และแล้วโพลผู้ว่ากทม.แรกก็ออกมาให้ยลโฉม  อย่างที่ผมบอกไปว่า ชัชชาดจะมาที่หนึ่งแชมป์โพลและจะนำเริ่อยไปจนถึงวันเลิอกตั้ง...แล้วชัชชาดจะสอบตก

ชัชชาดได้ความนิยม 25.7%

ผมให้ความสนใจกับที่สองมากกว่า  ซึ่งผลที่ออกมานั่นคือ  ดร เอ้ ซึงคะแนนโพลที่ได้น่าสนใจทีเดียว  18.3%  

รองที่สามคือ  โรจน์ตาโตมองนมกล่อง ได้ 11,8%   ตรงนี้มองข้ามไปเลยเพราะ  คะแนนของรายนี้  จะทรงตัวไม่ลดไม่เพิ่ม

มาถึงคนนี้ครับ   อัศวินมาที่ 4   ได้คะแนนความนิยม 11.3 %  เป็นตัวเลขที่ก้าวกระโดดขึ้นอย่างน่าสนใจจากครั้งก่อนที่ได้คะแนนเพียงหลักหน่วย

ความแรงของอัศวินจะพุ่งขึ้นแรงหรือจะทรงตัวแนวนอนต้องดูกันไป   แต่บอกได้เลยว่าคนนี้คือ 

 คู่ชิงผู้ว่ากทม.กับดร.เอ้  ตัวจริง

และตัวเลขคนยังไม่ตัดสินใจ 17.5  % ตรงนี้อีกที่น่าจับตามอง   เพราะส่วนมากคะแนนในกลุ่มนี้จะเป็นของสลิ่ม  หลังจากตามดูโพลการเลือกตั้งมาหลายครั้งพบว่าคะแนนกลุ่มนี้จะไม่ไปเพิ่มให้กับฝ่ายสามกีบแดง เลยสักครั้ง

มาเข้าเรื่องที่บอกว่าชัชชาดจะไม่อยู่ในสมการ   เพราะหลังจากระบอบคอร์รัปชั่นหนีคุก  แตกเป็นสอง  หลังการเกิดขึ้นของ  สามกีบ   และเป็นสาม  หลังเกิดขึ้นของป้าแว่น

ต้องยอมรับว่าฝ่ายสามกีบส้ม  สามารุตรึงคะแนนก้อนใหญ่ส่วนหนึ่งมาเป็นเสียงขาประจำตัวเองได้เยอะ ซึ่งคนหนีคุกพยายามดึงกลับหลายครั้งแต่ไม่สามารถดึงคะแนนนี้กลับมาได้

ดังนั้นว่าการเลือกตั้งต่อจากนี้ไปฝ่ายสลิ่มจึงจะเป็นฝ่ายคุมเกมในการเลือกตั้งทั้ง เลือกผู้ว่า  และเลือกตั้งใหญ่

ธรรมชาติของสลิ่มจะไม่ยึดติดกับพรรคใด  ไม่ว่า  ปชป.  หรือ พปชร.  แต่ยึดกับแนวทางที่เป็นคุณกับประเทศ  ยุทธศาสตร์จากนี้ไปของสลิ่มคือ   การเทเสียงไปในแนวทางเดียวกันหมดตาม กระแสที่เกิดขึ้นก่อนเลือกตั้ง

อย่างครั้งนี้  ดร.เอ้  และอัศวิน  มีโอกาสพลิกผันได้พอๆ   กัน  และจะตัดสินกันในช่วงโค้งสุดท้ายใกล้วันลงคะแนน  กระแสใครมา   คนนั้นได้เสียงสลิ่มไปเต็มๆ   ไม่กาคะแนนแบบทิ้งๆ  ขว้างๆ  ตัดกันเอง

เมื่อย้อนไปดูผลโพลก็จะเห็นชัดว่า เมื่อรวม คะแนนของ  ดร.เอ้  กับ อัศวิน  และเสียงส่วนใหญ่ของคนไม่ตัดสินใจ   เมื่อรวมสามส่วนยี้เข้าด้วยกัน ..ฝ่ายสลิ่ม  ชนะครับ

จึงเป็นที่มาของคำว่า ' ชัชชาด  ชาติหน้า '  เป็นผู้ว่าโพลไปครับ  ส่วนผู้ว่าตัวจริง  เขียนแปะไว้ข้างฝาว่า...

ไม่ดร.เอ้  ก็  อัศวิน ไม่ผิดจากสองคนนี้ครับ  พี่น้อง

อิอิ