มขึ้นค่ะ เค้าไม่อยากเสียเปรียบเค้าจึงต้องมาเก็บภาษีกับเรา
ปัญหาระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่า สัญญาเช่าอาคารพาณิชย์ทำธุรกิจ ภาษีเงินได้ของผู้ให้เช่าบังคับให้เราจ่าย
เริ่มแรกทำสัญญาได้มีการตกลงว่า ภาษี หัก ณ ที่จ่ายฝั่งผู้เช่าเป็นผู้ออกให้
พอเช่ามาสักพัก ผู้ให้เช่าเพิ่งโดนสรรพากรเรียก ให้ชำระภาษีเงินได้จากค่าเช่า ทางผู้ให้เช่าได้โมโห มีการโทรมาต่อว่า
ว่าทางเราแอบหักค่ะ ทั้งๆที่สัญญา มีการระบุเรียบร้อย ละบอกว่าเราแอบทำ...ทำให้เค้าโกรธมาก และภาษีที่เค้าต้องโดนเพิ่ม
ยอดตอนแรกที่เค้าแจ้งมาคือ 40000 บาท ด้วยความที่ตอนนั้นเราคิดน้อยไปค่ะ เลยบอกว่าจะจ่ายให้
หลังจากวางสายไป เราก็เครียดมากค่ะ ด้วยความที่ธุรกิจช่วงโควิดทำให้ยอดไม่ดีเหมือนปีก่อนโควิดมา เราไม่มีเงินให้เค้าค่ะ
เราเลยไปคำนวณดู ค่าเช่าเดือนละ 10000 ภาษีมันกลายเป็น 40000 ได้ไง งงมากมาย
ฝั่งเราเลยปรึกษาข้อมูลหลายๆท่านดูค่ะ เค้าบอกว่า ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของผู้ให้เช่า ไม่เกี่ยวกับเราแล้วค่ะ เราไม่จำเป็นต้องจ่ายก้อนนี้
อีกอย่างเค้าก็เอา หัก ณ ที่จ่ายที่เราออกให้ เอาไปใช้สิทธิ์ไปลดหย่อนเรียบร้อย เค้าบอกว่ายังมีภาษีที่ต้องจ่ายเค้าด้วยอัตราภาษี 30% เราต้องจ่ายให้เค้าค่ะ! ละห้ามมาหักเค้าอีก ทั้งที่ฝั่งเราไม่เคยหักเค้าเลย เค้ารับเต็ม 10000 ทุกเดือน อีก 500 บาทเราออกจ่ายภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้เค้า
ตอนนี้สัญญาเช่าหมดลงแล้วค่ะ ทางนู้นไม่ได้ต่อให้ แต่เรายังคงจ่ายค่าเช่าตามปกติ เราลองจ่ายช้าลง ในสัญญาให้จ่าย 1-5 ของทุกเดือน เราจ่ายวันที่ 1 ตลอดถ้าแอพธนาคารไม่ขัดข้อง ช่วงมีปัญหาเดือนแรกเราจ่ายช้าลง วันที่ 3 เจ้าของก็โทรมาทวงทันที เราเลยแจ้งเค้าอีกครั้งว่าสัญญาเช่าหมดขอสัญญาเช่าตัวใหม่ด้วยนะคะ เค้าก็รับรู้นะคะ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตอนนี้ไม่สบายใจเลย เพราะหักใครนำส่งไม่ได้ ทำให้ค่าเช่าเราไม่สามารถมาบันทึกเป็นรายจ่ายกิจการได้ และยังไม่สามารถนำไปขอกู้กับทางธนาคารเพื่อช่วยเหลือด้านสภาพคล่องอีก ช่วงที่ธนาคารมีโปรบรรเทาช่วงโควิดเราไม่ได้ ยังดีได้โครงการพักเงินต้น 3 เดือน ที่ไม่ได้เงินทุนมาหมุนเพราะขาดสัญญาเช่าซึ่งทางธนาคารระบุว่าต้องมีตัวนี้ แม้ว่าทางเราจะแจ้งขอสัญญาตัวใหม่ไป เค้าก็ไม่สนใจเลยค่ะ
ผ่านไป 6 เดือนเราพยายามอดทนเดินหน้าธุรกิจต่อไป แต่เค้ากลับมาทวงภาษีเงินได้ของเค้าอีกครั้งอย่างเป็นทางการ ทั้ง ปีภาษี 63 และ 64 ค่ะ ยอดรวมประมาณ 26xxx.xx- รวมค่าปรับสรรพากรด้วย
เราพยายามอธิบายแล้วว่าตัวนี้ไม่เกี่ยวกับเราเลย เราได้ออก หัก ณ ที่จ่าย 5%แทนให้แล้ว แต่เค้าก็แจ้งกลับมาว่า ภาษีเค้าเพิ่มเท่าไหร่เค้าก็จะมาเก็บเราเท่านั้น แค่แจ้งยอดเราก็ไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่าจริงหรือไม่ เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว เราไม่อยากล้ำเส้นให้เค้ามาโชว์แบบยื่นภาษี และอีกอย่างมันไม่ใช่หน้าที่ผู้จ่ายเงินได้ที่ต้องจ่ายภาษีเงินได้ให้กับคนรายได้สูงๆอย่างเค้า ถ้าเราจ่ายไปมันจะกลายว่าเราเป็นฝ่ายผิด และกลายเป็นมาตรฐานที่ต้องจ่ายต่อเนื่องทุกปี
เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ มีใครพอจะมีไอเดียทำให้เรื่องยุ่งนี้ให้ดีขึ้นได้บ้าง จะทำไงให้ฝั่งนู้นเข้าใจ เรากลัวโดนคุกคาม และ โดนฟ้อง รู้สึกไม่สบายใจมาก ตอนนี้เราไม่ได้จ่ายเค้าค่ะ
ถ้าเกิดเหตุการณ์เลวร้ายทำให้เราต้องย้าย เราจะต้องเสียค่าย้ายรวมบิ้วอินใหม่เกือบ 3 แสน ถ้าเราจ่าย 26xxx.xx นั่นหมายความว่าเราจะต้องจ่ายตลอดไป
ฝั่งผู้ให้เช่าทิ้งท้ายว่า เป็นความผิดเราที่ทำให้รายได้เค้าเพิ่มขึ้นค่ะ เค้าไม่อยากเสียเปรียบเค้าจึงต้องมาเก็บภาษีกับเรา